หมอยาเสน่ห์หา

ตอนที่22 โดนขังโดยความรัก



ตอนที่22 โดนขังโดยความรัก

ตอนที่22 โดนขังโดยความรัก

เหล่าหมอหลวงเมื่อเห็นชูเซี่ยมีความเป็นห่วงเป็นใยต่อ พระชายาเจิ้นหยวนมากเกินกว่าฐานะน้องสะใภ้ เมื่อเห็น นางฝืนถึงปานนั้นก็กลัวว่าจะเกิดปัญหาขึ้นมา อดเฮ่ยเสนอ ออกความเห็นไม่ได้ “พอเถอะ พอได้แล้ว ยามนี้พิษก็แพร่ กระจายไปทั่วร่างพระชายาแล้ว กอปรกับอาการตกเลือด หลังคลอดด้วยแล้ว ต่อให้เป็นเทวดามาช่วยชีวิตก็ยากจะ รอด พระชายานิงอันก็พอเถอะ”

ชูเซียยืนอยู่ตรงหน้าอ๋องเจิ้นหยวน”ข้าไม่สน ตราบใดที่ ผู้ป่วยยังไม่สิ้นลมหายใจ ข้าก็จะไม่ยอมหยุดช่วยเด็ดขาด ท่านวางนางลงเดี๋ยวนี้ อย่าเคลื่อนย้ายตัวนางส่งเดชจริง อยู่ที่นางเป็นภรรยาของท่าน แต่นางเองก็เป็นผู้ป่วยของข้า เช่นกัน นางยังไม่ถอดใจ ข้าก็จะไม่มีวันถอดใจ พวกท่าน ล้วนไม่มีใครสามารถบังคับข้าให้ยอมแพ้ได้” ชูเซี่ยไม่ใช่ คนที่มีพละกำลังเยอะ แต่ก็ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีพยายาม ยื้อแย่งร่างของพระชายากลับมา ยื้อแย่งอย่างไรก็ไม่ สำเร็จ แต่ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่ายามสตรีตรงหน้าโมโหจะ ทำให้มีพละกำลังมากกว่าปกติ เพียงชั่วพริบตาที่ท่านอ๋อง คลายมือเล็กน้อยเท่านั้น ในที่สุดพระชายาก็ตกมาอยู่ในกำ มือของนาง
ชูเซี่ยใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดอุ้มร่างของพระชายาวางลงบน เตียง นางจับจุดชีพจรตรวจหาชีพจร ก็พบว่า ยังมีชีพจร อยู่แม้จะแผ่วเบามากก็ตาม แต่นางก็จะไม่ยอมแพ้อย่าง แน่นอน ไม่ใช่ตอนนี้

อ๋องเจิ้นหยวนถูกชูเซี่ยทำให้ตกตะลึงไปชั่วขณะ เขาเฝ้า มองดูการกระทำของชูเซี่ย ในใจก็อดรู้สึกมีความหวังไม่ได้ แม้ว่าจะเป็นความหวังลมๆแล้งๆก็ตาม ก่อนจะค่อยๆเปลี่ยน เป็นความซาบซึ้ง เขารู้สึกซาบซึ้งในตัวชูเซี่ยเป็นยิ่งนัก ที่รักและต้องการช่วยเหลือเย่เอ๋อของเขาจากใจจริง

ในที่สุดน้ำแกงโสมก็มาถึง ภายในมีส่วนผสมของเห็ด หลินจือและปักษ์ แรกเริ่มเมื่อลงมือป้อนยาแล้ว พระชายา กลับไม่สามารถกลืนยาลงไปได้แต่เพียงไม่นานก็ค่อยๆ กลืนยาไปได้ในที่สุด แต่แล้วก็กลับสำลักและอาเจียนยา พิษออกมา

ชูเซียตกใจที่พระชายาอาเจียนจนร่างทรุดลงกับพื้น มือ น้อยทั้งสองยกมือขึ้นมาปิดบังใบหน้าพร้อมด้วยร่างกายที่ สั่นเทา ในที่สุดนางก็สามารถยื้อชีวิตของพระชายากลับมา ได้

อ๋องเจิ้นหยวนและเหล่าหมอหลวงถึงกับตกตะลึงความปิติยินดีฉายขึ้นมาบนใบหน้าของอ๋องเจ็นหยวน กล้ว ว่าภาพที่เห็นตรงหน้าจะเป็นภาพลวงตา เขาคอยๆเอ็มมือ ไปลูบใบหน้าที่ซีดเซียวของพระชายา ก่อนร้องออกมาด้วย ความดีใจ”เอ่อ ! !”

พระชายาค่อยๆลืมตาขึ้น ร่างกายระโหยโรยแรงเกินกว่า ที่จะเอ่ยคำพูดใดออกมาได้ ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะตอบท่าน อ๋องทำได้เพียงแค่กะพริบตา ริมฝีปากแย้มยิ้มเล็กน้อย ก่อนที่จะค่อยๆปิดตาลงช้าๆ

อ๋องเจิ้นหยวนค่อยๆเอ็้มมือไปอังจมูกเพื่อตรวจสอบลม หายใจ ก่อนที่จะค่อยๆถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก แม้ จะแผ่วเบา แต่นิ้วของเขาก็รับรู้ได้ถึงลมหายใจของนาง

สถานการณ์ตอนนี้ยังไม่สู้ดีนัก พระชายาสูญเสียเลือด มากเกินไปและภายในร่างกายยังมีพิษถึงสองชนิด รวม ถึงร่างกายยังอ่อนแอหลังคลอด บาดแผลยังไม่หายดี สิ่งที่ สำคัญที่สุดคือในหลายวันนี้ต้องคอยเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ ชิด ไม่สามารถสกัดจุดชีพจรเพื่อห้ามเลือดได้ เพราะเดิมที่ ร่างกายของนางก็ฟื้นตัวช้าเพราะการเสียเลือดมากอยู่ก่อน แล้ว ทำให้ไม่อาจสร้างเลือดใหม่ขึ้นมาได้ในระยะนี้
สองเจนทยาหรูสุดสิ้นตันใจเป็นอย่างมาก”น้องสะใภ้ ขอบใจเจ้ะ”

ชูเชี่ยมลงเห็นสิหน้าเช่นนั้น ริมฝีปากก็สั่นน้อยๆ นางมอง สายตาที่เต็มไปด้วยความดีใจ ความซึ่งใจเช่นนั้นก็ไม่อาจ จะพูดความจริงเกี่ยวกับอาการของพระชายาออกไปได้ แต่ ไม่ว่าอย่างไรบ้างก็ต้องพูด ไม่อาจปฏิเสธความจริงที่ว่าต่อ ให้นางจะทำให้พระชายาฟื้นขึ้นมาได้แล้วก็ตาม แต่อาการ ของพระชายาก็ยังไม่ทันขีดอันตราย หากนางให้ความหวัง ไปแล้ว เกรงว่ายามผิดหวังอาการของอ๋องเจิ้นหยวนจะยิ่ง ย่าแย่ไปกว่านี้

พระชายายังไม่พ้นขีดอันตรายเจ้าค่ะ”ซูเซี่ยเลือกที่จะ บอกความจริงออกไป ทำให้บุรุษตรงหน้าแข็งค้าง และทั้ง ห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ

องเจิ้นหยวนและเหสาหมอหลวงทราบดี และเชื่อว่า แต่ตัวของพระชายาเองก็รู้ดีกว่าใคร

นางกำนัลช่วยกันพยุงซูเซี่ยออกมายังหน้าประตูหลัก อารานซดยาง เสวี่ยกัยเฟยที่เห็นนางก็เอ่ยปากถามขั้น ของ เรีป็นอย่างไรบ้าง”
“กราบทูลพระสนม พระชายาเจิ้นหยวนฟื้นคืนสติแล้ว เพคะ”นางกำนัลข้างกายกราบทูล

เหล่าสนมทั้งหลายต่างพากันถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่สีหน้าของหลิวมีเหอกลับย่ำแย่ลง นางลอบมองใบหน้า ของชูเซี่ยในยามนี้ สตรีตรงหน้านางมีเส้นผมชื้นเหงื่อกระ เซอะกระเซิง ใบหน้าซีดเซียว จำเป็นต้องมีนางกำนัลอยู่ เคียงข้างคอยพยุงเนื่องจากว่าขาของนางไร้เรี่ยวแรงจนไม่ อาจยืนได้เองในตอนนี้

ขณะเดียวกันหลี่เฉินเย่นและเหล่าราชองครักษ์ก็เดินเข้า มาสมทบที่หน้าอารามเพื่อดูความคืบหน้า ครั้นเห็นชูเซี่ยอ อกมาจากภายในห้องแล้ว ก็เร่งฝีเท้าเดินเข้าไปใกล้นาง ก่อนจะรีบถามไถ่อาการของพี่สะใภ้”นางเป็นอย่างไรบ้าง”

ชูเซี่ยเงยหน้าขึ้นมองเขา ตอนนี้อากาศย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ ร่วงแล้ว แต่หน้าผากของเขาก็มีเหงื่อผุดพรายอยู่เต็มไป หมด มองก็รู้ได้ว่าเขารีบร้อนที่จะมาที่นี่มาก นางทราบมา ว่าเขาเป็นผู้ลงมือตามหาผู้วางยาพิษด้วยตนเอง จริงอยู่ แม้ว่าเมื่อก่อนหลี่เฉินเย่นจะปฏิบัติต่อเธอไม่สู้ดีนัก แต่ นางก็ต้องยอมรับว่าความสัมพันธ์พี่น้องของเขาทำให้นาง ซาบซึ้งเป็นอย่างมาก
“ขันคืนสติแล้วเพคะ เพียงแต่ยังไม่พ้นขีดอันตราย”ชูเซี่ย ลออกไปตามตรง

ยามนี้สายตาที่หลี่เฉินเย่นมองมายังนางทอประกาย อบอุ่นและแฝงไปด้วยความชื่นชมอยู่ในนั้น “เจ้าเองก็ เหนื่อยมามากแล้ว ไปพักสักเดี๋ยวเถอะ ข้ายังต้องไปสืบ อะไรเพิ่มอีกสักหน่อย ค่ำหน่อยพวกเราค่อยออกจากวัง กัน

ซูเซียตกปากรับคำ ตอนนี้เธอรู้สึกร่างกายไม่อยู่กับร่อง กับรอย ก้าวขาเพียงสองก้าวก็รู้สึกหน้ามืดทรุดลงกับพื้น ทันที ทำให้คนที่อยู่บริเวณนั้นต่างตกใจถลาเข้ามารับ แต่ หลี่เฉินเย่นกลับไวกว่าก้าวหนึ่ง เขารับนางไว้ในอ้อมกอด ก่อนที่ร่างบอบบางจะกระแทกลงพื้นหลิวหยิงหลง หลิวห ยิงหลง เจ้าเป็นอะไรไป

เดิมทีนางคิดว่าเป็นเพราะความเครียดจากเรื่องราวก่อน หน้านี้ ที่ทำให้ร่างกายของนางรับไม่ไหว “ข้าไม่เป็นไร เพคะ เพียงแต่ยังไม่ได้ทานอะไรเลยทั้งวัน จึงรู้สึกเวียนหัว เล็กน้อย”

ยามนี้ร่างกายของทั้งคู่อยู่ใกล้กันมาก ใกล้เสียจนนางได้ กลิ่นไอของบุรุษที่โอบกอดเธออยู่ เป็นกลิ่นที่ทำให้เธอ รู้สึกประหลาด ภาพความจำอันโหดร้ายบนเตียงในค้นนั้นหวนกลับมาในหัวของนางอีกครั้งหนึ่ง

“เสี่ยวจ ได้มทัหลี่เฉินเย่นตั้งใจจะเรียกเสี่ยวจีให้เข้ามา แต่หลัวมีเหอที่อยู่บริเวณนี้มาดลอดกลับไวกว่าก้าวหนึ่ง รีบเดินมาพยุงร่างของชูเซี่ยขึ้นจากอ้อมกอดของหลี่เฉินเย นก่อนจะเอ่ย ท่านอ๋้องเพคะ ให้เป็นหน้าที่หม่อมฉันพา ท่านพี่ไปพักผ่อนเถอะเพคะ ท่านอ๋องจัดการธุระเถอะเพดะ ไม่ต้องเป็นเป็นห่วงหม่อนฉันจะดูแลท่านพี่ของหม่อมฉัน อย่างแน่นอนเพละ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นหลี่เฉินเป็นก็คลายกังวลได้ ก่อนจะพยัก หม้ารัม เช่นนั้นก็สามากเจ้าแล้วมีเหอ เจ้าพานางไปพัก ผ่อมแล้วกัน และอย่าลืมสั่งคนเตรียมสำรับไว้ให้แก่พระ ชายาดัวย”

“เพลง ท่านอ๋อง”

มือของนางข้างหนึ่งวางทาบอยู่ตรงเอวบางของชูเซีย อีก ช้างคอยจับแขนพยุงร่างของชูเซี่ยไว้ “ท่านพี่ น้องจะพยุง ท่านเข้าไปพักในห้อง”ซูเซี่ยเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ได้แต่ถือ อา ตอนนี้นางเหนื่อยมากเสียจนไม่มีแรงจะลุกขึ้นมาต่อ กรณ์ก้มหลิวมีเหอในเวลานี้จึงได้แต่ตอบกลับไป “จิ้นก็ต้อง ธบควมน้องสาวแล้วล่ะ!”
หลิวมีเหอค่อยๆพยุงร่างของชูเซี่ยเข้ามาภายใน ห้องท่านพี่เหนื่อยแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรหรอกเจ้าค่ะ”เดิมที ในตำหนักแห่งนี้จะมีนางกำนัลอยู่หลายนางคอยดูแลรับใช้ อยู่หลิวมีเหอออกคำสั่งให้นางกำนัลไปเตรียมสำรับ และ จัดการปิดบานประตู ก่อนจะหันกายกลับมาและตรงไปที่ เตียงที่ชูเซี่ยนอนอยู่”ข้าไม่เคยรู้มาก่อนว่าท่านรู้วิชาการ แพทย์

ชูเซี่ยที่นอนหลับตาอยู่บนเตียง ในหัวก็คิดหาวิธีร้อยแปด ในการรักษาพระชายาอยู่นั้น เมื่อได้ยินคำพูดของหลิวมี เหอนางก็นิ่งไปก่อนจะเอ่ยตอบ”เรื่องของข้า เจ้าไม่จำเป็น ต้องรู้ไปหมดทุกเรื่องกระมัง เหมือนกับที่ข้าไม่เคยรัมา ตลอดว่าเจ้าเองก็ไม่ชอบข้า”

หลิวมีเหอไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีก ในตอนนี้ นอกจาก ความรักที่ท่านอ๋องมีให้แก่นางแล้ว นางก็หามีสิ่งอื่น ไม่ หากเป็นครอบครัวปุถุชนแล้วล่ะก็ การได้รับความ โปรดปรานจากสามีล้วนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แต่สำหรับที่ นี่ สถานที่แห่งนี้ มีคนมากมายเกินไป แก่งแย่งชิงดีกันมาก เกินไป ขนาดสามีของตนยังต้องคอยยืมจมูกผู้อื่นหายใจ นางจำต้องก้มหัวให้ แต่เอาเถอะ อย่างไรซะนางก็ก้มหัว ให้ท่านพี่มานานถึงเพียงนี้แล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นไรไป เล่า นางทราบดีว่าอีกไม่นานนักนางจะต้องได้ลืมตาอ้าปาก ได้ในที่สุดตราบใดที่นางมีความรักจากท่านอ๋องอยู่ ต่อให้เป็นฮองเฮาก็ไม่อาจอยู่ปกป้อง นางได้ตลอดไปหรอก!

เมื่อชูเซี่ยเห็นว่านางไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก ก็คร้านจะ ต่อความ หัวสมองของนางก็กลับมาเริ่มทบทวนวิธีรักษา อาการของพระชายาอีกครั้ง นางเคยเรียนวิชาการแพทย์ แผนจีนมาก่อน ด้านสมุนไพรที่ใช้รักษาพิษก่อนเรียนรู้มา ไม่น้อย แต่ว่าเพราะไม่ทาบว่าพิษที่พระชายาถูกวางยา เป็นพิษชนิดไหน ก็ยากที่จะจัดหาสมุนไพรมารักษาได้ นอกจากว่าจะมียาสมุนไพรที่สามารถรักษาพิษได้ทุกชนิด แต่หากส่งคนไปหาและพบเข้าจริงๆ ก็ใช่ว่าพระชายาจะมี ชีวิตอยู่ถึงตอนนั้น

“จริงๆแล้ว…”หลิวมีเหอเอ่ยขึ้นมาก่อนนิ่งไปชั่วครู่ ก่อน จะค่อยๆเอ่ยออกมาอีกครั้ง “ข้าก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะตั้งตนเป็น ศัตรูกับท่านหรอกนะท่านพี่ แต่สวรรค์กลับลิขิตให้เราต้อง หลงรักผู้ชายคนเดียวกันเสียนี่ พวกเราจึงไม่อาจหลีกเลี่ยง โชคชะตาที่ทำให้เราต้องกลายเป็นคู่แข่งกันได้”

“ข้ามิได้มีความรู้สึกอันใดกับหลี่เฉินเย่นแม่แต่น้อย เจ้าจะ รักกับเขานั่นก็เรื่องของเจ้า แต่อย่าได้มายุ่งวุ่นวายกับชีวิต ของข้า หากเจ้ามิได้ทำให้ข้าลำบากใจข้าก็จะมิทำให้เจ้า ลำบากใจ”ชูเซี่ยพูดออกมาอย่างเฉื่อยชา นางถูกกาลเวลาพรากจากครอบครัวกับเพื่อนๆก็เจ็บ ปวดพอแล้ว นางไม่คิดจะยุ่งวุ่นวายหาเหาใส่หัวโดยการไป แทรกกลางระหว่างความสัมพันธ์ของผู้ใดหรอกนะ ความ รู้สึกรักชอบอะไรทำนองนี้มีแต่จะทำให้ปวดเสียเปล่าๆ สตรี ยามมีความรักจะสามารถทำได้ทุกอย่างโดยไม่สนความถูก ผิด นางกลัวสตรีประเภทนี้ที่สุด เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง

หลิวมีเหอได้ยินเข้าก็ยิ้มเย็นชาออกมา”ท่านพี่กลายเป็น เย็นชาขนาดนี้ตั้งเมื่อใดกัน แม้แต่ความรู้สึกของตนเองก็ มิกล้ายอมรับเสียแล้วหรือ ตั้งแต่เล็กจนโตท่านก็ปักใจรัก เพียงท่านอ๋อง เรื่องนี้มิว่าผู้ใดก็ล้วนทราบดี มิฉะนั้นท่าน คงมิใช่สารพัดร้อยเล่ห์มารยาเพื่อทำให้ตนเองได้แต่งเข้า จวนอ๋องหรอก คอยกลั่นแกล้งข้าสารพัด ทำให้ข้ารู้สึก อับอาย” เดิมทีนางเป็นผู้มีความอดทน แต่ทว่าเมื่อได้ยินชู เซี่ยพูดขึ้นมาเช่นนี้ นางก็อดจะพูดต่อว่าอีกฝ่ายหลายคำ มิได้ แม้ว่าอีกฝ่ายจะขยันหาเรื่องกลั่นแกล้งนางสารพัด แต่ก็ใช่ว่าจะมีมีข้อดีเสียทีเดียว เนื่องด้วยนิสัยของหลิวห ยิงหลง นางเป็นคนนิสัยดุร้ายมุทะลุ ยามไม่พอใจก็ระเบิด อารมณ์ออกมาเสียสิ้นไม่รู้จักสะกดกลั้นอารมณ์ของตน คน ที่ใช้ชีวิตเช่นนี้มีแต่จะทำให้ผิดใจกับผู้อื่น ยากนักจะได้ใจ ใครต่อใคร

ชูเซี่ยไม่อยากโต้เถียงอันใดกับสตรีข้างกายอีก แค่พูดองเป็นๆ จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็สุดแล้วแต่เจ้า”

ได้ยินเช่นนั้นหลังมีเหอก็ยอมจบบทสนาทนาลงแต่ เพียงเท่านี้ มางนอนราบลงบนเคียง พักสายตาและคิดถึง เหตุการณ์มากมายที่เกิดขึ้นในวันนี้ สิ่งเหล่านั้นทำให้นาง ตsหนักได้ว่าแท้จริงแล้วเกิดเป็นสตรีนั้นอันตรายมากมาย เพืองใด เพืองเพราะต้องการให้กำเนิดบุตรแก่สามีสักคน ต้องม้าชีวิตของคนไปเสี่ยงยิ่งไปกว่านั้นภายในใจของนาง วัดระหนักได้ว่าภายในจวนเจิ้นหยวนอ๋องที่กว้างใหญ่และ ปลอดภัยแห่งนี้ ก็สามารถเกิดเหตุการณ์วางยาเช่นนี้ขึ้นมา ได้เช่นกัน พระชายาเจิ้นหยวนเป็นคนดี ไม่เคยบาดหมาง กับผู้ใดก็ยังเกือบต้องทั้งชีวิตไม่ ณ ที่แห่งนี้ ดังนั้นความ จริงที่ ว่าต่อให้เจ้าไม่รักแกผู้อื่น ก็ใช่ว่าผู้อื่นจะปล่อยเจ้าไป เสีมที่ไหน

ติอแต่นี้ไปหลิวมีเหล ตั้งปณิธานไว้ว่าไม่ว่าวันนี้หรือวัน ไหนๆ นางจะไม่ตอมถูกผู้ใดหน้าไหนรังแก หรือวางยาพิษ บางอีกต่อไป นางจะต้องกลายเป็นผู้ที่โดดเด่นที่สุดในจวน อ้องแห่งนี้ และเพื่อที่จะมีชีวิตผ่านพ้นไปได้ด้วยดี นางจะ ต้องอยู่ในตำแหน่งที่สูงที่สุดเพื่อที่จะไม่ให้ใครมารักแกอีก

เมื่อเพิ่มพักผ่อนไปได้สักพัก ก็ตื่นขึ้นมาทานอะไรเล็กน้อย จากนั้นก็เดินทางต่อไปยังตำหนักหมอหลวง เมื่อ ไปถึง นางพบว่าเหล่าหมอหลวงในตำหนัก ต่างยังไม่มีผู้ ใดที่มีอาหารตกถึงท้อง เพราะทุกคนต่างใจจดใจจ่ออยู่กับ การหาวิธีรักษาพิษพระชายา เนื่องจากเป็นบัญชาขององค์ ฮ่องเต้

“ถวายบังคม พระชายานิงอัน!”เมื่อใต้เท้าเยี่ยนพ่านเห็น ชูเซี่ยมาเยือนตำหนักหมอหลวงจึงรีบลุกขึ้นมาให้การ ต้อนรับ เนื่องจากนางเองก็มีส่วนช่วยรักษาพระอาการของ พระชายาในครั้งนี้ไม่น้อย เดิมทีเยี่ยนพ่านก็ชื่นชมและ ยกย่องผู้มีความสามารถมาแต่ไหนแต่ไร ยามนี้เขาจึงรู้สึก ให้เกียรติแล้วชื่นชมชูเซี่ยเพิ่มอีกหลายส่วน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ