หมอยาเสน่ห์หา

ตอนที่20 ที่พับไว้



ตอนที่20 ที่พับไว้

ตอนที่20ที่พับไว้

เวลาค่อยๆผ่านไปตอนแรกทุกคนยังคงรออย่างเงียบ สงบได้แต่ตอนนี้เวลาผ่านไปสองชั่วยามแล้วพระนางเจ้า ทั้งหลายเริ่มกระซิบกันฮ่องเต้ก็เริ่มรู้สึกกระสับกระส่าย แต่เมื่อมองเห็นไทเฮานั่งนิ่งๆท่องพระสูตรพุทธอยู่ท่าน จึงอดทนไว้

ในสองชั่วยามที่ผ่านไปนี้หลี่เฉินเย่นแทบไม่กระทำการ ใดๆเลย

ตลอดสองชั่วยามนี้ทำอยู่ท่าเดียวมีเหอขยับตัวให้อยู่ ใกล้เขาพูดว่า”ท่านอ๋องไม่ต้องห่วงมากพระชายาเจิ้ง หยวนต้องปลอดภัยแน่นอน”

หลี่เฉินเย่นถามเสียงแหบแห้ง”นางเคยเรียนการแพทย์ มาก่อนหรือ”

มีเหอตอบเบาๆว่า”ตามความจำของข้าท่านพี่ไม่เคย

เรียนมาก่อน”
หลี่เฉินเย่นสายหน้าว่า”คนที่ไม่รู้เรื่องอยากตายก็ปล่อย ให้ไปตายเลยข้าไม่ห้าม”ถึงแม้พูดอย่างโหดร้ายแต่ในใจ ก็ยังรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่เขารู้ชัดว่าถ้าช่วยชีวิต พระชายาเจิ้งหยวนไม่ได้ท่านย่าต้องลงโทษนางแน่นอน ถ้าหากว่าพระชายาเจิ้งหยวนตายไปอย่างนี้อย่างน้อย ร่างกายนางยังครบสมบูรณ์อยู่แต่ตอนนี้ถูกตัดกระเพาะ แล้วยังตายไปเหมือนกันงั้นร่างกายจะเรียกครบสมบูรณ์ ไม่ได้ฉะนั้นท่านพี่เจิ้งหยวนกับท่านย่าต้องลงโทษนาง ด้วยเหตุผลนี้แน่ๆแม้อาจจะไม่ได้เอาชีวิตนางแต่ก็ต้องรับ การบาดเจ็บแน่ๆ

เขาส่ายหน้าเล็กน้อยไม่รู้จะเครียดแทนนางทำไมคน ที่ใจร้ายและเห็นแก่ตัวแม้จะตายไปก็ไม่มีใครไปเสียใจ หรอกอีกทั้งนางยังเป็นฆาตกรของจ่ายเงินคนแบบนี้ตาย ยังดีกว่าพอคิดอย่างนี้ไปสีหน้าเขาก็เย็นชาขึ้นมาเหมือน กับว่านางจวนถึงคราวตายแล้ว

เวลาเหมือนผ่านไปนานเหมือนหนึ่งชาติสุดท้ายจึง

ได้ยินเสียงเล็ดลอดออกมาจากห้องคลอด

เป็นเสียงร้องไห้ของทารกแม้ว่าเสียงนั้นเล็กและเบา แต่ฟังแล้วยังเหมือนเสียงไก่ขันในช่วงอรุณรุ่งฉายแสง สว่างลงมาจากท้องฟ้าที่มืดมน
ไทเฮารีบลุกขึ้นตื่นเต้นจนริมฝีปากสั่น”เป็นเสียงร้องไห้ ของทารกใช่หรือไม่”

อ๋องเจิ้งหยวนตื่นเต้นจนกระโดดขึ้นใบหน้าเต็มไปด้วย ความสุขเขาหันหน้ากลับมองดูไทเฮาพร้อมมองทุกคน ถามอย่างไม่มั่นใจว่า “พวกเจ้าได้ยินเสียงแล้วใช่ไหมเป็น เสียงร้องไห้ของทารกใช่ไหม”

เยียดประตูถูกเปิดครั้งนี้ไม่ใช่แม่ผดุงครรภ์เดินออกมา เป็นหมอหลวงหลันเดินออกมาเมื่อกี้เขาถูกชูเซี่ยเรียก เข้าไปช่วยในห้องคลอด

ใบหน้าเขายังงุนงงอยู่ด้วยความไม่น่าเชื่อจนทำให้ริม ฝีปากและมือทั้งสองสั่นไปเล็กน้อยเขาพูดกับอ๋องเจิ้ง หยวนด้วยเสียงสั่น”ขอแสดงความยินดีกับอ๋องเจิ้งหยวน แม่ลูกปลอดภัยทั้งคู่”

อ๋องเจิ้งหยวนได้ยินคำพูดนั้นก็อยากวิ่งเข้าไปในห้อง แต่ถูกหมอหลวงกั้นไว้”พระชายาอานซิ่งสั่งว่าตอนนี้ยัง เข้าไม่ได้นางกำลังเย็บแผลอยู่”

ไทเฮายิ้มอย่างโล่งใจและลุกขึ้นยังไม่ทันพูดอะไรก็ล้มลงโชคดีสาวใช้ที่ยืนอยู่ข้างหลังรีบประคองไว้ฮ่องเต้ จึงสั่งให้ส่งไทเฮากลับตำหนักโซ่วอานพร้อมสั่งให้หมอ หลวงไปรักษาตอนนี้ใบหน้าฮ่องเต้มีแต่ความดีใจหาย ความกังวลหมดสิ้น

“ไม่น่าเชื่อไม่น่าเชื่อจริงๆ”

หมอหลวงหลันก็ตะลึงว่า”มันเป็นปาฏิหาริย์จริงๆตอนที่ เอาทารกออกมาทารกไม่หายใจแล้วทั่วร่างกายช้ำหมด ไม่หายใจแล้วจริงๆแต่พระชายาอานซิ่งชูเด็กคว่ำหัวลง และตบไปพักหนึ่งเด็กนั้นก็ฟื้นกลับมา”

ทุกคนได้ยินแล้วก็ตกใจอีกครั้งและมองไปยังหลี่เฉินเย่ นพร้อมกันทำให้หลี่เฉินเย่นรู้สึกภูมิใจมาก

พระนางเจ้าคนหนึ่งนึกถึงอาการเลือดไหลที่พูดถึงใน เมื่อกี้ก็ลุกขึ้นไปถามว่า”เมื่อกี้บอกว่าเลือดไหลแล้วตอน นี้เป็นไงบ้าง”

หมอหลวงหลันตอบว่า”เลือดหยุดไหลแล้วแต่พระ ชายาอานซึ่งบอกว่าพระชายาเจิ้งหยวนยังไม่ปลอดภัย เต็มที่เพราะติดยาพิษถ้าถอนพิษไม่ได้เกรงว่า…”

ทุกคนรู้สึกกังวลขึ้นอีกอ๋องเจิ้งหยวนขมวดคิ้วถามว่า”รู้

ไหมว่าถูกวางยาพิษอะไร”

หมอหลวงสายหน้ามองฮ่องเต้แล้วพูดต่อ”ทูลฝ่าบาท เมื่อปีก่อนประเทษซงหนูเคยมอบดอกบัวเทียนซานดอก หนึ่งมาให้ดอกนั้นสามารถถอนพิษได้ไม่ทราบฝ่าบาทว่า ส่งให้พระชายาเจิ้งหยวนกินได้หรือไม่”

ฮ่องเต้เห็นว่าแม่ลูกปลอดภัยทั้งคู่รู้สึกดีใจมากแค่ ดอกบัวเทียนซานจะไม่ให้ได้ยังไงจึงสั่งให้สาวใช้รีบเอา มาให้อีกไม่นานดอกบัวเทียนซานก็ถูกต้มเป็นยาและส่ง มา

เนื่องจากเพิ่มโสมเข้าไปจึงเป็นแกงสีทองออกเขียว อ่อนนอกจากถอนพิษได้แล้วยังรักษาร่างกายได้อย่าง ดีอีกด้วยอ๋องเจิ้งหยวนเฝ้าอยู่ข้างๆพระชายาเจิ้งหยวน ช่วยเช็คเหงื่อให้นางเบาๆ

เมื่อชูเซี่ยเดินออกมาด้วยร่างกายที่อ่อนเพลียสิ่งที่ได้รับก็คือเสียงพิศวงของทุกคน

นางเงยหน้ามองหาหลี่เฉินเย่นตามจิดใต้สำนึกเห็นว่า เขายืนอยู่ที่นั่นล้อมรอบมีแสงแดดสีทองคลุมอยู่

ใบหน้าไม่มีความรังเกียจเหมือนเดิมแล้วนางจึงสบายใจ ขึ้นถ้าหากว่าเขาเชื่อฝีมือการแพทย์ของนางงั้นนางแค่ ขอร้องเขาไม่กี่ครั้งน่าจะมีโอกาสไปเยี่ยมฉ่ายเวินได้

ฮ่องเต้เดินมาชมว่า”คราวนี้หยิงหลงช่วยชีวิตหลานของ

ข้าข้ามีรางวัลจะให้เจ้าอยากได้อะไรบอกมาเลย”

นางคิดสักพักแล้วพูดว่า”งั้นข้าขอท่านพ่อรับปากกับข้า เรื่องหนึ่ง”

“ว่ามาเลยอย่าว่าแค่เรื่องเดียวสิบเรื่องข้าก็รับปาก ให้”ฮ่องเต้ดีใจอยู่จึงตอบอย่างนั้นการให้รางวัลส่วนใหญ่ จะเป็นเครื่องเพชรพลอยหรือเงินทองท่านไม่ขี้เหนียวกับ ของเหล่านี้อยู่แล้ว

ชูเซี่ยยิ้ม”ข้าช่วยชีวิตเด็กนั้นไว้และข้าก็เป็นน้าสะใภ้ของเด็กด้วยแต่ข้าไม่ค่อยพอใจกับตำแหน่งนี้จึงขออนุ ญาติให้เป็นแม่บุญธรรมของเด็กเพคะ”ชูเซี่ยไม่ได้นำ เสนอออกมาตามอำเภอใจนางยังคิดว่าหากนางเป็นแม่ บุญธรรมของหลานชายฮ่องเต้งั้นความสัมพันธ์ระหว่าง นางกับอ๋องเจิ้งหยวนและพระชายาเจิ้งหยวนไม่เพียง แค่พี่น้องกันเท่านั้นหากตัวเองติดเรื่องอะไรในอนาคตก็ สามารถขอความช่วยเหลือจากพวกเขาได้

ฮ่องเต้ตะลึงไม่เคยคิดว่าชูเซี่ยจะขออนุญาตเรื่องนี้เขา มองดูชูเซี่ยอย่างชื่นชมยิ้มว่า “ถ้าไม่มีเจ้าก็ไม่มีเด็กคนนี้ เจ้าน่าจะเป็นผู้ช่วยที่ถูกกำหนดให้กับเด็กข้าอนุญาตแล้ว ต่อไปเจ้าก็เป็นแม่บุญธรรมพระราชนัดดาอันหรันแล้ว”

โหร่วเฟยจับมือชูเซี่ยหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส”คราวนี้หยิง หลงช่วยชีวิตเย่เอ๋อพร้อมชีวิตหลานชายข้าด้วยเป็นผู้มี พระคุณที่ยิ่งใหญ่ของข้าข้าไม่รู้จะพูดอะไรอีกแล้วทีหลัง หากมีใครรังแกเจ้าเจ้าก็บอกกับข้าเลยข้าจะช่วยจัดการ ให้”พูดจบก็เหลือบไปยังหลี่เฉินเย่นเมื่อกี้ในตำหนักโซ่ วอานนางได้ฟังที่ชูเชี่ยพูดออกมาทั้งหมดตอนนั้นนางก็ มีความรู้สึกมากมายแล้วคิดไม่ถึงชูเซียยังช่วยชีวิตหลาน และลูกสะใภ้ของนางไปด้วยทำให้นางเพิ่มความเอ็นดูกับชูเซี่ยมากขึ้น

ชูเซี่ยยิ้มและตอบว่า “ขอบพระคุณที่ท่านแม่โหร่วที่ เอ็นดู”

เมื่อทุกคนคิดว่าพระชายาเจิ้งหยวนปลอดภัยแล้ว แต่ทันใดนั้นก็เห็นหมอหลวงวิ่งออกมาพูดด้วยหน้า ซีดๆ”เมื่อให้พระชายาเจิ้งหยวนกินยาลงไปแล้วก็ไม่มีลม หายใจอีกแล้วขอรับ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ