ตอนที่4 พระชายาในหัวใจของเขา
ตอนที่4เปลี่ยนเป็นอีกคน
ชูเซี่ยลุกขึ้นเอื้อมมือกดจุดที่โดนดาบแทงแผลเจ็บจนจะน้ำตาจะ ไหลไม่แน่ใจว่ากระดูกหักหรือเปล่า
ตอนนี้มีองครักษ์อีกหลายคนเข้ามาช่วยต่อสู้ชายชุดดำคิดว่าสู้ไม่ ไหวแน่จึงใช้วิธีที่ดีดตัวออกจากองครักษ์สองฝั่งเขาใช้พลังสุดท้าย โยนดาบวิ่งไปหาหลี่เฉินเย่นดาบยาวบินออกไปถึงแม้ว่ามีองครักษ์ ปกป้องอยู่ด้านหน้าของหลี่เฉินเย่นแทงดาบนั้นผ่านร่างกายของ องครักษ์ด้านหน้าทะลุไปถึงท้องของหลี่เฉินเย่น
พวกองครักษ์ตะโกนว่า “ท่านอ๋อง!”
ชูเซียตกตะลึงรีบระงับอาการเจ็บปวดและดึงตัวเองไปหาหล่ เฉินเย่นกับองครักษ์คนนั้นโชคดีที่ว่าบาดแผลหลี่เฉินเย่นไม่ลึก เพราะว่ามีองครักษ์กันอยู่ข้างหน้า
แต่องครักษ์อาการแย่แล้วดาบแทงผ่านท้องทะลุลำไส้แน่นอนตอน นี้เลือดไหลไม่หยุดตรงที่เขานอนอยู่เต็มไปด้วยเลือด
เธอก้มตัวลงตรวจเช็คแล้วพูดเบาๆว่า “เจ้าไม่ต้องกลัวนะข้าจะช่วย เจ้าเองตอนนี้ข้าจะช่วยให้เลือดหยุดไหลก่อนนะ”
เธอหยิบดาบเล่มหนึ่งขึ้นมาและตัดเสื้อเขาแผลใหญ่มากขนาดไม่ น้อยกว่าห้าเซนติเมตรองครักษ์อีกคนส่งยารักษาบาดแผลมาให้เธอ
ตะลึงไปเล็กน้อยนึกได้ว่าตอนนี้อยู่ในสมัยโบราณเธอใช้ฟันกัดฝาขวดยาออกเทยาลงไปบนแผลแล้วใช้ผ้ามัดไว้เพื่อไม่ให้เลือดไหล
องครักษ์คนนั้นไม่ได้สติแล้วดวงตาก็ค่อยๆปิดลงโชคดีที่เลือด หยุดไหลการหายใจก็กลายเป็นปกติแล้วแต่ชูเซี่ยรู้ว่าอาการของ เขาไม่ค่อยดีเท่าไหร่เพราะว่าดาบทะลุผ่านร่างกายคงทำให้อวัยวะ ภายในมีการเสียหายส่วนหลี่เฉินเย่นลุกขึ้นมาโดยความประคอง ขององครักษ์แล้วบาดแผลไม่ลึกแต่เลือดยังไหลอยู่
เขามองไปที่ชูเชี่ยสายตาเต็มไปด้วยความสงสัยในแวบเดียวเขาก็ เก็บอารมณ์นั้นไว้แล้วพูดกับพวกองครักษ์อย่างเดือดจัด”เจ้ารีบไป ตรวจสอบ!ข้าต้องรู้ว่าใครกันแน่ที่อยากฆ่าข้า!”
องครักษ์คนหนึ่งแต่งตัวเหมือนหัวหน้าตอบว่า”ข้าน้อยจะรีบไป ตรวจสอบขอรับ”จากนั้นก็พาพวกองครักษ์ออกไป
คนใช้ที่อยู่ข้างๆหลี่เฉินเย่กำลังจะเข้าไปประคองเขาไว้แต่ถูกหลี่ เฉินเย่นยื่นมือกันไว้และถามว่า”เชิญหมอหลวงหรือยัง”
คนใช้ตอบว่า”เชิญหมอหลวงแล้วขอรับ”
เนื่องจากที่พระราชวังได้จัดหมอหลวงหนึ่งคนมาช่วยดูแลรักษา ร่างกายให้ท่านอ๋องเท่านั้นจึงไม่ต้องออกไปเชิญหมอที่ข้างนอกหลี่ เฉินเย็นมองไปที่องครักษ์คนนั้นพูดว่า “ข้าไม่ให้เขาตาย”
ซูเซี่ยลุกขึ้นใบหน้าและเสื้อผ้าเต็มไปด้วยเลือดมองหลี่เฉินเย่น
และบอกว่า “ไม่ต้องห่วงเขาไม่เป็นไร”
สายตาหลี่เฉินเย่นจ้องมองที่เธอคิ้วขมวดขึ้นเหมือนมองเห็นคนที่ ไม่รู้จักมาก่อนสักพักเขาจึงถามเธอว่า “เจ้าไม่กลัวเลือดแล้วหรือ?”
ชูเซี่ยตกใจมีความทรงจำบางอย่างผุดเข้ามาในหัวก่อนหน้านี้หลิว หยิงหลงเป็นคนที่กลัวเลือดมากเพียงแค่เห็นก็เป็นลมได้
เธอพูดด้วยหน้าซีดขาว
“ข้ากลัวแต่ตอนนี้เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายผู้อื่นจึงไม่ได้ ใส่ใจมากนัก”
หลี่เฉินเย่นขมวดคิ้วสายตามีความสงสัยแวบนึงหมอหลวงมาถึง พอดีก่อนที่หมอหลวง จะทำความเคารพหลี่เฉินเย่นก็สั่งว่า “ดูเขาก่อน”
หมอหลวงมองไปองครักษ์แวบเดียวและกลับมองดูรอยเลือดที่ อยู่บนเสื้อผ้าของหลี่เฉินเย่นรีบพูดว่า”ไม่ได้ท่านอ่องทรงได้รับ บาดแผลข้าขอช่วยรักษาท่านอ่องก่อน”หลี่เฉินเย่นขมวดคิ้วและ พูดด้วยเสียงโกรธ”รักษาชีวิตเขาก่อนพระชายาเอกของเป็นหวังจะ ช่วยรักษาและพันแผลให้เปิ่นหวังเอง”
ชูเซี่ยตกใจเล็กน้อยคาดว่านี่เป็นการหยั่งเชิงของเขาแน่ๆ แต่ตอน นี้ไม่ใช่เวลาที่ไปใส่ใจเรื่องนั้นบาดแผลของเขายังมีเลือดไหลไม่ หยุดแม้ว่าแผลไม่ลึกแต่ทิ้งไว้อย่างนี้ก็อันตรายต่อชีวิตได้
เธอจึงสั่งคนใช้ว่า”ไปประคองท่านอ๋องเข้าไปในห้องเตรียมน้ำ กรรไกรและผ้าสะอาดมา”
หลี่เฉินเย็นถูกพาเข้าไปที่เรือนเหลียนยืนอนอยู่บนเตียงซูเซี่ย ใช้กรรไกรตัดเสื้อผ้าของเขาออกมองดูก็รู้ว่าแผลไม่ลึกและไม่ได้ ทำให้อวัยวะภายในเสียหาย
เธอพูดอย่างอ่อนโยนและมืออาชีพว่า”ตอนนี้ข้าจะช่วยล้างแผลให้ ท่านอาจจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยอดทนหน่อยนะ”
หลี่เฉินเย่นไม่ได้พูดอะไรแต่สายตามองตามเธออยู่ตลอด
เมื่อมือแตะร่างกายของเขาอีกภาพที่เธอกับเขานอนด้วยกันก็ผุด
เข้ามาในหัวอย่างไม่รู้ตัวทันใดนั้นหน้าเธอก็แดงขึ้นเหมือนมะเขือ เทศ
“เจ้าตั้งใจหน่อย”ความว้าวุ่นใจของนางทำให้เขาเจ็บแผลจึงขมวด คิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงโกรธ
“ฉันขอโทษ”ชูเซี่ยพูดคำขอโทษโดยไม่รู้ตัวในใจก็โทษตัวเองใน ความไม่เป็นมืออาชีพเมื่อเผชิญหน้ากับผู้ป่วยความคิดที่ไม่เกี่ยว ควรจะไม่นึกถึง
หลังจากล้างแผลฆ่าเชื้อเสร็จจะต้องใส่ยารักษายารักษาเป็นผง สมุนไพรมีส่วนผสมโสมซาชีซึ่งเป็นยาที่ดีในการหยุดเลือดเธอเคย ศึกษายาสมุนไพรจีนมาก่อนแม้ว่าไม่ค่อยชำนาญแต่ก็พอทราบนิด หน่อยพันผ้าพันแผลเรียบร้อยแล้ว
เธอก็ถอยตัวและบอกว่า”ท่านอ่องไม่ได้เป็นอะไรมากพักผ่อนสอง
สามวันก็หายแล้ว”
หลี่เฉินเย่นพูดด้วยเสียงแหบว่า”เจ้ามานั่งใกล้ๆข้า”
ชูเซี่ยเงยหน้าขึ้นและเห็นสายตาแปลกๆของเขาในใจหวาดผวา เล็กน้อยจึงรีบถอยหลังสองก้าวตอบว่า “ข้าขอกลับไปเปลี่ยนชุด ขอตัวก่อน”
พูดจบก็เดินออกมาจากประตูแล้วลากเสี่ยวจี้ที่ยังงุนงงอยู่รีบหนีไป
เสี่ยวจี่กลับมาถึงที่เรือนรูหยี้ก็ยังงุนงงอยู่นางถามชูเซี่ยด้วยความ ประหลาดใจว่า”ท่านหญิงท่านไม่กลัวเลือดแล้วหรือเจ้าค่ะ”
ชูเซี่ยหายใจออกและตอบว่า “ข้ากลัวจู่ๆในเวลานั้นกลับไม่ได้กลัว แม้แต่นิดเดียวแต่ตอนนี้คิดย้อนกลับไปก็รู้สึกกลัวขึ้นมา”
แม่นมกับสาวใช้รีบเตรียมน้ำมาให้ชูเซี่ยอาบน้ำแล้วเลือกชุด ที่สวยงามมาให้บอกว่า”ท่านหญิงพักเรื่องนั้นไว้ก่อนวันนี้เป็นวัน แต่งงานของแม่หญิงมี่เหอท่านหญิงเป็นพี่สาวแถมยังเป็นพระชายา เอกด้วยต้องแต่งชุดให้เรียบร้อยชุดพระชายาเอกสีแดงชุดนี้เหมาะ ที่สุดเจ้าค่ะ”
ชูเซี่ยลุกขึ้นเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่างก็รู้สึกปวดเอวแล้ว รู้สึกภาพตรงหน้ามืดลงก็ล้มลงบนพื้น
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ