ตอนที่3 เสี่ยงชีวิตช่วยคน
จากนั้น หลี่เฉินเย่นก็เกลียดเธอเพราะเรื่องฉ่ายเว็น แต่เนื่องจาก ฮ่องเต้ออกคำสั่งมาให้แต่ง เขาเลยจำใจต้องแต่งงานกับเธอ แต่เธอสองคนแต่งงานมาหนึ่งปี เขาไม่เคยเข้ามาในห้องนอนของ เธอ ไม่เคยนอนกับเธอแม้แต่คืนเดียว อีกทั้งน้องสาวตนเองกำลัง จะแต่งเข้าตำหนักอ่องแล้ว ดังนั้นหลิวหยิงหลงที่เสียใจอย่างยิ่ง จึงคิดวางแผนใส่ยาแฝดเพื่อผูกหัวใจของหลี่เฉินเย่นด้วยการใช้ ร่างกาย
ชูเซี่ยไม่รู้ว่าสิ่งที่เธอทำไปเพราะเธอโง่เหมือนควายหรือเธอ หลงใหลกับผู้ชายคนนี้มาก จึงคิดที่จะใช้ร่างกายไปผูกมัดผู้ชายคน หนึ่ง ทำอย่างนี้ผูกมัดได้แค่ร่างกาย ไม่ใช่หัวใจ เพราะว่าผู้ชายจะ ไม่รักผู้หญิงด้วยเหตุที่เคยนอนด้วยกัน
แต่ตอนนี้มีสามจุดที่ชูเซี่ยไม่เข้าใจก็คือ หนึ่ง เธอจะข้าวภพเข้า ร่างกายของหลิวหยิงหลงได้ยังไง สอง.หลิวหยิงหลงเสียชีวิต ด้วยเหตุผลอะไร สาม.สาเหตุที่ฉ่ายเงินถูกใครผลักตกลงไปใน ทะเลสาบ และเป็นใครที่คิดจะใส่ร้ายเธอ
เธอจำได้ว่าหลังจากล้มลงบนพื้น เธอเหมือนได้ยินเสียงหนึ่งพูด ว่าจะให้เธอเกิดใหม่ งั้นก็แสดงว่ามีพลังหนึ่งส่งเธอมาที่นี่ และเสียง นั้นยังพูดว่าจะมอบอะไรสักอย่างให้กับเธอ แต่เธอยังไงก็คิดไม่ ออก
ชูเซี่ยใช้เวลาหนึ่งคืนถึงจะปรับให้ตัวเองยอมรับเรื่องข้ามภพได้ แต่ชาติที่แล้วเธอเป็นคนดี ไม่เคยทำเรื่องไม่ดี ชาตินี้ก็ไม่ยอมมีre
อาชญากรรมในการผลักผู้อื่นตกลงไปในทะเลสาบ แล้วความทรง จำของหลิวหยิงหลงบอกกับเธอชัดเจนว่า เธอไม่เคยผลักฉ่ายเว็น ลงไปในน้ำ ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นการใส่ร้ายหรือเข้าใจผิด เธอต้องไป ตรวจสอบความจริงให้ชัดเจน
ฉนั้น เช้ารุ่งขึ้น ซึ่งเป็นวันที่งานแต่งงานของหลิวมี่เหอ เธอให้ เสี่ยวจีแอบพาไปเยี่ยมฉ่ายเวินที่อยู่ในอาการโคม่า
แต่เพิ่งก้าวเข้าไปในเรือนยีลาน ก็มองเห็นหลี่เฉินเย่นเดินออก
มา
เธอรู้ดีว่าตอนนี้ม่ควรขัดแย้งกับหลี่เฉินเย่น อีกทั้งหลี่เฉินเย่น ยังเกลียดเธอเข้ากระดูกดำด้วย เขาก็ไม่อยากเจอหน้าเธอแน่ๆ ทั้งนี้ เธอจึงถอยหลังสองก้าว ซ่อนอยู่หลังต้นมะเดือ
“ออกมา”
เสียงของเขาเย็นราวกับน้ำแข็ง ราวกับดวงตาสีเหลืองอำพันที่
เย็นชาของเขา
คราวนี้เธอดูถูกหลี่เฉินเย่นไปแล้ว ตอนที่เธอเดินเข้ามา เขาก็เห็น เธอไปแล้ว และยังเห็นเธอแอบซ่อนเร้นหลังต้นไม้ เขาเลยคิดว่าเธอ น่าจะมีแผนลับอะไรอยู่ จะยอมให้เธอแอบซ่อนต่อได้ไง
ซูเซียเดินออกมา ยืนอยู่ตรงหน้าเขา แน่นอน เธอก็ไม่พูดคำที่ แก้ตัวว่าเธอไม่เคยทำร้ายฉ่ายเวิน เพราะว่าถ้าหลี่เฉินเย่นเชื่อคำ
พูดเหล่านี้ ผลของหลิวหยิงหลงจะไม่อนาถขนาดนี้
“ท่านอ่อง”เธอไหว้กับหลี่เฉินเย่น โดยทำตามมรรยาท
“ทีหลังอย่าให้ข้ารู้ว่าเจ้ามาเรือนยีลานอีก ไม่อย่างนั้นข้าจะตีขา สองข้างของเจ้าจนหัก”เขาพูดอย่างดุร้าย
หลี่เฉินเย่นสวมชุดนกอินทรีสีขาวปักด้วยผ้าไหมสีเงิน ตำแหน่ง ผ้าพันแขนหันขึ้นเล็กน้อย เย็บปักด้วยใบไผ่สีไซแอ็น เข็มขัด ทองคำรอบเอว ยืนอย่างภาคภูมิใจ แสงแดดยามเช้าข้ามใบไม้ ส่องมาบนใบหน้าของเขา เหมือนผงทองลงบนใบหน้า
ผู้ชายที่งดงามอย่างนี้ ไม่น่าแปลกใจเลยว่าพี่น้องทั้งสองถึงหลง รักเขาพร้อมกัน แต่เพียงทรรศนะที่เขามีต่อเธอ
ชูเซี่ยกัดฟันและพูดว่า “ข้าขอคุยกับท่านอ่องหน่อย”
หลี่เฉินเย่นมองดูผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า หน้าตาสุดสวย เสียดายที่ใจร้ายเกินไป เวลาหนึ่งปี เขาเบื่อกับการโวยวายและร้องไห้ของเธอแล้ว ทุกวัน มีแต่บอกความรักและการถูกใส่ร้ายกับเขา นอกจากนั้นไม่มีสิ่งอื่น
แต่
และวันนั้น มีเหอกับบ่าวต่างก็บอกว่าเห็นเธอผลักฉ่ายเวินลงไป
ในทะเลสาบ ถึงแม้บ่าวจะใส่ร้ายนาง แต่มีเหอเป็นน้องสาวแท้ๆ
ของนาง
จะไปใส่ร้ายนางได้ยังไง
ความเกลียดถึงจุดสูงสุด จึงไม่อยากคุยกับนางด้วย
ในกรณีที่ชูเชี่ยจะออกเสียงพูดกับเขา
เขาพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า”ข้าไม่มีอะไรจะคุยกับเจ้า”
พูดจบ เขาก็เดินไป
ชูเซี่ยรีบหันตัวมองเขา กลับแสงเย็นฉับพลันผ่านแสงแดดยาม เช้า เธอจึงรีบตะโกนว่า “ระวัง”
เพิ่งพูดจบ เงาสองคนก็ลงมาจากฟ้า ทั้งสองต่างจับดาบยาว แทงมาทางหลี่เฉินเย่น หลี่เฉินเย่นรีบตั้งตัวและหลบไปด้าน ข้าง ปลานดาบยาวแทงผ่านรอบเอวของเขาไป ช่างอันตรายมาก องครักษ์ที่อยู่ด้านหลังเข้าใช้เบาตัวแล้วเข้าไปต่อสู้กัน
ขณะนี้องครักษ์คนหนึ่งกลับยกดาบแทงไปทางด้านหลังหลี่ เฉินเย่น ด้วยใบหน้าบูดบึ้ง ซูเซี่ยไม่ทันคิดก็วิ่งไปกอดองครักษ์คน นั้นและกัดหลังเขา
องครักษ์คนนั้นยกมือขึ้นและแทงเข้าเอวของเธอ เธอเจ็บจน หายใจเกือบไม่ออก และตะโกนว่า “รีบหนีไป”
หลี่เฉินเย่นหันหลังกลับ มองด้วยใบหน้าแปลกๆ ส่วนองครักษ์
คนนั้นไม่มีกำกัดของชูเซี่ยแล้ว จึงรีบถือดาบแทงไปหาหลี่เฉินเย่ นอีก หลี่เฉินเย่นยิ้มอย่างเย็นชาและเบาตัวขึ้น ดาบยาวในมือ ของเขากระจายแสงเย็นเฉียบออกมา ได้ยินเสียง”ซิ่ว” ดาบแทง เข้าท้องขององครักษ์คนนั้นแล้ว
เลือดขององครักษ์คนนั้นสาดบนใบหน้าและเสื้อผ้าซูเซี่ย เสี่ยวจี๋ รีบวิ่งเข้าตัวเธอ ตะโกนด้วยเสียงสยองขวัญว่า“ท่านหญิง”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ