การโต้กลับของแพทย์เจ้าหญิงอัจฉริยะ

ตอนที่ 3 องค์หญิงม่าย (3)



ตอนที่ 3 องค์หญิงม่าย (3)

เชิงเทียนอขมวดคิ้วไม่พอใจ “ทรงกุ้ยเฟย ชิงเอ๋อร์เพิ่ง ฟื้น ต้องงดของคาว ขาสั่งให้ห้องเครื่องต้มข้าวต้มไว้แล้ว

“ฝ่าบาท” หลิวหรงมีท่าทีลนลาน นางเกรงว่าเฟิงเทียนอ จะพิโรธจึงรีบคุกเข่าลง “ขอฝ่าบาทอย่าทรงกริ้ว แต่…แต่ซิงเอ๋ อขาดเนื้อไม่ได้เพคะ ถ้าไม่มีรสชาติของเนื้อสัตว์เลย นางจะ อารมณ์เสีย ตอนนี้นางเพิ่งฟื้น หากโมโหเป็นฟืนแล้วสุขภาพ จะเป็นอย่างไรเพคะ ถึงตอนนั้นคนที่เสียใจไม่ใช่ฝ่าบาทกับ หม่อมฉันหรือเพคะ”

เฟิงอวี้เทียนมองดูเฟิงหรูชิงด้วยท่าทีกระอักกระอ่วนใจ “ชิงเอ๋อร์ เจ้าฟังพ่อนะ พอเจ้าหายดีแล้วเจ้าอยากกินอะไรพ่อ จะจัดให้เจ้าทุกอย่าง ตอนนี้ดูแลร่างกายให้ดีก่อนได้หรือไม่ ลูก”

เพิ่งหรูชิงหลับตาลงช้าๆ นิ่งเงียบไม่พูดไม่จา

ในสายตาคนอื่น นี่คืออาการไม่พอใจของเฟิงหรูชิงที่มีต่อ การกระทำของเฟิงเทียนอวี้ ดังนั้นจึงทำเป็นโกรธไม่ยอมพูดจา แต่ความจริงแล้ว เมื่อสักครู่นี้ นางนึกเรื่องทรงกุ้ยเฟยจากความทรงจําขึ้นมาได้

แม่ของเจ้าของร่างเดิมเป็นฮองเฮาของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน แต่ต้องจากโลกนี้ไปด้วยเหตุที่องค์หญิงนั้นคลอดยาก การที่ ฮองเฮาสิ้นพระชนม์มิได้ทำให้ฮ่องเต้เกลียดชังองค์หญิงแต่ อย่างใด ในทางกลับกันพระองค์อยากมอบสิ่งดีๆ ที่มีให้นาง ใจจะขาด

เพราะเจ้าของร่างไม่ได้รับความรักจากแม่ ฮ่องเต้จึง ตามใจนาง ทำใจไม่ได้ที่จะให้แม่นมคอยอบรมสั่งสอนอย่าง เข้มงวด ดังนั้นเจ้าของร่างจึงหาได้เกรงกลัวสิ่งใดไม่ ทั้งยัง แอบหนีออกไปเที่ยวนอกวัง จนเคยถูกตามสังหาร หากไม่มี ธิดาของทรงกุ้ยเฟยช่วยเอาไว้อย่างไม่คิดชีวิตละก็ เกรงว่า ป่านนี้นางคงอยู่แดนปรโลกแล้ว

แน่นอน เดิมทีทรงกุ้ยเฟยยังเป็นเพียงนางใน เพราะบุตร สาวของนางช่วยองค์หญิงเอาไว้ องค์หญิงจึงสนิทกับนางอีกทั้ง ทรงกุ้ยเฟยพูดเอาใจคนเก่งเอาใจองค์หญิงเสียจนนางเรียกห รงกุ้ยเฟยว่าเสด็จแม่นางจึงใช้องค์หญิงเป็นบันไดไต่ขึ้นไปยัง ตำแหน่งกุ้ยเฟยได้

จากนั้นจึงใช้คำหวานสารพัดพูดเอาใจองค์หญิงจนได้ ป้ายเลือดเหล็กที่แม่ของนางทิ้งไว้ให้มาเป็นของ ตน และป้าย เลือดเหล็กเป็นตัวแทนกองทัพที่แม่ขององค์หญิงฝึกขึ้นมาด้วย ความยากลำบาก ความน่าเกรงขามของมันทำให้ทหารของ แคว้นอื่นเพียงได้ยินชื่อก็ต้องกลัวจนตัวสั่น
ดังนั้น ผู้คนมากมายจึงคัดค้านการที่องค์หญิงจะยกป้าย ประกาศิตนี้ให้กับทรงกุ้ยเฟย แม้แต่ฮ่องเต้เองก็ยังห้ามนางไว้ แต่นางยืนกระต่ายขาเดียว เป็นเหตุให้เหล่าขุนนางภักดีที่ ติดตามรับใช้น่าหลานฮองเฮาในสมัยก่อนพลอยผิดหวังไป ตามๆ กัน

“ฝ่าบาท ดูสิเพคะ ซิงเอ๋อร์โกรธเอาแล้ว” ในดวงตาอัน งดงามของหลิวโรงแฝงความรู้สึกสงสาร “ดังนั้น หม่อมฉันจะ ให้ห้องเครื่อง…

“เสด็จพ่อ”

เพิ่งหรูซึ่งไม่ยอมให้หลิวทรงพูดต่อ นางพูดขัดแล้วเงย หน้าขึ้นมอง ตอนนั้น แววตาของนางดูราวกับฟากฟ้าที่มีดาว ในยามค่ำคืน ดวงดาวทอแสงระยิบระยับ งดงามจนฟ้าดินยังมี อาจเปรียบปานได้

นอกจากผิวที่ขาวแล้ว เพิ่งหรูชิงยังมีจุดเด่นอีกอย่างที่ได้ มาจากน่าหลานฮองเฮา นั่นคือดวงตาอันมีประกายคู่นี้

น่าเสียดาย เพิ่งหรูซึ่งเมื่อครั้งยังเยาว์ ตัวไม่ใหญ่ยักษ์ แบบนี้ ตอนนั้นนางตัวเล็กๆ ผิวขาวดูนุ่มนิ่ม เหมือนน่าหลาน ฮองเฮาเมื่อครั้งทรงพระเยาว์ราวกับถอดแบบกันมาอย่างไร อย่างนั้น ด้วยเหตุนี้ เชิงเทียนอวี้ซึ่งรักน่าหลานฮองเฮาจนสุด หัวใจ จึงส่งต่อความรักความทะนุถนอมนี้ไปยังเพิ่งหรูชิง

แต่ต่อให้เพิ่งหรูชิง ในตอนนี้จะมีเพียงดวงตาเท่านั้นที่ดู เหมือนน่าหลานฮองเฮา แต่ความรักความทะนุถนอมที่เพิ่งเทียนอวี้มีต่อนางก็ไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย

“ข้าอยากดื่มน้ำ อยากกินข้าวต้ม

เสียงของนางแหบแห้ง แต่ฟังดูเด็ดเดี่ยวอย่างน่า

ประหลาด

ชั่ววินาทีนั้น ห้องทั้งห้องก็เงียบสงบลง

ทุกคนล้วนมองดูเฟิงหรูชิงด้วยสายตาที่ผิดคาด

“ชิงเอ๋อร์ เจ้า…เจ้าพูดว่าอะไรนะเมื่อครู่” เชิงเทียนอ สับสนไปหมด แม้แต่เสียงของเขาก็สั่นอย่างเห็นได้ชัด

เมื่อครู่นี้ ชิงเอ๋อร์พูดว่า นางอยากกินข้าวต้มหรือ

“เสด็จพ่อ ตอนนี้ข้าอยากกินแต่ข้าวต้มเท่านั้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ