การโต้กลับของแพทย์เจ้าหญิงอัจฉริยะ

ตอนที่ 15 ต่อให้ต้องนอนกับเจ้าก็ไม่เห็นเป็นไร (3)



ตอนที่ 15 ต่อให้ต้องนอนกับเจ้าก็ไม่เห็นเป็นไร (3)

พวกองครักษ์และขันทีนั่งคุกเข่าเรียงแถวตัวสั่นอยู่ด้าน ล่าง ไม่มีใครกล้ามองดูเฟิงเทียนอวี่ที่กำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

“เลี้ยงเสียข้าวสุก พวกเจ้ามันพวกเลี้ยงเสียข้าวสุก ใคร ให้พวกเจ้าปล่อยซิงเอ๋อร์ไปเดินเล่นคนเดียว แถมยังปล่อยให้ นางเดินเข้าป่าไผ่ทิศใต้ไปอีก? รีบไปพาตัวซิงเอ๋อร์กลับมาให้ ข้า ถ้านางบุบสลายไปแม้ปลายเส้นขน ข้าจะเล่นงานพวกเจ้า ทุกคน!

เชิงเทียนอวี้โมโหหน้าดำหน้าแดง เขาหยิบแท่นฝนหมึก บนโต๊ะขว้างลงพื้นอย่างแรง เพราะความหงุดหงิดทำให้ เส้นเลือดในตาของเขาแดงก่ำ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความ เดือดดาล

ที่น่าโมโหไปกว่านั้นคือ เรื่องที่ชิงเอ๋อร์มาหาเขา คนพวก นี้กลับเพิ่งมาบอก ถ้าหากซิงเอ๋อร์เป็นอะไรไป…แคว้นหลิวอน นี้อย่าหวังเลยว่าจะอยู่กันอย่างสงบสุข

ในตอนที่เฟิงเทียนอวี้ร้อนใจจนอยากไปที่ป่าไผ่ทิศใต้ด้วยตนเอง จู่ๆ เสียงที่ฟังคุ้นหูก็ลอยมาจากประตู

“เสด็จพ่อ

เพียงนี้?”

มีใครมาทำให้กริ้วอีกหรือเพคะ

ถึงได้พิโรธ

เชิงเทียน รีบเงยหน้าขึ้น สายตาจ้องมองไปนอกห้อง ทรงพระอักษรโดยทันที

พอได้เห็นหญิงสาวอวบอ้วนที่ยืนอยู่หน้าห้องทรงพระ อักษร จิตใจที่กระวนกระวายของเขาก็สงบลงได้ในที่สุด

“ซิงเอ๋อร์ เมื่อกี้ข้าได้ยินว่าเจ้าไปป่าไผ่ทิศใต้มา กัวซื้อไม่ได้ทำอะไรเจ้าใช่หรือไม่”

เพิ่งหรูชิงอึ้งเล็กๆ “ถั่วซือคนนี้ เมื่อก่อนเคยทำอะไรหรือ เพคะ”

เสด็จพ่อเป็นห่วงความปลอดภัยนางขนาดนี้ หรือว่าถั่วซื้อ จะเป็นคนน่ากลัวอย่างที่ทรงกุ้ยเฟยว่าไว้จริงๆ

“ก็ไม่ได้ทำอะไรหรอก ถั่วซื้อไม่ชอบให้ใครเข้าไปในป่า ไผ่ทิศใต้นะ โดยเฉพาะผู้หญิง เมื่อก่อนหรูซวงน้องสาวของเจ้า อยากไปหากัวซื้อในป่าไผ่ทิศใต้ แต่กลับโดนงูเขียวที่เป็นสัตว์ เลี้ยงของถั่วซือฉุกเข้า แถมนางยังถูกคิ้วซื้อจับโยนออกมาจาก ป่าไผ่ทิศใต้ พ่อเลยเกรงว่าถั่วซือจะทำแบบนั้นกับเจ้า

ทันใดนั้นสีหน้าของเฟิงหรูซิงก็ถอดสี

เพิ่งหรูซวงเป็นลูกสาวของทรงกุ้ยเฟย และเป็นคนที่ช่วย เฟิงหรูชิงไว้จากเงื้อมมือคนชั่วสมัยเด็กๆ โดยไม่คิดชีวิต
นางจำได้ว่าหลายปีก่อน หรูช่วงเคยถูกงูกัดและได้รับพิษ ของมัน แต่นางไม่รู้หรอกว่าเป็นฝีมือสัตว์เลี้ยงของถั่วซื้อ เพราะเรื่องที่ไม่สำคัญแบบนี้ เสด็จพ่อคงไม่คิดที่จะเล่าให้นาง ฟังอยู่แล้ว

แต่ทรงกุ้ยเฟยทางหนึ่งกลับบอกนางถึงความน่ากลัวขอ งวซือ อีกทางหนึ่งกลับส่งเสริมกลายๆ ให้ลูกสาวใกล้ชิ ดกั่วซือ ทรงกุ้ยเฟยคิดอะไรคงมองออกได้ไม่ยาก

“โชคดี โชคดีที่เจ้าไม่เป็นอะไร” เชิงเทียนอวี้ดีใจ เขา รู้สึกโล่งใจ ไม่อย่างนั้น ต่อให้พ่อต้องเสียแคว้นหลิวอวนไป ก็ จะคิดบัญชีกับถั่วซือให้ได้

ความรู้สึกของเฟิงหรูชิงนั้นช่างสับสนปนเป

บางทีสำหรับแคว้นหลิวอวิ๋นแล้ว เชิงเทียนอวี้อาจไม่ใช่ กษัตริย์ที่ดีนัก

แต่สำหรับนางแล้ว พ่อคนนี้ดีที่สุดในโลก

“เสด็จพ่อ ความจริงกั่วซื้อก็ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นเพคะ” ในหัวของเฟิงหรูชิงมีภาพของชายที่งามราวเทพบุตรผุดขึ้นมา นางยิ้มน้อยๆ “อาจเป็นไปได้ว่าหรูซวงไปทำอะไรให้กัวซื้อ โมโหเข้าเพคะ”

ต่อให้กั่วซือโหดเหี้ยมแค่ไหน ก็คงไม่ปล่อยไปกัดเพียง เพราะคนคนนั้นเดินเข้ามาในเขตของเขา อย่างมากคงแค่ไม่ นางออกไป ต้องเป็นเพราะเพิ่งหรูซวงเห็นความสง่างามของกัวซอ เลยมีใจคิดไม่ซื่อ ยั่วโมโห วซื้อเข้า

นับประสาอะไรกับ วซือที่เป็นคนเยือกเย็นและดูเป็นผู้ดี แบบนั้น คงไม่มีทาง โมโหได้ง่ายๆ หรอก

“ถั่วซื้อไม่ทำอะไรเจ้าก็ดีแล้ว

เฟิงเทียนอวยิ้มไปพลางเอามือลูบหัวของเฟิงหรูชิงไป

พลาง

เพิ่งหรูซวงไปก่อเรื่องอะไรในป่าไผ่ทิศใต้ เขารู้ดี แล้วรู้ว่า นางไปทำอะไรให้กั่วซื้อโมโห แต่สำหรับลูกสาวคนโตของเขา แม้เขาจะมองว่าดีเลิศกว่าใครๆ ทว่าความสามารถในการก่อ เรื่องก็ไม่ด้อยกว่าคนอื่น จึงทำให้เขารู้สึกกังวลแบบนี้

การกระทำของเฟิงหรูซวงตอนนั้น เดิมทีเชิงเทียนอวี้ตั้งใจ จะบอกซิงเอ๋อร์ให้รู้ แต่น่าเสียดายที่ซิงเอ๋อร์ปกป้องทรงกุ้ยเฟ ยกับเฟิงหรูซวงมากเกินไป ถ้าเขากล้าพูดว่าสองแม่ลูกนั่นไม่ดี แม้เพียงประโยคเดียว ลูกสาวคนนี้ต้องเล่นสงครามประสาท กับเขาเป็นแน่


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ