การโต้กลับของแพทย์เจ้าหญิงอัจฉริยะ

ตอนที่ 2 องค์หญิงม่าย (2)



ตอนที่ 2 องค์หญิงม่าย (2)

องค์หญิงที่ยกหัวใจให้หลิ่วเฉินไปทั้งดวง มิอาจยอมรับ ความอับอายจากการถูกหย่าได้ จึงรีบเอาหัวพุ่งชนกำแพง จบ ชีวิตลงตรงนั้น

เฟิงหรูชิงเอ๋ยเฟิงหรูชิง เจ้าช่างโง่เสียจริง เพิ่งหรูชิงใคร่ครวญภาพที่อยู่ในความทรงจำ นางถอน

หายใจเบาๆ

ในเมื่อเขาไม่รักเจ้า เหตุใดเจ้าต้องไปแยกคู่รักออกจาก กันด้วย มิน่าล่ะเจ้าถึงต้องรับผลกรรมแบบนี้

สิ่งที่เฟิงหรูชิงเกลียดที่สุดคือพวก ใช้อำนาจข่มเหงผู้อื่น

แยกคนรักออกจากกัน แต่ใครจะรู้เล่าว่าวันหนึ่งหล่อนต้อง

กลายเป็นคนแบบนี้เสียเอง

สำหรับองค์หญิงผู้นี้…ไม่รู้ด้วยความบังเอิญหรือเปล่าที่ นางมีชื่อว่าเพิ่งหรูชิงเหมือนกัน ก็ดีที่ไม่ต้องเปลี่ยนชื่อให้ยุ่ง ยากวุ่นวาย

ก็แค่ไม่รู้ว่าร่างของเฟิงหรูชิงที่อยู่ที่หัวเซียนั้นเป็นอย่างไร

บ้าง

ในเมื่อวิญญาณมาอยู่ที่ทวีปชางเยว่ นั่นหมายความว่า เฟิงหรูชิงที่อยู่ในหัวเซี่ยคงตายไปแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าน้อง ชายจะรับเรื่องราวนี้ได้หรือไม่
วาจา

นัยน์ตาดูหม่นไปเล็กน้อย เพิ่งหรูชิงเม้มปากไม่เอื้อนเอ่ย

ที่หัวเชีย น้องชายเป็นญาติเพียงคนเดียวของเฟิงหรูชิง ตอนนั้น หลังจากนางถูกแม่บุญธรรมวางยาพิษจนกลายเป็นใบ้ น้องชายได้พานางออกจากบ้านหลังนั้นไปโดยไม่สนสิ่งใด ทั้ง ยังทำงานหาเงินอย่างสุดชีวิตเพื่อให้นางมีชีวิตที่สุขสบาย

ภายหลังน้องชายทำได้สำเร็จ แต่สุขภาพของนางกลับแย่ ลงทุกวัน จึงทำได้เพียงส่งตัวไปรักษาที่สถานฟื้นฟูผู้ป่วย ใคร เลยจะรู้ว่าสุดท้ายนางจะทนต่อไปไม่ไหว…

หลายปีที่ผ่านมา ข้ามีชีวิตที่แสนรันทด สวรรค์คงทนดูต่อ ไปไม่ได้แล้ว จึงประทานชีวิตใหม่มาให้ข้า เพียงแต่ข้ายังไม่รู้ ว่าองค์หญิงคนนี้หน้าตาเป็นอย่างไรกันแน่

ผู้คนต่างว่าไว้ คนที่มีชีวิตอยู่อย่างบัดซบก็ยังมีหวังกว่า คนที่ตายไปแล้ว การทะลุมิติมาก็ยังดีกว่ากลายเป็นวิญญาณ เร่ร่อน

โชคดีที่ในห้องมีคันฉ่องทองแดง นางเอื้อมมือหยิบมา แต่เมื่อแลเห็นเงาของคนที่อยู่ในคันฉ่อง เพิ่งหรู-ชิงตกใจมือ สั่น คันฉ่องร่วงหล่นลงบนตัวของนาง ใครพอบอกนางได้บ้าง ว่า เงาคนอ้วนที่อยู่ในคันฉ่องคือใครกัน เรือนร่างแสนงดงาม แต่ก่อนของนางหายไปไหนแล้ว

เฟิงหรูชิงอยากร้องไห้แต่ก็ร้องไม่ออก ในที่สุดนางก็ เข้าใจว่าเหตุใดหลิ่วเฉินถึงรังเกียจองค์หญิงเช่นนี้องค์หญิงผู้นี้ ไม่เพียงเป็นคนมุทะลุไร้เหตุผล ชื่อเสียงฟอนเฟะ ซ้ำร้ายยัง อ้วนเหมือนหมูตอน ข้อดีเพียงข้อเดียวของนางคือ ผิวขาว ราวกับเปล่งประกายออกมาเป็นแสงสว่างได้ น่าเสียดายที่แม้ ความขาวจะเอาชนะข้อด้อยได้มากมาย แต่ความอ้วนกลับ ทำลายทุกสิ่ง! รูปร่างแบบนี้ ต่อให้นางผิวขาวแค่ไหนก็เอาชนะ ความน่าเกลียดไม่ได้

“ซิงเอ๋อร์” ในระหว่างที่สมองของเฟิงหรูซึ่งกำลังคิดหาวิธี ลดความอ้วนอยู่นั้น เสียงแห่งความดีใจก็ดังเข้ามาจากด้าน นอกประตู นางหันหน้าไปดูเห็นเป็นชายผู้หนึ่งในชุดมังกรสี เหลือง ก้าวเท้าเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว ชายผู้นั้นรูปงามสง่า ใบหน้าคม คิ้วยาวเข้ม แววตาทั้งสองอ่อนโยนดุจสายน้ำ ราวกับแสงตะวันอันอบอุ่นที่สาดส่องเข้าไปในหัวใจของเฟิงหรู ชิงในทันควัน

“ชิงเอ๋อร์ เจ้าไม่เป็นไร ดีจริงๆ ที่เจ้าไม่เป็นไร ถ้าเกิด อะไรขึ้นกับเจ้าจริงๆ ข้าจะมีหน้าไปพบแม่เจ้าที่ลาโลกนี้ไป แล้วได้อย่างไร”

ชายชุดมังกรกุมมือเพิ่งหรูชิงไว้แน่น เสียงของเขาสั่นเครือ เพิ่งหรูชิงหันหน้าไปมองดูชายชุดมังกรตาไม่กะพริบ ชายคนนี้คือเฟิงเทียนอวี้ ฮ่องเต้ผู้ให้กำเนิดกายนั้น

หรือ

ถ้าไม่มีองค์หญิง ชายผู้นี้ก็นับว่าเป็นกษัตริย์ผู้ปรีชา แต่ เขากลับรักและตามใจองค์หญิงจนไม่มีเขตไม่มีแดน ไม่แยกแยะถูกผิด

“ฝ่าบาท หม่อมฉันเคยทูลแล้วเพคะ ว่าชิงเอ๋อร์ต้องไม่ เป็นอะไร”

เสียงที่นุ่มนวลน่าฟังดังลอยมาจากข้างๆ เมื่อได้ยินเสียงนี้ เพิ่งหรูชิงจึงสังเกตเห็นหญิงผู้หนึ่งซึ่งอยู่

ข้างกายของเฟิงเทียนอ

หญิงผู้นั้นสวมกระโปรงผ้าแพรโปร่งสีม่วงอ่อน ผมกลัดไว้ ด้วยปืนหยก รูปพรรณสัณฐานดูงามสง่า หน้าตายิ้มแย้ม “ชิง เอ๋อร์ ต่อไปเจ้าห้ามทำตัวหุนหันพลันแล่นเช่นนี้อีกนะ แม่ รู้ว่า เจ้าฟื้นก็เลยสั่งคนไปทำขาหมูที่เจ้าชอบเตรียมไว้ อีกเดี๋ยวให้ เขายกเข้ามา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ