กระบี่อัคคีล้างปฐพี

หมั่นโถวแห่งความหวัง



หมั่นโถวแห่งความหวัง

ณ เมืองเปียเจี้ยน

ยามนี้เป็นยามค่ำคืนของเมืองเปียเจี้ยน ผู้คนต่างทยอยแยก ย้ายเข้าบ้านเรือนของตน พ่อค้าแม่ค้าต่างเก็บร้านรวงต่างๆ แล้วเข้าบ้านไปนับเงินที่กอบโกยมาจากลูกค้าในวันนี้ บนถนน สายนี้มีแต่ความมืดมิด ช่วงเวลานั้นเป็นฤดูหนาว ยิ่งตอกย้ำ ความโดดเดี่ยวของหัวใจ สายลมพัดไปพัดมา ทันใดนั้นก็ปราก ละอองสีขาวร่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้า นั่นไม่ใช่ละออง…..มัน คือหิมะ

ทั่วเมืองเป่ยเจี้ยนถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลน แต่ทว่า แสงไฟกลับมืดมิด ดั่งมีดวงตาปีศาจคู่หนึ่งกำลังจ้องมองมาที่ เมืองเป่ยเจี้ยน ทุกผู้คนต่างนอนหลับกันอย่างเป็นสุข แต่กลับมี เด็กน้อยสองคนที่กำลังทนทุกข์กับความหนาวเหน็บ

ณ ตรอก เงินจี้

ตรอกเงินจี้ เป็นตรอกที่เล็กๆตรอกหนึ่ง ที่อยู่ติดกับหอนาง โลมเซียงฉุย ภายในตรอกมีเงาร่างสองสายกำลังนั่งพิงกำแพง หอบหายใจด้วยความเหนื่อยล้า นั่นก็คือ หวงเฉินฟงกับหลิว ออิงนั่นเอง

“ม่ออิง เจ้าไม่เป็นไรนะ” หวงเฉินฟงเอ่ยปากที่พวยพุ่งมา พร้อมกับไอความหนาว
“อาการแค่นี้ ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก ข้าพักสักครู่ก็ดีขึ้นแล้ว แค่กๆๆ” หลิวม่ออิงยังยิ้มสู้

หวงเฉินฟงเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ พลันเหม่อลอยไปชั่วขณะ พร้อมกับประกายหยาดน้ำตา

“เฉินฟง”

“เฉินฟง” หลิวม่ออิงพลันโบกมือผ่านสายตาของหวงเฉินฟง

“หา เจ้ามีอะไร”

“เจ้ากำลังคิดถึงพ่อถัง ใช่หรือไม่

“ใช่แล้ว นอกจากท่านพ่อกับท่านแม่ ก็มีพ่อถังที่ดูแลข้า” หวงเฉินฟงพูดเสียงสั่น

“ข้าเข้าใจความรู้สึกเจ้า ท่านพ่อท่านแม่ กับคนในบ้านข้า

โดนพวกเดรัจฉานมันฆ่าตาย” หลิวม่ออิงกำหมัด

“พวกเราต้องแก้แค้น” หวงเฉินฟงกัดฟันพูด

“นั่นแน่นอน ลูกผู้ชายแก้แค้นสิบปียังไม่สาย แต่ว่าตอนนี้ข้า ทั้งหนาวทั้งหิวเลยล่ะ” หลิวม่ออิงพูดพลางตัวสั่นสะท้านด้วย ความหนาวของหิมะ

“หรือพวกเราจะต้องหนาวและอดตายที่เมืองแห่งนี้” หวง เฉินฟงทอดถอนใจด้วยความสิ้นหวัง

“เจ้าอย่าท้อใจ พอถังบอกให้พวกเรามีชีวิตอยู่ต่อไป พวกเรา ก็ต้องอยู่ต่อไป”
หลิวม่อถึงพลันนึกความคิดอะไรบางอย่างออก จึงหันไปพูด กับหวงเฉินฟง

“เฉินฟง เจ้ารอข้าอยู่ที่นี่นะ เดี๋ยวข้ามา

“แล้วเจ้าจะไปไหน”

“ไปหาของกินมาให้เจ้าไง เดี๋ยวเราก็อดตายกันพอดี” หลิวม ออิงพูดพลางลุกขึ้นยืน

“แล้วเจ้าจะไปหาจากไหน

“หลังร้านโรงเตี้ยมแถวนี้ไง ข้าว่ามันต้องมีเศษอาหารเหลือที่ ทิ้งไว้บ้างแหละ ถึงจะไม่ค่อยสะอาดแต่ว่า เราก็ไม่มีทางเลือก แล้วล่ะ”

หลิวม่ออิงพูดพลางวิ่งหายลับไปกับกระแสหิมะอันหนาวเหน็บ “ม่ออิง เจ้าระวังตัวนะ!!!” แว่วเสียงหวงเฉินฟังแว่วมาตาม

สายลมด้านหลัง

ผ่านไป1ชั่วยาม

หวงเฉินฟงด้วยความอ่อนเพลียจึงเผลอหลับไป หวงเฉินฟง นอนขดอย่างกับลูกสุนัขตัวหนึ่งเนื่องจากห่าหิมะ บนร่างกา ยมีแต่ชุดหยาบๆของชาวบ้านที่ขาด

กะรุ่งกะดิ่ง ชุดแค่นี้ไหนเลยจะทานความหนาวเย็นของฤดูอันโหดร้ายเช่นนี้ได้

ต่อก แต่ก
ทันใดนั้นหูของหวงเฉินฟงก็ได้ยินเสียงฝีเท้าอย่างแผ่วเบา กำลังเดินเข้ามาหาตนเองอย่างช้าๆ หวงเฉินฟงจึงสลึมสรีอ ลืมตาขึ้น พร้อมกับถาม

“ม่ออิง ทำไมเจ้าไปนานจัง ข้าจะทนไม่ไหวแล้ว”

“ม่ออิง เจ้า…” หวงเฉินฟงพึ่งลืมตาได้เต็มที่ แต่ก็ต้องชะงัก ค้าง เพราะผู้ที่อยู่เบื้องหน้ากลับไม่ใช่หลิวม่ออิง

นั่นกลับเป็นดรุณีน้อยนางหนึ่ง

ดรุณีน้อยนางนี้อายุรุ่นราวคราวเดียวกับหวงเฉินฟง นางมี ใบหน้ากลมเรียว สวมอาภรณ์สีขาวบริสุทธิ์ แต่ใบหน้าเย็นชา ปานน้ำแข็ง เหนือสิ่งอื่นใด บนใบหน้าที่เย็นชานั้น กลับปรากฏ ดวงตาสุกใสราวน้ำค้างคู่หนึ่ง นั่นมิใช่ดวงตาของผู้ที่อยู่ในรถ มาวันนี้เหรอ…. หวงเฉินฟงตกตะลึงชั่วขณะ

“เจ้า…เจ้าเป็นใคร ต้องการอะไร” หวงเฉินฟงพูดด้วยหวาด กลัวกับท่าที่เย็นชาของดรุณีนางนี้

“หรือ เจ้ามิใช่ต้องการของกิน” ดรุณีน้อยนางนั้นเอ่ยปาก

ค่าแรก

หวงเฉินฟงต้องตกตะลึงอีกครา เสียงที่ออกจากปากดรุณีนาง นี้ เป็นเสียบราบเรียบแต่กลับแฝงไปด้วยความนุ่มนวล จากนั้น หวงเฉินฟงพลันมองไปในมือของดรุณีนางนั้น

ในมือที่ขาวผ่องของดรุณีนางนั้นกลับถือถุงหมั่นโถวตอนนั้น”เจ้า…เจ้าจะให้ไอนกับข้าเหรอ”

“ตอนนี้ข้าเหลือหมั่นโถวอยู่ลูกเดียว เจ้ารับไป” ดรุณีน้อยยัง

พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบพร้อมกับยื่นถุงหมั่นโถวให้ “ขอบ…ขอบคุณ แม่นาง” หวงเฉินฟงยื่นมือที่สั่นงันงกรับถุง

หมั่นโถวจากมือดรุณีนางนั้นไว้

ชั่วเวลานั้น ในสมองของหวงเฉินฟงเหมือนโดนมนต์สะกด ภาพความหลังอันโหดร้ายที่ได้เผชิญมา กลับถูกกลบไปด้วย ภาพใบหน้าของดรุณีน้อยนางนั้น

ทั้งคู่สบตากันชั่วครู่หนึ่ง……

จากนั้นดรุณีน้อยนางนั้นจึงหันหลังและเดินกลับไปอย่างแผ่ว

เบา

“เดี๋ยวก่อนแม่นาง เจ้า…เจ้าชื่ออะไร” หวงเฉินฟงรีบตะโกน

ถาม

ดรุณีน้อยนางนั้นหยุดเดินและเหลือบตามาทางด้านหลังแวบ

หนึ่ง

“หากมีวาสนา คงได้พบกันใหม่” พร้อมกับเดินฝ่าห่าหิมะหาย ไปกับสายลม….

ปล่อยให้หวงเฉินฟง นั่งพิงกำแพง ถือถุงหมั่นโถว อ้าปาก ตาค้างอยู่ ณ ที่นั้น
ครึ่งชั่วยามผ่านไป

“เฉินฟง ข้าได้มาแล้วๆ”

เมื่อหลิวม่ออิงวิ่งมาที่ซึ่งหวงเฉินฟงนั่งอยู่ กลับทำทางงงัน เพราะเห็นถุงหมั่นโถวใบหนึ่ง ในมือของหวงเงินฟง…….หมั่นโถ วแห่งความหวัง……..


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ