มรสุมหมู่บ้านเฟิงมู่
หลายร้อยปีผ่านไป
ณ หมู่บ้านเฟิงมู่
หมู่บ้านเพิ่งเป็นหมู่บ้านชนบทชานเมือง ผู้คนที่นี่มีความ เรียบง่ายและเป็นมิตร หมู่บ้านนี้มีคนอาศัยอยู่ประมาณ 30 ครัว เรือน
“ท่านพ่อ ท่านแม่ ขากลับมาแล้ว ” เสียงสดใสที่กังวานดังขึ้น ในบ้านหลังคามุงด้วยจากหลังหนึ่ง
เจ้าของเสียงนั้นเป็นเด็กชายหน้าตาสดใส อายุระหว่าง 8-10
“ฟงเอ๋อ เจ้ามาก็ดีแล้ว เดี๋ยวมาช่วยพี่เจ้า ไปหาพื้นที่หลังเขาหน่อย” หญิงกลางคนเอ่ยปากปี
“ฮะ อีกแล้วเหรอ ท่านพ่อ ท่านช่วยพูดให้ข้าที่สิ ข้าไม่อยาก ไปหาฟิน”
“วันๆเจ้าเอาแต่เที่ยวเล่น ไปช่วยพี่เจ้าเถอะไม่ต้องพูดแล้ว” ชายกลางคนหน้าตาเป็นประกาย ได้เอ่ยบ้าง
ทันใดนั้นได้ยินเสียงฝีเท้าจากในบ้าน เดินออกมาที่ห้องรับแขก
“ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้าไปละนะ” ผู้ที่พูดเป็นเด็กหนุ่มอายุประมาณ 18-19 ปี หน้าตาหล่อเหลา แววตามีประกาย แต่ใส่ชุด เสื้อผ้าเนื้อหยาบ
“ถังเอ๋อ เจ้าพาน้องเจ้าไปหาฟันด้วย”
“เอวถัง ข้าพึ่งไปวิ่งเล่นกับม่ออิงมา ขาข้าแทบจะก้าวไม่ออก แล้ว”
“ฟงเอ๋อ เจ้าตามมา พี่จะพาเจ้าไปหาอะไรสนุกๆ
หวงอถังพูดจบพร้อมยิ้มอย่างเอ็นดู
“เห้อ ข้าคงไม่มีทางปฏิเสธได้แล้วสินะ”
พร้อมกันนั้นหวงอวถังได้จูงมือพาหวงเฉินฟงเดินออกจากบ้าน ออกไป
“กลับมาเร็วๆนะลูก จะได้กลับมากินข้าวเย็นกัน” เสียงสามี
ภรรยาประสานเสียงกันดังแว่วมาตามสายลม
เวลาชั่วน้ำเดือด หวงอวี้ถังก็พาหวงเฉินฟงไปถึงด้านหลังเขา แล้วช่วยกันหาฟัน จากนั้นก็พาหวงเฉินฟงมานั่งตกปลาที่ริมน้ำ
“นี่อ่ะนะที่พี่บอกว่า อะไรสนุกๆ
“การตกปลาถือเป็นการฝึกจิตใจอย่างหนึ่ง เจ้าจ๋าไว้” หวงอวี้ ถังพูดพร้อมยิ้มให้กับน้องชาย
“จิตใจบ้าอะไร ข้าไม่เห็นชอบเลย”
ทันใดที่พุ่มไม้ข้างหลังทั้งสองคนมีเงาคนเคลื่อนไหว
“ใคร” หวงอวี้ถังตวาดพร้อมกับเล็งมีดสั้นที่พกติดตัวไว้ พร้อมปาออก
“ข้า…ข้าเอง”
“ม่ออิง” หวงเฉินฟงร้องด้วยน้ำเสียงดีใจ
เด็กหนุ่มอายุประมาณ 8-10 ปี หน้าตาสดใส เดินออกจากพุ่ม
“เอวถัง ท่านลดมืดของท่านลงก่อนได้ไหม ข้าตกใจแทบแย่”
ไม้
“หึ ใครใช้ให้เจ้าไปทำลับๆล่อๆ ในพุ่มไม้กัน
“ข้าแค่เห็นท่านกับเฉินฟงเดินไปหลังหุบเขา ข้าอยากรู้ว่าพวก ท่านไปทำอะไรกัน จึงสะกดรอยตามมา
“ม่ออิง วันนี้ข้าไม่เล่นละนะ ข้าเหนื่อย” หวงเฉินฟงเอ่ย
“ตามใจเจ้าสิ”
“นี่ก็เย็นมากและม่ออิงไหนๆเจ้าก็มาแล้ว ไปช่วยฟงเอ๋อแบก
ฟืนหน่อยละกัน”
“ครับ พี่อวี้ถัง”
หลังจากนั้นทั้งสามคนต่างช่วยกันแบกปืนลงมาถึงหน้า หมู่บ้าน แต่สิ่งที่เบื้องหน้าหมู่บ้านกลับปรากฏร่องรอยของควัน จากไฟไหม้
เมื่อทั้งสามเดินเข้าไปใจกลางหมู่บ้านกลับพบศพผู้คนนอน ตายกันเกลื่อนกลาด แต่ที่น่าแปลกคือ พบแต่ศพ คนในวัยกลางคน กับวัยชรา แล้วก็ศพของหญิงสาว แต่กลับไม่มีศพของเด็ก หนุ่มทั้งหลายในหมู่บ้านอยู่เลย
“นี่… นี่มันเรื่องอะไรกัน” หลิวม่ออิงเอ่ยปากเป็นคนแรก
“แย่แล้ว พอถึงท่านพ่อท่านแม่
“ไป”
สองพี่น้องมุ่งหน้าไปบ้านของตัวเอง ส่วนหลิวม่ออิงก็วิ่งไปที่ บ้านของตอนเพื่อหาครอบครัวของตน
เบื้องหน้าของพี่น้องแซ่หวงคือสภาพบ้านที่ถูกเผาจนเกรียม ข้างนอกบ้านพบศพสองสามีภรรยา นอนอยู่ พร้อมลืมตาถมึง บ่ง บอกว่าตายอย่างคับแค้นใจ
“ท่านพ่อ ท่านแม่” หวงเฉินฟงร้องไห้วิ่งเข้าไปกอดซากศพ ของพ่อแม่ตน
“ท่าน…ท่านพ่อ ท่าน…ท่านแม่” หวงอถังพูดพิมพร พร้อม กับน้ำตาเริ่มไหลอาบลงบนใบหน้า
“เอวถัง ช่วยท่านพ่อท่านแม่พวกเราเร็วๆ “ฟงเอ๋อ เจ้าตื่นเถอะ ท่านพ่อท่านแม่เราจากไปแล้ว”
“ไม่ ไม่ ม่ายยย” หวงเฉินฟงร้องไห้ทั้งน้ำตา
“ฟงเอ๋อ ที่นี่เกรงว่าจะมีคนร้ายพวกเราจะอยู่นานไม่ได้ รีบไป กันเถอะ”
หวงอวถังฉุดลากน้องชายอยู่นานกว่าจะยอมปล่อยมือจากพ่อแม่ของพวกเขา แล้วทั้งคู่ก็เดินไปยังใจกลางหมู่บ้านอีกครั้ง
ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้าจะต้องล้างแค้นให้พวกท่านให้ได้) หวงอ ถังพูดในใจ พร้อมกันนั้นสายฝนก็ตกลงมาอาบแกล้มของเขา ทำให้แยกไม่ออกว่า
บนใบหน้าของเขาที่แท้เป็น สายฝนหรือน้ำตากันแน่…
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ