กระบี่อัคคีล้างปฐพี

ปะทะชายร่างอ้วน



ปะทะชายร่างอ้วน

ซึ่งขอทานน้อยทั้งสองคนก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คือหวงเฉินฟงกับ หลิวม่ออิงนั่นเอง เนื่องจากในเวลานี้ทั้งสองคนตรากตรำเดิน ทางมานานหลายวัน รวม

ทั้งไม่มีเงินติดตัวแม้แต่ตำลึงเดียว เสื้อผ้าจึงได้เก่าขาด รวม ถึงผมเผ้าหน้าตาที่สกปรกมอมแมม จนใครๆที่เดินผ่านไปผ่าน มาก็คิดว่าเป็นขอทาน

เวลานี้นับจากวันที่หนีออกจากหมู่บ้านเพิ่งมาถึงเมืองเบีย เจี้ยน ก็เป็นเวลาสามวันแล้ว ทั้งสองคนยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง เลย ลองขโมยของกินก็ลอง

มาแล้วแต่ล้มเหลวทุกครั้ง แล้วครั้งนี้ล่ะ….

“เฉินฟง เจ้ากับข้าคิดเหมือนกันใช่ไหม”

“เจ้าอ้วนหมูตอนนี้ เราคงจะแย่งหมั่นโถวมาได้ง่ายกว่าครั้ง ก่อนล่ะมั้ง”

“แล้วเจ้ายังจะรออะไรอีกล่ะ ไป”

ว่าแล้วทั้งคู่ก็ลุกออกจากมุมตึก เดินออกมาถึงหน้ารถม้า ชาย วัยกลางคนรูปร่างอ้วนท้วมเห็นดังนั้นจึงขวางพวกเขาที่หน้ารถม้า

“หยุดเลยเจ้าหนู เจ้าคิดจะทำอะไร” ชายร่างอ้วนตวาดใส่
“นายท่าน ข้าหัวเหลือเกิน เมื่อครู่ข้าเห็นท่านซื้อหมั่นโถวมา ตั้งหลายลูก แบ่งให้พวกข้าคนละลูกจะเป็นไรไป” หวงเฉินฟงทำ หน้าตาน่าสงสาร

“ใช่ๆ นายท่าน ถือซะว่าทำบุญทำทานเถอะนะ พวกเราสามวัน แล้วยังไม่ได้กินอะไรเลย” หลิวม่ออิงสมทบ

“ที่แท้ก็พวกขอทานสกปรก หลีกไป!! เสียเวลาของข้า” ชาย

วัยกลางคนรูปร่างอ้วนท้วมไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง

“ไม่หลีกใช่ไหม ถุย ถุย” ชายร่างอ้วนกับถ่มน้ำลายใส่หวง เฉินฟงกับหลิวม่ออิง

“นี่เจ้า มันจะมากเกินไปละนะ” หลิว อองตวาด

หวงเฉินฟงขณะนั้นก็กำลังยื่นแขนเสื้อปัดเช็ดสเลดน้ำลายอยู่ พร้อมก้มหน้าเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

“พวกเจ้าน สงสัยถ้าข้าไม่ใช้กำลัง ก็คงไม่ยอมไปสินะ” ชาย

ร่างอ้วนกำลังบิดข้อมือด้วยความโมโห

เสียงหมัดดังสนั่น ที่แท้หวงเฉินฟง ฉวยโอกาสที่ชายร่างอ้วน ไม่ทันตั้งตัว พุ่งเข้าไปต่อยที่ท้องของชายร่างอ้วน หวงเฉินฟงยิ้ม อย่างมีความสุขในใจ

{โดนแล้ว เราทำได้}

แต่คาดไม่ถึงว่าพลังหมัดที่ต่อยออกไปอย่างรวดเร็วนั้นกับถูกท้องอันใหญ่ยักษ์ของชายร่างอ้วนบีบหมัดนั้นเข้าไปคล้ายหลุม ดำ หวงเฉินฟงเริ่มหน้าเสีย

(นี่มันอะไรกันเนี่ย ทำไมกัน) ชั่วพริบตาเดียวความคิดต่างๆ

ของหวงเฉินฟงแล่นเข้ามาในหัว

โครม

พริบตาที่เร็วกว่าสายฟ้า หวงเฉินฟงลอยกระเด็นออกไป ราวกับว่าวตัวนึงก็ไม่ปาน เมื่อตกถึงพื้นก็กระอักเลือดออกมา

“หึ เจ้าหนู เจ้าคิดว่าฝีมือแค่นั้นจะมาอาศัยที่เผลอกับข้าอย่าง

งั้นเหรอ” ชายร่างอ้วนยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียม

เวลานั้นไม่ว่าใครก็ไม่ทันสังเกตความเคลื่อนไหวในรถม้าคัน นั้น เมื่อหน้าต่างรถม้าถูกแหวกออกมาด้วยมือที่ขาวเนียนข้าง หนึ่ง ภายในหน้าต่างมีดวงตาสุกใสราวกับน้ำค้างคู่หนึ่งกำลัง จับจ้องมองมาที่ขอทานน้อยทั้งสองคน

“ไอแก่อ้วน เจ้ากล้าทำร้ายเพื่อนข้า” หลิวม่อองตวาดใส่

พร้อมจ้างหมัดพุ่งเข้าใส่

“เข้ามา วันนี้บิดาจะสั่งสอนเด็กไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินเช่นเจ้า ซักหน่อย” ชายร่างอ้วนก็กำลังเกร็งข้อมือ

ร่างสองสายพุ่งผ่านกันอย่างรวดเร็ว แต่กลับมีคนนึงที่ล้มตัว

ลงนอนกับพื้น

“เยว่เอ๋อ พวกเราไปกันเถอะ คืนนี้พวกเรายังต้องหาที่พักแถ วนี้ หากชักช้าคงได้นอนข้างถนนแน่” ชายกลางคนร่างอ้วนพูดพร้อมแสยะยิ้ม ก้าวขาเดินขึ้นรถม้าไปอย่างภาคภูมิ ราวกับว่า เจอกระสอบทรายชั้นดีมาให้ระบายมือระบายตีน

ส่วนคนที่ล้มนอนกับพื้นก็คือหลิวม่ออิงนั่นเอง หวงเฉินฟงรีบ ประคองร่างของตัวเองคลานเข้ามาหาหลิวม่อองพร้อมประคอง เขาขึ้นมา

เวลานั้นรถมาคันนั้นก็กำลังเคลื่อนผ่านหน้าพวกเขาไป หลว ออิงได้รับบาดเจ็บจนสลบไป ส่วนหวงเฉินฟงน้ำตาคลอเบ้ามอง เข้าไปในรถม้า ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรืออย่างไร เพราะว่า ดวงตาสุกใสราวน้ำค้างคู่นั้นก็กำลังจ้องมองมายังหวงเฉินฟง ชั่ว เวลาที่สบตากันนั้นเหมือนเวลาทั้งโลกหยุดไปชั่วระยะหนึ่ง โลก

ทั้งใบหยุดหมุน

ตึก ตึก ตึก

รถม้าแล่นผ่านพวกเขาไปไกลแล้ว ทิ้งให้เด็กหนุ่มผู้เดียวดาย สองคน อ้างว้างอยู่บนถนนที่ปราดเปลี่ยวสายนี้…


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ