กระบี่อัคคีล้างปฐพี

จําต้องพรากจาก



จําต้องพรากจาก

ตำหนักใหญ่ สำนักนภาสวรรค์

หลังจากสิ้นเสียงเรียกของหยางเกาเซิง หวงเฉินฟงค่อยสะดุ้ง รู้สึกตัว ในใจของหวงเฉินฟงบังเกิดเป็นรสชาติที่ยากจะบรรยาย เนื่องด้วยเขามีความ

เชื่อมั่นว่า หากได้มาถึงสำนักนภาสวรรค์แล้ว เขาและหลิวม่ ออิงคงจะได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของจูเกอะซิ่งเหยียนที่เรียกได้ว่า เป็นผู้มีพระคุณอีกทั้งยังเอ็นดูพวกเขาด้วยกัน

ช่วงเวลานี้ เขาไม่เพียงแต่ไม่ได้เป็นศิษย์ของจูเกอะซึ่งเหยียน ทั้งยังต้องแยกจากกับหลิวม่ออิง เพื่อนรักที่ร่วมเป็นร่วมตายกัน มาอีกด้วย

น้ำตาของหวงเฉินฟงไหลออกมาแล้ว

“เฉินฟง” เสียงเรียกสั่นเครือที่คุ้นเคยดังขึ้นมา

เมื่อหวงเฉินฟงเหลียวไปตามเสียงนั้น กลับพบใบหน้าที่มี น้ำตานองหน้าของหลิวม่อองเช่นกัน จากนั้นหวงเฉินฟงจึงหัน หน้าช้าๆไปหาเกอะซิ่งเหยียน

เขาเห็นจูเกอะซิ่งเหยียนฝืนยิ้มมาทางเขาอย่างเอ็นดู แต่ว่า ภายในดวงตาของจูเกอะซิ่งเหยียนนั้นกลับแฝงไปด้วยความ เศร้าโศก
“ดูท่า พวกเราคงจะไร้วาสนาด้วยกันจริงๆสินะ” จูเกอะซึ่งเหยี ยนกล่าวด้วยความเอ็นดูกับหวงเฉินฟง

“…” หวงเฉินฟงกลับไม่รู้จะพูดอะไรดี จึงหันไปหาหลิวม่ออิ

งอีกครั้ง

“เจ้าเด็กแซ่หวง จะร่ำลากันไม่ถึงเมื่อใด” หยางเกาเชิงตวาด เร่งรัด

หวงเฉินฟงได้แต่เดินผ่านกายของหลิวม่ออิงอย่างช้าๆ แล้ว หยุดอยู่ครู่หนึ่ง

“ม่ออิง… เจ้ารักษาตัวด้วย” เสียงของหวงเฉินฟงสั่นเครือ จากนั้นเขาก็ได้เดินตามหยางเกาเชิงออกนอกประตูต่าหนักใหญ่ หลิวม่ออิงซึ่งกำลังเหม่อลอยจึง

ได้แต่มองตามเงาหลังของหวงเฉินฟง จนหายลับไปกับ สายลม

“เอาล่ะในเมื่อเรื่องทุกอย่างก็กระจ่างแล้ว ประชุมวันนี้ก็พอแค่ นี้” เสียงของเจ้าสำนักทำลายกลิ่นอายบรรยากาศที่เศร้าโศก

จากนั้นเจ้าสำนัก หย่งคน เจิ้งหยวน กับ ฟางจื่อหลาน ก็ได้

ทยอยกันเดินออกจากตำหนักไป ขณะนี้ภายในตำหนักใหญ่สำนักนภาสวรรค์ ยังเหลือผู้ที่ยัง

อยู่อีกสามคน คือ จูเกอะซึ่งเหยียน หลิวม่ออิง และกวนไปเจี้ยน

“ม่ออิง เจ้ายังไม่รีบมาคารวะอาจารย์อีก” กวนไปเจี้ยนพูด พลางโบกพัดสีขาวลุกขึ้นเดินมาหาหลิวม่ออิง
หลิวม่ออิงยังคงไม่สามารถปรับจิตใจให้เข้าที่ได้ จึงได้หันไป หาเกอะซิ่งเหยียนอีกครั้ง จูเกอะซึ่งเหยียนเห็นดังนั้นจึงทอด ถอนใจ แล้วพยักหน้าให้กับ

หลิวม่ออิง หลิวม่ออิงจึงเดินอย่างซึมเซาเข้าหากวนไปเจี้ยน

“ศิษย์ม่ออิง คำนับอาจารย์” หลิวม่ออิงคุกเข่าก้มหน้าคารวะ

“เอาเถอะๆ เจ้าลุกขึ้นไม่ต้องมากพิธี” กวนไปเจี้ยนรีบคว้า แขนหลิวม่ออิงฉุดดึงตัวขึ้นมา

“ศิษย์พี่ไปเจี้ยน ถึงแม้ข้าจะไม่ได้รับม่ออิงเป็นศิษย์ของข้า แต่ ในเมื่อเขาอยู่กับท่าน ข้าเองก็วางใจ” จูเกอะซิ่งเหยียนเดิน เข้าหาบุคคลทั้งสอง

“ศิษย์น้องซึ่งเหยียน ข้าเองก็ไม่ได้อยากจะแย่งเด็กพวกนี้กับ เจ้าหรอกนะ แต่เจ้าก็รู้ว่าข้าเองก็ไม่ได้มีสิทธิ์มีเสียงในสำนัก มากมาย แล้วอีกอย่างศิษย์พี่รองเขาก็

“พอแล้ว….ช่างมันเถอะ ข้าเชื่อว่าท่านจะสั่งสอนเจ้าเด็กคนนี้ ได้ดีแน่” จูเกอะซิ่งเหยียนแย้มยิ้มกล่าว

“ข้าสัญญา”

“ท่านจูเกอะ แล้วข้าจะได้พบเฉินฟงอีกไหม” หลิวม่ออิงกล่า

วแทรก

จูเกอะซิ่งเหยียนและกวนไปเจี้ยนหันไปมองหน้ากัน พร้อม ทอดถอนใจ…
ณ ตำหนักบินหลุน (ตำหนักของหยางเกาเซ็ง)

โครม

เสียงโยนถังใส่น้ำดังขึ้น

“เจ้าเด็กแซ่หวง เจ้าลงเขาไปตักน้ำมาใส่บ่อให้ข้า” หยางเกา เชิงกำลังนั่งบนเก้าอี้กินผลไม้ที่วางอยู่ที่โต๊ะข้างตัว มองดูหวง เฉินฟงด้วยหางตา

“อา….อาจารย์”

“บัดซบ อย่ามาเรียกข้าว่าอาจารย์ ข้าไม่มีศิษย์เช่นเจ้า” หยาง เกาเชิงขึ้นเสียงด้วยความโมโห

“แต่…แต่…แต่ท่าน…..ท่านได้รับข้าเป็นศิษย์แล้วนี่” หวงเฉินฟง ตกใจจนพูดตะกุกตะกัก

“หึ เจ้ารู้ไหมว่าทำไมข้าจึงไม่ให้เจ้าและเจ้าเด็กแซ่หลิวนั่น

เป็นศิษย์ของเจ้าจูเกอะซิ่งเหยียน”

“เพราะ…เพราะอะไร” หวงเฉินฟงถามด้วยเสียงที่สั่นสะท้าน

“เพราะข้าต้องการจะสั่งสอนเจ้าเกอะซิ่งเหยียนไง ว่าผลของ การคิดทําอะไรตามใจชอบจะเป็นยังไง ฮ่าๆๆ” หยางเกาเชิง

หัวเราะอย่างมีความสุข

“ท่าน..ท่าน”

“พอแล้ว ไม่ต้องพูด ถ้าอยู่ต่อหน้าคนอื่นข้า ให้เจ้าเรียก อาจารย์ได้ แต่ถ้าอยู่ในสังกัดข้า ห้ามเจ้าเรียกข้าเช่นนี้
“…” หวงเฉินฟงก้มหน้าน้ำตาไหลลงอาบแก้ม

“เจ้าเด็กแซ่หวง หากขืนเจ้ายังไม่ไปตักน้ำใส่บ่อก่อนตะวัน ตกดิน ระวังข้าจะไม่ให้ที่ซุกหัวนอนกับเจ้า” หยางเกาเชิงพูด อย่างไม่สะทกสะท้าน

พริบตานั้น หวงเฉินฟงได้ข่มกลั้นน้ำตา เดินออกจากประตู ตำหนักยินหลุนไปราวกับร่างไร้วิญญาณ เด็กน้อยคนหนึ่งถือถัง น้ำใบหนึ่ง กำลังเดินออกจากประตูตำหนักยินหลุน

“นั่นใช่ศิษย์น้องคนใหม่ของเรารึป่าวนะ”

“นั่นสิๆ ข้าก็ได้ยินว่าอาจารย์เรารับศิษย์ใหม่มาคนนึงนี่”

“ว่าแต่ทำไมจึงมาถึงวันแรก ก็โดนไล่ลงเขาไปตักน้ำเลยล่ะ”

“แต่ตอนขาเข้ามาใหม่ๆ อาจารย์ไม่เห็นจะให้ข้าไปทำอะไร แบบนี้เลยนะ”

เสียงซุบซิบนินทาดังขึ้น ที่แท้รอบข้างที่หวงเฉินฟงเดินผ่าน ก็

คือศิษย์ทั้งหลายของตนนั่นเอง

แต่เวลานี้ หวงเฉินฟงไหนเลยจะมีกระจิตกระใจฟังอะไรทั้งนั้น เขายังคงมุ่งหน้าเดินต่อไป…เดินต่อไป

ท้ายที่สุดก็ออกมาจากเขตตำหนักยินหลุนแล้ว

หวงเฉินฟงมองไปยังเส้นทางเบื้องหน้า แสงอาทิตย์เริ่มทอแส งอ่อนแรงลงแล้ว…….


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ