How Much รักของนายหาซื้อที่

ตอนที่97 ความเป็นมนุษย์



ตอนที่97 ความเป็นมนุษย์

ตอนที่97 ความเป็นมนุษย์

“วันนี้โอเคไหมครับ?” จิรภาสมองไปยังจิดาภา พลาง กุมมือเธอไว้

เขารู้ว่าจิดาภาจะต้องมีอะไรจะพูดกับเขา ถึงมาหาเขา ถึงที่ห้องหนังสือนี้

“ต้องขอบคุณที่สามีฉันหยั่งรู้เหตุการณ์ได้ล่วงหน้า ส่ง คุณตฤณไปช่วยฉันไว้นะคะ” จิดาภาคิดสักพัก แล้วเอ่ย พูดกับจิรภาสอย่างตั้งใจ “ฉันให้พี่นัฎปฏิเสธคำเชิญของ ทางนั้นไปแล้วนะคะ ฉันจะเตรียมตัวกับการสัมภาษณ์ เพื่อจะเซ็นสัญญาเป็นศิลปินของโอเลค่ะ”

“ครับ แล้วมีอีกไหม?” จิรภาสราวกับมองรู้ความคิดของ เธอไปเสียทุกอย่าง

“ฉันอยากจะหาตัวชนิศาให้เจอ เพื่อเคลียร์เรื่องนี้ให้จบ

ค่ะ”

เธอจะเริ่มตอบโต้โผู้

ปลดล็อกแล้ว อพิสูจน์ความ

บริสุทธิ์ของตัวเธอเอง

ได้สิครับ” จิรภาสไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับสิ่งที่ได้ยิน เท่าไรนัก เขาเข้าใจเธอ เพียงแค่เป็นเรื่องที่เธอเปิดปาก ออกมาว่าจะทำ ก็จะทำมันจนสำเร็จ “ให้ผมช่วยอะไร ไหม?”

จิดาภาคิดแล้วเอ่ยบอกกับเขา “ฉันแค่อยากจะบอกให้ คุณรู้เท่านั้นเองค่ะ แต่ถ้าหากคุณอยากจะช่วยฉันละก็ เราไปพักผ่อนกันเร็วหน่อยดีกว่านะคะ”

มือของเธอราวกับมีอุณหภูมิที่ส่งผ่านมายังอีกฝ่าย ทำให้ดึงดูดความปรารถนาของเขาได้ไม่ยาก

เขาสูดดมกลิ่นน้ำหอมจากร่างกายของเธอ ส่งยิ้มแล้ว อุ้มเธอขึ้นมา “คำสั่งจากภรรยา ผมไม่กล้าขัดอยู่แล้ว”

แสงจันทร์ทำให้ค่ำคืนที่แสนยาวนานนี้มีความหนาว เหน็บ แต่ภายในห้องกลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยนที่ แสนจะโรแมนติก
จิดาภาให้ทางที่น้อปล่อยข่าวที่สร้างขึ้นมาเองให้กับถ

วิต

เกี่ยวกับเรื่องที่มีบริษัทจะเซ็นสัญญากับชนิศา แต่มี เงื่อนไขคือจะต้องเซ็นเพียงเธอแค่คนเดียว ซึ่งก็คือ ถวิ ดจะต้องออกโรงเองแน่ๆ

และเมื่อได้รับข่าวเรื่องนี้แล้วนั้น ถวิตรู้สึกโมโหเป็น อย่างมาก

“ทำไมพวกเขาทำอย่างนี้ ! พี่เป็นผู้จัดการส่วนตัวของ เธอมาตั้งหลายปี คุ้นเคยกับแนวการแสดงของเธอที่สุด ก็คือพี่ ชนิศา เธอพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวพี่ติดต่อบริษัทอื่น เอง”

ชนิศาได้ยินดังนั้น จึงเอ่ยออกมาอย่างไม่ค่อยพอใจ เท่าไรนัก จะให้ฉันรอไปอีกนานแค่ไหนกัน!”

เธอถีบถังขยะเสียจนล้ม เพื่อที่จะหลบหน้าพวกนักข่าว ปาปารัสซี่ เธออาศัยอยู่ในห้องเช่านี้มาสิบกว่าวันแล้ว เธอรู้สึกคิดถึงกระเป๋าแบรนด์เนมของเธอ อีกทั้ง อยากนั่งรถคันหรูเหลือเกิน

กับการอยู่หลบๆซ่อนๆ กินข้าวกับผัดผัก เธอไม่อยากใช้ ชีวิตแบบนี้อีกแล้ว!

อีกทั้ง ราวกับว่ามีเธอเพียงคนเดียวที่ตกอยู่ในสภาพ แบบนี้ จิดาภาก็ยังคงใช้ชีวิตอย่างสุขสบายเหมือนเดิม เธอเห็นนิตยสารที่ขึ้นปกเป็นหน้าของจิดาภา ก็รู้สึกโกรธ แค้นเป็นอย่างมาก

“ชนิศา เธอจะตอบตกลงรับเงื่อนไขของพวกเขาจริงๆ น่ะหรือ แล้วพี่ล่ะ?” ถวิตไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะยอมทั้ง การทำงานร่วมกันมาหลายปีระหว่างเขาและเธอง่ายเช่น นี้

เพียงเพื่อที่จะได้เซ็นสัญญากับบริษัทหนึ่งเท่านั้น

“พี่ก็ไปหาบริษัทอื่นสิ ถึงอย่างไรตอนนี้ผู้จัดการส่วนตัว ก็ใหญ่กว่าอยู่แล้วนี่…” ชนิศาได้เพ้อฝันไปแล้วว่าตัวเธอ เองจะได้เซ็นสัญญาใหม่ และกลายเป็นศิลปินดัง
ในความคิดของเธอนั้นไม่มีถวิตอยู่เลย

แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ได้พิจารณาถึงเรื่องค่าใช้จ่าย

รักษาพยาบาลที่เธอแท้งลูก รวมทั้งเสื้อผ้า การกินอยู่ ตอนนี้ถวิตเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้เธอเองทั้งหมด แม้ เงินจะไม่มาก แต่ถวิตก็ยอมทั้งการงานของตัวเอง ลา ออกจากsjเพื่อมาอยู่คอยช่วยเหลือเธอ

ถ้าหากชนิศาพลิกตัวมาติดต่อบริษัทอื่นๆ แล้วทั้งผู้ จัดการส่วนตัวอย่างเขาละก็ เขาเองก็คงไม่สามารถอยู่ใน วงการนี้ต่อไปได้อีกแล้ว

เขาไม่ได้โหดร้ายเหมือนกับเธอ เพื่อชื่อเสียง กลับขาย

ได้เสียทุกอย่าง

“ได้ ฉันจะไปช่วยเธอคุยกับพวกเขา”

ถวิตเดินออกมาจากห้องเช่า อยู่ด้านล่างตึกด้วยความ ลังเลอยู่นาน จึงตัดสินใจโทรหาบริษัทนั้น “พวกคุณ แน่ใจใช่ไหมว่าจะเซ็นสัญญากับคุณชนิศา?”

อีกฝั่งตอบเพียงแค่ อม กลับมา
ถวิตถอนหายใจออกมา “แบบนี้พวกคุณจะมีการจัดผู้ จัดการส่วนตัวคนใหม่ให้เขาไหมครับ?…ผม..ผมไม่ ต้องเซ็นสัญญากับเธอก็ได้ครับ แต่ผมหวังว่าพวกคุณ จะช่วยประคับประคองเธอ เธอเป็นนักแสดงที่ดีนะครับ เพียงแต่อาจจะเลือกทางเดินผิดไป”

“คุณก็รู้ว่าเธอ เดินทางผิด ทำไมถึงยังช่วยเธอ? ทำแบบ นี้นั่นเท่ากับว่าคุณกำลังทำร้ายเธอแล้วก็ทำร้ายตัวคุณ เอง”

“คุณเป็นใคร ทำไมเสียงของคุณถึงดูคุ้นๆ” อยู่ๆถวิตก็ รู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากลนี้

พี่นัฏที่อยู่ในสายจึงเอ่ยขึ้นกับเขา “คุณฟังไม่ผิดหรอก ค่ะ ฉันนัฏผู้ช่วยของจิดาภา ฉันรู้ว่ามีเพียงวิธีนี้วิธีเดียว ที่จะทำให้คุณได้เหตุธาตุแท้ของชนิศาได้ เพื่อชื่อเสียง ของเธอ เธอยอมทั้งลูกของคุณชเยศอย่างไม่รู้สึกผิดใดๆ คุณคอยตามเธออยู่แบบนี้มันคุ้มหรือคะ?”

“ผมบอกคุณไปแล้วว่าเธอแค่เดินทางผิด เธอไม่ใช่คน แบบนั้น!”
ถวิตอยู่กับเธอมาโดยตลอดตั้งแต่ที่เธอเข้าวงการใหม่ๆ เขายังจำได้ดีว่าตอนที่ชนิศาเพิ่งจะเข้าวงการมานั้น เธอ นั้นทั้งดูบริสุทธิ์และจิตใจดี เธอในตอนนั้นเป็นเพราะ ได้ยินคำพูดหนึ่งของคนรอบข้าง ทำให้เธอเสียใจไปทั้ง คืน เขาเองก็ไม่อยากจะเชื่อในการเปลี่ยนไปของชนิศา เช่นกัน

“คุณทวิต ในฐานะผู้จัดการที่คอยดูแลพวกเขา ฉันอยาก จะเตือนคุณไว้ ไม่ว่าสุดท้ายแล้วชนิศาจะยังคงอยู่ใน วงการนี้ได้หรือไม่ แต่อาชีพผู้จัดการของคุณนั้นได้เดิน มาจนสุดทางแล้ว เหลือทางเลือกไว้ให้ตัวคุณเองบ้างนะ คะ คุณเองก็มีทั้งลูกทั้งครอบครัวที่ต้องดูแล ที่ฉันพูดมา คุณลองเก็บไปคิดดูนะคะ แล้วค่อยติดต่อฉันกลับมาอีก ที”

ถวิตวางสายไป มือไม้เขารู้สึกไม่มีเรี่ยวแรง เขารู้ดีว่า สถานการณ์ของเขานั้นยากลำบากกว่าของชนิศาเสียอีก

แล้วยิ่งได้มาเห็นท่าทางเช่นนั้นของชนิศาแล้ว เขายิ่ง รู้สึกไม่มั่นใจว่าจะสามารถเดินไปกับเธอต่อได้หรือไม่
แต่เขาเองก็ยังอยากจะให้โอกาสเธอเป็นครั้งสุดท้าย คืนนั้น เขาพาเธอกลับไปยังอพาร์ทเม้นท์เดิมที่เธอเคย เช่าไว้ตอนเข้าวงการ

“พาฉันมาที่นี่ทำไม?” ชนิศาขมวดคิ้วเอ่ยถามขึ้นด้วย ความสงสัย เธอสวมหมวกยืนมองอยู่รอบๆ “ฉันไม่ได้ให้ พี่ไปติดต่อบริษัทนั้นหรอกหรือ? เป็นอย่างไรบ้าง?ฉันจะ เซ็นสัญญาได้เมื่อไหร่?”

ถวิตถอนหายใจออกมา “ตอนนั้นจุดเริ่มต้นของเธอมา จากที่นี่ จริงๆแล้วตอนนี้ก็ยังไม่สายเกินไปนะ ในวงการ นี้อะไรๆมันก็เปลี่ยนแปลงเร็วไปหมด เพียงแค่เธอ หมั่นฝึกฝนทักษะในการแสดง ในไม่ช้าหรือเร็วเธอก็จะ สามารถหลุดพ้นจากสภาพแบบนี้ได้ พี่จะอยู่กับเธอตรง นี้”

“ทำไมฉันจะต้องมาเริ่มจากที่นี่? ไม่ใช่ว่ามีบริษัทจะเซ็น สัญญากับฉันแล้วหรือ?” น้ำเสียงของเธอนั้นเต็มไปด้วย ความเกลียดชัง

เธอเกลียดที่นี่ อีกทั้งเธอเองก็เคยชินกับชีวิตที่หรูหรา ฟุ่มเฟือยของเธอไปแล้ว กลับมาอยู่ตรงจุดนี้ไม่ได้อีกต่อ

ไปแล้ว
แล้วบวกกับ ในแผนที่วางไว้ของเธอนั้นก็ไม่มีถวิตอยู่ใน นั้นตั้งแต่แรกแล้วด้วย

ดังนั้นเมื่อตอนที่บริษัทนั้นออกเงื่อนไขที่ว่าจะไม่เอาผู้ จัดการส่วนตัวของเธอคนนี้นั้น เธอจึงตอบตกลงไปโดย แทบจะไม่ต้องคิดเลย

“ชนิศา ตอนนี้เธอยัง..”

“รู้แล้วค่ะ วางใจเถอะ ฉันไม่ทิ้งพี่หรอก” อยู่ๆชนิศาก็หัน กลับมามองเขา

แววตาของถวิตปรากฏความหวังออกมา เขารู้อยู่แล้ว ว่า ชนิศาในตอนแรกนั้นยังไม่ได้หายไปไหนเขาที่กำลังจะ บอกเรื่องที่พี่นัฎคุยกับเขา แล้วจะใช้เงินค่าใช้จ่ายของ ตัวเองพาชนิศาไปเลี้ยงฉลองให้กับการเริ่มต้นใหม่อยู่ นั้น

ก็ถูกคำพูดของเธอทำร้ายจิตใจเขาเข้าเสียก่อน

“รอให้ฉันดังก่อน แล้วจะให้เงินชดเชยกับพี่ก้อนหนึ่ง ตอนนี้พี่หยุดพักผ่อนไปก่อนแล้วกัน” น้ำเสียงที่ดูไม่ได้แยแสอะไรนั้นคมเสียยิ่งกว่าดาบเสียอีก

“เธอให้พี่หยุดพักอย่างนั้นหรือ? ไม่รู้หรือไงว่าข้างนอก เขาพูดถึงพวกเรากันอย่างไรบ้าง?” ถวิตไม่อยากจะเชื่อ เอาเสียเลยว่าชนิศาจะทำกับเขาราวกับเขาเป็นสุนัขดีๆ ตัวหนึ่งเช่นนี้

“ฉันขอล่ะ ตอนนี้คนที่เขาต้องการเซ็นสัญญาด้วยก็ คือฉัน ฉันพาพี่ไปด้วยไม่ได้ ฉันบอกไปแล้วไงว่าฉันจะ ชดเชยให้พี่ทีหลัง วุ่นวายจริงๆ” ชนิศาเดินออกไปตาม ทางด้วยรองเท้าส้นสูงที่เธอสวมใส่อยู่แล้วโบกรถออก ไป

เธออยากแต่จะกลับไปอยู่ในโลกแห่งความฝัน โดยที่ไม่ ได้อยากจะที่จะเผชิญกับโลกแห่งความเป็นจริงเอาเสีย

เลย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ