ตอนที่ 119 การตอบโต้ในงานแถลงข่าว

Sherryร้องไห้อย่างหนักในคลิปวิดีโอนั้น ทำให้ผู้คนต่างก็พากัน สงสารและเห็นใจเธอ แต่เธอจะร้องไห้ไปท่าไมกัน ?

การเซ็นสัญญากับจิดาภาเพียงคนเดียวนั้นเดิมทีก็เป็นแผนของ ทางรnow อยู่แล้ว คงจะไม่สามารถนำงานทั้งหมดของจิดาภาไปให้ เธอได้ตลอด หากเป็นเช่นนั้นเธอก็คงจะแอบอ้างฉายา ของจิดาภา ไปตลอด หากเป็นเช่นนั้นจริงคงจะน่าเศร้าใจยิ่งนัก

“ในเมื่อเรื่องBrand ambassador ในครั้งนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ คุณSherryอยู่แล้ว ผมคิดว่าคุณจิตาภาเองก็คงไม่จำเป็นต้องออก มาอธิบายอะไร”

เมื่อพูดมาถึงขนาดนี้แล้ว ทุกอย่างคงจะชัดเจนพอแล้ว

ผู้ช่วยสพลจึงปิดไมโครโฟน แล้วมอบหน้าที่ให้เป็นของพิธีกรต่อ ไป

นักข่าวพากันคิดตามคำพูดของผู้ช่วยสพลอย่างละเอียดถี่ถ้วน ดู เหมือนว่าจะต้องมาพิจารณากับเรื่องของSherryกันใหม่เสียแล้ว จริงๆแล้วรnowไม่ได้ตั้งใจจะเซ็นสัญญากับเธออยู่แล้ว แล้วเรื่อง ที่superออกมาบอกว่าเธอถูกกดขี่จากจิดาภานั้นก็ไม่มีที่มาที่ไป อย่างนั้นหรือ พีทที่นั่งอยู่ในออฟฟิศ กำลังดูข่าวทางอินเตอร์เน็ต เขาอยากจะรอ ดูต่อ เรื่องที่Sherryใช้ความนิยมจากจิดาภา เดิมที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง กับพวกเขาเลยเสียด้วยซ้ำ แต่นี่กลับใช้แบรนด์snowของเขาไป สร้างข่าวลือเสียๆหายๆเช่นนั้น เขาคงจะอยู่เฉยๆไม่ได้เช่นกัน

อีกอย่างจิดาภาได้เป็นBrand ambassador ของรnowแล้ว เธอ ตกอยู่ข่าวเช่นนี้ ในฝ่ายของทางบริษัทก็ต้องช่วยเธออยู่แล้ว

ในขณะเดียวกัน ก็จะใช้โอกาสนี้ ในการสร้างชื่อเสียงให้ กับnowด้วย นับว่าครั้งเดียวจัดการได้ถึงสามเรื่อง

หลังจากงานแถลงข่าวครั้งนี้ ทางsuperและSherry ได้ออกมาบอก ว่า นี่เป็นแผนการของจิดาภา ที่เธอกำลังจะพลิกสถานการณ์ให้จาก

ดำเป็นขาวจากขาวเป็นดำ

แม้กระทั่ง super ยังใช้บัญชีทางการในการโพสต์ข้อความออกมา “ความจริงก็คือความจริง ไม่ว่าจะปกปิดกี่ครั้ง พวกเราล้วนแต่พูด ความจริง”

แต่พวกเขาไม่คิดว่า ในเมื่อsnowกล้าทำเช่นนี้ นั่นสามารถพิสูจน์ ได้ว่าพวกเขามีหลักฐานแผนการร้ายๆของSherryเพียงพอ

ในขณะนั้น หลายๆคนเริ่มสงสัยแบรนด์snowนี้ ในแง่หนึ่งที่พัฒนา ความมีชื่อเสียง เพื่องานแถลงเปิดสินค้าตัวใหม่เป็นจึงถือว่าเป็นการ

ปูทาง ทางการมีชื่อเสียงของบริษัทและSherryเช่นนี้

“ฉันว่า snow คงจะต้องรับเงินจากจิดาภาไปแล้วแน่ๆ ออกรับแทน แบบนี้จะมีประโยชน์อะไรกัน ในเมื่อเจ้าตัวก็ยอมรับแล้วว่าเป็นคน ส่งของให้ฉันเอง แล้วจะกลับคำอย่างนั้นหรือ?” Sherryเอ่ยออกมา อย่างพอใจ

วรทส่ายหน้า ดูเหมือนละครเรื่องนี้จะยังไม่จบง่ายๆเสียแล้ว

เขาเห็นข่าวบนหน้าเว็บของsnow บริษัทเครื่องประดับเพชร นานาชาติระดับต้นๆอย่างนี้นะหรือ ที่จะถูกจิดาภาซื้อตัวไป?

Sherry ได้โพสต์รูประหว่างที่เธอกำลังฝึกฝนฝึกซ้อมอยู่ ว่า “ที่ฉัน มาถึงวันนี้ได้ไม่ใช่เพราะอยากจะมีชื่อเสียง ฉันเพียงแค่อยากจะ เป็นนักแสดงที่ดี หวังว่าพรุ่งนี้ทุกอย่างจะดีขึ้น”

เพิ่มประโยคที่ให้พลังงานบวกเช่นนี้ไป

ใครจะคิดว่านักแสดงหญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งจะสามารถทำเรื่องเช่น นั้นได้?

พี่นัฏเห็นโพสต์ให้กำลังใจเธอด้านล่างแล้วนั้นก็ยิ่งรู้สึกโมโห อดไม่ ได้ที่จะปิดหน้าเพจนั้นลง “คนพวกนี้คิดอย่างไรกัน หรือว่ารuperจะ ซื้อพวกมือรับจ้างโพสต์ให้กับSherryกัน”

จิดาภาหัวเราะออกมา สถานการณ์ตอนนี้ยิ่งน่าสนใจขึ้นไปอีก หากสมมุติว่าSherryไม่ได้พูดเช่นนี้ ไม่ได้ทำเช่นนี้ ในใจของเธอ ยังพอจะอดทนได้บ้าง เธอเองก็เคยเป็นศิลปินใหม่มาก่อน รู้ดีว่า ตอนที่ยังไม่มีชื่อเสียงนั้น จะต้องรีบคว้าโอกาสทุกๆโอกาสไว้ ดังนั้น เธอจึงเข้าใจความปรารถนานี้ของSherry

แต่เล่นละครไปตามอำเภอใจโดยที่ไม่เกรงกลัวใครแบบนี้ ก็ดูจะ เกินไปเสียแล้ว

จิดาภาเองก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องใจอ่อนอีกต่อไป เธอจะ ทำให้Sherryได้รับบทเรียนที่มีชีวิตชีวากลับไปอย่างแน่นอน

เธอเองก็กำลังรอ รอให้snowลงมือจัดการเรื่องนี้

ไม่ว่าจะพูดอย่างไร superก็ยังคงกัดจิดาภาไม่ยอมปล่อยง่ายๆ หากจากภายนอกที่มองเข้ามาแล้วนั้น บริษัทเช่นนี้มีความเป็นธรรม และทำให้superได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองมากขึ้นด้วย

และเมื่อขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าจิดาภาเป็นคนรังแกศิลปินใหม่ อยู่นั้น snow ได้จัดการแถลงข่าวอธิบายเรื่องนี้บนหน้าเพจโดย เฉพาะเพื่อเป็นการให้ความกระจ่างแก่เรื่องนี้

บรรดานักข่าวที่พากันมาถึงสถานที่จัดงานแล้วนั้นต่างก็พากันรู้สึก ขบขัน นี่ไม่ใช่เป็นการปล่อยไก่ให้กับตัวเองหรอกหรือ?

ทั้งยังมีคนเสนอแนะnow ว่า “ตอนนี้เปลี่ยนตัว Brand ครั้งนี้พีทเป็นคนออกหน้าเอง เขานั่งอยู่บนเวที กดเปิดไมโครโฟน “จำชื่อของนักข่าวคนนี้และสำนักสื่อของเขาไว้ ต่อไปงานเปิดตัว ผลิตภัณฑ์ใหม่ของรnow ผมไม่ต้องการเห็นสำนักสื่อนี้อีก!”

ตามด้วยการ์ดที่เดินเข้ามาพาตัวนักข่าวคนนั้นออกไป

ทันใดนั้นในงานกลับเงียบสงัดลง

ไม่มีใครสามารถเดาได้ว่าพีทจะพูดอะไรต่อไป แต่แอบมีความ คาดเดาได้ว่า เรื่องนั้นกำลังจะต้องมีการพลิกสถานการณ์อีกอย่าง แน่นอน

ในขณะนั้นSherryยังคงนั่งอยู่ในห้องพักผ่อนของเธออย่าง สบายใจ คิดว่าตัวเองได้กลายเป็นคนดังในอินเตอร์เน็ตไปแล้ว เพียงแค่เธอบีบน้ำตานิดหน่อย ก็สามารถเป็นที่นิยมขึ้นมาได้

เมื่อพี่เห็นว่าในงานนั้นเงียบเสียงลงแล้ว เขาจึงกดเปิด ไมโครโฟนขึ้นใหม่อีกครั้ง

“ทุกท่าน ผมรู้ว่าเป็นเพราะเรื่องBrand ambassador ของsnow ทำให้เกิดข่าวลือต่างๆขึ้นมากมาย ผมในฐานะเป็นตัวแทนของ บริษัท ต้องขอโทษกับคุณจิดาภาไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ เป็นเพราะ ความผิดพลาดของพวกเรา จึงทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นวันนี้ขึ้น”

เหล่าบรรดานักข่าวต่างพากันเบิกตาโต แล้วยกไมโครโฟนสูงขึ้น นั้นเขาจึงพูดต่อ “ในวงการบันเทิงเรามักจะมีข่าวต่างๆนานาออกมา มากมาย แต่ศิลปินที่อายุยังน้อยอย่างคุณSherry กลับมีความคิด ลึกซึ้ง หรือแม้กระทั่งปล่อยข่าวลือ ใส่ร้ายป้ายสี ให้ร้ายคนอื่นเช่นนี้ เป็นครั้งแรกที่ผมเจอแบบนี้ครับ ทำไมพวกคุณถึงคิดว่าคุณจิดาภา เป็นคนผิด?หรือเป็นเพราะด้วยความที่เธออายุยังน้อย ทำความผิด แล้วเอาสาเหตุนี้มาเป็นข้ออ้างกันหรือครับ?”

“แต่คุณพีทคะ คุณจิดาภาเองก็ยอมรับว่าเธอเป็นคนส่งของขวัญ นั้นให้กับคุณSherryจริงๆนี่คะ”

พีชพยักหน้ารับ “ใช่ครับ เธอส่งของขวัญไปจริงๆ แต่ที่เธอส่งไป นั้นไม่ใช่รูปสร้อยคอที่ขาดไม่มีชิ้นดีและรูปถ่ายขาวดำอย่างที่ใน อินเตอร์เน็ตเช่นนั้น”

“คุณทราบได้อย่างไรคะว่าไม่ใช่? หรือคุณSherryจะจงใจหลอก พวกเรา?”

รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าของเขานั้นดูลึกซึ้งยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม เสียอีก หลักฐานที่เขาเตรียมไว้นั้นจะเปิดเผยเองมาในตอนนี้ ถึงจะ ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดออกมา

เสียงของเขาที่ส่งผ่านไมโครโฟนและเครื่องเสียง ดังขึ้นล้อมทั้ง ห้องโถงนั้นไว้ “ครับ เธอตั้งใจหลอกพวกคุณ นั่นเป็นเพราะว่าของ ขวัญชิ้นนั้น เป็นของขวัญที่คุณจิดาภาให้ทางบริษัทรnowของเรา ส่งไปให้กับเธอ นั่นก็คือสร้อยคอเพชรที่เป็นผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ของ ไตรมาสนี้ ชื่อของมันคือ หัวใจทะเล หน้า ซึ่งหมายความว่า นอกจากเส้นที่ส่งออกไปให้เธอนั้น จะไม่มี ใครที่จะสามารถมีไว้ครอบครองได้อีก และตอนนี้สองรูปถ่ายที่อยู่ บนจอนี้ ทางด้านซ้ายมือคือรูปสร้อยหัวใจทะเลของเรา ส่วนทาง ด้านขวามือเป็นรูปถ่ายของคุณSherryที่เธอเป็นคนถ่ายตัวเองไว้ บนคอที่กำลังใส่อยู่นั้น นั่นก็คือ หัวใจทะเลนั่นเองครับ!”

“หรือจะว่า ถ้าหากเธอไม่ได้รับของขวัญชิ้นนี้จริง แล้วเธอจะสวม ใส่มันไว้บนคอของเธอได้อย่างไรกันครับ?”

คำถามของพีท ทำเอาทุกคนตกตะลึง

แล้วเขาจึงพูดต่อ “วันนั้น คุณจิดาภามาขอโทษทางรnowด้วยตัว ของเธอเอง และหลังจากที่เราคุยกันจะบรรลุตามเป้าหมายของทั้ง สองฝ่ายแล้ว เธอได้ฝากให้บริษัทเรา ส่งของขวัญชิ้นนี้ไปให้กับ คุณSherry การเลือกกล่องใส่บรรจุนั้นก็เป็นผมและผู้ช่วยของผม เป็นคนเลือกเองกับมือ หรือแม้แต่คนที่ส่งของชิ้นนั้นไปให้ ก็เป็น คนในบริษัทnowด้วยเช่นกัน”

“หลังจากที่คุณจิดาภาคุยเรื่องBrand ambassadorเสร็จแล้ว นั้น เธอก็กลับออกไปจากรnowทันที และคลิปนี้เป็นภาพจากกล้อง วงจรปิดด้านหน้าบริษัทเราบันทึกไว้ด้านบนมีเวลาปรากฏอย่าง ชัดเจนถึงเวลาที่เธออกไปจากบริษัทเรา”

“หลังจากนั้นสร้อยเส้นนี้ถึงจะถูกนำออกมาจากคลังสินค้าของเรา บรรจุเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงส่งออกไป ส่วนนี้กล้องวงจรปิดของทาง บริษัทเราก็มีบันทึกเวลาไว้อย่างชัดเจน หลังจากที่คุณจิดาภาออก