ตอนที่95 สถานการณ์ที่ยากลำบาก
ตอนที่95 สถานการณ์ที่ยากลำบาก
พี่นัฏกระซิบเบาๆที่ข้างหูของจิดาภา “ดูๆแล้วพวกนัก ข่าวนี้อยากจะขุดประเด็นนี้ออกมาเสียจริงๆ ไม่ได้นึกถึง เลยว่าเรื่องมันมีข้อเท็จจริงเป็นมายังไง”
นี่แหละวงการบันเทิง
เมื่อคุณได้รับการจับตามอง ผู้คนก็จะยกย่องชื่นชมคุณ แต่หากวันหนึ่งมีพายุพัดเข้ามา คนที่รอดูจะซ้ำเติมคุณ มากกว่าคนที่สนับสนุนคุณเสียอีก
จิดาภาเองก็ชินกับเรื่องแบบนี้ไปเสียแล้ว
ภายนอกจะมองเธออย่างไร ก็ไม่สามารถมาควบคุมชีวิต ของเธอได้ แต่เธอก็ไม่สามารถจะหันหลังให้กับเรื่องราว ด่างพร้อยพวกนี้ไปได้ตลอดเช่นกัน และยิ่งไปกว่านั้น เธออยากจะไปยืนอยู่ในจุดที่สูงสุดในวงการนี้ เพื่อไปยืน อยู่เคียงข้างกับจิรภาส
หากถ้าเธอแพ้ เธอจะคู่ควรกับเขาได้อย่างไร”พี่นัฏ เราไปกันเถอะค่ะ”
“จะไปเลยหรือ?” พี่นัฎขมวดคิ้วด้วยความสงสัย แล้ว เดินตามจิดาภาออกมา “ไม่อยู่ฟังต่อล่ะ?”
“มันไม่มีอะไรนี่คะ ทางผู้จัดได้จัดงานแถลงต่อหน้า นักข่าวเพื่อตอบคำถามเหล่านี้ ก็ถือว่าช่วยฉันได้มาก พอแล้ว พวกนักข่าวจะเอาไปรายงานต่ออย่างไร เราก็ไม่ สามารถไปควบคุมพวกเขาได้อยู่ดี ตอนนี้ความบริสุทธิ์ ของเรายังต้องการอีกหนึ่งหลักฐานเพื่อมาพิสูจน์นะคะ”
เรื่องนี้นอกจากจะเป็นเรื่องราวใหญ่โตที่สุดตั้งแต่ที่เคย จัดงานเทศกาลภาพยนตร์มาแล้วนั้น ยังถือว่าเป็นการ สร้างบรรยากาศให้กับวงการภาพยนตร์และวงการ บันเทิงอีกด้วย รวมทั้งเรื่องราวรักสามเส้าก่อนหน้านี้ และอีกหลายๆสาเหตุ ทำให้เรื่องนี้ยังคงมีข่าวออกมาอยู่ เรื่อยๆ
แต่จิดาภากลับคิดว่ามีบางอย่างที่ดูไม่ถูกต้อง
“ตอนนี้พวกชนิศาก็หายตัวไปแล้ว คงจะต้องมีคนอยู่เบื้องหลังคอยรายงานเรื่องนี้แน่ๆ จะเป็นใครกัน…”
“เรื่องนี้ยังมีต้นสายปลายเหตุ หรือบางทีบอสใหญ่ทาง นั้นอาจจะรู้?”
จิดาภาพยักหน้ารับ แล้วทั้งสองคนก็เดินทางไปยัง บริษัทเคเอฟด้วยกัน
ตอนที่เธอเพิ่งจะเดินเข้ามาในออฟฟิศ จิรภาสก็วาง เอกสารลงเพื่อหันมาต้อนรับเธอ “งานแถลงข่าวกับพวก นักข่าวราบรื่นดีไหมครับ?”
จิดาภาพยักหน้าเป็นเชิงตอบกลับไป เธอรู้ว่าที่จิรภาส ตั้งใจให้ตฤณมารับเธอไปที่นั่น คงเป็นเพราะมีแผนการ อะไรบางอย่าง
“คุณจิรภาสคะ คุณไปเจอหรือไปรู้อะไรมาหรือเปล่า?”
เขามองหน้าเธอ แล้วเอื้อมไปหยิบรายงานฉบับหนึ่งขึ้น มา “ผลตอบรับจากสื่อทางนั้น โอเลเองก็แคร์เรื่องนี้มาก ทางนั้นเองก็พยายามจะควบคุมข่าวนี้อยู่ตลอดเหมือนกัน”
จากอิทธิพลของเคเอฟแล้วนั้น ทางสื่อก็ไม่กล้าที่จะ ปล่อยเรื่องโกหก ถ้าเช่นนั้น…
“ทำไมโอเลถึงทำเช่นนี้ล่ะคะ?” จิดาภามองสถานการณ์ ไม่ค่อยออกเท่าไหร่นัก
“วงการนี้ ไม่มีศัตรูที่แท้จริง และในขณะเดียวก็ไม่มีมิตร ที่แท้จริงด้วยเช่นกัน เพื่อเป็นการปกป้องศิลปินที่เป็น หมากของตัวเอง คนบางส่วนของโอเลออกมาจัดการเอง นั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหรอกครับ” จิรภาสยิ้มแล้วดึง มือของเธอมาจับไว้
เธอคิดตามในสิ่งที่จิรภาสพูดอย่างละเอียดแล้วเอ่ยออก มาด้วยความตั้งใจ “ถ้าอย่างนั้นฉันจะต้องพยายามคว้า โอกาสที่จะไปอยู่กับทางโอเลให้ได้ค่ะ!”
“ภายในโอเลมีบางคนเหมือนกันที่เขาไม่อยากให้คุณ เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของที่นั่น ถ้าหากคุณไป คุณเองก็จะ ต้องเจอกับอุปสรรคอีกมาก…แบบนี้แล้วคุณยังจะเชื่อผม เพื่อไปที่นั่นให้ได้อีกหรือเปล่า?” จิรภาสรู้ว่าจิดาภาจะทำอะไรด้วยสติปัญญา เธอจะไม่มัวเชื่อแต่คำ พูดของเขา เพราะเธอเป็นผู้หญิงที่มีความคิด
“นั่นเป็นเพราะโอเลเป็นบริษัทที่มีความสามารถและมี มาตรฐานที่ดี ดังนั้นฉันจึงอยากจะไปที่นั่น ฉันจะใช้ความ สามารถของตัวเองทำให้พวกเขารู้ ฉันจะไม่ล้มลงง่ายๆ ด้วยวิธีพวกนี้หรอกค่ะ ฉันอยากจะทำงานกับทีมงานที่ มากด้วยประสบการณ์แบบนี้เสียด้วยซ้ำไป”
ในที่สุดตอนนี้เธอก็เข้าใจแล้วว่าทำไมจิรภาสถึงให้เธอ เลือกโอเล แทนที่จะเป็นKBหรือบริษัทsuper
หากเทียบกับsjหรือบริษัทอื่นๆแล้วนั้น โอเลถือว่ามี ทรัพยากรต่างๆมากกว่า ความสามารถทางด้านวงการ บันเทิงก็เก่งกว่าด้วยเช่นกัน ทีมงานเช่นนี้สิคือสิ่งที่เธอ ต้องการที่สุดในตอนนี้
เธอไม่ควรจะมาเลือกในเวลาแบบนี้ ในเมื่อเป็นที่ยอมรับ แล้วว่าโอเลจะสามารถมีส่วนช่วยในอาชีพของเธอได้ เธอก็จะต้องพยายามคว้าโอกาสนี้ไว้ให้ได้เช่นกัน
“ผมจะไปหาแนวโน้มทิศทางของทางนั้นไว้ คุณเตรียม
ตัวให้พร้อมนะ”
สุดท้ายแล้วคนที่จะต้องทำคะแนนและผลงานออกมา
ให้ดีที่สุดก็ยังคงต้องเป็นเธอ
“ได้ค่ะ”
ในขณะนั้นทางด้านพี่นัฎก็กำลังให้ความสนใจกับข่าว อยู่ หลังจากที่ทางผู้จัดจัดงานแถลงข่าวไปสองชั่วโมง แล้วนั้น บนอินเตอร์เน็ตก็เริ่มมีข่าวปรากฏออกมาอีก
แบ่งออกเป็นสองประเด็น โดยประเด็นแรกยังคงตั้ง คำถามกับความบริสุทธิ์ใจนี้ของทางผู้จัด คิดว่าในวงการ นี้สถานการณ์กำลังยุ่งเหยิงและวุ่นวาย และยังคิดว่าสิ่ง ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้เป็นเพราะจิดาภาเสแสร้งแสดงขึ้นมา ส่วนอีกประเด็นหนึ่งก็เป็นของกลุ่มแฟนคลับที่สนับสนุน จิดาภา พวกเขาตั้งกลุ่มแฟนคลับซึ่งมีสมาชิกถึงสาม หมื่นกว่าคน พวกเขาเหล่านี้สนับสนุนจิดาภามาตลอด เส้นทางของเธอ เข้าใจว่าจิดาภาเป็นนักแสดงที่มีความ สามารถจริงๆ และจะอยู่คอยกับเธอและเดินออกมาจาก สถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้ไปพร้อมๆกัน
พี่นัฏได้รับสายจากนักข่าวคนนั้น เขาบอกว่าเขาจะไม่ เอาหลักฐานพวกนั้นให้กับพวกเธอ แล้วยังบอกอีกว่า อย่าให้จิดาภาเล่นลูกไม้อะไรอีก เพราะอิทธิพลในวงการ นี้ของตัณฑลพวกเขาคงจะไม่ได้รับผลดีอะไรมากนัก
พี่นัฏรู้ว่าทางฝั่งนั้นคงจะรับเงินของตัณฑลไว้แล้ว จึง ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี
แต่สถานการณ์เช่นนี้ ก็ยังพอจะมีเรื่องดีๆอยู่บ้าง เนื่องจากทางฝั่งผู้จัดที่จัดการเรื่องทุกอย่างให้เป็นที่ กระจ่างชัดเจนแล้ว ทำให้ทางทีมงานภาพยนตร์ที่ก่อน หน้านี้มองจิดาภาไปในทางที่ไม่ดีแล้วนั้นโทรมาแสดง ความขอโทษกับทางผู้จัด ซึ่งนั่นก็หมายถึงว่าจิดาภาจะ ยังได้รับโอกาสในการแสดงภาพยนตร์ได้อีก และยังมี รายการทอล์คโชว์ที่เชิญให้จิดาภาไปออกรายการอีก ด้วย
“จิดาภา เธอจะไปไหม?” พี่นัฎเอ่ยถามความเห็นของ เธอก่อน ถึงจะจัดการเรื่องตารางของเธอได้ต่อ
“ไปค่ะ เวลาแบบนี้ควรจะออกงานบ้างน่าจะดีกว่า” เธอ หัวเราะออกมา “พี่นัฏ ฉันฝากพี่จัดการให้ด้วยนะคะ”
พี่นัฏตอบรับกลับไป แล้วตกลงเรื่องเวลากับทางฝั่งนั้น เรียบร้อย วันพรุ่งนี้ตอนบ่ายอัดรายการ และรายการจะ ออกอากาศในวันมะรืน
ธรรมเนียมของรายการนี้ จะเชิญศิลปินดารามาเป็นแขก รับเชิญ ซึ่งพี่นัฏเองก็รู้สึกกังวลอยู่บ้างกับแขกรับเชิญ ที่จะมาร่วมรายการกับจิดาภา กลัวว่าจะส่งผลกระทบกับ เธอ จึงไปสืบหาข้อมูลมา พบกว่าหนึ่งในนั้นมีศิลปินของ โอเลอยู่ด้วย
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันจัดการเรื่องนี้เองได้”
“แต่…” พี่นัฏยังคงรู้สึกกังวล
“ฉันเข้าใจค่ะ ตอนนี้ด้านนอกกำลังให้ความสนใจกับ เรื่องข่าวลือนี้ พิธีกรคงจะต้องถามถึงเรื่องพวกนั้น แต่ก็ ถือเป็นโอกาสที่ดีนี่คะ”
เธออยากจะไปอยู่บนเวทีเช่นนี้ เพื่อพูดในสิ่งที่ตัวเธอ ต้องการบ้าง
เมื่อเห็นว่าจิดาภายังคงยืนยันที่จะไปเช่นนั้น พี่น้ฏจึงไม่ ได้ขัดขวางอะไรเธออีก และในตอนบ่ายของวันถัดไป พี่ นัฎพาจิดาภามายังสถานีโทรทัศน์ก่อนเวลา
แต่เมื่อพอจอดรถ ก็ได้รับโทรศัพท์จากทางผู้กำกับ
รายการ
“ทำไมพวกคุณยังไม่มากันอีก รอแค่พวกคุณอยู่ตอนนี้!” ปลายสายอารมณ์เดือดดาล
พี่นัฏอึ้ง แล้วมองเวลา “อีกครึ่งชั่วโมงถ่ายทำไม่ใช่หรือ คะ?”
“ศิลปินไม่ต้องมาเปลี่ยนชุด ดูสถานที่ก่อนหรือไง? ทำไมพวกคุณถึงไม่เป็นมืออาชีพกันเลย ถ้าการถ่ายทำ ยึดเวลาออกไป พวกคุณจะรับผิดชอบไหม? ดีจริงๆ…”
ทางฝั่งนั้นยังไม่ได้วางสาย ก็หัวเราะกับคนที่อยู่ข้างๆขึ้น
ราวกับว่ากำลังอวดความน่าเกรงขามของตัวเองอยู่ อย่างไรอย่างนั้น
พี่นัฎสายหน้าด้วยความรู้สึกโมโห “จิดาภา พี่ว่าวันนี้คง ต้องเจอเรื่องปวดหัวอีกแน่ๆ”
จิดาภายิ้มออกมา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร แล้วกดปุ่มที่ลิฟต์ “อะไรจะเกิดถึงอย่างไรก็หนีมันไปไม่พันหรอกค่ะ”
ในเมื่อมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนแล้ว ก็ต้องทุ่มเทให้สุด กำลัง มิเช่นนั้นจะได้ไม่ต้องมาโทษตัวเองในภายหลัง
“เอาล่ะ เดี๋ยวพี่จะอยู่ข้างหน้าประตูนี้แหละ เกิดอะไรขึ้น ละก็ร้องตะโกนเรียกพี่ได้เลยนะ” พี่น้ฏหยิบกระเป๋าจาก เธอมา แล้วเอ่ยกระซิบบอกเธอ “ผู้ช่วยผู้กำกับคนเมื่อกี้ที่ โทรมาหาพี่นามสกุลฟู เธอระวังเขาหน่อยแล้วกัน”
“ได้ค่ะ พี่วางใจเถอะนะ นี่ไม่ใช่การสัมภาษณ์ครั้งแรก ของฉันซะหน่อย ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เชื่อฉันเถอะ” จิดา ภาส่งยิ้มออกมาให้พี่นัฏอย่างอ่อนโยน แล้วเดินเข้าไป พร้อมรองเท้าส้นสูงของเธอ เข้าไปยังด้านในสตูดิโอ
เมื่อเธอปรากฏตัว ผู้คนทั้งสตูหันมามองเธอเป็นสายตา เดียวกัน
แล้วตามมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเสียงหนึ่งดังขึ้น “ทำไมยังไม่ไปเปลี่ยนชุดอีก!”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ