ตอนที่78 โดนทิ้ง
ตอนที่ 78 โดนทั้ง
คำแถลงการณ์ของบริษัทเคเอฟนั้นนับว่าตรงไปตรง มา โจมตีไปยังที่ปิยาโดยตรง และเมื่อประกาศออกสู่ สาธารณะแล้ว ประเด็นนี้ก็ได้กลายไปประเด็นร้อนในการ ค้นหาติดอันดับหนึ่งไปในทันที
โพสนับไม่ถ้วนที่ให้กำลังใจบริษัทเคเอฟ
“นี่สิถึงจะเป็นบริษัทชั้นนำในวงการบันเทิง เพียงแค่ ออกตัวมา ก็ไม่มีพื้นที่ให้ที่ปินาได้ยืนอยู่แล้ว”
“ต่อไปหากใครกล้าที่จะร่วมงานกับที่ปินาล่ะก็ จะเจอ ทางตันแน่ๆ ศิลปินที่อยู่ในการดูแลของเธอนั่นก็ถือว่า ช่วยมากพอแล้ว”
“เห็นมีคนแบล็กเมล์เธอ ว่าตอนที่เธออยู่ต่างประเทศก็ เป็นเพราะใช้วิธีแบบนี้แหละจึงถูกบริษัทนั้นระงับงานเธอ
ไป”
“น่าโมโหจริงๆ ต้องให้เขาโดนแบบนี้แหล่ะ ให้วงการบันเทิงสะอาดขึ้นเสียหน่อย เราสนับสนุนเคเอฟ! สนับสนุนจิตาภา!”
ที่ปินาไม่กล้าอ่านคำวิพากษ์วิจารณ์ในอินเตอร์เน็ต เธอขังตัวเองไว้ในออฟฟิศของเธอ ทำลายข้าวของ กระจัดกระจายไปหมด ปากก็ด่าว่าแต่จิดาภา
ชีวิตของเธอพังลงแล้ว ทุกคนรู้หมดแล้วว่าเธอเคยทำ อะไรไว้บ้าง จะลบล้างอย่างไรก็คงไม่ออก
“พี่ เปิดประตูให้ผมเข้าไปหน่อย เราช่วยกันคิด เดี๋ยวก็มี ทางแก้ปัญหานี้ได้ พี่ทำแบบนี้ มันจะมีประโยชน์อะไร?” ชเยศเคาะประตู แล้วเอ่ยเกลี้ยกล่อมเธอ
“มันยังจะมีทางแก้อีกหรือ?” ที่ปินาหัวเราะออกมา
ราวกับคนเสียสติ
เธอคิดไม่ออกเลยว่าหากเธอไม่ได้เป็นผู้จัดการที่ ทำงานอยู่ในวงการนี้แล้ว อย่างเธอจะยังสามารถทำงาน อะไรได้อีก? เธอเคยชินกับการได้อยู่ท่ามกลางแฟชั่น เคยชินกับการใส่เสื้อผ้าแพงๆใช้กระเป๋าแบรนด์เนม แต่ ตอนนี้เธอกำลังจะสูญเสียทุกอย่างไปจะให้เธอยอมรับกับสภาพเหล่านี้ได้อย่างไรกัน
ชเยศถอนหายใจออกมา กำลังจะเกลี้ยกล่อมเธอต่อนั้น ที่ปืนก็เปิดประตูออกมาเสียก่อน
“ชเยศ ที่แกพูดมาก็ถูก ฉันมีแค่แกเท่านั้นเป็นที่พึ่ง ฉัน จะเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ แกไปขอร้องจิดาภา ไปขอให้ เขากลับมาหาอยู่ข้างๆแกเหมือนเดิม เพียงแค่จิดาภาย อมพูดกับนักข่าวให้ฉัน อาจจะยังพอเหลือพื้นที่ให้ฉันได้ ยืนอยู่บ้าง!”
“ผม…” ชเยศมองไปยังทีคน ไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไร
ดี
หากสมมติว่าเขากับจิดาภายังคบกันอยู่นั้น เรื่องพวกนี้ก็ คงจะไม่เกิดขึ้น
ที่ปินาหยิบมือถือขึ้นมา แล้วกดโทรออกเบอร์ของจิดา ภา ราวกับรีบจับยึดฟางเส้นสุดท้าย โอกาสสุดท้ายที่ สามารถจะช่วยเธอไว้ได้ เมื่อได้ยินเสียงปลายทางรับ สาย เธอก็ร้องไห้ออกมาแล้วรีบขอให้จิดาภายกโทษให้เธอ
“ฉันผิดไปแล้ว ฉันผิดไปแล้วจริงๆ จิดาภา คุณช่วยฉัน ด้วยนะ..”
“จะให้ฉันช่วยอย่างไร?” จิดาภาเอ่ยถามกลับด้วยน้ำ เสียงเย็นชาเช่นเคย
“ช่วยแก้ข่าวให้ฉันที บอกกับทุกคนว่านี่เป็นแค่เรื่อง เข้าใจผิด คุณมีเงื่อนไขอะไรฉันจะตอบตกลงทุกอย่าง คุณชอบชเยศไม่ใช่หรือ? ฉันจะให้ชนิศาออกจากsj แล้ว ให้ชเยศกลับมาคบกับคุณใหม่ ยังมีอีกนะ สิ่งที่คุณอยาก ได้ในบริษัทนี่ฉันก็ให้คุณทั้งหมดเลย ดีไหม?”
เธอไม่ใช่ผู้จัดการผู้แสนเย่อหยิ่งอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้ เธอกลับน่าสงสาร น่าเวทนาเสียเหลือเกิน
“ถ้าคุณรู้สึกว่ามันยังไม่พอ คุณต้องการอะไร คุณบอก
ฉันได้เลย”
“เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องธุรกิจ หรือถึงแม้ว่าใช่ คุณก็ไม่สามารถต่อรองแล้วมาคุยเรื่องเงื่อนไขอะไรกับฉันแบบนี้ ถ้าหากว่าทุกอย่างมันเป็นไปตามแผนของคุณ คนที่โดน โจมตีเป็นฉันแทน คุณจะทำอย่างไรคะ?
“ไล่ให้ฉันออกจากบริษัทเพื่อเป็นการไว้หน้ากันอย่าง นั้นหรือคะ?
“คุณที่ปืน ที่คุณต้องมาตกอยู่ในสภาพนี้ นั่นเป็นสิ่ง ที่คุณทำตัวคุณเองทั้งนั้น ไม่มีใครช่วยคุณได้ ที่คุณมา ขอร้องฉันตัวคุณเองก็ไม่ได้เต็มใจ และในใจของคุณเอง ก็ยังคงเกลียดฉันอยู่ดี”
“สิ่งที่คุณทำกับฉัน ครั้งนี้ถือว่าเราชดใช้กันหมดสิ้นแล้ว นะคะ ต่อจากนี้ไปเราต่างคนต่างอยู่แล้วกันนะคะ”
ที่ปืนได้ยินเสียงวางสายของเธอไป มือไม้หมด เรี่ยวแรง คำพูดของชเยศที่ดังอยู่ข้างๆหูเธอนั้นแต่เธอ กลับไม่ได้ยินอะไรเลย ในหัวของเธอมีแต่คำพูดของจิดา ภาลอยอยู่เต็มไปหมด
และนี่ก็คงเป็นจุดจบของเธอแล้วจริงๆ
ไม่มีแม้โอกาสที่จะลืมตาอ้าปากได้อีก และยิ่งเป็นการ ทำลายอาชีพของตัวเองลงอย่างไม่มีชิ้นดี
และสิ่งที่จะยิ่งทำให้เธอไม่สามารถเผชิญหน้ากับมัน ได้นั้นกำลังจะตามมา หลังจากนั้นเพียงหนึ่งชั่วโมง ผู้ บริหารของsjได้จัดการประชุมด่วนขึ้น เพื่อเป็นการหลีก เลี่ยงการปะทะกันกับบริษัทเคเอฟ พวกเขาจึงตัดสินใจที่ จะไล่ที่ปินาออกจากบริษัท
“จะเขี่ยฉันทั้งอย่างนั้นหรือ?” ที่ปินาได้สติแล้วจึงฉีก เอกสารประกาศในมืออย่างไม่เป็นชิ้นดี แล้วมองจ้อง มองไปยังพวกเขา “ฝันไปหรือเปล่า ! ตอนนี้ฉันกลายเป็น อุปสรรคของพวกคุณแล้ว เลยคิดจะถีบหัวส่งให้ฉันออก ไปจากที่นี่อย่างนั้นหรือ?”
“พี่ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาใช้อารมณ์ตัดสินปัญหาแบบ นี้ พี่ก็รู้ความสามารถของพวกเคเอฟ ตอนนี้เราต้องคิด เพื่อบริษัทของเราสิ” ชเยศแสดงอีกมุมหนึ่งออกมาเมื่อ อยู่ต่อหน้าคนอื่นๆ รอให้พวกเขาออกไปจากออฟฟิศ ก่อนแล้วเขาค่อยปลอบใจที่ปินาอีกทีหนึ่ง “ตอนนั้นพี่ กลับมาก็เพื่อจะมาช่วยผม ไม่มีใครคิดหรอกว่าเรื่องจะ กลายมาเป็นแบบนี้ พี่ฟังผมนะ พี่ไปอยู่ต่างประเทศก่อน ซักระยะนึง รอจนให้เรื่องพวกนี้ซาลงก่อน แล้วผมจะไปรับพี่กลับมา”
เมื่อที่ปีนาได้ยินดังนั้นยิ่งทำให้เธอร้อนรน “แม้แต่แกก็ ฟังพวกเขาอย่างนั้นหรือ? ฉันเป็นพี่สาวแกนะ!”
“พี่อย่าเพิ่งใจร้อน ถึงอย่างไรผมก็อยู่ข้างพี่อยู่แล้ว”
“แกคิดว่าฉันเป็นพวกที่หลอกง่ายเหมือนพวกผู้หญิง ของแกอย่างนั้นหรือ? ชเยศแกใจร้ายมาก เกิดเรื่องขึ้น มาตัวเองก็กลายเป็นคนบริสุทธิ์ แกทำแบบนี้ได้อย่างไร กัน! ”
“เคเอฟรู้ว่าฉันเองก็เป็นผู้อำนวยการคนหนึ่ง แม้ว่าพวก คุณจะไล่ฉันออกไป พวกเขาก็คงไม่ปล่อยพวกคุณไป หรอก นอกจากจิดาภา คนที่sjจะต้องได้รับผลกระทบกัน ทั้งหมด รวมทั้งแกและชนิศาด้วย!”
“ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ฉันจะรอดูแกกับชนิศาว่าจะถูก เคเอฟจัดการอย่างไร!”
หากเป็นอย่างที่ที่ปินากล่าวมานั้น เรื่องนี้คนที่จะไม่ได้ รับผลกระทบอะไรเลยก็คือจิดาภา หรือแม้กระทั่งอาจจะเป็นเพราะเรื่องนี้กลับเพิ่มชื่อเสียงให้เธออีกเสีย
ด้วย
และส่วนบริษัทเคเอฟนั้นก็ยังคงตำแหน่งสูงสุดของ วงการนี้ไว้ ถือว่าเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
ในขณะนั้นที่ออฟฟิศของจิรภาส สงบเงียบยิ่ง นัก ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขามองไปยังหน้าจอ โทรศัพท์มือถือ ที่มีข้อความจากจิดาภาส่งมาหาเขา
“ฉันมาถึงร้านกาแฟด้านล่างบริษัทคุณแล้วนะคะ”
มุมปากของเขาปรากฏรอยยิ้มขึ้น แล้วจึงรีบปิดเอกสาร ลงทันที
เลขาของเขาเดินเข้ามา และเมื่อเห็นว่าจิรภาสกำลังจะ เดินออกไปนั้น เธอจึงเอ่ยทักขึ้น “คุณจิรภาสคะ ตอนบ่าย คุณยังมี”
“เลื่อนออกไปก่อน” เขาพูดทิ้งไว้แค่นั้น แล้วเดินตรง เข้าไปในลิฟต์ ในสายตาของเขาแล้ว ไม่มีอะไรสำคัญ ไปกว่าจิดาภาอีกแล้ว
เขารีบมายังร้านกาแฟ กวาดตามองไปเพียงแวบเดียว เขาก็เห็นจิดาภาที่นั่งรอเขาอยู่ตรงมุมหนึ่งของร้าน ใส่ แว่นตากรอบโลหะเปลี่ยนทรงผมใหม่ แต่ดูแล้วเหมือน กำลังมีเรื่องไม่สบายใจอยู่
“ผมขอนั่งด้วยคนได้ไหมครับ?” เขาถือกาแฟสองแก้ว เดินมาข้างๆจิดาภา
เมื่อได้ยินเสียงคุ้นหู จิดาภาจึงเงยหน้าขึ้นมามองแล้ว เอ่ย “นั่งสิคะ”
จิรภาสขมวดคิ้วแล้วเอ่ยถามเธออย่างสงสัย “ไม่ดีใจ
หรือ? เป็นอะไรไป?”
“ไม่มีอะไรค่ะ….”จิดาภาก้มหน้ามองแก้วกาแฟที่เขาถือ มา แล้วเอ่ยถามอย่างลังเล “เรื่องของที่ปินาในครั้งนี้ไม่ ได้สร้างความวุ่นวายให้คุณใช่ไหมคะ?”
เมื่อครู่เธอได้ยินพนักงานของเคเอฟคุยกัน ว่าจิรภาส กับพวกกรรมการบริษัทมีเรื่องไม่พอใจระหว่างกันเล็ก
น้อย
การแถลงการณ์ของเคเอฟมีเอ่ยถึงชื่อของจิดาภา แม้ จะเป็นเจตนาของจิรภาสที่ต้องการจะแสดงออกมาเช่น นั้น แต่พวกกรรมการของบริษัทกลับคิดว่าไม่จำเป็นจะ ต้องทำเช่นนี้ สำหรับพวกเขาแล้ว เพียงแค่ตักเตือนที่ปิ นาก็เพียงพอแล้ว
นั่นเป็นเพราะบุคคลภายนอกยังไม่มีใครรู้ว่าจิดาภาเป็น ภรรยาของจิรภาส
“คุณไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น เรื่องพวกนั้นผมจัดการได้ อยู่แล้ว”
ไม่ว่าจิดาภาจะได้ยินอะไรมา จิรภาสเองก็ไม่อยากให้ เธอต้องคิดมากหรือรู้สึกกังวล
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ