ตอนที่ 162 ไม่มีวันหักหลัง
ตอนที่ 162 ไม่มีวันหักหลัง
พี่นัฎได้ยินผู้จัดการของภารดีตะโกน เรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงโมโหเช่นนั้น มาเป็นครั้งที่17แล้ว เธอมองดูเวลา ตอนนี้เป็นเวลา19.35น. ตอนนี้จิดาภา คงจะกำลังเตรียมตัวอยู่ในห้องแต่งหน้า เรียบร้อยแล้ว
เธอตั้งใจและละเอียดรอบคอบ ภพธรจะ ต้องจัดการทุกอย่างได้
พี่นัฎจึงก้มหน้าแล้วเดินไปหยุดอยู่ตรง ด้านหน้าของการดี เธอให้กำลังใจตัวเอง เพียงแค่อดทนอีกสักหน่อยก็จะผ่านไป แล้ว!
“มีเรื่องอะไรหรือ?” “ยังจะมีหน้ามาถามฉันอีกหรือ? ฉันไม่ได้ ให้เธอไปซื้อกาแฟมาให้หรือรึไง? แล้วนี่ที่ ซื้อมาคืออะไรกัน? กาแฟสำเร็จรูป! คิดว่า ฉันเหมือนจิดาภาที่ไม่มีทั้งฐานะและจุดยืน จะดื่มอะไรแบบนี้อย่างนั้นหรือ?”
ภารดีถลึงตามองเธอ แล้วเทกาแฟแก้ว นั้นที่พี่นัฏเสียเวลาไปเป็นชั่วโมงเพื่อไป ซื้อที่ร้านกาแฟมาให้เธอนั้นทิ้งอย่างไม่มี ความเกรงใจ
พี่นัฎโดนเทราดกาแฟใส่ทั่วทั้งร่างกาย
ผู้จัดการส่วนตัวที่อยู่ข้างๆเอ่ยแทรกขึ้น มาด้วย “อย่าโมโหไปเลยเสียสุขภาพ เปล่าๆ ไม่คุ้มกันหรอกกับคนแบบนี้…ฉัน ว่าโทรบอกคุณญาณินีเสียหน่อยดีกว่า บอกเธอหน่อยว่าเขาไม่กระฉับกระเฉง เอาเสียเลย ดูซิว่าคุณญาณินีจะจัดการ อย่างไร” “อย่า!” พี่นัฎตะโกนออกมาด้วยความ ตกใจ เลี่ยงไม่ได้ที่จะก้มหัวเอ่ยขอโทษ ภารดีออกไป “ขอโทษค่ะ ฉันไม่ดีเอง เดี๋ยวจะไปซื้อให้ใหม่เดี๋ยวนี้เลยค่ะ”
เมื่อพี่นัฎพูดจบแล้วก็จะวิ่งออกไป
“เดี๋ยว!” ภารดีถอยหลังแล้วนั่งลง แล้ว ยกเท้าขึ้นมา “ฉันรู้สึกว่ารองเท้าฉันจะ เลอะกาแฟนะ แล้วจะไปพบกับเจ้าของ แบรนด์ทางนั้นได้อย่างไรกัน เธอช่วยฉัน เช็ดให้สะอาดก่อน แล้วค่อยไปซื้อกาแฟ
“ผู้ช่วยของจิตาภาเหมาะกับการเช็ด รองเท้าให้ภารดีเท่านั้นแหล่ะ!”
พวกเขาไม่เพียงแต่ดูถูกเธอ กลับยังลาก จิดาภาเข้ามาเกี่ยวอีกเสียด้วย
ทางทีมงานที่เดินผ่านไปมาแถวนั้นพา กันหันมามองทางนี้ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกัน
แน่!
นั่นไม่ใช่ผู้ช่วยของจิดาภาหรอกหรือ?”
ทำไมถึงมาอยู่กับภารดีได้ล่ะ ดูเหมือน ว่าเธอกำลังจะร้องไห้แล้ว…
“เรื่องในวงการแบบนี้ อย่าเดามั่วเลย ระวังจะเป็นการจุดไฟใส่ตัวเองเสีย เปล่าๆ!”
ไม่มีใครกล้าพูดช่วยพี่นัฏ พี่นักอดทนกับ ความทุกข์นี้ แล้วคุกเข่าลง แต่ตอนที่เธอ เพิ่งจะเอากระดาษทิชชูเช็ดไปที่รองเท้า ของการดีนั้น กลับถูกผู้จัดการของเธอทั้ง ข้อมือไว้ แล้วเอ่ยด้วยเสียงดัง “เธอบ้า หรือเปล่า? รองเท้าคู่นี้หลายหมื่นนะ ใช้ เสื้อของเธอเชิดสิ!” ภารดีหัวเราะออกมาด้วยท่าทางอวดดี แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา “อา…อยากจะถ่ายรูปท่าทางแบบนี้ของ เธอเก็บไว้ แล้วส่งไปให้จิดาภาดูจริงๆ ดูซิ ว่าเธอจะมีปฏิกิริยาเป็นแบบไหนกัน!”
“คุณ….พี่นัฏกัดฟัน แล้วใช้แขนเสื้อของ ตัวเองเช็ดรองเท้าให้กับภารดี
ซึ่งจริงๆแล้วบนรองเท้าของเธอนั้นไม่ได้ เปื้อนกาแฟเลยแม้แต่นิดเดียว พวกเธอ ตั้งใจพูดเช่นนี้ออกมา
เซ็ดเสร็จแล้ว ฉันไปซื้อกาแฟก่อนแล้ว กัน” พี่นัฎไม่อยากจะอยู่ที่นี้แม้แต่วินาที เดียว เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้
“ฉันไม่อยากกินกาแฟแล้วล่ะ รองเท้าคู่นี้ ฉันก็ไม่ชอบแล้วด้วย เธอไปที่รถแล้ว หยิบคู่ใหม่มาให้ฉันที” ภารดียิ้มออกมา อย่างถือตัว
พี่นัฏทำได้เพียงทำตามคำสั่งของเธอ
ผู้จัดการของการดีปรากฏรอยยิ้มอันแสน ชั่วร้าย “วางใจได้ ทุกอย่างเตรียมไว้หมด แล้ว”
หลังจากนั้นห้านาที ภารดีสั่งให้พี่นัฎสวม รองเท้าให้เธอ และจากนั้นเธอก็ร้องเสียง ดังขึ้น แล้วถีบ นักออกไป
ขณะนั้นที่ทางแบรน์ต้นสังกัดที่ใกล้จะ เดินทางมาถึงแล้ว ส่วนสถานที่ในการถ่าย ทําคนก็เริ่มจะเยอะขึ้น พวกเขาล้วนแต่ เห็นพฤติกรรมของภารดีดารา ภาพยนตร์ระดับนานาชาติกันหมดแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้มาเห็นละครที่กำลัง ทรมานคนอื่นเช่นนี้ คนที่กําลังถูกทรมานอยู่นั้นเป็นผู้ช่วย ของจิดาภาศิลปินในสังกัดเดียวกับเธอ นั่นเอง
“ทําไมเธอถึงได้ร้ายกาจถึงเพียงนี้ นี่ แอบใส่ตะปูไว้ในรองเท้าฉันอย่างนั้น หรือ!” ภารดีจ้องหน้าเธอ แล้วดวัดมือใส่ หน้าพี่นัฎไปหนึ่งที
ผู้จัดการที่ยืนอยู่ข้างๆหยิบรองเท้าขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ “ตะปูหนาขนาดนี้ นี่ถึงกับ จะทําร้ายกันให้ตายเลยหรือไง! จิดาภาสั่ง ให้เธอทำแบบนี้ใช่ไหม!” แล้วเธอ ก็ตบตีพี่นัฎไปอีกหนึ่งที่
พี่นัฎยังคงกัดฟันอดทนความเจ็บปวดนี้ ไว้ “ฉันเปล่า…”
เช่นนี้ยิ่งทำให้คนที่อยู่รอบๆมีจำนวนเพิ่ม มากขึ้น “ฉันไม่ได้เอาไปใส่ ฉันไม่รู้ตั้งแต่แรก ด้วยซ้ำว่าในรองเท้ามีตะปูอยู่” พี่นัฎกุม หน้าด้านซ้ายของตัวเองไว้ แล้วอธิบาย อย่างเคร่งเครียด “ฉันหยิบมาก็เป็นแบบนี้ อยู่แล้ว!”
ผู้จัดการสบตากับภารดี แล้วโยนรองเท้า ไปตรงหน้าของพี่นัฏ “เรื่องนี้ไม่จบแน่ รีบ ขอโทษการดีชะ คุกเข่า ขอโทษ!”
“ ถ้าไม่อย่างนั้นเธอก็ใส่รองเท้าคู่นี้ซะ!
ข้างในมีตะปูตัวยาวขนาดนั้นอยู่จะใส่ได้ อย่างไร?
พวกเขาแสดงออกมาอย่างชัดเจนว่า
ต้องการทรมานเธอ! ทางทีมงานที่ล้อมดูกันอยู่นั้นบางคนก็ เห็นใจ ส่วนบางคนก็ดูคึกคักสนุกสนาน บางคนก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่าย ไว้…แต่ไม่มีเลยสักคนที่จะพูดช่วยเธอ ทุก คนล้วนแต่ไม่อยากหาเรื่องใส่ตัวเอง ใน วงการนี้ ศิลปินคิดจะทําร้ายศิลปินด้วย กันเองนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่กับผู้ ช่วยนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากเช่นกัน
อีกทั้งจิดาภานั้นเป็นศิลปินที่เพิ่งจะเซ็น สัญญากับโอเล เธอจะมาหักหน้าการดึ เพื่อผู้ป่วยเพียงเดียวได้อย่างไรกัน?
“พี่นัฎ คุกเข่าลงสิ”
“ขอโทษ… ฉัน” พี่นักกลืนคำพูดลงไป น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้กลับไหลออกมา
เธอรู้สึกละอายใจ ต่อหน้าภารดี เธอไม่ สามารถจะต่อต้านอะไรได้เลย เพื่อน้อง ชายของเธอ เพื่อจิดาภา เธอจําเป็นต้อง อดทน
เพียงแต่ไม่รู้ว่าใครที่ผลักเธอจากด้าน หลัง ทําให้เธอต้องคุกเข่าลงตรงหน้าของ ภารดี!
ผู้คนที่อยู่รอบๆเริ่มมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ กันออกมา เขาก็ขอโทษแล้วไง คุกเข่าลง แบบนี้มันดูจะ….”
ถึงอย่างไรพี่นัฎก็เป็นผู้ช่วยของจิดาภา ภารดีลงมือกับเธอแรงเกินไปจริงๆ หรือ บางทีเธอคงจะตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกแล้วที่ จะกลั่นแกล้งให้พี่นัฎไม่มีกำลังใจในการ ทํางานอีกต่อไป
ผู้หญิงคนนี้ได้รับคำสั่งจากจิดาภา ให้ วางตะปูไว้ในรองเท้าของภารดี นี่เป็นการ
ตั้งใจจะทําร้ายเธอนะ!” ทางด้านเจ้าของแบรนด์ที่มาถึงพอดีและ ได้ทราบเรื่องนี้แล้วนั้น จึงรีบเข้ามา แล้ว เกลี้ยกล่อมพวกเขา “ถ้าอย่างนั้นช่างมัน เถอะนะ”
“ไม่ค่ะ เขาไม่เพียงแค่จะต้องคุกเข่าลง แบบนี้เท่านั้น แต่จะต้องคุกเข่าแบบนี้ไป อีก 1 ชั่วโมง ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่ถ่ายทำ โฆษณา พวกเราก็ดึงเวลามันไปแบบนี้ ก็แล้วกัน” ภารดีแสดงท่าทีออกมาอย่าง ชัดเจน และก็ไม่ไว้หน้ากับทางเจ้าของ แบรนด์เลยเสียด้วยซ้ำ
คนที่ยืนดูรอบๆต่างพากันตกใจ ดูแล้ววัน นี้ภารดีคงจะไม่วางมือง่ายๆอย่างแน่นอน
ผู้ช่วยของจิดาภาคนนี้ช่างน่าสงสารเสีย เหลือเกิน…
พี่นัฎก้มหน้าลง น้ำตาไหลลงมาโดยไม่มี เสียงใดๆ มือของเธอสั่นเทาไปหมด…
แม้ในเวลานี้ เธอเองก็ไม่เสียใจกับการ ตัดสินใจของเธอ เพราะมิเช่นนั้นแล้วคนที่ จะได้รับความอัปยศเช่นนี้คงจะเป็นจิดาภา ไปแล้ว
เธอเพียงต้องการให้จิดาภาได้สัมภาษณ์ ไปอย่างราบรื่น จัดการกับญาณินี้ให้ได้!
ผู้รับผิดชอบของเจ้าของแบรนด์นั้นสาย หน้า และเตรียมตัวกำลังจะตอบกลับไป ก็ มีคนตะโกนขึ้นมา “จิดาภา คุณจิดาภามา แล้ว!”
กลุ่มคนที่ยืนอยู่นั้นต่างพากันแหวกทาง ให้กับเธอ เห็นเพียงเธอสวมชุดกระโปรง สีดำ แล้วสวมทับด้วยเสื้อคลุมสีเขียวเข้ม เธอจ้องมองไปยังผู้จัดการของการดีอย่าง โมโห แล้วพลิกฝ่ามือลงไปบนใบหน้าของ ผู้จัดการของการดีหนึ่งที แล้วใบหน้าของ เขาก็ค่อยๆปรากฏรอยแดงขึ้น…
ได้เห็นจิตาภาที่ใช้แรงมากขนาดน้
แต่นี่ยังไม่เพียงพอที่เธอจะช่วยพี่นัฎแก้ แค้นได้!
คนที่เดิมทีควรจะปรากฏตัวอยู่ในรายการ สัมภาษณ์ แต่ตอนนี้กลับมาปรากฏตัวอยู่ ที่นี่ ทําให้ทุกคนต่างพากันตกตะลึง เธอ มาเพื่อแก้แค้นให้ผู้ช่วยของเธออย่างนั้น หรือ?
เนื่องจากว่าจิดาภาไม่ได้มาเพียงคน เดียว ด้านหลังของเธอนั้นยังมีบอร์ดี้การ์ด ต่างประเทศอยู่อีก4คน และผู้จัดการส่วน
ตัวของเธอภพธร
เหตุการณ์เงียบสนิท… ท่าทางของจิดาภานั้นเย็นชามาก แววตา ของเธอเต็มไปด้วยความโกรธแค้น ทำให้ ไม่มีใครกล้าที่จะสบตากับเธอ
ผู้จัดการของภารดีที่โดนเธอดบหน้าต่อ หน้าผู้คนมากมายเช่นนี้ รู้สึกโมโหจนพูด ไม่ออก ด้วยท่าทางของจิดาภาเช่นนั้น ทําให้เขาต้องก้าวถอยออกมา
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ