ตอนที่ 114 คนที่กลับมาอย่างไม่คาดคิด
“ผมมองไม่ผิดแน่” คมสรทิ้งท้ายไว้ประโยคนั้น แล้วจึงรีบเดิน ตามพวกญาณินีเข้าไปในห้องประชุม
ไม่ว่าวันนี้ญาณินี้จะทำอะไร พวกเขาจำเป็นต้องยอมรับมันโดย ไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น
นี่เป็นเพียงแค่การประชุมประจำสัปดาห์ของบริษัทโอเลเพียง เท่านั้น จงกลเดินเข้ามาในห้องประชุมเป็นคนสุดท้าย พบว่าผู้ บริหารระดับสูงมากันเกือบจะครบองค์ประชุมแล้ว รวมแม้กระทั่ง ประธานคณะกรรมการคนก่อนสองท่านนั้น
สรุปแล้ว..
เธอมองไปยังข้างกายญาณินี้ ก็พบกับใบหน้าที่คอยปรากฏอยู่ใน ความฝันร้ายของเธออยู่บ่อยๆ
เธอเกือบจะยืนทรงตัวแทบไม่อยู่ โชคดีที่คมสรรั้งตัวเธอไว้ได้ทัน “นั่งตรงนี้ก่อน”
“อา…ค่ะ” เธอนั่งลงอย่างสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แล้วไม่กล้าที่จะ
เงยหน้าขึ้นมองอีกเลย
เธอรู้สึกได้ถึงความเย็นชา อีกทั้งสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียด ห้าปีก่อน ภพธรเป็นผู้จัดการระดับแนวหน้าของประเทศ ศิลปิน และวงที่เขาเป็นผู้ดูแลนั้นจะโด่งดังไปทั่วเอเชีย หรือแม้กระทั่งทั่ว โลกอีกด้วย เนื่องจากผลการทำงานของเขานั้นประสบความสำเร็จ เป็นอย่างมาก มีการให้ฉายาแก่เขา เพราะไม่ว่าจะเป็นคนธรรมดา แค่ไหน เพียงแค่ได้เจอกับภพธรเท่านั้นก็จะกลายเป็นศิลปินดังขึ้น มาได้ทันที
แต่ทว่าเป็นเพราะความสัมพันธ์ที่ไม่มีใครทราบแน่ชัดเปิดเผยออก มา ทำให้ชื่อเสียงของเขาเสียหาย ส่วนทางด้านศิลปินหญิงที่มีข่าว กับเขาก็เป็นโรคซึมเศร้า จนสุดท้ายแล้วเธอจึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย
คนที่ปล่อยข่าวนี้ ก็คือจงกลและคมสรนั่นเอง
ตอนนั้นพวกเขายังเด็ก ไม่ได้นึกถึงว่าจะส่งผลต่อชีวิตคนคนหนึ่ง เช่นนี้
เวลาผ่านมาหลายปีแล้ว จงกลเองก็ยังไม่เคยลืมเรื่องที่เกิดขึ้นใน วันนั้น โทรศัพท์มือถือของเธอได้รับข้อความเข้ามา
เธอรู้สึกกลัวภพธร ไม่รู้ว่าเขาจะมาแก้แค้นเธอเมื่อไหร่
“ทุกท่านคะ สำหรับหัวข้อการประชุมในครั้งนี้มีเพียงหัวข้อ เดียว นั่นก็คือยินดีต้อนรับคุณภพธรกลับมา และดำรงตำแหน่ง เป็นหัวหน้าผู้จัดการส่วนตัวของพวกเรานะคะ พวกเราทุกคนยินดี
ต้อนรับค่ะ” ได้สวย หากผมเข้ามา อาจจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นมาก็ได้นะครับ”
เขากล่าวอย่างมีความหมายแอบแฝงแล้วเดินออกจากห้องประชุม ไป
ญาณินีมองเขาที่เดินออกไปแล้ว เธอกลับไม่รู้สึกโกรธ ราวกับว่า เธอสามารถเดาได้ตั้งแต่แรกแล้วว่าผลจะออกมาเป็นเช่นนี้
“ไม่ว่าเมื่อก่อนจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ต่อไปบริษัทเราต้องการความ พยายามจากทุกคนสู้ไปด้วยกัน ฉันไม่อยากเห็นให้มาปะทะกันเอง ภายใน หวังว่าพวกคุณจะเข้าใจ”
“ค่ะ คุณญาณินี”
จงกลที่ตกใจเสียจนเครียดเมื่อครู่นี้เริ่มมีการผ่อนคลายลง ส่วน ทางด้านคมสรเองเขากลับรู้สึกว่าคำพูดของญาณินีมีบางอย่างแฝง อยู่
“อีกเรื่อง คนใหม่สองคนที่เซ็นสัญญาจากstar plan เงื่อนไขไม่ เลวนะ แต่ลักษณะเฉพาะของตัวเองยังมีไม่พอ จะต้องฝึกฝนกันเสีย ใหม่
“คุณญาณินีครับ คุณคงไม่คิดจะให้ภพธรเป็นคนดูแลพวกเธอใช่
ไหมครับ?” คมสรเอ่ยถาม
เธอสายหน้า “ฉันไม่ได้คิดจะทำเช่นนั้น ภพธรอยู่ที่ต่างประเทศ จงกลและคมสรสบตากัน ในขณะเดียวกันก็ยังคงรักษาความเงียบ
นั้นไว้
หลังจากนั้นสิบนาที
ญาณีนี้กลับมายังออฟฟิศ เห็นภพธรกำลังนั่งดื่มกาแฟอยู่ตรง โซฟา วางเอกสารลงแล้วให้เลขาออกไปด้านนอกก่อน
“ดูเหมือนว่าอารมณ์ของผู้จัดการภพธรนี้จะรุนแรงขึ้นนะคะ”
“คุณก็รู้ว่าผมไม่อยากเจอพวกเขา” ภพธรวางแก้วกาแฟลง แล้วลุก ขึ้นยืนอย่างกระฉับกระเฉง “ผมกลับมาก็เพื่อมาเผชิญหน้ากับคุณ หากผมจะทำอะไรพวกเขา ผมก็จะไม่ทำให้คุณลำบากใจแน่นอน กาแฟอร่อยมากครับ ผมขอตัวก่อน”
“เดี่ยวก่อน ฉันลงแรงไปขนาดไหนกว่าจะขอให้คุณกลับมาได้ คง ไม่ใช่เพราะจะเลี้ยงกาแฟคุณแค่แก้วเดียวหรอกนะ ตอนนี้ฉันมี ศิลปินใหม่คนหนึ่งที่อยากจะให้คุณเป็นคนดูแล”
“ผมไม่รับดูแลคนใหม่ๆหรอก ยุ่งยาก” ภพธรขมวดคิ้ว แต่เมื่อเห็น ญาณินีหยิบรูปถ่ายออกมานั้น เขาถึงกับอึ้งไป ริมฝีปากบางขยับ พีมพำออกมาจิดาภา?”
“คุณรู้จักเธอด้วยหรือ?” ญาณินียิ้ม “หรือว่าเป็นเพราะที่คุณสนใจ เธอเพราะเธอมีลักษณะนิสัยคล้ายกับวรมนกันคะ” เขาวางรูปถ่ายลง แล้วเดินถอยกลับเข้ามาแล้วยังคงรักษาความ
เงียบไว้เช่นนั้น
“คุณคงจะไปเร่ร่อนอยู่ข้างนอกเช่นนี้ไปตลอดชีวิตหรอกนะคะ ฉัน รู้ว่าคุณลืมเรื่องนั้นไม่ได้มาโดยตลอด แต่คนเราก็ต้องมองไปข้าง หน้า ฉันเชื่อว่าจิดาภาจะเป็นศิลปินที่คุ้มค่ากับการที่จะฝึกฝนและ ผลักดันเธอ”
“ฉันจัดงานเป็นBrand Ambassador ผลิตภัณฑ์ใหม่ของsnowไว้ ให้เธอ เย็นวันพรุ่งนี้มีนัดกับรองผู้อำนวยการของทางฝั่งเอเชีย นี่คือ งานแรกของคุณกับเธอ”
“ผมไม่คิดว่าเธอจะโดดเด่นอย่างที่คุณพูดไว้!”
ภพธรกวาดตามองไปยังรูปถ่ายของจิดาภา ไม่ได้เอาเรื่องนี้มา ใส่ใจเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วหันหลังเดินออกไปจากออฟฟิศของ ญาณินี แล้วทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง
เขาไม่ได้เป็นพนักงานของโอเลที่จะต้องมาเข้มงวดกวดขันเขา และเขาเองก็ไม่คิดรับช่วงการดูแลศิลปินหญิงคนไหนอีกเช่นกัน
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เป็นสาเหตุที่จะทำให้ส่งผลกระทบที่ไม่ค่อยดี
นัก
หลังจากที่เขาออกไปแล้วนั้น ญาณินีจึงติดต่อไปยังจิดาภา “ผู้ ฉันหาให้คุณได้ หากคุณได้รับความช่วยเหลือจากเขา จะมีผลดีกับ ทางเดินข้างหน้าของคุณเป็นอย่างมาก”
ไม่มีใครชอบที่จะอยู่ที่เดิมไปตลอดชีวิต หลังจากที่ญาณินีนัก แสดงหญิงที่ออกมาจากวงการแล้วอย่างเธอนั้น ยิ่งเข้าใจในความ ต้องการของจิดาภา
เธอจะต้องทำลายข้อจำกัดต่างๆของตัวเอง ถึงจะสามารถประสบ ความสำเร็จครั้งใหญ่ได้ และภพธรก็คือโอกาสนั้น
“ขอบคุณค่ะคุณญาณินี ฉันจะลองพยายามเข้าหาเขานะคะ” จิดา ภาตอบกลับไปอย่างมีมารยาท แต่จริงๆแล้วเธอไม่ได้อยากจะรั้งคน ที่ดูโอหังอวดดีอย่างนั้นไว้เลย เธอต้องการคนอย่างพี่เป็นเพื่อน ที่จริงใจต่อเธอ
หลังจากที่ฟังญาณินี้แนะนำภพธรแล้วนั้น เธอเองก็ไม่ได้รู้สึก สนใจเท่าไหร่นัก
“จิดาภา ฉันรู้ความคิดของคุณ นิสัยของคุณนั้นนิ่งเหมือนน้ำ แต่นี่ เป็นจุดอ่อนของคุณนะรางวัลนักแสดงหญิงยอดนิยมคุณก็ได้มา แล้ว ตอนนี้ยังมีโอเลที่เป็นเวทีสำหรับคุณอีก คุณจำเป็นต้องมีบันได ขั้นที่สูงขึ้น ความสามารถของคุณไม่มีปัญหาอยู่แล้ว คุณจำเป็น ต้องมีทั้งโอกาสและความนิยม
“ฉันคิดว่าความสามารถของคุณไม่ใช่จะหยุดอยู่แค่ตรงนี้ คุณ สามารถไปอยู่ในตำแหน่งศิลปินระดับนานาชาติได้ คุณเข้าใจใช่ ญาณินี้ไม่ชอบทำอะไรยึดยาด เมื่อได้ยินเธอแสดงความคิดเห็น เช่นนั้นออกมาตรงๆเช่นนั้นแล้ว จิดาภาซึมซับในสิ่งที่เธอพูด จริงๆ แล้วตัวเธอเองก็ไม่เหมือนศิลปินที่ยังอายุยังน้อยที่จะมีเวลาทนต่อ ไปได้เรื่อยๆ เธอจำเป็นต้องเดินเข้าไปให้ใกล้กว่าเต็มสิ
“ฉันเข้าใจค่ะ คุณญาณินี้”
หลังจากวางสาย จิตใจของเธอไม่สามารถสงบนิ่งได้เลย ในฐานะ นักแสดงคนหนึ่ง ญาณินีวางแผนทั้งหมดเพื่อเธอนั้นล้วนเป็นความ ฝันของเธอทั้งสิ้น อย่างไรก็ตามเธอจะต้องพยายามเพื่อเป้าหมาย ของตัวเอง ไม่ใช่เพียงแค่เพราะตัวเองเพียงเท่านั้น แต่ก็เพื่อให้ตัว เองได้ไปยืนอยู่เคียงข้างจิรภาสในตำแหน่งที่สูงขึ้นกว่านี้ได้อย่าง คู่ควรกับเขา
จิรภาสเดินมาจากทางด้านหลังแล้วโอบกอดเธอไว้ “เรื่องอะไรหรือ
ครับ?”
จิดาภาไม่เคยมีอะไรปิดบังเขาอยู่แล้ว จึงเล่าเรื่องที่ญาณินีคุยกับ เธอให้เขาฟัง แต่เมื่อจิรภาสได้ยินชื่อของภพธรแล้วนั้น แววตาลังเล ปรากฏออกมาให้เห็นได้อย่างชัดเจน
“ทำไมคะ? ผู้จัดการคนนี้ไม่ดีหรือคะ?”
จิดาภามองเธอด้วยความรู้สึกแปลกใจ ญาณินีไม่น่าจะให้คนที่ ไม่มีความสามารถมาอยู่ข้างๆเธอเช่นนี้ ข้างจะคือที่เขาไปอยู่ต่างประเทศนั่นก็เป็นเพราะเกี่ยวข้องกับ เรื่องที่ศิลปินหญิงที่เขาดูแลอยู่เธอเป็นโรคซึมเศร้าจนฆ่าตัวตาย เห็นว่าพวกเขามีความสัมพันธ์แบบคนรักกันนะครับ”
“อิ่ม?” จิดาภายิ้ม แล้วคล้องคอเขาไว้ “แล้วเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะคะ
ฉันมีสามีแล้วนะ”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ