รัก(ไม่)ร้ายของคุณชายมังกร

Ep.8



Ep.8

Ep.8

ก๊อก อกๆ ๆ

“เฮ้อ…ใคร” ราถอดหายใจเสียงดังก่อนจะเอ่ยถามคน ที่มาเคาะประตู

“ผมแบงค์เองครับคุณริว…ผมเอาข้าวต้มที่สั่งมาให้แล้วว ครับ”

“เข้ามา…ฉันไม่ได้ล็อกประตู”เมื่อริวอนุญาตแบงค์จึงเปิด ประตูเข้ามาทันทีก่อนจะชะงักไปนิดมื่อเห็นว่าซันนั่งพัก อกแกร่งของริวไว้ แบงค์แกล้งทำเป็นว่าไม่สนใจถึงแม้ เขาจะอยากรู้แต่ก็ไม่กล้าถามอะไร แบงค์วางข้าวเสร็จก็ ทําท่าจะเดินออกไปแต่ริวเรียกเขาไปก่อน

“เดี๋ยว…ถ้าถึงเวลาปิดผับแล้วขึ้นมาเรียกฉันด้วยฉันจะ นอนพักสักหน่อย” ริวพูดขึ้น

“อ๋อ..ครับ ได้ครับ” แบงค์รับคำสั่งก่อนจะเดินออกจาก ประตูไป

“ซันๆ ตื่นก่อน…ตื่นมากินข้าวกินยาก่อนแล้วค่อยนอน”ริว พูดปลุกซัน ร่างบางขยับตัวเล็กน้อยแต่ยังไม่ได้ลืมตาขึ้นมาแต่อย่างใด ริวจึงตบหน้าซันเบาๆ เป็นเชิง ปลุก ซันสงเสียงครางในลำคอเล็กน้อยก่อนจะค่อยปรือ ตามาริวอย่างช้าๆ

“อือออ..”ขันครางล่าคอเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นนั่งตรงแล้ว หันมามองหน้าริว

“นั่งตรงๆ เดี๋ยวพี่เอาข้าวเอายาให้กิน”พูดบอกก่อนจะ เอื้อมมือไปหยิบข้าวต้มที่วางอยู่ที่โต๊ะข้างเตียงแต่ถูกมือ

เรียวของซันดึงตัวริวไว้ซะก่อน

“ไม่กินได้ไหมครับ..ซันเจ็บคอจังเลย” ซันพูดบอกก่อน จะทิ้งตัวพิงอกแกร่งของริวอีกครั้งริวซะงักไปนิดที่ซันมา นั่งพิงเขาเองที่ทำให้เขาชะงักยิ่งกว่าคือการที่ซันเรียก แทนตัวเองด้วยชื่อมากกว่า

“อะ..เออ.พี่ว่าซันกินข้าวกินยาก่อนดีกว่านะกินเสร็จแล้ว จะได้พักผ่อนไง”

“ไม่เอาซันไม่กินมันเจ็บคอ..พี่ริวอย่าบังคับซันสิ” ซัน พูดบอกเสียงอ้อนพร้อมทำตาแดงๆ เหมือนนจะร้องไห้ ที่ จริงริวก็เคยได้ยินมาบ้างว่าบางคนเวลาไม่สบายนิสัยจะ เปลี่ยนบางคนก็อารมณ์อ่อนไหวกว่าปกติหรือบางคนอาจ นิสัยเหมือนเด็กและซันก็คงเป็นคนแรกที่เขาเจอในกรณี แบบนี้ที่ผ่านมาริวยังไม่เคยเฝ้าไข้ใครเลยทำให้ตอนนี้เขา คิดไม่ออกว่าควรจะพูดแบบไหนหรือทำอะไรดี

“เดี๋ยวชันนั่งรอพี่แป๊ปนึงนะ” ริวพูดบอกชันแล้วลุกไป หยิบโทรศัพท์แล้วกดโทรหาใครบางคนที่เขาคิดว่าน่าจะ พอช่วยเขาได้ ซันนั่งมองริวตาละห้อยก่อนที่น้ำตาจะไหล อาบแก้มสองข้างโดยที่ริวก็ยังไม่เห็น

“ (ฮัลโหล..ว่าไงมึงโทรมามีไร) ” ริวรอสายอยู่ไม่นาน แดนก็รับสาย

“พอดีกูมีเรื่องจะถามถึงอะ

“ (เรื่องไรวะ…แต่กูว่าคนเป็นเรื่องยากใช่ไหมเพราะคน อย่างมึงจะมีอะไรบ้างที่ทำไม่ได้) ”

“มันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร…กูแค่อยากรู้ว่าคนที่ไม่สบาย แล้วนิสัยเหมือนเด็กเนี่ยต้องทำยังไงถึงจะทำให้กินข้าว กินยาง่ายๆ วะ”

“ (ใครไม่สบายวะ…)

“กูถามให้มึงตอบไม่ต้องเสือกมาย้อนถามกู เร็วๆ กูรีบ

“ (อ้าวไอ้เวณ…มาขอให้กูช่วนดันมาด่ากูอัก…เออๆ มันก็ ไม่มีไรมากถ้าเขาป่วยแล้วนิสัยยเหมือนเด็กมึงก็ใช้ของที่เด็กๆ ชอบล่อดิวะแบบสัญญาจะพาไปเที่ยวไปกินไอติม ไรเงี้ยพูดจาดีๆกับเขาหน่อยก็ไม่น่ายาก) ” แดนพูดบอก

“เออๆ กูจะลองดูละกันแค่นี้แหละ”ริวพูดตอบก่อนจะกด วางสายไปโดยที่ไม่รอให้แดนพูดตอบอะไรเลย หลัง จาก คุยเสร็จริวเดินกลับเข้ามาในห้องก่อนจะชะงักอีกครั้งเมื่อ เห็นว่าร่างบางที่นั่งอยู่บนเตียงเขามีน้ำใสๆ อาบแก้มสอง ข้าง เขารีบเดินไปนั่งที่เตียงทันที

“ซัน!..เป็นอะไร.ร้องไห้ทำไมครับ” ริวพูดถามพร้อมเอื้อม มือไปปาดน้าตาให้ชันอย่างเบามือ

“อึก..ก็พี่ริวทิ้งให้ซันนั่งอยู่คนเดียว.อึก…พี่ริวจะทิ้งวซัน เหมือนที่พ่อกับแม่ทิ้งซันใช่ไหมครับ”ซันพูดบอกเสียงสะ อึ้นริวดึงซันเข้ามากอดทันทีพลางลูบหัวซันเบาๆ เป็นเชิง ปลอบ

“พี่แค่ไปคุยโทรศัพท์เองพี่ไม่ได้ทิ้งซันซะหน่อยอย่าร้อง เลยนะครับ”ริวพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนที่สุดเท่าที่เขา ทําได้ซันคลายสะอื้นลงเล็กน้อย

“จริงนะ…พี่จะไม่ทิ้งซันจริงๆ นะ”ซันดันตัวออกจากริว

“จริงครับ..พี่ไม่ทิ้งซันแน่นอนแต่ตอนนี้ซันกินข้าวกินยา ก่อนนะจะได้หายป่วยไง
ครับ…กินก็ได้ครับ” ซันคิดอยู่แป๊ปนึงก่อนจะตอบ ตกลง พอซันยอมรัวก็รีบหยิบข้าวต้มแล้วป้อนซันๆ กินไป ได้ครึ่งชามก็หยุดกิน ริวจึงหยิบยามาให้ซันคืนต่อก่อนจะ เช็ดตัวให้ซันหลังจากนั้นทั้งสองคนก็ล้มตัวนอนริวกอด ซันไว้แล้วไม่นานก็หลับตามไป

ทางด้านแบงค์หลังจากลงมาจากห้องของริว เขาก็คิดถึง เรื่องของริวกับซันว่าทำไมคนอย่างริวถึงให้ซันไปนอนพัก ในห้องแถมยังค่อยดูแลซันอีกกับพนักงานคนอื่นเวลาไม่ สบายริวก็มักจะให้ลากลับบ้านได้แล้วก็ให้เงินให้ไปหา หมอแต่กับซัน ริวกับดูแลด้วยตัวเอง แบงค์เดินไปคิดไป จนไม่ทันมองว่าพนักงานเสริฟคนนึงกำลังเดินมาทางเขา พร้อมถือต้มยำร้อนๆ มาด้วย

พริบ!

ปีก!

“เดินระวังหน่อยสิ”เสียงเข้มพูดขึ้นหลังจากที่ขว้าตัวของ แบงค์ให้เข้ามาที่ซับกับอกแกร่งของตัวเองเพื่อไม่ให้แบงค์เดินไปชนกับเด็กเสริฟที่ถืออาหารมา

แบงค์เงยหน้ามองเจ้าของเสียงเมื่อเมื่อเห็นว่าเป็นพรีม เพื่อนของริวแบงค์จึงต้นตัวออกจากออกจากกอดของ

“เออ ขอโทษครับ แล้วก็ขอบคุณมากนะครับคุณ พรีม”แบงค์พูดบอกพร้อมก้มหัวเล็กน้อยเป็นเชิงขอบคุณ

“กูเคยบอกแล้วไงให้เรียกพี่ไม่ใช่คุณ”พรึมพูดบอกเสียง

“ขอโทษครับ..แบงค์บอกเสียงแผ่ว พรีมถอนหายใจเล็ก

น้อย

“ว่าแต่วันนี้ไอ้ริวมันมาร้านปะ…กูโทรหามันแล้วมันไม่ติด

เลย”พรีมพูดถามขึ้น

“มาครับ…แบงค์พูดตอบพรีมพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะ ทำท่าเดินขึ้นไปหาริวแต่แบงค์จับแขนพรีมไว้พรีมหันหน้า มาหาแบงค์ทันทีเป็นเชิงถาม

“คือคุณริวเขาบอกว่าจะนอนพักนะครับผมว่าพี่พรีมอ ย่างพึ่งไปกวนคุณริวเลยนะครับ”แบงค์พูดขึ้นหลังที่ ปล่อยมือจากแขนพรีมแล้ว
“แอน? ตอนนี้เนี่ยนะ” พริ้มพูดถามอย่างงงๆ เพราะปก ตีวิวไม่เคยนอนที่ร้านไม่ว่าจะตอนที่พาเด็กมาที่ร้านเขา ก็ไม่เคยนอนหลับที่ร้านอยู่ดี จนบางครั้งเขาก็สงสัยว่ามี ห้องไว้แค่ถกเด็กหรือเปล่า

“ครับ..แล้วตอนเลิกร้านคุณริวก็บอกให้ผมไปปลุก ครับ”แบงค์พูดอธิบายขึ้น

“อ่าๆ งั้นกูนั่งรอจนกว่าร้านจะเลิกละกันหา.โต๊ะให้กู หน่อยดิ”พรีมพูดบอกแบงค์พยักหน้ารับแล้วพาไปโต๊ะ ที่เป็นส่วนตัวเล็กน้อยพอถึงโต๊ะ พรัมก็สั่งอาหารกับน้ำ เปล่าแบงค์ก็รับออเดอร์อย่างงงๆ เพราะปกติเวลาพรีม มาเขาก็สั่งเหล้าเสมอแต่คราวนี้กับไม่สั่ง ไม่นานอาหาร ที่พรีมสั่งก็เสร็จแบงค์ยกมาเสริฟที่โต๊ะก่อนจะขอตัวไป ทำงานต่อแต่พรีมก็ลุกขึ้นแล้วจับมือของแบงค์ไว้

“นั่งกินข้าวเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ”

“เออ..ไม่ดีกว่าครับพอดีผมมีงานต้องทำ”แบงค์พูดปฎิ เสธพร้อมพยายามแกะมือพรีมออกจากแขนตนเองซึ่ง เป็นจังหวะเดียวกับที่คมเดินเข้ามาพอดี

“มีอะไรหรือเปล่าครับคุณพรีม”คมพูดถามขึ้น

“พี่คมมาพอดีเลย…ผมอยากจะขอยืมตัวแบงค์มานั่งกิน ข้าวเป็นเพื่อนกับผมหน่อย…พอดีผมมีเรื่องอยากคุยกับไอ้ริวแต่แบงค์บอกว่ามันหลับอยู่ผมเลยอยากให้มันนั่ง เป็นเพื่อนผม”พอพรีมพูดจบคมก็หันหน้าไปหาแบงค์ แบงค์ได้แต่ส่ายหน้าไปมาเบาๆ

“หึ…ได้สิครับ..ส่วนเรื่องงานไม่ต้องห่วงนะเดี๋ยวฉันดู ให้….นพี่ขอตัวไปทำงานต่อนะครับ”คมยกยิ้มมุมปา กนิดๆ ก่อนจะพูดตอบพรีมแล้วหันมาพูดบอกแบงค์อมส่ง ยิ้มๆ กวนให้แบงค์แล้วขอตัวกลับไปทำงานต่อแบงค์มอง ตามหลังคนด้วยสายตาขุ่นๆ

“เอาละทีนี้ก็หมดข้ออ้างแล้ว..นั่งลง จะได้กินข้าว ก ทีกูหิวจะแย่”พรีมพูดบอกพร้อมนั่งลงที่โซฟาเหมือนเดิม แบงค์ได้แต่ถอนหายใจแล้วนั่งตามทีมลงไป

“ยัยฟ้ามันมานานยัง”พรีมพูดถามขึ้นหลังจากที่เขา เหลือบไปเห็นฟ้าใสที่อยู่ที่โต๊ะกับเพื่อน

“คุณฟ้าใสนะหรอครับ..มาสักพักแล้วละครับ” แบงค์พูด ตอบพลางตักข้าวเข้าปากไปด้วยโดยที่ไม่ได้มองหน้าพรี มอย่างลืมตัวเพราะมั่วแต่สนใจอาหารมากกว่าที่จริงเป็น พราะว่าวันนี้เขามาสายเลยไม่ได้กินข้าวทำให้เขาหิวอยู่ ไม่น้อย

“พูดตอบกูก็มองหน้ากูด้วยสิ”พรีมบอกแบงค์จึงละ สายตาจากอาหารมามองหน้าพรีมทันทีโดยที่ไม่รู้ว่าตอน นี้มีเมล็ดข้าวติดแก้มเขาอยู่
“ขอโทษที่เสียมารยาทครับ” แบงค์พูดบอก แต่แล้วเขาก็ ต้องชะงัก เมื่อพริมเอื้อมมือมาที่แก้มของแบงค์แล้วใช้นิ้ว โป้งเขี่ยเมล็ดข้าวที่แก้มแบงค์ ปายนิ้วถูกจรดริมฝีปาก ลิ้น สีหวานเลียเมล็ดข้าวที่ติดอยู่ที่นิ้วเขาเข้าปาก

แบงค์มองการกระทำของพรีมอย่างอึ้งๆ หน้าหวานก้ม หน้างุดเพราะรู้สึกร้อนหน้าแปลกๆ พรีมได้แต่ยิ้มขำกับท่า ที่ของแบงค์ เวลาผ่านไปซักพักแม้อาหารจะหมดแล้วแต่ พรีมก็ยังให้แบงค์นั่งเป็นเพื่อนต่อจนใกล้เวลาร้านเล็ก

“เออ…ผมว่าผมไปปลุกคุณริวก่อนดีกว่านะครับ” แบงค์ พูดขึ้นเมื่อเห็นว่าอีก1ชั่วโมงก็ถึงเวลาปิดร้านแล้ว

“อืม…งั้นกูขึ้นไปด้วยละกัน”พรีมพูดบอกก่อนจะเดินไป ที่ห้องของริวระหว่างทางที่เดินไปเขาก็เหลือบมองฟ้าใส เล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้พูดทักอะไรและตอนนี้ทั้งสองคนก็มา ยืนอยู่ที่ประตูห้องนอนในห้องทำงานของริวแล้ว

ก๊อกๆ ก๊อก

“คุณริวครับ…ใกล้เวลาร้านเลิกแล้วนะครับ”แบงค์เคาะ ประตูแล้วพูดบอกแต่ก็ไร้เสียงตอบรับจากคนข้างใน แบงค์จึงลองเรียกอีกครั้งแต่ก็ยังไรเสียงตอบรับเหมือน เดิมแบงค์เลยคิดว่าจะลองเคาะเรียกอีกสักครั้งแต่พรีมก็ จับมือแบงค์ไว้ก่อน
เคาะมากๆ เดี๋ยวก็เจ็บมือหรอก…ไอ้ริวมันเป็นคนหลับ ลึก พริ้มพูดบอกพร้อมกับเปิดประตูห้องวิวเข้าไปทันที หลังจากที่ปล่อยมือจากมือแบงค์ แล้วโดยที่แบงค์ก็ห้าม ไม่ทัน

“นี่พี่พรีมเปิดเข้ามาโดยที่คุณริวไม่อนุญาตเดี่ยวกั โคนคุณวว่าหรอก…พี่พรีม”แบงค์พูดปนพรีมแต่พริม เหมือนจะไม่ได้สนใจคำพูดของแบงค์เลย

แบงค์เองพอเห็นว่าพรีมนิ่งผิดปกติเลยเรียกพริมอีกครั้ง เขาเห็นว่าพรีมเหมือนมองอะไรบ้างอย่างอยู่ก็เลยมอง ตามสายตาของพรีมไปแล้วหยุดอยู่ที่เตียง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ