โซ่รักเสน่หา

บทที่ 47 ท่านดนัยคุณคงไม่ขายฉันใช่ไหม



บทที่ 47 ท่านดนัยคุณคงไม่ขายฉันใช่ไหม

ดนัยกฤตตอบกลับทันที “Deal”

ธิชากลืนน้ำลายลงคอ พลางถามกลับอย่างระมัดระวัง “คุณต้องการให้ฉันช่วยคุณท่าเรื่องอะไรเหรอ…”

แววตาอันลึกซึ้งของเขา เธอลองคาดเดาอยู่นานก็ไม่ เห็นความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย

ทว่าดนัยกฤตกลับยิ้มให้และบีบแก้มเธอ “ถึงยังไงก็ไม่ ขายคุณหรอก คืนนี้ก็ช่วยผมทำเรื่องหนึ่งก่อน”

ธิชา ถูกลมหายใจของเขาปกคลุมล้อมรอบตัว จนในใจ จู่ ๆ ก็มีความรู้สึกอธิบายไม่ถูก

เธอครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ เลยลองถามกลับแกมขอร้อง “ฉัน ช่วยทำธุระให้กับคุณดนัยกฤต คือเป็นการตอบแทนบุญ คุณที่คุณดนัยกฤตเคยช่วยชีวิตฉันเอาไว้ ตอนนี้พวกเรา น่าจะเป็นเพื่อนกันแล้วใช่ไหมคะ?”

เขาขมวดคิ้วเอาไว้ “คุณรู้สึกว่ามันใช่ก็ใช่มั้ง”

ธิชายิ้มหน้าบานแถมทำสีหน้าเชื่อฟัง “งั้นการที่เป็น เพื่อนกันก็ต้องรักษาระยะห่างซึ่งกันและกันเอาไว้ ฉันไม่ หวังให้ความสัมพันธ์ระหว่างเราสองคนเกิดเรื่องอะไรยุ่งยากใจตามมา ดังนั้นคุณต้องการให้ฉันทำธุระอะไรให้ ฉันก็จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ แต่ว่าต้องรักษาระยะ ห่างไว้ด้วย ตัวอย่างเช่นคืนนี้ คุณก็เห็นว่ารถยนต์ของฉัน จอดอยู่ที่โรงพยาบาล แต่การที่ไม่ยอมขับรถกลับมันก็ เป็นเรื่องยุ่งยากพอตัว งั้นเอาแบบนี้ คุณขับนำทางไป ฉัน จะขับรถตามคุณเอง ฉันสาบานว่าจะไม่หนีไปไหน”

ดนัยกฤตจ้องมองเธอที่แสดงท่าทางเชื่อฟัง ถึงกลับรู้สึก ตลกเสียจริง

ที่มันเป็นเผื่อถูกเขาเอาเลยยื่นข้อเสนอความเป็นเพื่อน ให้เขาก่อนดีหรอ?

ในที่สุดดนัยกฤตก็อนุญาตให้ธิชาลงจากรถเพื่อขับรถ ของตนเองไป

เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคืนนี้ดนัยกฤตจะพาเธอไปทำธุระ อะไรกันแน่ จึงขับรถตามหลังรถยนต์ของเขาไปอย่างเชื่อ ฟัง

รอจนถึงที่หมายแล้ว… ธิชาถึงกลับตาค้างทันที

ดนัยกฤตพาเธอมาที่ร้านหม้อไฟ

ธิชาลงจากรถ พร้อมทั้งเดินมาหยุดอยู่ตรงด้านหน้าของ เขาด้วยอาการมึนงง
ดนัยกฤตจูงมือเธอเดินเข้าร้าน ภายในร้านตกแต่งได้ อย่างวิจิตรงดงามสวยหรู แม้ว่าเป็นร้านหม้อไฟก็ตาม ทว่าตกแต่งจนได้บรรยากาศกินอาหารในงานเลี้ยง ภายในพระราชวังสมัยราชวงศ์ชิง

ธิชาเพิ่งจะนั่งลง ดนัยกฤตก็ดันเมนูมาให้ตรงด้านหน้า ของเธอ

“ดูเอาเองนะว่าจะกินอะไร ไม่ต้องเกรงใจ”

เธอจ้องมองเมนูและเลือกมาหลายอย่าง ปรากฏว่ารู้สึก ท้องร้องจ๊อก ๆ ตามทันที

เธอเม้มริมฝีปากเอาไว้ และถามทันทีอย่างอดใจไม่ไหว “ไม่ใช่คุณพูดว่าต้องการให้ฉันช่วยคุณทำธุระให้สาม เรื่องไม่ใช่เหรอ หรือว่าเรื่องแรกคือ…นั่งกินหม้อไฟเป็น เพื่อนคุณเหรอ?”

ดนัยกฤตส่งเสียงจึมงำออกมา จากนั้นก็นกนิ้วชี้ขึ้นมา เคาะบนโต๊ะอาหาร

“ฝันไปเถอะ กินข้าวก่อน กินข้าวเสร็จแล้วค่อยไปธุระกันต่อ”

ธิชาได้แต่ส่งเสียงจึมงำตอบกลับไป “อื้อ”
จากนั้นสัญชาตญาณก็รู้สึกผิดปกติขึ้นมาแล้ว…

กินข้าวเสร็จค่อยไปทำธุระต่อเหรอ?

ไม่ว่าธิชาจะหนักใจขนาดไหนก็ตาม แต่ว่าการทานหม้อ ไฟทองแดงในมือนี้ถือว่าอร่อยมาก

บนตัวของเขาไม่หลงเหลืออารมณ์เสแสร้งเอาแต่ใจ ของคุณหนูพันล้านมหาเศรษฐีตามเคยชินเลย

เธอชอบกินหม้อไฟมาก แต่ธาวินไม่ชอบอาหารที่มัน รสชาติเผ็ดร้อนเข้มข้นพวกนี้ ไม่ว่าเธอจะชอบแค่ไหนก็ ไม่มีโอกาสได้กิน

สิ่งที่ทำให้เธอแปลกใจก็คือ ดนัยกฤตดูเหมือนจะเป็น เจ้านายที่เข้าใจได้ยากยิ่ง แถมยังเป็นกรรมการผู้จัดการ ในการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียน แถมยัง เป็นผู้นำโหดเหี้ยมของกลุ่มอิทธิพลมืด คนที่รู้จักเขาต่างก็ เรียกเขาว่า ท่านดนัย

ไม่ว่าจะเป็นผู้มีอำนาจสูงศักดิ์หรือนักธุรกิจที่แสนมั่งคั่ง ไม่มีใครที่ไม่หวาดกลัวชื่อเสียงอันทรงเกียรติของท่าน ดนัย
ทว่าไม่คิดเลยว่าอาหารที่เขากินจะแสนธรรมดา…แบบนี้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาคอยลวกเนื้อสัตว์และคีบใส่จาน ให้เธออีก

แถมปากยังเร่งเธออยู่ตลอด “คุณกินข้ามากไปแล้วมั้ง จนเนื้อมันแข็งแล้วเนี่ย”

ธิชาก็ไม่รู้ว่ากินเผ็ดมากไปหรือว่าตื่นเต้นกันแน่ จนคอ

เริ่มร้อนขึ้นมาแล้ว…

โชคดีที่ร้านหม้อไฟนี้พอมองก็รู้ว่าไม่ใช่คนทั่วไปเปิดแน่ เป็นร้านอาหารปกติทั่วไป ทว่าในร้านนอกจากโต๊ะของ พวกเขาแล้ว ก็ไม่มีแขกคนอื่นเลย

มิเช่นนั้นถ้าถูกคนเห็นเข้าว่าคนที่มีสถานะสูงส่งคนนี้ กำลังนั่งปรนนิบัติเธอให้กับอาหาร….. พอเธอเดินออกจาก ประตูร้านนี้ไปก็คงกลายเป็นเป้าหมายในการวิพากษ์วิจา รณ์ย์ต่อสาธารณชนอีก ก็คงถูกสายตาพุ่งเป้ามาหาอะไร สักอย่างแหละ

ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้ว ความกังวลของธิชานั้นไม่ได้ เล่าลือโดยไม่มีเหตุผล
การกินหม้อไฟในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดาทั่วไป ตอน ที่เธอกินอิ่มแล้วนั้น พลันก็มีใบหน้าของคนที่ทำให้เธอ หวาดหวั่นปรากฏตัวทันที

ร่างกายสูงโปร่งของชัยกรยืนอยู่ด้านหน้าโต๊ะอาหาร

สมองของธิชาดั่งสายไฟฟาดลงมา พลันฉุกคิดเรื่อง คืนนั้นขึ้นมาทันที… ก็คือผู้ชายที่ถูกขนานนามว่าท่าน ประวิทย์เป็นคนบีบบังคับให้เธอดื่มเหล้านอกไปครึ่งขวด ดื่มจนเธอแทบปวดแสบท้องจนปวดร้าวไปถึงหัวใจ

ธิชาจ้องมองใบหน้าชายหนุ่มอันเคร่งขรึมราวกับ ประติมากรรมแกะสลัก พลางหันไปหาดนัยกฤตพร้อมทั้ง ใช้สายตาแกมขอร้อง

“คุณดนัยกฤตนี่คือ…

ชัยกรเปลี่ยนเปลี่ยนทัศนคติที่รุนแรงของเขาในครั้ง ก่อนทันที แถมยื่นมือออกไปให้เธอ “คุณธิชา สวัสดีครับ ผมชื่อชัยกร ถ้าคุณยินดีก็สามารถเรียกผมว่าประวิทย์ ตาม พี่ดนัยได้เลย”

ธิชามองมือที่เขายื่นออกมา เวลานั้นรู้สึกอาย ถ้าเธอไม่ ยื่นมือออกไปจับนะ ก็จะแสดงให้เห็นว่าไม่ไว้หน้ามาก ทว่ายื่นมือออกไปแล้วล่ะ ในใจของเธอนั้นมองแววตาที่ อ่อนโยนและสง่างามที่อยู่ในดวงตาของชายหนุ่มแต่กลับมีความเย็นชาออกมาจนน่าตกใจ…

ชัยกรราวกับมองเห็นอาการตื่นตระหนกที่อยู่ในดวงตา ของเธอได้ จึงได้ดึงมือของตนเองกลับ

จากนั่นก็แสยะยิ้มมุมปาก พร้อมทั้งพูดด้วยน้ำเสียงเย็น ยะเยือก “คุณกลัวผมมากใช่ไหม?”

ธิชาหวาดหวั่นกับคำพูดตอนท้ายที่น้ำเสียงเย็นยะเยือก

ของเขา พลันถอยหลังหนีด้วยสัญชาตญาณทันที

ดนัยกฤตเลิกคิ้วขึ้น จากนั้นก็พูดคาดโทษทันที “ประวิทย์ อย่าทำให้แม่สาวน้อยตกใจกลัว ปกติก็ไม่ ฉลาดอยู่แล้ว แต่กลับมาโดยนายทำให้ตกใจจนเอ๋อไป อีกนายรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายได้ไหมเนี่ย?”

ธิชาฟังออกความหมายในคำพูดของเขาที่คอยปกป้อง ตนเองอยู่ จนดวงตาทอประกายความขอบคุณออกมา อย่างซาบซึ้ง ทว่าเพิ่งจะเปล่งประกายไม่เกินสองวินาที สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันที…

“อะไรที่เรียกว่าปกติก็ไม่ฉลาดอยู่แล้ว?”

ดนัยกฤตแสยะยิ้มให้ “คุณกินอิ่มแล้วใช่ไหม อิ่มแล้วก็ ไปกันเถอะ”
ริยากินอิ่มมากแล้ว เธอจึงพยักหน้าให้ จากนั้นก็ดนัยก ฤตพาตัวมาขึ้นรถบ้านกันกระสุนของชัยกร

พอเธอขึ้นรถแล้วพลันจับความรู้สึกความผิดปกติได้ ผู้ชายตัวโตทั้งสองคนต่างคนต่างไม่เหมือนคนดีแล้ว……

แถมตอนนี้เธอกลับไม่รู้สึกปลอดภัยเลยสักนิด

เธอคลํากระเป๋าของตนเองพร้อมทั้งควานหากุญแจและ พูดออกไปด้วย “รถของฉันจอดอยู่ด้านหน้าประตูร้าน อาหาร ฉันต้องขับรถ.…….

ดนัยกฤตเหลือบตามองเธอด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย ไม่ แปลกใจเลยที่มองเห็นว่าเธอคลำหาของและมือเปล่าไม่ ได้อะไรกลับมา

เธอจ้องมองใบหน้าจองวางแผนของเขา “กุญแจรถของ ฉันล่ะ?”

ชายหนุ่มเคาะท้ายทอยของเธอ “ตอนที่คุณไปห้องน้ำ ผมได้ให้คนขับรถช่วยขับรถยนต์ของคุณกลับไปแล้ว ไม่มีวิธีอื่นแล้ว ที่พักอาศัยของประวิทย์ค่อนข้างลับสุด ยอด นั่งรถของเขาไปนี่สะดวกกว่าเยอะ”

ธิชาแสดงอาการตื่นเต้นออกมาทันที “คุณให้คนขับรถ ขับกลับไปที่บ้านฉันเหรอ?!”
ดนัยกฤตเหลือบตามองเธอ และทําสีหน้าหยอกล้อเธอ แบบไร้สาระ

“สบายใจได้เลย ฉันให้คนขับรถเอารถของคุณไปจอดที่ ลานจอดรถมหาลัย ”

เหตุนี้เองเธอถึงได้วางใจลงได้ ถ้าเกิดธาวินรู้เรื่องว่า รถของเธอถูกคนขับรถของดนัยกฤตขับกลับไป…. งั้นก็ จบเห่ พรุ่งนี้เธอก็คงไม่มีชีวิตรอดต่อไปแล้วมั้ง

ชายหนุ่มหรี่ตาลง และใช้ปลายนิ้วเรียวยาวเชิดบริเวณ

ใต้คางของเธอ

“นี่คุณกลัวธาวินขนาดนี้เลย ไม่ใช่ว่าคุณกลัวผมมาก ไม่ใช่เหรอ ไหนคุณพูดออกมาสิว่ากลัวใครมากกว่ากัน?”

ธิชาครุ่นคิดอยู่สักพัก จากนั้นก็เบนสายตาไปยังชัยกรที่

นั่งอยู่ตำแหน่งตรงข้าม……

หลังจากรถบ้านป้องกันกระสุนขับมาจนใช้เวลานานสัก ระยะ จากนั้นก็ขับขึ้นเนินเขาเล็ก ๆ
พอลงจากรถแล้ว ที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงด้านหน้าของธิ ชา ก็เป็นตึกสถาปัตยกรรมคล้ายจำพวกปราสาทอยู่หลัง หนึ่ง

สมองของริชากำลังผุดสภาพหนังระทึกสยองขวัญออก มาเป็นฉากๆ

ตอนที่ทั้งสามคนกำลังเดินเข้าสู่ประตูใหญ่ของปราสาท นั้น เธอเกิดรู้สึกกังวลกับความอันตรายของตนเองขึ้นมา พลางยื่นมือออกไปคว้าชายแขนเสื้อของดนัยกฤตเอาไว้

“ท่าน ท่านดนัย….. คุณไม่ได้เอาฉันมาขายจริงๆ ใช่ ไหม?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ