โซ่รักเสน่หา

บทที่ 44 ใบหน้าดูบริสุทธิ์ใสซื่อแต่นิสัยประจบ สอพลอ



บทที่ 44 ใบหน้าดูบริสุทธิ์ใสซื่อแต่นิสัยประจบ สอพลอ

ญาณินได้ยินเสียงแล้วถึงกลับเงยหน้าขึ้น พร้อมทั้งใช้ แววตาประเมินผู้หญิงที่อยู่ตรงด้านหน้า

ความจริงแล้วไพลินก็เป็นคนที่หน้าตาสวยมาก สวย ขนาดที่ทำให้ผู้หญิงทั่วไปยังรู้สึกถึงระดับการต่อสู้จู่โจม กลับเช่นนั้น

แต่เธอถึงขั้นตัดสินใจแล้วว่าจะลงมือกับญาณิน เช่นนั้น ก็ต้องสร้างความประทับใจอันดีงามกับญาณินซะก่อน

ผู้หญิงทั่วไปก็คงไม่มีความประทับใจครั้งแรกมากมาย นักกับผู้หญิงที่สวยกว่าตนเอง ดังนั้นไพลินเลยเลือก ความบังเอิญเช่นนี้

ญาณินไม่ได้มีความทรงจำอะไรกับผู้หญิงคนนี้ แต่ว่าคำ เรียกขานว่า “คุณนาย” มันตราตรึงเข้าไปในก้นบึ้งหัวใจ ของเธอแล้ว

เธอเลยถามกลับอย่างสงสัย “ไม่ทราบว่าคุณคือ?”

ไพลินยิ้มให้เล็กน้อย “ฉันคือไพลินเป็นผู้ช่วยของ คุณชายค่ะ ปกติแล้วจะรับผิดชอบเรื่องสถานที่ต่างๆ ใน การทำธุรกิจ พี่ดนัยเป็นรุ่นพี่ของฉัน”
เธอพูดออกมาแบบนี้ ญาณินคลับคล้ายคลับคลาว่าพอ จะจําได้แล้ว

ดนัยที่ไพลินพูดติดปากคือพงศ์พนาผู้ช่วยพิเศษ รา วินเชื่อมั่นที่สุด พงศ์พนาติดสอยห้อยตามธาวินมาตั้งแต่ เด็ก ตอนแรกก็เข้ามาดูแลเรื่องกิจการภายในแก๊ง หนึ่งปี ก่อนชรัณก็กลายสภาพเป็นคนที่นอนเป็นผักอยู่บนเตียง หน้าที่การงานธาวินขยับขึ้น พงศ์พนาเองตำแหน่งก็เขยิบ ขึ้นตามเขาจนตำแหน่งเข้าเป็นผู้บริหารระดับสูงของตระ กูลธนาภูวนัตถ์กรุ๊ป นอกจากการติดสอยห้อยตามคอย ดูแลปรนนิบัติอยู่ข้าง ๆ ธาวิน แล้ว ประเด็นหลักคือการยุ่ง อยู่กับกิจการด้านการเงินภายในสมาคม

ญาณินก็จดจำข่าวที่เล่าลือของไพลินผู้หญิงคนนี้ได้

ได้ข่าวมาแล้วตอนที่เธออายุ 10 กว่าขวบก็เข้าไปอยู่ ในตระกูลธนาภูวนัตถ์ ตอนแรกธาวินก็เลี้ยงดูเหมือนกับ นักฆ่า แต่ว่าความสามารถของเธอก็โดดเด่น มีพรสวรรค์ แถมยังมีความเก่งกาจในทางด้านธุรกิจที่ดีมาก ประกอบ กับมีหน้าตาที่โดดเด่น ราวกับยิ่งทำให้ธาวินโปรดปราน เพิ่มขึ้นทุกวัน จนถึงขั้นยกให้เป็นผู้ช่วยผู้หญิงคนสนิทที่ เก่งกาจมากที่สุดคอยอยู่ข้างกายเขา

ไพลินทำหน้านิ่งพร้อมทั้งวิเคราะห์สีหน้าของเธอ พร้อม ทั้งเดาได้ว่าเธอก็คงเคยได้ยินชื่อเสียงร่ำลือของตนเอง มาก่อน
เธอชิงช่วงจังหวะก่อนที่ญาณินจะเริ่มตั้งการ์ดปกป้อง ตัวเอง จึงรีบนั่งลงและจับมือของเธอทันที พร้อมทั้งคอย ตีมือเบา ๆ “คุณนายเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่คุณชาย ยอมรับ ว่าที่ภรรยา อย่างเป็นทางการ ไม่ว่าผู้หญิงหยำฉ่า หน้าไหนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณเลย ฉันก็รู้ว่าในงานฉลอง การหมั้นในคืนวันนั้นคุณได้รับความอับอายขายหน้าหนัก มาก แต่ว่าการเป็นภรรยาของธาวิน ไม่ว่าจะน้อยใจแค่ เล็กน้อยก็ไม่ต้องไปรับมันไว้ ตอนนี้คุณกำลังตั้งครรภ์ อยู่ อย่าได้ไปอารมณ์เสียกับพวกนางจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่ไร้ คุณธรรมเหล่านั้นเลย”

ผู้หญิงคนนี้พูดซะตรงไปตรงมาอย่างกับไม้บรรทัด จน สีหน้าของญาณินแสดงอาการเขินอายออกมา เธอไม่ สามารถจะแกล้งทำเป็นว่าไม่รู้เรื่องไม่ได้เลย

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้จิตใจของเธอกำลังย่ำแย่มาก ในใจ ที่มีแต่ความอิจฉาริษยาและความเกลียดชังต่อธิชาซึ่งไม่ สามารถพูดคุยกับคนนอกได้เลย และยิ่งไม่สามารถพูด คุยกับเพื่อนสนิทในกลุ่มคนชนชั้นสูงได้

เรื่องน่าอับอายขายขี้หน้าเช่นนี้ เธอจะกล้าพูดไปได้ยัง ไงกัน

ไพลินปรากฏตัวขึ้นตอนที่อารมณ์ของเธอกำลังพุ่งปรี๊ด ประจวบเหมาะเป็นการกระตุ้นความปรารถนาที่ต้องการ จะพูดออกมาพอดี
ญาณินหน้าตาเคร่งเครียด กระตุกมุมปากขึ้นแสดงการ เยาะเย้ยออกมา “ฉันรู้จักกับเธอมาตั้งหลายปี แต่ก็มอง ไม่ออกแม้ว่าหน้าตาเธอจะดูใสซื่อแต่นิสัยประจบสอพลอ ขนาดญาติผู้พี่ของตนเองยังไม่ปล่อยไปเลย ที่แท้ก็ เหมือนกับแม่ขั้นต่ำของเธอนั่นแหละ”

ไพลินเคยเรียนทางด้านการสะกดจิตมาแล้ว พร้อมทั้ง ประสบความสำเร็จจากสิ่งที่ญาณินพูดออกมาว่าไม่ได้ ย่ำแย่นักสำหรับสิ่งที่เธอพูดออกมา

เธออมยิ้มตอบกลับ “เธอชอบแย่งสิ่งของของคนอื่นจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชาย หรือว่าอะไรที่ใกล้ตัวก็ตาม ความ รู้สึกของฉันกับคุณนายธนาภูวนัตถ์มันเหมือนกัน แม้ว่า ฉันเป็นเพียงแค่ลูกน้องของคุณชายก็ตาม แต่ก็ทำงาน ขยันขันแข็งต่างๆ มากมายมาตั้งหลาย ตรากตรำสะสม การทำงานมาตั้งหลายปีถึงได้มีผลลัพธ์ดั่งทุกวันนี้ แต่ว่า เธอ ไม่รู้ว่าคุณชายไปโดนลมอะไรเป่าหูมา ถึงขั้นเอาใจ เธอจนมายุ่มย่ามในถิ่นของฉันได้”

ญาณินได้ยินเธอพูดออกมาแบบนี้ จนทำให้อาการตั้ง การ์ดที่อยู่ในใจนั้นเริ่มผ่อนคลายลงบ้าง

เดิมที่คิดว่าผู้หญิงที่สวยสะดุดตาคนนี้จะอิจฉาตนเองเห มือนๆ กับเธอ ทว่าไม่คิดเลยว่าเธอทำเพื่ออำนาจ

คนหนึ่งก็เพื่ออำนาจ อีกคนก็เพื่อคนคนหนึ่ง แบบนี้ก็สามารถพูดได้ว่าไพลินกับเธอนั้นไม่มีความกระทบ กระทั่งกันแล้ว

ญาณินยกถ้วยชาขึ้นมาพร้อมทั้งกระดกน้ำชาเย็น ๆ เข้า ปากไปหลายอีก ทว่าอารมณ์ความอิจฉาริษยาที่กำลัง ปะทุอยู่มันไม่ได้มลายหายไปเลย

“ไหนเธอแค่มีสามารถแย่งผลงานและอำนาจของคุณไป ขนาดสามีของฉันยังถูกโดนเสน่ห์ของเธอจนโงหัวไม่ขึ้น แต่ฉันกลับไม่สามารถแตะต้องเธอได้ เพราะฉันได้ตกลง กับธาวินเอาไว้ ว่าไม่สามารถแตะต้องเธอได้…”

ไพลินส่งเสียงเยาะเย้ยกลับ “เรื่องพรรค์นี้ ทำไมต้องลด ตัวไปทำเองด้วยล่ะ แค่คุณพยักหน้าสั่งการ ฉันก็สามารถ ช่วยคุณปัดกวาดเช็ดถูความชั่วร้ายในเวลาไม่นานเลย”

ญาณินสีหน้าเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย สายตากวาดมอง รอบ ๆ อย่างรวดเร็ว เพื่อมั่นใจว่าไม่มีคนรับใช้คนใดเดิน มา จากนั้นก็ทำเสียงกระซิบกระซาบพูดตักเตือนออกมา “คุณต้องระวังตัวด้วยเวลาพูดออกมา ฉันไม่สามารถแตะ ต้องเธอได้จริงๆ ไม่สามารถเป็นเพราะอีนังแพศยานั่น จึง ทำลายความรู้สึกความเป็นสามีภรรยาระหว่างฉันกับธา วินแหละ”

ไพลินลูบคลำด้านหลังฝ่ามือของเธอ พร้อมทั้งพูดปลอบโยน เดี่ยวไว้วันอื่นหาที่เหมาะ ๆ มานั่งคุยกัน คุณนายไม่ต้องกังวลกับเรื่องนี้เลย คุณเป็นถึงคุณหนูพัน ล้านของตระกูลมงคลวัชรกุล ตระกูลมีทรัพย์สินเป็นพัน ๆ ล้าน ส่วนฉันเป็นผู้มีคุณูปการที่ทำทุกงานตั้งมากมาย จนประสบผลสําเร็จของตระกูลธนาภูวนัตถ์ แต่ธิชานาง เป็นอะไร เธอก็แค่ผู้หญิงชั้นต่ำคอยอ้าขารอ ถ้าว่าเธอ ตายห่าไปซะ ก็ไม่สามารถมาเขย่าตำแหน่งของคุณไปได้ อีกอย่าง ถ้าเราจะลงมือทำ ก็ต้องสาดโคลนใส่โดยที่ไม่ สามารถกระเด็นมาหาพวกเราได้”

ธิชาก็ยุ่งมากอยู่ตลอดทั้งวัน นอกจากเข้าเรียนแล้วก็ คือการทำงาน บางครั้งแม้ว่าธาวินจะพาเธอไปเจรจาทาง ธุรกิจบ้างก็ตาม ก็ไม่ได้สอนอะไรเธอเลย ก็แค่เธออยู่ข้าง กายเขาเพื่อให้ได้ยินได้ฟังเรียนรู้งานไปด้วย

เธอยุ่งมากจริงๆ ขนาดณิชานาฎก็ยากมากที่จะติดต่อ เธอได้ เวลาไหนที่เธอว่างให้เธอเข้าไปโรงพยาบาลสัก หน่อย

ธิชาสามารถไปที่โรงพยาบาลเดือนละสองครั้ง นี่คือกฎ ที่ธาวินตั้งเอาไว้ เขาไม่ชอบให้ธิชาคอยติดต่อณิชานาฎ กันบ่อยๆ ขนาดแค่สองครั้งนี้เธอก็ไม่รู้ต้องโดนทรมาน วันถึงจะได้รับโอกาสนี้มา
ซึ่งวันนี้ก็ยังไม่ใช่วันที่นัดเยี่ยมเลย แต่ว่าณิชานาฎ เป็นคนเสนอมาเอง จนธิชาเริ่มมีอาการตื่นเต้นอยู่บ้าง เพราะว่าเป็นห่วงว่าอาการป่วยของณิชานาฎจะมีอะไร เปลี่ยนแปลงไป แต่ว่าก็ไม่ได้ฟังถึงเรื่องที่หมอเตือน

ธิชาโดดเรียนวิชาในตอนบ่ายเพื่อมุ่งหน้าไปโรง พยาบาลเพื่อเยี่ยมเธอ แต่กลับเห็นดนัยกฤตอยู่ในห้อง พักผู้ป่วยห้องเดี่ยวของณิชานาฎ

ธิชายืนขาแข็งอยู่ที่ด้านหน้าประตู หน้าถอดสีจนเปลี่ยน ไปในทางไม่ดีเลย

ณิชานาฎรีบเรียกเธอทันที “ธิชาแกมาแล้วเหรอ”

ธิชาไม่รู้ว่านี่เป็นแค่เรื่องบังเอิญหรือความตั้งใจกันแน่ เลยไม่อยากจะอารมณ์เสียใส่ณิชานาฎ ดังนั้นจึงอดทน เอาไว้ และเอาผลไม้ที่เธอเอามาวางไว้บนโต๊ะหัวเตียง จากนั้นก็หน้านิ่งไม่ยอมพูดยอมจา

ทั้งสามคนเงียบไม่พูดไม่จากันอยู่หนึ่งนาที ดนัยกฤต เป็นคนที่เข้ากับคนง่ายจนเห็นได้ชัด เขาพูดกับณิชานาฎ “พวกคุณสองคนแม่ลูกคุยกันก่อน ผมขอออกไปโทรศัพท์ สักครู่

หลังจากที่ดนัยกฤตเริ่มออกไปจากห้องพักผู้ป่วยแล้ว ก็ เริ่มเปิดปากพูด “แม่ ที่แม่เรียกฉันมาด่วนขนาดนี้เป็นเพราะอาการป่วยมันมีการเปลี่ยนแปลงไปเหรอ?”

ณิชานาฎจ้องมองใบหน้าเล็กๆ ที่ร้อนรน พลางรีบส่าย หน้าทันที “ไม่มีนะ แม่ก็เหมือนเดิม ก็แค่ได้ยินมาว่าช่วงนี้ แกเริ่มทำงานแทนธาวินแล้ว ฉันเลยเป็นห่วง แกเป็นเด็กผู้ หญิงนะ…”

ธิชาขมวดคิ้วเอาไว้ เธอรู้สึกว่าไม่มีคนใกล้ตัวคนไหนจะ ปากมากมาบอกกับณิชานาฎ ความน่าสงสัยที่เป็นไปได้ มากที่สุดก็คือดนัยกฤต

สีหน้าของเธอดูไม่เป็นมิตรเลย แถมพูดเสียงทุ้มต่ำ “หนู โตแล้ว เวลาจะทำเรื่องอะไรอยู่ก็คิดอยู่ในใจแล้ว แม่ หนู ไม่เข้าไปยุ่มย่ามบรรดาสังคมและเพื่อนๆ ของแม่เลย แต่ ว่าถ้าครั้งหน้าดนัยกฤตยังอยู่ที่นี่ แม่ก็อย่าเรียกหนูมาเจอ หน้ากับเขา”

ณิชานาฎย่นคิ้วเล็กน้อย “แม่ก็แค่ตั้งใจเรียกแกมา ดนัย กฤตเขามีใจให้กับแก นี่ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก..…….

ธิชายังจดจําเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องรับรองในวันนั้นได้ดีว่า เขาดูหมิ่นหยามเกียรติเธอยังไงต่อหน้าผู้ชายคนอื่นๆ อีก หลายคน

นี่คือข้อสรุปของผู้ชายที่มีใจให้คนหนึ่งอย่างนั้นเหรอ?
เธอแสยะยิ้มมุมปาก และพูดถากถางกลับทันที “มีใจให้ ในความหมายของเขานั้นมันก็จำกัดอยู่แค่ของเล่นสนุก เท่านั้นเอง”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ