โซ่รักเสน่หา

บทที่ 21 จะบีบฉันให้ลงทัณฑ์กับเธอใช่ไหม



บทที่ 21 จะบีบฉันให้ลงทัณฑ์กับเธอใช่ไหม

ตอนที่ตนัยกฤตรู้สึกว่าตัวเองทำได้อย่างสบาย รสชาติ ของริชาทําให้เธอติดและสูญเสียการควบคุม

แต่ทว่าตอนที่เขาสงสัยว่าตัวเองทนไม่ได้ สายตาอัน อ่อนแอไร้เดียงสาของเธอกลับทำให้เขาหยุด

เขาออกห่างจากร่างเธอ ลมหายใจยังคงหอบแรง

ธิชาจัดเสื้อผ้าที่ยุ่งเหยิงของตัวเองอย่างรีบร้อน หดตัว ไปข้างหลัง

เขายกเหล้าครึ่งแก้วที่เหลือดื่มลงไปจนหมด ความร้อน ระอุของเหล้ายับยั้งความหุนหันพลันแล่นใต้สะดือของ เขา

ผู้ชายสงบลงครึ่งนาที แววตาอันสว่างกลับไปบนหน้า ของเธออีกครั้ง

แก้มของสาวน้อยที่ยังตกใจกลัวแดงก่ำ ใช้มองสองข้าง ปกป้องไว้กลางอกตัวเองโดยสัญชาตญาณ พูดอย่างไม่ ชัดเจน “คุณปล่อยฉันไปได้หรือยัง”

ดนัยกฤตกลับสู่สภาพสงบใจเย็นเหมือนปกติ ยื่นมือขยี้ ผมของเธอจนยุ่ง “จำบทเรียนของคืนนี้ให้ดี อย่าให้ผมเห็นคุณปรากฏตัวในสถานที่ผู้คนวุ่นวายแบบนั้นอีก”

ความจริงในใจของสาวน้อยยังคงไม่พอใจ

อายุสิบกว่าปีไม่มีคนชอบให้ใครอยู่ดีๆก็มาสั่งสอน ควบคุม มิหนําซ้ำเธอยังรู้ว่ามีความสัมพันธ์ซับซ้อนอย่าง อธิบายไม่ได้ระหว่างชายหนุ่มและแม่ของเธอ

ความรู้สึกถูกควบคุมถูกแกล้งแบบนี้ทําให้เธออับอาย

เธอเม้มปากไม่ยอมพูด ดนัยกฤตเหมือนมองทะลุความ

ในใจเธอได้

เธอไม่พอใจ

เขาหรี่ตา นิ้วยาวลูบผิวหนังกลางอกเธอ ทำให้เธอตัวสั่น อย่างไม่ได้ยิน

น้ำเสียงของเขาเฉียบขาด “ตอนที่ยังไม่มีความสามารถ ในการปกป้องตัวเองอย่าเอาตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์ อันตราย คุณขัดขืนผม ร้องไห้ต่อหน้าผม ผมปล่อยคุณ ไปได้ คุณเคยคิดไหม สถานที่แบบนี้เปลี่ยนเป็นผู้ชาย คนไหนก็ได้ที่เสพยาหรือเมาเละเทะใครจะปล่อยคุณไป เพียงเพราะน้ำตาสองหยด”
“นักโทษข่มขืนไม่มีวันใจอ่อนต่อผู้หญิง ธิชา จําไว้หรือ ยัง”

มุมปากของเขามีแววโหดเหี้ยมเล็กน้อย

ไม่รู้ว่าหญิงสาวฟังคำตักเตือนของเขาเข้าไปแล้วจริง ไหม หรือว่ากลัวมือของเขาจะมีปฏิกิริยาลุกลามเพิ่ม

เธอพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ไม่ได้พูด

ดนัยกฤตลดสายตาจ้องเธอ น่าจะเป็นเพราะไม่ค่อยได้ สัมผัสกับผู้หญิงอายุประมาณนี้ บางครั้งเขามีความรู้สึก จำใจไม่รู้จะทำยังไงกับเธอ

เห็นได้ชัดว่าเธอมีใบหน้าอันเย้ายวน คู่กับคิ้วตาที่มีเสน่ห์ และเธอมีความสามารถในการแสดงดวงตาที่ไร้เดียงสา ไม่เป็นอันตรายต่อคนอื่น ทำให้ผู้ชายรู้สึกเห็นอกเห็นใจ

ใครๆก็เห็นเธอเป็นแมวน้อยที่เชื่อฟัง แต่หารู้ไม่ว่าภาย ใต้ขนอันนุ่มฟูนั้นซ่อนหนามอันแหลมขมไว้หนึ่งชั้น

เขามีความวู่วามที่อยากจะถอดหนามของเธอให้หมดกับ มือตอนที่เธอมุทะลุหยาบคาย ยับยั้งเอาไว้เพราะใจแข็ง ไม่พอ
บรรยากาศสงบนิ่งไปสักพัก

เขาจับหน้าของเธอ พูดด้วยเสียงต่ำ “หวังว่าคุณจะจำไว้ จริงแล้ว”

ริชากัดริมฝีปาก ไม่กล้ามองเขาโดยตรง ถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ “ฉันไปได้หรือยัง……

เขาลุกขึ้นเดินไปปลดล็อกที่ประตู “ผมส่งคุณกลับไป

เธอกลับเหมือนกระต่ายที่หลุดจากกรงรีบวิ่งหนี ทิ้งคำ พูดไว้ประโยคหนึ่งแบบขอไปทีให้เขาท่ามกลางค่ำคืน และลมหนาว

“ฉันนั่งรถกลับเอง”

เขาชะงักเล็กน้อย สุดท้ายก็ไม่วางใจแล้วตามออกไป

เห็นกับตาว่าเธอวิ่งออกจากสวนแล้วโบกรถแท็กซี่คัน หนึ่งที่ไม่ไกลนัก ร่างเล็กรีบขึ้นรถอย่างรวดเร็ว ค่อยๆลับ หายไปจากสายตาเขา

กลับมาถึงคฤหาสน์ตระกูลธนาภูวนัตถ์ ญาณินกำลังนั่งอยู่บนโซฟาห้องรับแขกชั้นหนึ่ง มือสองข้างวางทับกัน ดูไปแล้วอึดอัดเล็กน้อย

ธิชากดเสียงต่ำถามเธอ “เรื่องคืนนี้..…………….

ญาณินโบกมือพูดเสียงเบา ไม่ ธิชา เรื่องอะไรที่ไม่ควร พูดฉันไม่ได้พูดเลย พูดแค่เรื่องอันตรายในห้องรับรอง เท่านั้น เธออย่าพูดหลุดปากก็พอ”

ธิชาเพิ่งรู้สึกโล่งใจ ก็ได้ยินเสียงแม่บ้านป้าจันพูดอย่าง เคร่งเครียด “คุณหนู คุณชายสั่งให้ไปคุกเข่าที่ห้องกัก บริเวณ”

เธอยืนกับที่ไม่ขยับ ป้าจันพูดปรามอย่างไม่วางใจ “คุณ หนู เชื่อฟังคำพูดคุณชายเถอะ ถ้าหากมีเรื่องเข้าใจผิด อธิบายให้ชัดเจนก็พอ อย่าดื้อรั้นกับคุณชายเลย เพื่อไม่ ให้ตัวเองลําบาก”

ขาก็ไม่อยากไปกระตุ้นนิสัยเสียของธาวิน เขาให้เธอ ไปห้องกักบริเวณ เธอไปก็ได้

เธอคุกเข่าในห้องกักบริเวณประมาณครึ่งชั่วโมง

ในที่สุดธาวินก็ยอมเข้ามาดูเธอ
หน้าอันหล่อเหลาของเขา เหมือนดั่งยมราช ริมฝีปาก บางเผยอออก ออกคำสั่งอย่างชัดถ้อยชัดคำ “คืนนี้เกิด เรื่องอะไรขึ้น เธอเล่ามาให้ฉันฟังตามตรง หากพูดขาดไป แค่คําเดียว อย่าโทษว่าฉันมือหนัก”

เธอเล่าเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนถึงจุดที่ถูกมอมเหล้าหนึ่ง รอบตามที่ญาณินเตือน

ธาวินหรี่ตา เหมือนกับจิ้งจอกเฒ่าที่เจ้าเล่ห์ ถามอย่าง กะทัดรัดครอบคลุม “ใครช่วยเธอ”

เธออกสั่นขวัญแขวน แต่ปากก็ต้องรักษาความใจเย็น “คนไม่รู้จัก”

เท้าธาวินก็ถีบไปที่ก้นของเธอ ร่างของเธอถูกถีบจนล้ม ไปข้างหน้า ดีที่สองมือดันไว้ ไม่ได้ล้มจนเจ็บ

“จะบังคับให้ฉันลงทัณฑ์กับเธอใช่ไหม?”

ธิชารู้ว่าเขาเกลียดดนัยกฤตมากขนาดไหน คำเตือน หน้าสถานีตำรวจยังก้องอยู่ในหู เรื่องไม่มีหลักฐาน เธอ ไม่กล้ายอมรับ

ดังนั้นเธอก้มหน้าก้มตาไม่พูดไม่จา
เธอไม่ได้พูดอะไรมาก และไม่ยอมรับอะไร ก็ไม่ถือว่า

โกหก

แต่เห็นได้ชัดว่าธาวินไม่ได้คิดจะปล่อยเธอไปง่ายๆ ค่อยๆก้มตัว ดึงเสื้อผ้ากลางอกเธอออก เขา

จากนั้นก็ก้มตัวแนบชิดเพื่อดมกลิ่นบนร่างเธอ

กลิ่นแบบนี้เขาเคยดมมาก่อนแล้ว

พิมเสนที่มีกลิ่นอำพันเล็กน้อย กลิ่นหอมล้ำลึกที่ได้กลิ่น ที่สง่าบางเบาติดทนนาน

นี่เป็นกลิ่นน้ำหอมที่ดนัยกฤตใช้ประจำ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ