โซ่รักเสน่หา

บทที่ 48 สาวน้อยชอบเก็บตัวกรีดร้องอย่างแสนเจ็บปวด



บทที่ 48 สาวน้อยชอบเก็บตัวกรีดร้องอย่างแสนเจ็บปวด

ดนัยกฤตใช้สายตามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าเพราะว่า ท่าทางตื่นเต้นจนประหม่าออกมา

สักพักถึงได้หัวเราะออกมาเล็กน้อย “คุณผอมขนาดนี้ ไม่มีเนื้อไม่มีหนัง ไม่คุ้มเงิน”

หลังจากที่เดินเข้าประตูใหญ่มาแล้ว

ธิชาก็เห็นว่าด้านนอกมองเหมือนสถาปัตยกรรมแบบ ปราสาท ทว่าภายในกลับเป็นปกติทั่วไป แม้ว่าจะค่อนข้าง วิจิตรสวยงามมาก แต่ว่าก็สามารถเก็บจากรายละเอียด ได้ว่าเป็นที่พักอาศัยจริงๆ

เธอแอบมองชัยกรอยู่หลายครั้งอย่างอดใจไม่ไหว

ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนว่าดูอ่อนโยนและสง่างามอย่าง แท้จริง ไม่คิดเลยว่าจะมีรสนิยมที่เกินคาดเพียงนี้

หลังจากเกิดเรื่องนั้นขึ้นแล้ว ทุกอย่างมันก็เกินความคาด หมายของธิชาโดยสิ้นเชิง
ชัยกรพาเธอไปยังประตูห้องนอนห้องหนึ่ง จากนั้นก็ทำ หน้าจริงจังตอนที่พูดกับเธอ

“คุณธิชา ผมมีเพื่อนคนหนึ่งไปเจอกับเรื่องบางอย่าง จน ทำให้มีปัญหาทางด้านระบบทางจิตใจ จนเธอสูญเสีย ความทรงจำไปบ้างแล้ว และจำคนหลายๆ คนไม่ได้ คุณ เคยเป็นเพื่อนที่ดีมากๆ กับเธอมาก่อน วันนี้ที่กล้าเชิญคุณ มา เรื่องสำคัญก็คืออยากให้คุณช่วยมาเยี่ยมเธอหน่อย ถ้าเธอจำคุณได้ บางทีอาจจะช่วยเหลือเรื่องอาการป่วย ของเธอได้”

ชัยกรแสดงความเกรงใจกับเธอเช่นนี้ จนทำให้ธิชาดีใจ จนรู้สึกทำตัวไม่ถูก

เธอเดินเข้าห้องนอนด้วยอาการมีคำถามมากมายต่างๆ นานา ตอนที่เห็นใบหน้าที่ผอมโซซีดเผือดดูสุขภาพไม่ ดี….ในที่สุดก็เข้าใจว่าชัยกรทำไมถึงได้ไปหาให้ตนเอง เข้ามาช่วยเหลือ

แม้ว่าไม่ได้เจอหน้ากันมาสามปีแล้ว แต่หน้าตาของเด็ก สาวนั้นก็เปลี่ยนแปลงไปมาก

แต่โครงหน้ากับคิ้วยังคงชัดเจนอยู่ ธิชามองแวบเดียวก็ จำเธอได้ทันที

เธอมองเด็กสาว “สติไม่สมประกอบ” ที่เอาแต่นั่งซุกตัวอยู่ตรงหัวเตียงอย่างประหลาดใจ พลันหันมองมาทางชัย กรอย่างอดไม่ได้ “คุณ คุณประวิทย์ เพียงเธอเป็นอะไร ไป?”

ใบหน้าผอมราวกับกระดูก หญิงสาวที่ดวงตาว่างเปล่าไร้ ความรู้สึกเป็นเพื่อนที่เรียนมัธยมมาด้วยกันเพียงวรินทร์

เพียงวรินทร์ กับธิชาเป็นเพื่อนเรียนห้องเดียวกันสมัย

มัธยมต้น จากนั้นก็เรียนมัธยมปลายด้วยกันอีกครั้ง

ตอนนั้นเพื่อนสนิทที่สุดของธิชานอกจากญาณินแล้ว ก็ คือเพียงวรินทร์

นิสัยของเพียงวรินทร์ หยิ่งตามประสานิสัยของคุณหนู พันล้านที่เอาแต่ใจ

ญาณินกับเธอนิสัยไม่ค่อยถูกกันเลยไม่สนิทกัน ดังนั้น

โอกาสที่ทั้งสามคนจะเล่นด้วยกันน้อยมาก

แต่ว่าธิชายังคงดีกับเพียงวรินทร์ เสมอมา ตอนนี้ที่ญาณิ นกำลังหมกมุ่นยิบย่อยกับงานประชุมนักเรียน เธอก็มาคุย โม้ ไปเรื่อยกับเพียงวรินทร์ อยู่บ่อยๆ

ตอนที่ใกล้จะเรียนจบม.4นั้น ตระกูลธาดาวรวงศ์ก็ ประกาศออกมาว่าล้มละลาย เพียงวรินทร์อย่างกะทันหัน เพียงก็เริ่มขาดเรียน กระทั่งไม่ยอมขอลาอยู่ บ่อยครั้งจนขาดเรียนไม่มาโรงเรียนอีกเลย

หลังจากนั้นแล้ว ก็ได้ยินว่าเธอทำเรื่องยื่นหนังสือลา ออกแล้ว

ครั้งสุดท้ายที่ธิชาเจอหน้ากับเพียงวรินทร์ ก็ได้ยินจาก ปากของเธอ ว่าเธอจะไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ บางที ต่อไปอาจจะไม่มีโอกาสได้เจอหน้ากันแล้ว

แม้ว่าธิชาจะรู้สึกเสียใจมาก แต่ก็เข้าใจเพราะ สถานการณ์ของครอบครัวเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ เด็ก อายุยังน้อยก็จะได้รับการคุ้มครองอย่างเหมาะสม ตระกูล ธาดาวรวงศ์พาเพียงไปเรียนที่ต่างประเทศ ก็เพื่อที่จะหวัง ว่าเธอเองจะไม่ได้รับผลกระทบในทางลบไปด้วย

เธอยังจดจำได้ในครั้งสุดท้ายที่เจอหน้ากันในวันนั้น เพียงวรินทร์ร้องไห้จนตาบวมเป่ง เวลาเดินก็เดินช้ากว่า ปกติมาก ดูแล้วกำลังอ่อนแอมาก

แต่สิ่งที่ทำให้ธิชาเก็บมาคิดสงสัยอยู่ในใจตลอดก็คือ หลังจากที่เพียงวรินทร์ ไปอังกฤษแล้ว ราวกับแค่คืนเดียว ได้หายวับไปจากโลกเช่นนั้น

เธอเปลี่ยนการติดต่อสื่อสารทั้งหมด ขนาดวีแชทก็ไม่ได้ ใช้ และไม่ติดต่อกับเพื่อนในห้องคนใดอีกเลย…..
เรื่องนี้ทำให้ธิชาเสียใจอยู่บ้าง แต่ญาณินก็พูดขึ้นมาว่า เพียงวรินทร์เป็นคนที่รักษาหน้าตาขนาดนั้น ขนาดตระ กูลธาดาวรวงศ์ล้มละลายแล้ว เธอย่อมอับอายขายขี้หน้า ไม่อยากติดต่อสื่อสารกับใครในเมืองปอีก ประมาณว่าคง ไปเริ่มชีวิตใหม่ในต่างประเทศแล้วมั้ง

การจากไปในครั้งนี้ คือสามปี

ธิชาเดินเขยิบเข้าใกล้ข้างเตียงอย่างอดใจไม่ไหว พลาง เริ่มอ้าปากพูดอย่างระมัดระวัง “เพียงคุณยังจำฉันได้ไหม ฉันคือธิชานะ”

ในอดีตเพียงวรินทร์ เป็นคนหน้ากลม เวลาพูดก็พูด คล่องแคล่วมาก เป็นคนมีชีวิตชีวา ยิ่งทำให้เด็กหนุ่มชื่น ชอบมาก ขนาดเด็กสาวเห็นเธอยังอดไม่ได้ที่จะแอบเหล่ มอง

ทว่าเธอในเวลานี้กลับผอมจนข้อมือแห้งอย่างกับกิ่งไม้ แห้งเหี่ยว ทั้งตัวผอมโซจนยากแก่การบรรยายได้ เมื่อ ประเมินทางสายตาแล้วคนที่มีส่วนสูง168 เซนติเมตร แต่ มีน้ำหนักเพียง 30กว่ากิโลเท่านั้นเอง

ธิชาใช้ความอดทนเรียกเธออยู่นาน

จนในที่สุดเพียงวรินทร์ ก็หันศีรษะกลับมาจ้องมองเธอ แล้ว จากนั้นรูม่านตาก็ขยายใหญ่ขึ้น จนยอมอ้าปากพร้อมทั้งพูดติดๆ ขัดออกมา “ธิชา ธิชา….

ธิชาเริ่มตื่นเต้นจนนั่งอยู่ข้างเตียง และลองจับมือของ เธอดู “เพียงแกจําฉันได้ก็ดีแล้ว ฉันคือธิชาไง เมื่อก่อน นี้พวกเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาก สามปีที่ผ่านมาแกเกิด เรื่องอะไรขึ้นมากันแน่ ทำไมฉันติดต่อแกไม่ได้เลย ฉันหา แกอยู่นาน แต่ก็ไม่มีข่าวคราวเลย….”

คนสมัยนี้ขี้ลืมกันง่ายมาก

ในเวลานั้นที่อาณาจักรทางด้านการเงินของตระกูล ธาดาวรวงศ์ล้มละลายอย่างกะทันหัน ก็จะมีข่าวหน้าหนึ่ง อยู่ทุกวัน

แต่ไม่นานนักข่าวมันก็เงียบหายไป และไม่มีใครจำตระ กูลธาดาวรวงศ์ได้อีก ในสถานที่แบบเมืองปนี้ มีเศรษฐี มากหน้าหลายตานับไม่ถ้วน ทุกวันก็มีคนอยู่ดีๆ ก็ร่ำรวย เป็นมหาเศรษฐีภายในคืนเดียว แต่ก็มีคนที่ล้มละลายจน เสียชีวิตยกครอบครัวในคืนเดียวก็มี มันไม่แปลกอะไร ไม่ นานก็ถูกคนลืมเลือนไปจนหมดสิ้น

ธิชาหวนคิดถึงความหลัง และคอยหาช่องทางการติดต่อ เพียงวรินทร์ มาอยู่ตลอด

ทว่าก็ไม่ได้ผลลัพธ์อะไรกลับมา จนทำได้แค่เก็บเรื่องนี้ ไปแทน
ตอนแรกธิชาก็คิดว่าเพียงวรินทร์ จะไม่ค่อยยอมพูดสัก เท่าไหร่ เพราะว่าดูจากสภาพของเธอแล้วไม่เหมือนคน ปกติจริงๆ

เธอคอยเรียกความทรงจำของเพียงวรินทร์ กลับคืนมา จึงได้พูดเรื่องเก่าตอนเรียนมัธยมอยู่ด้วยกันไม่หยุด

พูดผ่านไปสักพัก แววตาของเพียงวรินทร์ ก็เหมือนบิน หายไปไกล ปากก็บ่นพูดกับตัวเองออกมา “ตอนนั้นพวก เรายังเด็ก ชีวิตช่างมีความสุขมากๆ ไม่มีความคิดใดๆ ให้ รกหัวสมองเลย…”

ริชาเบิกตาโต เธอถึงได้ตระหนักได้ว่าสามารถเพียงวริ นทร์พูดคุยได้ตามปกติ

เธอดีใจพลางลองกอดเพียงวรินทร์เอาไว้

ทว่าแววตาของเพียงวรินทร์ กลับมองเลยไปยังใบหน้า ของชายหนุ่มที่อยู่ด้านหลังแทน

พอตอนที่เธอเห็นใบหน้าอันหล่อเหลาดั่งรูปปั้นแกะสลักของชัยกรแล้ว
จู่ ๆ ก็ผลักธิชาออก จากนั้นก็ตะเบ็งเสียงกรีดร้องแสบ แก้วหูออกมา

ธิชาจ้องมองเธอกรีดร้องแบบไม่ใช่คนปกติ นํ้าเสียง ติดต่อกันอยู่ประมาณ2-3นาที จากนั้นเธอก็ตะโกนไล่ให้ ไสหัวออกไป ไอ้คนระยำ ไสหัวออกไป ทำไมแกยังไม่ ตายห่าสักที ทำไมคนที่ต้องตายไม่ใช่แก

จากนั้นเธอก็เปิดผ้าห่มขึ้นและมุดตัวลงไปซ่อนด้านใน ไม่ว่าธิชาจะปลอบใจอย่างไร เธอก็ไม่ยอมออกมาอีกเลย

จากนั้นหมอก็เข้ามาฉีดยาระงับประสาทให้กับเพียงวริ นทร์ จนผ่านไปสักพักเธอถึงได้นอนหลับสนิท

คุณหมอพูดอธิบายออกมา “คุณเพียงวรินทร์ได้รับ การกระทบกระเทือนทางสภาพจิตใจ จนทำให้อารมณ์ ไม่สามารถตั้งสติได้ ในเวลาเดียวก็มีอาการแทรกซ้อน อีกหลายอย่าง ทั้งอาการเบื่ออาหาร แต่อาการเก็บตัวเป็น อาการที่เห็นได้ชัดมาก ตอนนี้พวกเรากำลังอยู่ในขั้นตอน การรักษา ถ้าเพื่อนเก่าของเธอมาพูดคุยเป็นเพื่อนกับเธอ เกรงว่าแค่คุยเรื่องปกติทั่วไปถึงเรื่องผ่านมาเท่านั้น ก็คือ ว่ามีประโยชน์มากกับเธอ”

ธิชาเดิมตามหลังชัยกรออกมาอย่างหนักใจ
จู่ ๆ ก็รู้สึกตื่นตูมและหวาดกลัวขึ้นมาก่อนกับชัยกร

แม้ว่าเพียงวรินทร์ จะเห็นได้ชัดว่าสติไม่สมประกอบ ก็ตาม แต่ว่าตอนที่ตนเองพูดคุยกับเธอตั้งมากมาย เธอก็ ยังสงบสติดีอยู่

จนตอนที่เธอเผลอมองไปเห็นชัยกร จนตัวเธอกรีดร้อง เหมือนกับคนบ้าคลั่ง เสียงกรีดร้องอย่างแสบแก้วหูนั้นมัน ไม่เหมือนว่าดังออกมาจากร่างกายที่ผอมแห้งของตัวเธอ เลยสักนิด

เหมือนว่าชัยกรจับสัมผัสถึงสายตาของเธอที่กำลัง ประเมินวิเคราะห์อยู่

เขาหลุบตาต่ำ พร้อมทั้งพูดอย่างอ่อนโยน “พลอยทำ ให้คุณธิชา ต้องตกใจไปด้วย ต้องขอโทษเป็นอย่างมาก อาการของเพียงบางครั้งก็ดีบางครั้งก็เลวร้าย โชคดีมาก ที่เธอจำคุณได้ เห็นได้ชัดว่าเมื่อก่อนพวกคุณสนิทสนม กันจริงๆ ถ้าคุณยินยอมและล่ะก็ ผมหวังว่าจะจัดให้เธอมา เจอกับคุณบ่อยๆ ถือว่าเป็นการช่วยรักษาอาการป่วย”

ธิชารู้ทั้งรู้ว่าผู้ชายคนนี้อาจจะเป็นบุคคลที่อันตรายคน หนึ่ง แต่ว่าต้องถามตรงๆ ออกมาอย่างทนไม่ไหว

“ตกลงว่าเพียงไปเจอเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจอะไรมา ทำไมฉันรู้สึกว่าเธอ เหมือนว่าจะทั้งหวาดกลัวและจง เกลียดจงชังคุณประวิทย์คุณมากเลยนะ?”

####บทที่ 49 มีลูกให้ผม มันทำให้คุณรู้สึกผิดเหรอ

ชัยกรขมวดคิ้วทําเหมือนไม่ได้ยิน แต่เขาก็ไม่เห็นความ หวั่นไหวในแววตาของเขาแต่อย่างใด

เขายังใช้น้ำเสียงตามปกติทั่วไป เธอได้รับความกระทบ กระเทือนทางจิตใจเป็นอย่างหนัก ส่วนเรื่องรายละเอียด ของต้นเหตุนั้น ตอนนี้ยังไม่สามารถใช้คำพูดง่าย ๆ อธิบายให้คุณธิชา ได้ แต่ว่าถ้าคุณยินยอมช่วยรักษา อาการป่วย สุดท้ายก็คงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ”

ธิชาไม่มั่นใจว่าหรือเป็นเพราะว่าตนเองคิดมากเกินไป หรือเปล่า เธอไม่ได้ถามต่อ แค่มีคำถามอยู่ในใจเท่านั้น เอง

ชัยกรเหมือนว่าก็มองเห็นความสงสัยของเธอออก แวว ตาลึกซึ้งของเขา สีหน้าดูเคร่งขรึมและดุดัน “ตอนแรกที่ เจอกันนั้นทำผิดกับคุณธิชาไว้มาก บางทีคุณธิชา อาจจะ มีความประทับใจกับผมไม่ค่อยดีนัก เพื่อเป็นการหหลีก เลี่ยงความยุ่งยาก ผมจำเป็นต้องอธิบายให้คุณเข้าใจ”

เขาไม่รอให้ธิชามีปฏิกิริยาตอบโต้ใดๆ พลางรีบพูดอธิบายทันที “ไม่ว่าผมจะทำอาชีพอะไร หรือผมทำธุรกิจ แบบไหน เพียงเป็นว่าที่ภรรยาของผม ผมต้องรับผิดชอบ เธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนอกจากผมแล้ว เธอก็ไม่เหลือ ญาติพี่น้องที่ไหนสักคน ผมมีความรับผิดชอบที่จะรักษา เธอให้หายดีอย่างสุดกำลัง เพื่อให้เธอได้ฟื้นกลับมาใช้ ชีวิตได้ตามปกติดังเดิม”

ธิชาตะลึงกับความเคร่งขรึมและคำพูดที่หนักแน่นของ เขา จนเวลานั้นไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี

ระหว่างเธอกับเพียงไม่ได้เจอหน้ากันมาตั้งสามปีแล้ว เธอไม่รู้ว่าในสามปีที่ผ่านมาเพียงไป เจอเรื่องราวอะไรที่ ประเทศอังกฤษมาบ้าง หรือว่าตระกูลธาดาวรวงศ์เกิดการ เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กว่าเดิม จนทำให้เพียงวรินทร์ กับ ชัยกรมาพบกันได้อย่างไร… มากไปกว่านั้นคือการไม่รู้ เรื่องอะไรเลย

อาศัยสัญชาตญาณของเธอ ไม่สามารถสงสัยในหลัก ฐานของผู้ชายคนนี้ได้จริงๆ

ก่อนกลับธิชาก็ได้ไปหาคุณหมอที่เป็นเจ้าของคนไข้เพื่อ พูดคุยถึงอาการป่วยของเพียงวรินทร์ ที่แท้แก็ป่วยมาได้ ครึ่งปีแล้ว เหตุเพราะมีอาการเบื่ออาหารมาครึ่งปีแล้วจน ไม่สามารถทานอาหารได้ตามปกติ เธอไม่ใช่แค่ว่าสติไม่สมประกอบเท่านั้น น้ำหนักก็ลดลงเรื่อย ๆ ถ้า สภาพแบบนี้ยังไม่ได้รับการรักษาให้ดีขึ้น อวัยวะทุกส่วน ในร่างกายของเธอก็จะเริ่มเสื่อมสภาพลง

ธิชาไม่สามารถลืมเลือนท่าทางกรีดร้องอย่างหวาดกลัว ของเพียงวรินทร์ จนไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่า ผ่านเรื่องราวอะไรมา

จนกลับมาถึงบ้าน อารมณ์ของเธอถึงได้ผ่อนคลายลง

ตอนเดินเข้าโถงทางเดินนั้น ก็ยังไม่หยุดคิดถึงความคิด ของตนเอง เพื่อเดินผ่านห้องรับแขกนั้น ก็เจอกับสีหน้าบูด บึ้งเคร่งขรึมเหลือเกินของธาวิน

ธิชาถูกสายตาบูดบึ้งของเขากวาดมองสำรวจร่างกาย โดยรอบ จนได้สติกลับมา พลันสำนึกผิดทันที ฝ่าเท้าแข็ง ทื่อ จนไม่กล้าจะสบสายตากับเขา

ธาวินหน้าตาเคร่งเครียดบอกบุญไม่รับแทบไม่พูดไม่จา คอยจ้องมองเธออยู่ตลอดเวลา สักพักถึงได้เปล่งเสียง เย็นยะเยือกออกมา “ยอมกลับบ้านแล้วสิ?”

ธิชาถูกบรรยากาศที่บีบรัดรอบตัวของเขาจนทรมานอยู่ บ้าง เธอเองก็ไม่มั่นใจว่าคืนนี้จะเป็นเรื่องไหนที่ทำให้ธา วินเกิดอาการไม่สบอารมณ์ ทำได้แต่เชื่อฟังไปตามน้ำ เล็กน้อย หวังว่าจะสามารถหลบเวรกรรมนี้ไปได้
“คืนนี้เพื่อนของฉันมีธุระ เลยกลับมาช้าไปบ้าง…. แต่ฉัน ก็ได้โทรศัพท์บอกกับป้าจันเอาไว้ก่อนแล้ว บอกว่าคืนนี้จะ ไม่กลับมากินข้าวที่บ้านแล้ว”

Bชารู้สึกว่าใบหน้าของเขาเคร่งเครียดขนาดนั้น ท่าทาง กำลังสอบถามภรรยาของตนเองที่กำลังนอกลู่นอก ทางอยู่ สัญชาตญาณของเธอคาดเดาได้บางที จะต้อง เกี่ยวข้องกับคนัยกฤตด้วย จนฝ่ามือมีเหงื่อไหลออกทันที

ธาวินกลับไม่ได้เอ่ยถึงผู้ชายคนนั้นมาสักประโยค เอาแต่จ้องมองเธออยู่นานอย่างเย็นยะเยือก จากนั้นก็ลุก พรวดเพื่อดึงเธอแล้วไปยัดวางลงบนโซฟา และเอาฝ่ามือ ใหญ่จัดการดึงเสื้อโค้ตของเธอออกทันที

ธิชาใส่เสื้อเสื้อสเวตเตอร์คาร์ดิแกน จนถูกพละกำลัง ของเขาดึงจนกระดุมขาดออกจากกันเป็นชุด ท่อนบนถูก เขาลอกปอกเปลือกจนโป๊เปลือย

นิ้วเย็นๆ ของธาวินผิวบนแขนซ้ายของเธอ จนเห็นรูเข็ม เล็กๆ เข็มนั้นที่ไม่สามารถมองได้ด้วยตาจริงๆ

ธิชาเข้าใจทันทีว่าทำไมเขาถึงได้โกรธจัด เธอเม้มริม ฝีปากเอาไว้ พยายามให้ตนเองดูสงบนิ่งเข้าไว้ “ธาวินคุณ สงบสติอารมณ์ก่อน ฟังฉันอธิบายก่อนได้ไหม?”
เขาหน้านําคร่าเครียด รอบตัวมีแต่ความเกลียดชังที่แผ่ รัศมีออกมา ราวกับว่าต้องการจะฉีกเธอเป็นๆ ให้เป็นชิ้นๆ ในเสี้ยวนาทีต่อไป

ธาวินใช้มือทั้งสองข้างบีบแก้มของเธอเอาไว้ น้ำหนักที่ ลงแรงเหมือนกับต้องการจะบีบกรามของเธอให้แหลกคา มือ

“อธิบายเหรอ? คุณเตรียมจะอธิบายอะไร ผมไม่อนุญาต ให้คุณกินยา คุณก็เลยไปฉีดยาคุมแล้วใช่ไหม ผมรู้สึกว่า คุณยิ่งกล้าหาญมากขึ้นเรื่อย ๆนะ จนเริ่มตั้งข้อเป็นอริกับ ผมแล้วจริงๆ เหรอ?”

ธิชาถูกน้ำเสียงดุร้ายโหดเหี้ยมของเขาบีบจนไม่มีทาง หนีอีกแล้ว จนแก้มและคางเจ็บปวดร้าวระทมยิ่งกว่าเดิม

เธอเจ็บจนน้ำตาเอ่อล้นออกมา และต้องรวบรวมพละ กำลังมากมายมหาศาลในการเปล่งเสียงออกมาจากลำ คอหนึ่งประโยค “ฉันก็แค่ไม่อยากจะท้องซ้ำอีกครั้ง”

ธาวินหรี่ตาลง รูม่านตาปะทุไฟกองเพลิง

“โครม” เสียงดังสนั่นหวั่นไหว จนเหมือนว่าวิลล่าทั้งหลัง ก็สั่นคลอนไปด้วย

เขาใช้เท้าถีบโต๊ะเคาน์เตอร์ตรงโซฟาออก ทุกอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะกระเด็นกระดอนไปพลิกคว่ำไปทั่ว จน ทําให้คนรับใช้หลายคนรีบกรูเข้ามาหาทันที

คนรับใช้ที่ยังเป็นวัยรุ่นอยู่เมื่อเห็นสภาพแล้วต่างก็ตกใจ กลัวจนไม่กล้าปริปากออกมา มีแค่ป้าจ้นที่รู้เหตุผลก่อน หน้าเท่านั้น จึงได้เสนอหน้าเอ่ยปากห้ามปรามอย่างกล้า หาญพูดออกไปทันที “คุณชายใจเย็นๆ ก่อน มีอะไรค่อยๆ พูดกัน มีอะไรค่อยพูดนะ… แม้ว่าครั้งนี้คุณหนูจะไม่ได้พูด คุยกับคุณชายก่อน แต่ว่าก็มีเหตุผลพอ เธออายุยังน้อย แถมยังเรียนอยู่ เด็กสาวอายุยังน้อยแค่นี้ใครจะกล้ามีลูก อีกอย่าง การเดินท้องโตอยู่ในโรงเรียนมันดูไม่ดี…

ธิชาคิดว่าเธอสามารถไปฉีดยาคุมได้ตรงเวลาโดยที่ไม่ ต้องมาพะวงหน้าพะวงหลังอะไร เพราะว่าธาวินเขามีเรื่อง ต้องทำอยู่เยอะแยะ น่าจะไม่ใส่ใจกับเรื่องเล็กน้อยพวกนี้ เขาน่าจะเข้าใจว่ามดลูดของเธอยังไม่พร้อมพอในการที่ จะตั้งท้องได้ในระยะเวลาอันสั้นนี้

ทว่าไม่คิดว่าเพิ่งจะฉีดยามาหยก ๆ ก็ถูกเปิดเผยซะ แล้ว….

ธาวินผ่อนคลายปลายคางของเธอ แต่เอื้อมมือไปถอด เข็มขัดที่เอวออก

ธิชารู้ว่าเขาเริ่มไม่มีเหตุผลอีกแล้ว จนหัวใจเริ่มสั่นเทาแต่ก็ยังปากแข็งอยู่

เธอเม้มริมฝีปากเอาไว้ สีหน้าดูดื้อรั้นตอนพูดออกมา “คุณต้องการจะทำร้ายฉันอีกแล้วใช่ไหม แต่ตีฉันแล้ว มันมีประโยชน์อะไรไหม ฉันฉีดยามาแล้ว คุณตีฉันให้ ตายไปฉันก็ท้องไม่ได้อยู่ดี คุณลองไปดูสภาพตัวเองใน กระจกสิว่าตอนนี้ความเป็นธรรมของคุณมันบิดเบือนไป มากขนาดไหนแล้ว! คุณมันจิตใจหยาบช้าบ้าไปแล้ว คุณ เล่นสนุกพอหรือยัง ที่ยังต้องการให้ฉันมีลูกให้กับคุณเห รอ? ถ้าเกิดคลอดออกมาจริง พอเด็กเกิดมาก็คงถูกคน มากหน้าหลายตาเหยียดหยามตราหน้าสักเท่าไหร่? เป็น หน้าที่ของพ่อและแม่ในการวางแผนอนาคตเพื่อลูก คุณ ไม่มีความเป็นมนุษย์ได้นี่ แต่ว่าฉันทำไม่ได้!

มุมปากของธาวินกระตุกเล็กน้อย เขาเอาเข็มขัดบีบกำ แน่นในฝ่ามือ “ธิชาคุณลืมฐานะของตัวเองไปหรือเปล่า ด้วยฐานะอันต่ำต้อยของคุณ การที่ท้องสายเลือดของผม หรือว่ามันเป็นการทำให้คุณรู้สึกผิดเหรอ?!”

มือของเขายกขึ้นแล้วพุ่งลงมา จนมีเสียง “เจี๊ยะ” กระทบ บนร่างกายของริชา

ธิชาเจ็บปวดจนต้องขมวดคิ้ว และพลิกตัวยอากจะหลบหล็ก
ป้าจ้นตกใจจนร้องห้ามปรามอย่างเศร้าโศก “คุณชาย คุณชายใจเย็นก่อน อย่าทำร้ายคุณหนูเลย ปีนี้ทั้งปี ร่างกายคุณหนูยิ่งอ่อนแอลงไปทุกวัน เธอรับไม่ไหวแล้ว คุณชายอย่า….”

คำพูดห้ามปรามแกมขอร้องของเธอเพิ่งจะพูดได้เพียง แค่ครึ่งเดียวก็ถูกเสียงของธาวินตะคอกใส่แล้ว

สีหน้าของเขาเหมือนท่านพยายมราชที่กำลังปีนขึ้นมา

จากขุมนรกอเวจี

“ไสหัวออกไปให้หมด ไป!”

สัญชาตญาณของธิชารับรู้ได้ว่าเรื่องที่ตนเองแอบไป ฉีดยามาราวกับเป็นการไปกระตุกหนวดเสือของธาวิน ทำให้โกรธ

อาการโกรธเป็นฟืนเป็นไฟของเขาไม่ใช่ว่าแค่คนใกล้ตัว ช่วยพูดเพื่อเกลี้ยกล่อมเขาไม่กี่ประโยคก็สามารถหยุด เขาได้

เธอไม่อยากให้คนใกล้ตัวติดร่างแหไปด้วย เลยให้ป้าจัน กับคนอื่นๆ ถอยไปก่อน

เธออดกลั้นกับความเจ็บปวดเมื่อครู่เอาไว้ พร้อมทั้งใช้ สายตาเย็นชาจ้องตาธาวินกลับ “คุณสามารถข่มขืนฉันได้ และก็สามารถบีบบังคับให้กันแท้งก็ได้ แต่คุณไม่มี สิทธิ์ที่จะมาบีบบังคับให้ฉันมีลูกกับโดยที่ฉันไม่ยอมไม่ ได้ ธาวินวันนี้จะพูดกับคุณตรงๆ ฉันไม่อยากมีลูกกับคนที่ ทุเรศอย่างคุณ!”

ธาวินใช้เข็มขัดมัดมือทั้งสองข้างของเธอเอาไว้ พร้อม ทั้งยิ้มให้จนทําให้คนขนลุกขนชั้นหนาวจนสยองขวัญ

เขาจับเธออ้าปาก จากนั้นก็เอาแห่งความปรารถนาอัน ร้อนผ่าวของตนเองแกมบังคับยัดเข้าปากทันที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ