โซ่รักเสน่หา

บทที่ 42 ธาวินให้รางวัลเธอ



บทที่ 42 ธาวินให้รางวัลเธอ

ธาวินได้ยินการรายงานที่มีความหมายเป็นนัยน์แบบนี้ แล้วก็เหมือนว่าไม่ได้โกรธเคืองอะไร

ไม่เพียงแต่ไม่ได้โกรธเคืองสักนิด ขนาด หน้าที่แปลก ใจยังไม่มีเลย

ธาวินเหลือบตามองเช็คเงินสดสองล้านใบนั้นอยู่ในมือ

อยู่สักครู่ จากนั้นก็วางมันลงทันที

เขาหยิบซิการ์มวนบางหนึ่งมวนออกมาจากกล่องใส่ ซิการ์ จากนั้นก็จุดขึ้น

ไพลินจ้องมองสีหน้าของเขาที่ยากแก่การคาดเดาได้ จน ในใจไม่สามารถจับจุดได้ ไม่กล้าที่แม้จะปริปากพูดต่อ อะไรมากได้อีกเลย

ธาวินพ่นควันออกมาครั้งหนึ่งแล้ว จากนั้นก็ถามกลับ อย่างไม่รีบไม่ร้อน “ไพลินคุณคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้?”

ไพลินคิดแล้วคิดอีก หลักฐานที่แสดงออกมาอย่างทนโท่ ขนาดนี้แล้วถ้าว่าเธอไม่ใช้มันให้เป็นประโยชน์ เธอก็ สบายใจจริง ๆ
เธอลังเลอยู่ชั่วครู่จากนั้นก็ตอบกลับมา “ฉันแค่รู้สึกว่า เงินสองล้านมันได้มาช่างง่ายดายเกินไปหน่อย จากการ สังเกตของฉันที่มีต่อคุณธิชาแล้ว เธออายุยังน้อย แถม ยังไร้ประสบการณ์ในการทำงาน ทว่าเรื่องนี้เธอกลับ สามารถเอาเงินก้อนนี้มาจากมือจิ้งจอกเจ้าเล่ห์อย่างด นัยกฤตมาได้อย่างง่ายดาย จนทําให้ฉันมองเธอไม่ออก แล้ว…”

ธาวินชำเลืองมองเธอ “คุณฉลาดเป็นกรด ยังมีอะไรที่ คุณมองไม่ออกอีกเหรอ มีอะไรก็พูดมาตรงๆ เลย อย่าได้ แต่อ่ำ ๆ อึ้งๆ อยู่”

ไพลินไม่กล้าพูดใส่ไฟให้มาก ถึงอย่างไรใช่ว่าเธอดูไม่ ออกว่านังปีศาจริชานั่นมันเกาะแกะคุณชายเอาไว้แน่น ขนาดเรื่องงานวันแต่งงานของคุณชายยังไม่สามารถ เขย่าฐานะของเธอได้เลย ไม่แน่เรื่องงานฉลองในคืนวัน หมั้นที่ใหญ่โตในวันนั้นเธอจงใจทำขึ้นมาก็ได้….

ไม่เสียดายในการทำลายชื่อเสียงของตนเองให้ป่นปี้ แถมยังเปิดเผยความสัมพันธ์ของเธอกับคุณชายต่อหน้า ต่อตาสาธารณชนแบบจัดเต็มอีก ช่างสุดยอดจริงๆ เลย

ไพลินได้แต่ส่ายหน้าไปมา “ฉันไม่กล้าพูดลอย ๆ ก็แค่ กล่าวรายงานไปตามความจริงเท่านั้นเอง และเชื่อว่า คุณชายย่อมมีวิจารณญาณเป็นของตัวเองเช่นกัน”
ธาวินสูบซิการ์มวนบางไปครึ่งมวน สีหน้ายังคงปกติตาม เดิม มองไม่ออกถึงอาการยินดีหรือโกรธเคือง

เขาโบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้เธอออกไป ไพลินทำได้ แค่หันตัวออกไปอย่างเงียบๆ

วินาทีที่เธอเปิดประตูห้องหนังสือนั้น ก็ตกใจกับใบหน้า อันเย็นชาของธิชาที่อยู่ด้านหน้า

ตอนที่เธออ้าปากจะพูดออกมา ธิชาก็ยื่นขาออกมาเพื่อ ขวางเธอเอาไว้

ไพลินไม่คิดสักนิดว่าด้านหน้าประตูห้องหนังสือจะมีคน กล้าแอบฟังเธอ อีกทั้งยังไม่มั่นใจว่าเนื้อหาที่ตนเองกับ คุณชายพูดกันอยู่นั้นผู้หญิงคนนี้จะได้ยินสักกี่มากน้อย แล้ว

ช่วงเวลาตื่นตระหนกตกใจ อีกทั้งยังไม่มีการตั้งรับใดๆ จนทำให้สะดุดขาเธอ

ธิชาไม่คิดเลยว่าไพลินที่เป็นผู้หญิงแกร่งกล้าคนหนึ่งจะ มีปฏิกิริยาตอบกลับได้เชื่องช้าขนาดนี้ เมื่อเห็นท่าทางที่ ล้มกองอยู่ที่พื้นอย่างทุเรศทุรังแล้ว จนเธออดไม่ได้ที่จะ เม้มปากแสดงอาการดีใจออกมา

เธอไม่ยิ้มก็ยังพอทนไหว แต่นี่ถึงกลับมีเสียงหัวเราะออกมาจนยั่วทำให้ไพลินโมโหทันที

เธอรีบลุกพรวดจากพื้นทันที พร้อมทั้งรีบทรงตัวบน รองเท้าสูงปลายสันแหลมปรี๊ดด้วยท่าทางจองหองและ ตอบกลับไป “คุณริชานี่มันหมายถึงอะไร ฉันไปทําผิดกับ คุณเหรอไง ถึงได้ทำเรื่องปัญญาอ่อนยื่นขาออกมาให้ฉัน สะดุดมีแค่คุณเท่านั้นเหรอที่สามารถทำได้ใช่ไหม?!”

ร่ชาแสยะยิ้ม และเผยอปากเยาะเย้ย “เมื่อเทียบกับคุณ ไพลินที่รู้ทั้งรู้ว่าไนต์คลับห้องนั้นเป็นถิ่นของคนอื่น แต่ กลับจงใจผลักฉันให้ส่งไปตาย ความสามารถของฉัน แน่นอนว่ามันไร้เดียงสาอยู่มาก ใครจะกล้าลงมือได้แสบ ทรวงกว่าคุณก้น”

ไพลินถูกคำยอกย้อนจากเธอจนสีหน้าประหม่าออกมา ทันที แต่ยังไม่ทันอ้าปากพูดอะไร

ผู้ชายที่อยู่ในห้องหนังสือตื่นตระหนักกับเสียงของพวก เธอที่กำลังทะเลาะกันอยู่ และเดินมาถึงประตูด้วยสีหน้า ไร้ซึ่งความรู้สึก

ไพลินเห็นว่าธาวินเดินออกมาแล้ว จึงรีบปรับความเฉียบ คมบนใบหน้าของตนเอง พลันแสดงท่าทางน้อยเนื้อต่ำใจ ในการอดทนอดกลั้นเอาไว้ พลางส่งเสียงกระซิบจึมงำ อย่างอ่อนโยน “คุณชาย…”
สีหน้าของธิบาก็ไม่มีความโกรธเคืองแต่อย่างใด เมื่อเห็น เขาก็ไม่ได้คือไม่ได้คืออะไรต่อ

ธาวินชำเลืองมองเธอ พลางเบนสายตาไปทางไพลิน “นี่ พวกคุณกำลังทะเลาะอะไรกันอยู่”

ในใจของไพลินกำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ คำพูดจุกปาก แต่ไม่กล้าจะเอาเรื่องยิบย่อยไปรบกวนเขา

แค่กลัวว่าตนเองจะคิดมากเกินไปจนไปยั่วอารมณ์ให้ เขาโมโหขึ้นมา

เวลานั้นเธอก็ไม่ได้ส่งเสียงพูดอะไรออกมา ทว่าธิชา ได้แต่แสยะยิ้มให้อย่างเย็นชา พลางพูดด้วยน้ำเสียงอึม ครีมแปลกพิกล “ไม่รู้ว่าคุณไพลินไปทำอะไรที่ใจคอไม่สู้ ดีมาเหรอถึงได้รีบร้อนจะออกไป พอเปิดประตูออกมาก็ ร้อนรนจนไม่ยอมมองทาง โตขนาดนี้แล้ว ยังหกล้มได้ จน ทำให้ฉันยังตกใจตามเลย”

ไพลินมองเธอที่พลิกหน้ามือเป็นหลังมือ จนนัยน์ตาจะ ระเบิดอารมณ์ความโกรธอยู่แล้ว

ธาวินจ้องมองใบหน้าเล็กอันดื้อรั้นหัวชนฝาของธิชา ใน ใจคงคาดเดาเอาเองไปเรื่อยเปื่อยแล้ว

ซึ่งสีหน้าของเขาก็ยังคงเช่นเดิม พลางยื่นมือออกไปคว้าข้อมือของเธอ พลางดึงเธอเข้าหาด้านข้างของตนเอง พร้อมทั้งถามกลับด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ทำไมอารมณ์คุณ บูดบึ้งขนาดนี้เนี่ย ปกติแล้วไพลินทำงานเยอะมาก ตอน นี้ยังต้องคอยสอนคุณทำงานอีก เธออายุมากกว่าคุณตั้ง สองปี ถึงอย่างไรก็ควรจะเรียกว่าพี่นะ โตป่านนี้แล้วทำไม ถึงไม่เข้าใจกฎระเบียบบ้างล่ะ?”

ไพลินได้ยินคำพูดของธาวินแล้ว ทั้ง ๆ ที่กำลังกล่าวโทษ อย่างเปิดเผยอยู่ แต่ในทางกลับกันแสดงความหมายเป็น นัยน์ไม่ได้คิดเอาความใดๆ

เธอเสียหน้าเล็กน้อย คำพูดที่ต้องการจะฟ้องเลยทำได้ แค่กลืนลงท้องไปทั้งหมด

ธิชาแสดงท่าทีเชื่อฟัง พร้อมทั้งยิ้มหวานให้เธอ “พี่ไพลิน ต่อไปเวลาเดินก็ต้องระมัดระวังหน่อยนะ จะได้ไม่ล้มจน ทำให้ตัวเองบาดเจ็บอีก เวลาก็ดึกดื่มแล้ว คุณควรจะกลับ ไปพักผ่อนที่บ้านเถอะ”

หลังจากพูดจบ เธอก็มองใบหน้ารูปไข่อันวิจิตรงดงาม ไพลินที่กำลังหน้าชาอยู่ จนเห็นได้อย่างชัดเจนว่าโกรธ เคืองออกมาและหันหลังเดินกลับไป

ธิชาแสยะยิ้มอย่างได้ใจ เรื่องนี้ถือว่าจบกันสักที

นิ้วเรียวยาวของธาวินบีบปลายคางของเธอ ริมฝีปากอันงดงามอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา ผมให้คุณไปเรียนรู้ งานกับไพลิน แต่คุณนี่ดีจริง ๆ ไปโกรธเคืองอะไรกับเธอ ล่ะ?”

เธอกะพริบตาไป แถมยังทำหน้าไร้เดียงสา “ฉันจะกล้า ไปอารมณ์เสียใส่ ไพลินได้ยังไงกัน ใครหน้าไหนไม่รู้ บ้างว่าพี่ไพลินเป็นคนโดดเด่นมากในสายตาของคุณ ชายธาวิน แต่ว่าเธอไม่ชอบขี้หน้าฉันเลยจงใจทำให้ฉัน ลําบากใจเท่านั้นเอง ฉันจะกล้าไปยั่วโมโหเธอได้ยังไงกัน คะ”

ธาวินเดินโอบตัวเธอกลับไปที่ห้อง และไม่ได้เอ่ยถึงเรื่อง เล็กน้อยที่แสนน่าเบื่อพวกนี้เลย ได้แต่สอบถามเธอว่า ช่วงนี้เรียนอะไรมาบ้างแล้ว

ริชาตอบหมดเปลือก ตอนแรกในใจยังมีเรื่องบางอย่าง ค้างอยู่ เพราะว่าคอยกังวลว่าธาวินจะถามเรื่องเช็คใบนั้น ขึ้นมา

ทว่ายากมากนักที่ธาวินไม่ได้แหวกหญ้าให้งูตื่น ตั้งแต่ ต้นจนจบก็ไม่ได้เอ่ยปากถามเรื่องดนัยกฤตเลย เธอย่อม ไม่เสนอหน้าพูดออกไปเอง เรื่องนี้เหมือนว่ามันไม่ได้ส่ง ผลจนสร้างปมอะไรในใจเขาเลย

ในทางกลับกัน เหมือนว่าธาวินเองก็ดีใจมากกับการ พัฒนาของเธอที่ก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆ
กระทั่งเป็นคนเอ่ยปากถามเธอก่อนว่าอยากได้อะไรเป็น ของขวัญด้วยซ้ำ

ริชาครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ยากนักที่ธาวินจะใจกว้าง เธอไม่ สามารถปล่อยผ่านโอกาสนี้ไปได้เลย

ปัญหาที่ใหญ่มากสำหรับเธอในช่วงนี้คือความอิสระ เพราะว่า ธาวินมักจะให้คนขับรถคอยติดตามเธอ อยู่ตลอดเวลา จนทำให้เธอไม่กล้าไปฉีดยาคุมที่โรง พยาบาลเลย

นอกจากนี้ ตอนนี้เธอไปอยู่สองที่คือที่มหาวิทยาลัยกับ อยู่ในคลับ ถ้าไม่มีคนขับรถคอยตามอยู่ ตนเองก็ยิ่งไม่ สะดวกเข้าไปใหญ่

ดังนั้นในใจของเธอคิดขึ้นมา พลางใช้เสียงกระซิบลอง ถามดู “ฉันอยากได้รถยนต์หนึ่งคัน ไม่ว่าจะไปเรียนหรือ ว่าไปทำธุระอะไรก็จะได้สะดวกขึ้นค่ะ”

ตอนที่เธอถามมีอาการหดหู่เล็กน้อย เพราะมีการเตรียม การถูกปฏิเสธกลับมาเอาไว้ก่อนแล้ว

หลังจากนั้นธาวินก็ไม่ได้มีท่าทางลังเลแต่อย่างใดเลย พลางพยักหน้าตกลงทันที

หลังจากนั้นหลายวัน ธิชาก็เห็นรถปอร์เช่คันใหม่กริ๊บจอดอยู่ด้านหน้าสนามของวิลล่า

สีรถยนต์แน่นอนว่าต้องเป็นสีชมพูระเรื่อ ไม่ได้เป็นสีที่ ฉูดฉาดมากนัก แต่ก็สะดุดตาอยู่พอควร ยิ่งสาวๆ พอเห็น แล้วยิ่งทำให้ชื่นชอบกันยกใหญ่

ผู้ช่วยคนหนึ่งของธาวินเป็นคนเอารถมาส่ง

เขาเอากุญแจรถยื่นให้ริชากับมือ

แถมยังท่าทางได้สอพลอเกินตัว และยิ้มหน้าบานตอน ที่พูดออกมา “ประธานธาวินได้สั่งจองกับทางโรงงาน โดยตรง รถยนต์คันนี้ราคาแพงหูฉี่ และยังดำเนินการเอา เข้ามาจากโรงงานโดยตรงด้วยการสั่งทำ ขอแสดงความ ยินดีกับคุณธิชาด้วย สีนี้มันช่างเหมาะกับนิสัยของคุณ เป็นพิเศษ”

ริชาเองก็แปลกใจมาก จนถึงขั้นตะลึงเล็กน้อย

ตลอดปีที่ผ่านมา ขนาดเงินค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ธาวินยังขี้เหนียวกับเธอเลย อย่าได้เอ่ยถึงส่งของขวัญ อะไรให้เลย

เงินที่ใช้สอยในชีวิตประจำวันกับค่ายาของณิชานาฎ ก็ได้มาจากการที่เธอไปนอนกับธาวินทั้งสิ้น ราคารถคันนี้ อย่างน้อยหลายล้านมาก ถ้าธาวินไม่ได้ส่งให้เธอฟรี ๆเธอเกรงว่าคงต้องหลับนอนถึงขั้นขาอ่อนก็ยังไม่ยอมให้ นอนแล้วมั้ง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ