ตอนที่ 81หย่ากับฉันเพื่อธัชชัย
ธัชชัยคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงจะยอมรับออกมาตรงๆ โดยแทบจะไม่ ปกปิดและปกป้องตัวเขาเองด้วย พวกคุณมีอะไรกันแล้วหรอ”
น้ำตาที่เป็นประกายแวววับแกะบนใบหน้าสวยของวันสาเธอ เงยหน้าขึ้นแววตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด”วรพลฉันขอยืนยัน ว่าจะไม่มีครั้งหน้าอีกแล้ว!คุณอย่าโมโหและอย่าโทษธัชชัยด้วย ทั้งหมดเป็นความผิดของฉันเป็นเพราะฉันมันไม่ดีเอง คุณก็รู้ว่า เขาเคารพคุณเหมือนพี่ชาย… เพราะฉันไม่อยากถูกเมินเฉยเลย ต้องไปล่อลวงเขา!”
ธัชชัยหรี่ตาลงเขาอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะปกป้องเขาถึงขนาด ไหน
“เป็นไปไม่ได้หรอกที่คุณจะล่อลวงธัชชัย เรื่องแบบนี้หากฝ่าย
ชายไม่ยินยอมด้วยแล้วจะทำสำเร็จได้ยังไง?
วังสาส่ายหน้าตลอดขณะเดียวกันก็สะอึกสะเทือนไม่พูดอะไร ออกมา
เมื่อธัชชัยเห็นท่าทางเธอร้องไห้เหมือนดอกสาลี่ตากฝนสีหน้า ก็ดูอ่อนโยนลงไปมาก”ทำไหมต้องปกป้องธัชชัยขนาดนั้นด้วย ล่ะ? หรือว่าคุณรักเขาเข้าจริงๆแล้ว?”
เป้าหมายของธัชชัยก็คือคำตอบที่ออกมาจากปากของเธอเขา ต้องการให้ผู้หญิงคนนี้ยอมรับว่ารักเขาและเธอต้องเป็นคนพูดออกจากปากของเธอเองด้วย!
แต่เขาเองก็ไม่รู้ว่าในสายตาของวัดสาแล้วความสัมพันธ์ ระหว่างพี่น้องของพวกเขาสองคนจะสำคัญมากขนาดไหนและ ด้วยเหตุนี้เธอจะยอมรับว่าตัวเองชอบธัชชัยได้ยังไง? เพราะถ้า เป็นแบบนี้อาจจะทำลายมิตรภาพความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา ก็ได้ถ้าหากมีช่องโหว่หวาดระแวงเกลียดชังก็จะทำร้ายหัวใจของ ธัชชัยได้
หากรู้ว่าผลลัพธ์เป็นแบบนี้วจสาคงทำใจยอมรับไม่ได้แน่ เพราะเธอคงไม่ยินยอมเห็นผลลัพธ์ไม่ดีเป็นแบบนี้เหมือนกัน
“เปล่าค่ะวรพลฉันผิดไปแล้วค่ะ ได้โปรดคุณอย่าโกรธฉันเลย เพราะมันไม่ดีต่อตัวคุณและอย่าโทษธัชชัยเลย!คุณรังเกียจ เพราะฉันสกปรกใช่ไหม?รังเกียจเพราะฉันไม่สะอาดแล้วใช่ ไหม? พวกเรา…พวกเราหย่ากันก็ได้ค่ะ…” ในตอนนี้วันสากระวน กระวายมากจนหวาดกลัววรพลจะพาล โกรธธัชชัย
เมื่อธัชชัยได้ยินคำว่าหย่าหนึ่งพยางค์นี้รู้สึกเจ็บปวดแปลบ เหมือนกับหางแมวโดนเหยียบทันใดนั้นก็โกรธเดือดดาลขึ้น”วัจ สาคุณอยากจากผมไปจนทนไม่ไหวขนาดนี้เลยหรอ? แล้วยังหา ข้ออ้างแบบนี้อีกหรอ? คุณคิดว่าผมจะเชื่อหรอ? หรือว่าที่แท้แล้ว คุณรังเกียจผมคนๆนี้ที่พิการทั้งตัวคุณคงกลัวว่าผมจะทำคุณ อับอายขายหน้า ใช่ไหม?”
เบ้าตาของวังสาเต็มไปด้วยน้ำตาดังนั้นภาพเบื้องหน้าเธอเห็น เป็นภาพเลือนรางเธอยื่นมือเช็ดน้ำตาอยู่สักพักใหญ่จึงจะสามารถมองเห็นคนที่อยู่ต่อหน้าได้หน่อย”จะเป็นไปได้ยังไงค่ะ? ฉันไม่มีวันรังเกียจคุณอีกอย่างต่อให้พวกเราหย่ากันฉันก็ยังจะ อยู่บ้านตระกูลศรีทองดูแลคุณค่ะ!”
วังสายื่นมือออกมากุมมือที่มีรอยถลอกของวรพล เพื่อ ต้องการแสดงเจตนาที่ชัดเจน ให้ทราบวันสาถือเป็นคนใจดีมี เมตตาไม่มีทางที่จะทอดทิ้งคนที่ไม่สามารถจัดการตัวเองในชีวิต ประจำวันอย่างวรพลได้อีกอย่างเธอก็รู้ว่าวรพลเป็นแบบนี้คงจะ รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจมากและคงต้องการความเป็นห่วงเป็นใยจาก คนข้างนอกแต่ไม่ได้ต้องการคนที่จากไปอย่างไม่มีวันสิ้นสุด
เธอเองก็เป็นคนที่รู้สึกต่ำต้อยเหมือนกันแต่เป็นความรู้สึกที่ เก็บกดไว้ใต้ก้นบึ้งของหัวใจที่ไม่เคยเผยออกมาแต่ยังคงใช้ชีวิต อย่างสนุกสนานเพราะเธอหลอกหัวใจตัวเองไม่ได้จริงๆ
ถึงแม้จะเก็บกดไว้ภายใต้ก้นบึงหัวใจก็ตาม
เหตุผลที่ต้องการหย่ากับวรพลเพราะหวาดกลัวว่าตัวเองจะ ดูแลสามีคนนี้ได้ไม่ดีและในใจก็ชอบผู้ชายอีกคนด้วยแต่เป็นรัก ที่ไม่สามารถครอบครองพูดแบบนี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยยุติธรรมกับ วรพลสักเท่าไหร่
ตอนแรกวัจสาคิดว่าหลังจากหย่าเขาแล้วก็จะยังอยู่ที่นี้ใน ฐานะอื่นของตระกูลศรีทองอาจจะเป็นคนรับใช้หรือถ้าเขาไม่ รังเกียจอยู่ในฐานะน้องสาวก็ดีเพราะหากเป็นแบบนั้นในใจของ วัจสาก็จะได้ไม่ต้องถูกศีลธรรมมากักขังตัวเองจนทำให้รู้สึกผิด และไม่ต้องลำบากใจด้วย
ธัชชัยส่งเสียงอั้มหนึ่งที่ผมไม่ได้รังเกียจคุณเลยวางใจเถอะ คุณก็ทำหน้าที่ภรรยาที่ดีของบ้านตระกูศรีทองต่อไปเถอะ!
เนื่องจากนิ้วของธัชชัยสวมหนังอยู่เลยดูหนาเขาลูบใบหน้ารูป ไข่ที่อ่อนนุ่มของวัสสาจากนั้นก็ลูบแก้มของเธอเบาๆ ครั้งแล้วครั้ง เล่า
เมื่อวังสาได้ยินเขาพูดแบบนั้นเธอก็พูดอะไรไม่ถูก
จู่ๆธัชชัยก็เอ่ยปาก”คุณปกป้องธัชชัยขนาดนั้นไม่ใช่เพราะ อยากจะแต่งงานกับเขาหลังจากหย่ากับผมหรอกหรอ?”
วังสาปกป้องเขาอย่างเห็นได้ชัดเจนแต่ธัชชัยก็ยังคงอยาก ได้ยินค่าชื่นชมที่พูดออกจากปากเธอต่อเขาอยู่
ขณะเดียวกันก็ยืนยันได้ว่าปรมะสู้เขาไม่ได้อย่างเขาจะเป็น อะไรได้ล่ะ?เมื่อตั้งใจคิดอย่างจริงจังตอนนี้ก็สงสัยว่าถ้าหาก ผู้ชายคนนั้นคือรักแรกของวัดสาแล้วทำไหมเธอยังกระอักกระ อวนแบบนี้ล่ะ?แม้แต่จูบก็ไม่ให้แล้วจะกล้าเรียกว่าแฟนได้ยังไง?
อีกอย่างเธอไวต่อความรู้สึกมากเพราะเธอยังบริสุทธิ์เพียงเตะ เบาๆเธอก็มีปฏิกิริยาตอบสนองและเธอยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่อง ชายหญิงด้วยด้วยเหตุนี้ทำให้ดึงดูดความสนใจของคน
แต่ถึงแม้ว่าชายคนนี้จะเป็นคนที่วัดสาเพ้อฝันออกมาเขาก็ไม่ อนุญาตต่อให้ไม่เคยมีรูปแบบความรักแบบร้อนแรงก็ไม่อนุญาต
ในตอนนี้หัวใจของวังสาเต้นแรงมากคงไม่ถูกธัชชัยเดาออก แล้วนะ?เธอก้มหน้าลงเพราะไม่กล้ามองผู้ชายที่มีแววตาแหลมคมเหมือนกับนกอินทรีย์จากนั้นดวงตาที่เห็นได้ชัดเจนก็ กระพริบ
วัจสาสูบลมหายใจเข้าลึกๆหนึ่งที่ในที่สุดเธอก็สบตาธัชชัย และพูดว่า”วรพลฉันอยากเข้าไปในห้องรักษาตัวดูแลคุณไม่เช่น นั้น ในนามภรรยาอย่างฉันก็คงไม่มีประโยชน์อะไรหย่ายังจะดี กว่า…หรือแม้แต่คุณรู้สึกว่าฉันมีเป้าหมายเพื่อต้องการพึ่งพาคุณ ก็ตาม”
ธัชชัยส่งเสียงทุ้มต่ำฟังแล้วเหมือนเป็นเสียงแหบของคนแก่ที่ แฝงด้วยน้ำเสียงมีเสน่ห์ “อ่อ ถ้างั้นคุณคิดว่าในฐานะภรรยาควร ทําอะไรให้เป็นประโยชน์ล่ะ?”
“ดูแลคุณไม่ใช่หน้าที่ของภรรยาคนหนึ่งหรอค่ะ?”วจสาย้อน ถาม
“ใช่แน่นอนถ้างั้นคืนนี้มาดูแลผมนะ เพราะระหว่างสามีกับ
ภรรยายังมีเรื่องอื่นที่ต้องทำกันอีก
ร่างกายที่ยังอายุน้อยพลังกำลังของอายุน้อยเป็นช่วงเวลาที่ คนอายุมากมักจะหวนนึกถึงแม้แต่ธัชชัยเองก็ไม่เว้นเขาชอบของ ที่มีชีวิตชีวาอายุน้อยเขามักจะชื่นชอบมาก
หากเปรียบเทียบผู้หญิงบริสุทธิ์คนนี้ที่อยู่เบื้องหน้าคงเป็น เหมือนกับกระดาษขาวแผ่นหนึ่งที่ทำให้เขาสามารถครอบครอง ความสมบูรณ์และมีเสน่ห์ของเธอตัวเองชอบซะอย่างจะมายังไงก็ ชอบ
วัจสาทําเป็นเมินเฉยกับคำพูดประโยคหลังของเขาและไม่สนใจอะไรด้วยเพราะวรพล ได้ยินยอมให้เธอมาดูแลเขาแล้วซึ่ง นี้ก็ได้พิสูจน์ว่าเขาค่อยๆยอมรับเธอดังนั้นถือเป็นเรื่องดี
“ตอนนี้คุณหิวไหมค่ะ?” ในความเข้าใจของวันสาดูแลก็คือการ ปรนนิบัติเรื่องของการใช้ชีวิต แต่พอพูดถึงปัญหาเรื่องหิวธัชชัยก็รู้สึกหิวขึ้นมาทันทีเพราะ เรื่องของกนิษฐาผู้หญิงคนนั้นที่ทรมานเขาเมื่อไม่กี่วันมานี้ทำให้
เขาไม่มีกะจิตกะใจกินข้าวเลย
อีกอย่างอยู่ที่นี้ก็ไม่สามารถขยับเขยื้อนอะไรได้อีกอย่างผู้หญิง บอกบางที่อยู่ด้วยกันก็ปากแข็งด้วยจะชวนคุยยังไงก็ไม่คุยด้วย หรือว่าต้องทำอย่างที่บรีแนะนำไว้ว่าต้องอ่อนโยนกับเธอหน่อย อย่างนั้นหรอ?
คนที่อยู่เบื้องหลังไม่ได้อยู่ที่เมือง เพราะด้วยอิทธิพลของรัช ชัยในเมืองที่ว่าสามารถทำผิดเป็นถูกได้นั้นทำให้เขาได้ครอบ ครองอำนาจส่วนใหญ่ไปหมดแล้วแต่ก็ยังไม่มีเบาะแสของคนๆ นั้นเลยแม้แต่นิดน้อยดังนั้นเขาเดาว่าคนๆนี้น่าจะเป็นคนนอก
ไม่เพียงสามารถรับรู้ข่าวสารแค่ในเมืองSแต่สามารถจ้างคน ให้เป็นหูเป็นตาได้จะเห็นได้ว่าอำนาจเงินของเขาไม่ได้น้อยกว่า ธัชชัยเลยและยังมีอำนาจมืดที่คอยค้ำจุนเป็นความลับอยู่
คนที่บังอาจลงมือกับสองพี่น้องนี้ในเมือง มีไม่กี่คนดังนั้น คนนอกคนนี้ไม่ใช่คนที่ธรรมดา
ความคิดของธัชชัยโลดแล่นเร็วมากจนวังสาต้องตะโกนเรียก เขาหลายครั้งกว่าจะดึงสติกลับมาและพูดว่า “จะว่าไปแล้วก็หิวนิดหน่อย”
ในหัวสมองของเขาปรากฏภาพมีผู้หญิงสวมชุดคนใช้น่ารักๆ มาป้อนโจ๊กให้เขาอยู่ถ้าเป็นแบบนั้น…คงจะดีไม่น้อย
คิดไม่ถึงว่าวจสาจะพูดว่า “ถ้างั้นเดี๋ยวฉันลงไปตักโจ๊กมาให้ นะค่ะป้าอ้อยกำลังต้มโจ๊กอยู่พอดีเลย”วัจสาลุกขึ้นยืนและ เตรียมตัวเดินลงไป
คิ้วของธัชชัยขมวดขึ้นเขาไม่ชอบกินอาหารรสชาติจืดตั้งแต่ ไหนแต่ไรแล้วแต่เขาเองก็ไม่สามารถพูดว่าอยากกินอาหารรสจัด ได้ด้วย
จู่ๆ โทรศัพท์มือถือที่ธัชชัยวางไว้บนหัวเตียงก็ดังขึ้นทำให้วัน สาที่กำลังจะไปต้องหยุดฝีเท้าลงและหันหน้ากลับมาหาต้นต่อ เสียงของโทรศัพท์อยู่ที่ไหน
เมื่อฟังแล้วรู้สึกเหมือนเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือของธัชชัย เลยชายคนนี้ต้องมาที่นี้แน่แต่ไม่ได้อยู่ที่นี้แล้วขณะที่เธอหันหน้า กลับมานั้นก็เห็นธัชชัยกำลังเอื้อมมือจับโทรศัพท์อยู่
การกระทำของเขาดูทะมักทะแม่งเหมือนคนแข็งแรงถ้าหาก ไม่ใช่เพราะรอยถลอกบนตัวเขาและรอยแผลลายพร้อมบนมือ เขาจสาคงนึกว่าเงาร่างที่คุ้นเคยนี้ต้องเป็นธัชชัยแน่อีก อย่าง’ความว่องไวและกิริยาตอบสนองของ’วรพล’แทบจะไม่ เหมือนกับคนที่อยู่ในสภาพป่วยหนักเลย
“เป็นโทรศัพท์ของธัชชัยดังหรือเปล่าคะ?ทำไหมถึงมาอยู่ที่นี้ ได้?ไปเรียกเขาดีไหม?”วจสาถามขึ้น
ธัชชัยที่หยิบโทรศัพท์จู่ๆร่างกายที่แข็งท่อทันทีจากนั้นก็สะดุ้ง ถ้าหากเมื่อกี้เธอเรียกขานหา”ธัชชัย”ไม่แน่เขาอาจจะตอบรับ และเปิดเผยความจริงออกมาแต่น่าเสียดายที่แกะน้อยบริสุทธิ์ได้ ถูกกำหนดเป็นอาหารของหมาป่าอย่างเขาเรียบร้อยแล้ว
“เพิ่งจะทะเลาะกับฉันเองทำไหมถึงลืมหยิบโทรศัพท์กลับไป ด้วยได้นะเจ้าบ้าคนนี้!”ธัชชัยพูดอย่างเหนื่อยใจขณะเดียวกันเขา ก็ปิดหน้าจอโทรศัพท์ที่ปรากฏชื่อขึ้นเพราะหากมีวัสสาอยู่เขาไม่ สามารถรับสายโทรศัพท์ได้
บนหน้าจอปรากฏชื่อบรีเหตุผลที่เขาโทรมาหาน่าจะเป็นเรื่อง ของกนิษฐาเด็กสาวคนนั้นแน่
วจสารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติแต่ผิดปกติตรงไหนเธอเองนึก ไม่ออกได้แต่พยักหน้าเบาๆเพื่อแสดงให้รู้ว่าทราบแล้วและเดิน ออกแล้วลงไปผักโจ๊กให้กับผู้ชาย
ชั้นล่างข้างโต๊ะป้าอ้อยกำลังจัดเตรียมของอยู่ขณะที่วัดสาเดิน ผ่านก็เห็นสปาเก็ตตี้เหลือครึ่งหนึ่งอยู่อาหารนี้ต้องเป็นของที่รัช ชัยกินแน่เลยแต่ช่วงนี้กระเพาะเขาไม่ค่อยดีไม่ใช่หรอ?
“ป้าอ้อยธัชชัยออกไปแล้วหรอค่ะ?”
วัจสาดึงสติกลับมาและพูดเตือนตัวเองทำไหมถึงยังถึงนึกเรื่อง ผู้ชายคนนั้นอยู่อีก และยังเป็นห่วงเป็นใยเขาด้วยเรื่องกระเพาะ อาหารทะลุของเขาก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอส่วนเรื่องเขาจะออกไป หรือเปล่าล้วนไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเธอเลย
ป้าอ้อยสะดุ้งตกใจเพราะเกือบจะปริปากบอกว่าคนที่อยู่บนห้องคือคุณชายรองเธอเลยถอนหายใจเบาๆเพราะเธอรู้ว่าทั้ง สองคนต่างชอบคอกันแต่เพราะความผิดดังนั้นเธอเลย เหนื่อยใจและไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ทั้งสองคนจะสามารถอยู่ด้วยกันซัก ทีอีกอย่างอาการของคุณชายใหญ่ก็ไม่เห็นจะดีขึ้นเลยช่างเป็น เรื่องที่ทำให้คนกังวลใจจริงๆ
ขณะที่ป้าอ้อยกำลังครุ่นคิดถึงเรื่องนี้อยู่นั้นวจสาก็ได้เข้าไปตัก โจ๊กในห้องครัวแล้วเธอยิ้มและพูดว่า “คุณผู้หญิงหิวหรอค่ะ? ไม่เคยเห็นคุณผู้หญิงกินโจ๊กมาก่อนเลยแต่กินบ้างก็ดีค่ะไม่เช่น นั้นผอมตายแน่เลย”
วัจสายิ้มแย้ม “เปล่าหรอกค่ะฉันมาตัก ให้วรพลค่ะเขาบอกว่า หิว”
ป้าอ้อยสะดุ้งและค่อยๆปรับความเข้าใจคนที่เจอวัจสาต้อง แสร้งแกล้งเข้าใจว่าคุณชายรองเป็นคุณชายใหญ่แต่ทุกคน ทราบดีว่าเขาไม่ชอบกินอาหารรสจืดเลยรีบถามว่า “เดี๋ยวฉันไป อุ่นสปาเก็ตตี้ให้นะค่ะจะได้ให้คุณชายรองกินด้วย”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ