วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง

ตอนที่ 82 อีกนิดเดียวความลับก็จะแตกแล้ว



ตอนที่ 82 อีกนิดเดียวความลับก็จะแตกแล้ว

วังสาสะดุ้งตกใจ “ป้าอ้อย คุณฟังผิดแล้วค่ะ ไม่ใช่ธัชชัยอยาก กิน แต่เป็นวรพลอยากกินโจ๊กต่างหากค่ะ เขากินอาหารรสชาติ จัดมากไม่ได้ แต่กินได้แค่อาหารเหลวไม่ใช่หรอค่ะ?”

ถึงแม้ว่าจะพูดแบบนี้ แต่ในใจของวังสาเกิดความรู้สึกข้องใจ วรพล ดูไปแล้วเหมือนกับผู้ชายปกติไม่มีผิด ร่างกายแข็งแรง กล้ามเนื้อแขนมีกล้าม และแทบจะไม่เหมือนกับคนที่ต้องพึ่งพา เครื่องช่วยหายใจเลย มีเพียงต้องกินแค่อาหารเหลวเท่านั้นที่ เหมือนคนป่วย?

แต่เพราะกลัวจะเกิดอุบัติเหตุ วัจสาเลยรีบตักโจ๊กดำไป ให้’วรพล’

เมื่อเห็นร่างเงาของเธอบนชั้นสอง ป้าอ้อยก็ได้แต่ยืนก้มหน้า

ไว้อาลัยให้กับคุณชายรองไม่กี่นาที สวรรค์รู้ดีว่าอาหารที่เขา

เกลียดที่สุดคืออาหารประเภทโจ๊กที่จืดชืดและไม่มีรสชาติ

ในห้องแต่งงาน เมื่อธัชชัยเล่นโทรศัพท์สักครู่ก็ปิดเครื่อง โทรศัพท์ และนอนคิดเรื่อยเปื่อย

เขายังไม่ได้คิดวิธีการแก้ปัญหาของเรื่องกนิษฐาเลย อันที่จริง ถ้าอยากฆ่าเธอให้ตาย ง่ายเพียงแค่ฝ่ามือเดียว แต่เพราะเธอ เป็นถึงผู้หญิงที่พี่ชายใหญ่รัก อีกอย่างเบาะแสเพียงอย่างเดียว ของผู้อยู่เบื้องหลังตอนนี้ก็มีเธอเพียงคนเดียวที่รู้ เธอต้องรู้แน่ว่า คนๆนั้นอยู่ที่ไหน! หากให้เธอตายง่ายๆก็คงดูถูกเธอไป ดังนั้นต้องให้เธอลิ้มรสชาติความเจ็บปวดของพี่ชายใหญ่บ้าง จะต้อง ทำให้เธอชดใช้ด้วยเลือด!

ตอนที่วัดสาเดินถือโจ๊กเข้าไปก็เห็นใบหน้าของธัชชัยเผย สีหน้าเคียดแค้น ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ ถึงแม้รอยถลอกบน ใบหน้าจะปกปิดอารมณ์ของเขา แต่บรรยากาศรอบตัวของเขา ปกปิดไว้ไม่อยู่

เมื่อเห็นโจ๊กในมือของวังสา คิ้วเรียวงามของธัชชัยก็ยิ่งชิดขึ้น ดูเหมือนเขาจะขยะแขยงสิ่งนี้

ในความเป็นจริงแล้วเขาแขยะแขยงโจ๊กเปียกแชะประเภทนี้

มาก ไม่มีรสชาติ อร่อยสู้น้ำเปล่าก็ไม่ได้

ประโยคที่วังสาพูดต่อไปนี้เกือบจะทำให้เขาบ้าคลั่ง ทำให้ คุณรอนานเลย แต่โจ๊กวันนี้ฉันใส่น้ำผึ้งด้วยนะ”

ในสายตาของวันสารู้สึกว่าโจ๊กใส่น้ำผึ้งจะช่วยทำให้ถูกปาก มากขึ้น และไม่น่าจะมีรสชาติจืดชืดขนาดนั้น แต่ในสายตาของ ธัชชัย มันคือฟ้าผ่า ในวันที่ท้องฟ้าสดใส ทันใดนั้นธัชชัยก็ทำ หน้าเหม็น ทำไหมผู้หญิงคนนี้ถึงน่ารำคาญขนาดนี้?

อาหารหวานที่เขาเกลียดที่สุดถูกใส่ลงในโจ๊กแล้ว เช่นนั้นจะ แตกต่างกับอาหารสีดำตรงไหน?

วัจสายิ้มบางๆพร้อมกับผักโจ๊กคำหนึ่งป้อนตรงปากของธัชชัย “ลองชิมค่หนึ่งก่อนว่าอร่อยหรือเปล่า?”

ธัชชัยมองเธออย่างเหนื่อยใจ แต่ไม่ยอมอ้าปาก และไม่อยากให้ของที่เลี่ยนหวานประเภทนี้เข้าไปในปากด้วย

แต่จสายังคงอดทนและยืนหยัดต่อ “เมื่อคุณไม่ใช่บอกว่า หวหรอกหรอ? อ้าปากกินคำหนึ่ง เร็ว”

ตอนที่เธออยู่สถานสงเคราะห์นั้น เธอแทบไม่รู้วิธีการรับมือกับ เด็กน้อยที่ซุกซนเกินไปเลย ในสายตาของวัสสา วรพล ตอนนี้ กำลังทำตัวดื้อดึงอยู่

ธัชชัยไม่อยากทำให้ตัวเองลำบาก ถึงแม้ผู้หญิงคนนี้ตอนนี้จะ ป้อนอาหารให้ตัวเองอย่างอบอุ่นก็ตาม เพราะเขากินของ ประเภทนี้ไม่ลงจริงๆ เลยพูดต่อหน้าว่า : “ผมไม่อยากกินโจ๊ก ผม อยากกินก๋วยเตี๋ยว”

วัจสาสะดุ้งตกใจ “วรพล ถึงแม้อาหารเหลวนี้คุณกินแล้วจะ รู้สึกเลี่ยน แต่มันมีประโยชน์และดีต่อสุขภาพของคุณนะค่ะ อีก อย่างยังสามารถช่วยฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาแข็งแรงด้วย” วัจ สายิ้มแย้ม และปลอบโยนอย่างอดทน

ธัชชัยเริ่มรู้สึกรำคาญกับผู้หญิงคนนี้แล้ว เพราะเธอเอาแต่ คอยเป่าหูซ้ายหูขวาของเขา จนทำให้รู้สึกรำคาญใจจะตายอยู่ แล้ว!

“อย่าเรียกผมว่าวรพล! ผมบอกกี่ครั้งแล้ว ให้เรียกผมว่า สามี!” ธัชชัยพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

วัจสารู้สึกว่าตอนนี้เขากำลังงอแงอยู่ ถึงแม้จะรู้สึกกระดาก อาย แต่ก็ยอมเรียกเขาอย่างอ่อนโยนว่า “สามีค่า…ฉันป้อนให้ นะค่ะ นี้เป็นโจ๊ก มีส่วนช่วยบำรุงกระเพาะ และมีโยชน์ต่อระบบขับถ่ายมาก”

พูดแบบนี้คงไม่ยอมเปลี่ยนโจ๊กเป็นก๋วยเตี๋ยวแน่

อาหารบนซ้อนที่จสาป้อนตรงปากของธัชชัย น่าเสียดายที่ ผู้ชายบางคนกลับไม่ชอบ และไม่ยอมอ้าปากแม้แต่นิดเดียวเลย

วัดสาไม่ขยับเขยื้อน แต่นิ่งเงียบ และยืนกรานต่อไป

สุดท้ายธัชชัยก็อดใจไม่ที่จะมองมือที่เริ่มชาของผู้หญิงคนนี้ที่ ยกขึ้นได้สักพัน จากนั้นปากที่ปิดอย่างแน่นก็อ้าปากขึ้น

เมื่อมองเห็นการยืนกรานของตัวเองสำเร็จ วัดสาก็อดไม่ได้ที่ จะยิ้มออกมา ในที่สุดปากแข็งๆก็เอ่ยปากพูดว่า “เชื่อฟังดีกว่า เลย!”

อันที่จริงโจ๊กมีรสชาติค่อนข้างหวาน และเมื่อผสมผสานกับน้ำ ผึ้งที่วัดสาใส่ด้วย ก็ยิ่งทำให้รสชาติน่าทานมากยิ่งขึ้น ทันใดนั้น ผู้หญิงก็ป้อนทีละคำทีละคำ ไม่นานถ้วยโจ๊กก็หมดเกลี้ยงอย่าง เห็นได้ชัด

บนริมฝีปากของผู้ชายมีของติดอยู่ ขณะที่วัดสาจะหยิบ กระดาษทิชชู่ให้เขา แต่เขาก็เลียจนสะอาดแล้ว เมื่อเธอเห็นฟันที่ ขาวสะอาดเป็นระเบียบของเขาที่เหมือนกับคนมีสุขภาพแข็งแรง เธอก็สงสัยว่าทำไหมถึงกินอาหารอย่างอื่นไม่ได้?

เธอนาความสงสัยของตัวเองพูดออกมา “วรพล ฉันรู้สึกว่าฟัน ของคุณดูดีมากเลย…ทำไหมป้าอ้อยถึงบอกว่าคุณกินได้แต่ อาหารเหลวล่ะ?”
ตอนแรกวังสาแทบจะไม่คิดมาก่อนว่าผู้ชายที่อยู่เบื้องหน้าจะ เป็นคนปลอมตัวมา ดังนั้นหลังจากรู้ความจริงแล้วก็รู้สึกอยากดี ตัวเองให้ตายจริงๆ เห็นได้ชัดเจนว่ามีพิรุธให้จับผิดมากมายที่ สามารถสืบหาต้นต่อได้ แต่ตัวเองกลับไม่สังเกต ช่างโง่เขลาเสีย จริง

ผู้ชายบอกว่าเธอไม่ได้โง่เขลา แต่เป็นไร้เดียงสา เธอแค่คิดเล่นๆ ไร้เดียงสาขนาดนั้นเลย! ไร้เดียงสาจนถึงขน

หัวสมองของธัชชัยคิดอย่างโลดแล่น ไม่นานก็พูดว่า : “หรือ ว่าคุณดูไม่ออกว่านี้เหมือนกับฟันปลอม?” เขาแค่พูดว่าเหมือน ไม่พูดว่าใช่สักหน่อย นี้เป็นอุบายที่ธัชชัย ใช้จนเคยชิน ตอนนี้เขา ทำได้เพียงโน้มน้าวผู้หญิงคนนี้ ทำให้เธอเข้าใจผิดไปเอง

“ไม่จริง?” วัดสายื่นมือออกไปจะเตะฟันหน้าที่เรียงสวยของรัช ชัยตามสัญชาติญาณ ขณะที่ยังไม่ทันเตะ เธอก็ต้องรีบดึงมือกลับ เพราะถูกผู้ชายกัด

สภาพจิตใจที่นิ่งสงบเหมือนดั่งแม่น้ำถูกคนขว้างก้อนหินลงไป แล้ว จนทำให้กระแสน้ำเริ่มค่อยๆหมุนเป็นวงกลม ซึ่งสภาวะจิต ใจของวัสสาตอนนี้เป็นเช่นนี้

เธอดึงมือกลับมาเหมือนกับโดนไฟช็อต “คุณ คุณกัดฉันทำ ไหม..” บนนิ้วมือของเธอมีรอยแดงที่ผู้ชายกัดไว้อยู่

ดวงตาของธัชชัยเริ่มตื่นตระหนก หลังจากได้สัมผัสถึงความ อ่อนโยนจากผู้หญิง เขาก็ยิ่งอยากใกล้ชิดอีกระดับหนึ่ง “เอาล่ะ ผมเหนื่อยแล้ว พวกเรารีบนอนกันเถอะ”
“ได้ค่ะ” หลังจากวัจสาตอบรับเสร็จก็นิ่งอึ้ง เขาพูดว่า “พวก เรา” หรือว่าเขาต้องการให้เธอนอนกับเขาด้วยหรอ?

วัดสาแทบจะไม่มีความสนใจเลยแม้แต่น้อย แต่เธอกลับรู้สึก กังวลใจมากกว่า เธอไม่อยากให้วรพลขับไล่เธอ แต่เธอเองก็ไม่ อยากมีความสัมพันธ์ที่หวานชื่นแบบนั้น เธออยากมีความ สัมพันธ์แบบญาติ คนในครอบครัวที่คอยช่วยดูแลเขา หรือมี ความสัมพันธ์กับเขาไม่ต่างจากป้าอ้อยและคนของบ้านศรีทอง

วัสสา โน้มตัวลงอีกครั้ง และจับมือของธัชชัยไว้ “วรพล ถ้าหาก คุณอยากให้ฉันเป็นภรรยาของคุณจริงๆ ถ้างั้นก็ให้ฉันเข้าไป ดูแลคุณ ในห้องรักษาด้วยเถอะนะ เพราะนี้เป็นหน้าที่ที่คนในบ้าน ต้องกระทำ เช่นนั้นก็จะทำให้ฉันรู้สึกสบายใจมากขึ้นด้วย”

“แต่ถ้าหากคุณไม่รับปาก ถ้างั้นภรรยาอย่างฉันก็ถือว่ายังทำ หน้าที่ได้ไม่ดีพอ และไม่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมด้วย

ธัชชัยเผยรอยยิ้มที่คาดเดาไม่ออก คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้เริ่ม มีข้อต่อร้องกับเขาแล้ว? ซึ่งรับปากไม่ได้แน่นอน แต่ถ้าไม่รับปาก เธอก็จะพูดว่าตัวเองไม่มีคุณสมบัติเพียงพออีก ปกติก็ไม่มี คุณสมบัติเพียงพอให้เขาจูบอยู่แล้ว

ดังนั้นเขาไม่ได้รับปาก แต่พูดว่า : “นอนก่อนเถอะ ผมรู้สึก เหนื่อยล่ะ หากไม่ถือสา พวกเราสามารถนอนพลางพูดคุยพลาง ได้”

วังสาไม่คิดมาก แต่พยักหน้าตอบรับ บางทีในค่ำคืนที่เงียบ สงบอาจจะทำให้สามารถพูดความในใจของซึ่งกันและกันได้
ธัชชัยสวมถุงหนังนอน ซึ่งแน่นอนว่าไม่สะดวก ตอนนี้อย่าเพิ่ง พูดถึงเรื่องร้อน เพราะแค่นอนพิงยังรู้สึกอึดอัดเลย เนื่องจาก ไม่ใช่ผิวหนังของตัวเอง เลยมักจะรู้สึกลำบาก

กล้ามแขนของเขามาโอบกอดเอวบางขอตของวังสา และมี อะไรบางอย่างกระทบบนแผ่นหลังของเธอด้วย ท่วงท่านี้สามารถ หลีกเลี่ยงไม่ให้วัดสาจ้องมองเขาได้ และทำให้ดูเหมือนเกิด อุบัติเหตุเล็กน้อย

เพราะร้อนอบอ้าว ทำให้ถุงหนังที่ธัชชัยสวมเริ่มอึดอัดมากขึ้น แขนที่โอบกอดวัสสาอยู่นั้น ก็อดใจไม่ได้ที่จะเพิ่มแรงบีบจน ทำให้เธอรู้สึกเจ็บ และส่งเสียงในลำคออิ่มออกมา

มือที่อ่อนนุ่มของเธอเริ่มปกปิด และพูดอย่างเบาๆว่า : “วรพล รู้สึกไม่สบายตัวหรอค่ะ?

ธัชชัยพูดตามตรงว่า : “ใช่รู้สึกไม่สบายตัวนิดหน่อย” ขณะที่

เขาพูดก็อมหูของผู้หญิงด้วย

ขอเพียงใจสามีการกระทำบางอย่างหรือโยกย้ายอย่าง หวาดเสียว ธัชชัยก็พร้อมที่จะยิ่งเพิ่มแรงมากขึ้น และเริ่มกัดหู น้อยๆที่น่าสงสาร แต่ส่วนใหญ่เขาจะส่งเสียงเรียกข้างๆหูของผู้ หญิงด้วย

ผมยาวของวังสาถูกเขาม้วนเล่นจนเคยชินบนปลายเล็บ เขา ม้วนไปม้วนมา ปล่อยลงและม้วนใหม่ซ้ำไปซ้ำมา เขาเริ่มรู้สึกว่า เหมือนว่าแม้แต่เสือที่ดุดันก็ยังมีความต้องความงดงามและอ่อนโยน
วังสานิ่งอึ้งสักพัก เพราะการกระทำที่คุ้นเคยมาก : ชัชชัย ชอบม้วนเล่นผมของเธอแบบนี้เหมือนกัน”

ในใจของเธอตื่นตระหนก ทำไหมอยู่ดีๆ ถึงคิดถึงคนๆนั้นได้ อีกล่ะ? เธอกำลังอยู่ในอ้อมอกของสามีอยู่ชัดๆ แต่ในใจกลับไป อยู่ที่อีกคน ซึ่งเป็น้องชายของสามีด้วย แบบนี้มันไม่สมควร

ในใจของวังสาเริ่มถาโถมดูถูกตัวเอง รีบลืมซะ รีบลืม….

ในขณะที่พยายามสะกดจิตตัวเองนั้น วันสาก็นอนหลับลึกไป

เลย

ร่างกายที่อ่อนนุ่มถูกธัชชัยโอบไว้ในอ้อมอกแล้ว เขามองเธอ อย่างเงียบๆ และรู้สึกว่าเธอน่าเย้ายวนมาก…

หลังจากมั่นใจว่าผู้หญิงหลับสนิทแล้ว เขาก็รีบถอดภาระบน ร่างกายออก และรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก แต่ในใจตอนนี้กลับรู้สึก ร้อนรนจนทนไม่ไหวแล้ว

ใบหน้าที่ขาวเนียนละเอียดของผู้หญิงอยู่ด้านข้าง่างกายของ ตัวเอง ขนตาที่เรียวยาว จมูกที่โด่ง ช่างน่างดงามมาก แต่ลม หายใจของเธอก็ยังคงที่เหมือนเดิม แต่บรรยากาศรอบบริเวณ ตอนนี้เริ่มน่าดึงดูดแล้ว

เมื่อนึกถึงตอนที่เด็กผู้หญิงกลายเป็นผู้หญิงเต็มตัว ธัชชัย นึกถึงท่วงท่าต่างๆขึ้นมา

เพราะเขาเป็นผู้ชายปกติ เป็นผู้ชายที่ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง ครบถ้วน
เมื่อเห็นสีหน้าที่ฝันหวานของวังสา ธัชชัยก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่า

ทำไหมพี่ชายใหญ่ถึงเลือกผู้หญิงแบบนี้มาสืบทอดทายาทด้วย คงเหมือนคนทั่วไป ถึงแม้จะบอกว่าบริสุทธิ์ และมีเสน่ห์เย้า

ยวน

แต่เด็กเกิดมาจากคนสองคนที่เป็นสายเลือด แล้วตัวเอง ต้องการให้ลูกตั้งครรภ์ในท้องผู้หญิงคนนี้หรอ

ดูเหมือนว่าเรื่องบางอย่างจะถูกกำหนดด้วยความไม่แน่นอน ไว้แล้ว

ธัชชัยโถมตัวเข้าไปปลดกระดุมบนเสื้อของวันสา…

ห้องใต้ดินมีเพียงแสงสว่างจางๆ ผู้หญิงที่ถูกมัดไว้บนเตียง เผยรอยยิ้มหวาน ภายใต้แสงสว่างสาดส่องแสงกระทบบน ใบหน้าขาวดุจหิมะของกนิษฐาที่กำลังเผยรอยยิ้มเหมือนนางฟ้า อยู่

บริกำลังเดาความคิดของกนิษฐาไม่ออก แต่ถูกเธอจ้องมอง แบบนี้ ในใจก็รู้สึกหวาดกลัวจริงๆ “นี่ คุณมองผมแบบนี้ก็ช่วย อะไรไม่ได้หรอกนะ ผมเปิดลำโพงแล้ว…แต่ท่านชัยไม่รับสาย โทรศัพท์เลย ผมโทรไปหาสองครั้งแล้วแต่ก็ถูกวางสาย สุดท้าย ก็เปิดเครื่อง…”

ริมฝีปากที่อวบอิ่มเย้ายวนของกนิษฐาปริปากพูดว่า “ถ้างั้นก็ โทรศัพท์บ้านของเขา ….โทรไปจนกว่าเขาจะรับสาย…”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ