วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง

ตอนที่ 43 ส่งขนมถึงหน้าประตู



ตอนที่ 43 ส่งขนมถึงหน้าประตู

ภาวินีรับขนมมา ทว่าในใจกลับเลี่ยงความกังวลใจไม่ได้ “ถ้า หากเขาปฏิเสธฉันอีกครั้ง ฉันจะทำอย่างไรดีล่ะ?”

ธัชชัยดูเป็นคนอารมณ์เย็นชา เป็นธรรมดาที่ผู้หญิงคนไหนก็ ควบคุมหรือด่าเข้าได้ทั้งนั้น

วราลียื่นมือออกไป ฝีมือหลังมือเธอเบาๆ “เด็กโง่ พวกเธอเป็น เจ้าบ่าวเจ้าสาวกัน มุ่งมั่นไล่ตามความสุขของตัวเองมีอะไรที่ต้อง อาย? ไม่แน่ถ้านานวันไปก็เกิดความรักขึ้นมาได้แล้วไม่ใช่เหรอ? แกว่าไหมละ? ในชีวิตของคนๆ หนึ่งยากที่จะเจอคนที่ตัวเองชอบ ดังนั้นต้องตั้งใจไปคว้าความสุขนั้นมาให้ได้” แกไม่เห็นเหรอว่า ฉันก็เป็นฝ่ายไล่ตามพ่อแกจนสำเร็จ

ภาวินีเม้มปากที่อมชมพู ในที่สุดก็ตัดสินใจได้ ใช่ ความสุข ของตัวเองจะต้องช่วงชิงมาไว้กับตัวให้ได้

“ได้ ฉันไป ขอบคุณนะคะหม่าม

เห็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของตัวเองใบหน้ามีความเด็ด เดี๋ยวมุ่งมั่น ก็ต้องได้รับความสำเร็จแน่นอน วราลีถึงเบาใจลงได้

ภาวินีเดินไปด้วยและสังเกตติ่มซำนี้อย่างละเอียด เมื่อกี้คุณ แม่บอกว่าได้แจ้งกับวัจสาเอาไว้แล้ว ถ้าหากธัชชัยไม่ยอมรับหรือ ว่าปฏิเสธแล้วล่ะก็ เธอก็จะได้ถือโอกาสนี้บอกให้วจสากิน แบบนี้ คงไม่ทำให้ลำบากใจเกินไปนะ?
เดินออกมาจากประตูบ้านขุนทด ภาวินีที่เตรียมตัวจะไปเอารถ ที่โรงรถ ก็เจอกับรสรินที่เพิ่งจะเลิกเรียนกลับมา เธอที่ท่าทางเป็น ชามาโดยตลอด ครั้งนี้ไม่รู้ทำไมถึงได้ถามภาวินีด้วยอารมณ์ที่ คึกคักได้ นี่คืออะไร

อาจจะเป็นเพราะว่าหอนั้นประณีตเกินไป จึงดึงดูดความสนใจ ของเธอมาก ภาวินีอยากจะแย่งกับมาแต่ก็ไม่ทันแล้ว รสรินแย่ง มันไปมองดูอย่างละเอียดนานแล้ว “นี่คืออะไรเหรอ พี่สาว

ภาวินีมองดูรสรินหนึ่งครั้ง ก็พลันวางแผนขึ้นมาในใจ ยิ้มขึ้น มาบางๆ “นี่เป็นขนมทีวี หม่ามีบอกว่าจะได้ไม่ให้เธอมาว่าแม่ ลำเอียง ก็เลยให้ฉันหยิบออกมาให้เธอไปส่งให้กับคุณชายรองที่ บ้านตระกูลศรีทอง”

“ธัชชัยชอบกินอันนี้เหรอ?” ใบหน้าที่เย็นชามาตลอดของรส รินก็ค่อยๆ กลายเป็นสีแดงระเรื่อ เมื่อพูดถึงคนที่รัก ผู้หญิงคน ไหนก็เขินอายทุกคนไม่มีข้อยกเว้น

“ใช่สิ ครั้งที่แล้วหม่ามี้ตั้งใจถามวจสาก็เลยรู้มานะ วันนี้เชิญ พ่อครัวขนมมาทําเลยนะ เธอรีบไปสิ ไม่อย่างนั้นรอให้ละลาย คงไม่อร่อยแล้ว” ภาวิณีพูดเร่งเร้า

“ได้ ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้ กระเป๋านี้ก็วานพี่สาวช่วยเอ้เข้าไปให้ หน่อยนะ” รสรินโยนกระเป๋าหนังสือของตัวเองให้ภาวินี

“จริงสิ อย่าลืมถามวจสาด้วยนะว่าคืนพรุ่งนี้ธัชชัย ชชัยจะมาร่วม งานมั้ย” ภาวิณีอยากกำชับรสรินจึงรีบพูดขึ้น

“รู้แล้ว!” รสรินตอบกลับไป และกระโดดโลดเต้นไปทางโรงรถด้วยความดีอกดีใจ

ภาวิณีที่มองดูเงาร่างอันน่ารักอ้อนแอ้นของรสรินอยู่ด้านหลัง

ค่อยๆ เผยรอยยิ้มบางๆ ออกมา ให้น้องสาวที่แสนดีของเธอช่วย

ไปลองไปหยั่งเชิงดูสักหน่อย: แท้ที่จริงแล้วธัชชัยปฏิเสธเธอคน เดียว หรือว่าในสายตาของเขาผู้หญิงทุกคนก็เหมือนกัน! วัจสาที่กำลังดูหนังสือแบบเรียนการออกแบบเสื้อผ้าอยู่นั้น

เสียงโทรศัพท์ก็พลันดังขึ้น เธอตกใจแทบแย่

พอรับแล้วกลับเป็นเสียงของคุณน้าวราลี มีน้อยครั้งจริงๆ ที่จะ โทรมาหาเธอ ต้องมีเจตนาที่ชั่วร้ายแน่ ในสมองของวัดสาคิดถึง ถ้อยคำนี้ ขึ้นมา

ทว่าคิดไม่ถึงว่าเธอจะพูดแค่ประโยคเดียว บอกว่าภาวิณีจะมา ส่งขนมทีวีให้กับธัชชัย บอกให้เธอมาต้อนรับสักหน่อย

วัจสาตอบกลับไปอย่างกระอักกระอ่วน คิดไม่ถึงจริงๆ ว่า ลูกสาวคนโตผู้สูงส่งอย่างภาวิณีจะเป็นฝ่ายวิ่งมาหาธัชชัย เธอก็ ไม่ได้สนใจเลยแม่แต่น้อย เชื่อมั่นในการกระกระทำของตัวเอง ต่อไป

แต่ว่าภาวิณีหัวเราะเยาะความความโง่เขลาของเธอ บอกว่า เธอหน้าไม่อาย ผู้ชายเขาทำถึงขนาดนี้ เธอยังทนต่อไป สำหรับ ลูกสาวคนโตอย่างภาวิณีแล้ว ชอบเอาใจคนที่ตัวเองชอบ โดย ลืมเรื่องฐานะของตัวเองจนหมดสิ้น

ในตอนนี้ไม่ใช่ว่าเธอกำลังมาเอาใจธัชชัยเหรอ?
ถ้าอย่างนั้นเธอคงพลาดเรื่องสนุก ในครั้งนี้ไม่ได้ ครั้งที่แล้วช ชัยก็เคยปฏิเสธภาวิณีไปอย่างชัดเจน ครั้งนี้คาดว่าสีหน้าของเขา ก็คงไม่ดีเท่าไหร่

เธอคิดไปพร้อมกับเดินออกไปยังห้องรับแขก เตรียมตัวไปรับ ภาวิณีที่กำลังขับรถมา

เธออ่านหนังสือไปด้วยพร้อมกับดื่มซาอุ่นๆ ที่ป้าอ้อยให้เธอ

ด้วย และมองไปทางประตูบ่อยๆ

ธัชชัยไม่ได้อยู่ด้านล่าง เดาว่าคงขึ้นไปเยี่ยมวรพลที่ห้องรักษา ตัวแล้ว เขาไม่อยู่ก็ดี ถ้าหากว่าล่ะก็วจสาคงไม่อยากมาปรากฏ ตัวอยู่ที่นี่แน่นอน

รักแรกพบของภาวิณีลูกสาวคนโตของตระกูลขุนทด วัชชัยจะ ยอมรับไหมนะ? พูดถึงพวกเขาก็ดูเหมาะสมกันดี ตระกูลขขุนทด ก็นับว่าเป็นครอบครัวเก่าแก่ที่มีชื่อเสียง จะต้องเหมาะสมกับ ตระกูลศรีทองแน่นอน อย่างกับกิ่งทองใบหยก ไม่เลวไม่เลว

ในตอนที่วจสากำลังคิดเรื่องพวกนี้อยู่นั้น ตรงประตูบ้านมีคน รับใช้คนหนึ่งพาเงาร่างหนึ่งที่อ้อนแอ้นอรชรเข้ามา “คุณผู้หญิง คุณหนูตระกูลขุนทดมาเยี่ยมค่ะ

วัสสาเงยหน้าขึ้น คิดไม่ถึงว่าจะเป็นรสริน ทำไมถึงได้เปลี่ยน เป็นเธอที่มา? แต่ว่าเธอก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ไม่ว่าจะเป็นใครมา ต่างก็เหมือนกัน ลูกสาวบ้านตระกูลทดถูกธัชชัยทำให้หลงใหล จนหัวปักหัวป่าแล้ว

“รสริน เธอมาแล้ว ขับรถมาเหนื่อยไหม?” วังสาไปต้อนรับสายตาของเธอตกไปอยู่ไปที่กล่องที่ห่ออย่าประณีต

รสรินมองไปรอบๆ ไม่เห็นแม้แต่เงาของธัชชัย ราวกับว่าผิด หวังนิดหน่อย ไม่เหนื่อย วังสา คุณชายรองท่านั้นอยู่บ้านไหม?”

วัจสายิ้มแย้มพูดว่า “วางใจเถอะ อยู่แน่นอน จะให้เธอมาเสีย เที่ยวได้ไง?”

รสรินชั่วพริบตาก็วางใจลงได้ “ดีแล้ว หม่าให้ฉันมาถามว่า

คืนวันพรุ่งนี้คุณชายรองจะไปกินงานเลี้ยงตอนเย็นไหม?”

วัสสาอึ้งไป คำถามนี้ เธอยังไม่มีวิธีตอบกลับไป เพราะว่าพอ ทบทวนกลับไปชชัยเหมือนกับไม่ได้บอกอย่างชัดเจนว่าจะไป หรือไม่ไป

เธอยิ้มเจื่อนสองที่แล้วพูดว่า “เขาบอกว่าจะไปนะ” ก็ต้องไป อยู่แล้ว มีสาวสวยหลายคนกำลังรอเขาอยู่ จะปล่อยโอกาส แบบนี้ให้หลุดมือไปได้ไง

“ถ้าอย่างนั้นก็ดี พี่วังสา งั้นพี่ก็พาฉันชมบ้านตระกูลศรีทองสัก หน่อยสิ ไม่อย่างนั้นคงน่าเบื่อแย่เลย

จริงๆ แล้วรสรินก็แค่อยากจะดูสถานที่ที่ธัชชัย ใช้ชีวิตอยู่

เท่านั้น สัมผัสกับร่องรอยการใช้ชีวิตตามปกติของเขาสักหน่อย

“ก็ได้” ความในใจของเธอ วัดสามองออกนานแล้ว พูดเสร็จ ก็พาเธอไปขึ้นบันไดไปชั้นบน

แต่ว่ายังไม่ทันจะเดินขึ้นบันได ก็เจอเงาร่างสูงโปร่งเดินลงมา
นั่นก็คือธัชชัยผู้รูปหล่อนั่นเอง วันนี้เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีดำ บริสุทธิ์ กระดุมปลดออกสองเม็ด ดูมีเสน่ห์และยวนตาคนเป็น อย่างมาก ฮอร์โมนเพศชาแตกซ่านไปทั่วทั้งร่างกาย ทำให้คน หลงใหลที่สุด

พอเห็นวัสสา มุมปากของเขาก็ยกขึ้นน้อยๆ อย่างไม่รู้ตัว รอย ยิ้มนี้เกือบทำให้รสรินอยู่ไม่นิ่งอยากโผเข้าไปหาทันที แต่ว่าใน สายตาของวังสา รอยยิ้มของผู้ชายคนนี้คงไม่ใช่เรื่องดีอะไร พอ เขายิ้มทีไร เธอต้องเจอโชคร้ายตลอด

“รสริน ตอนนี้ก็เห็นคุณชายรองแล้ว บอกว่ามีเรื่องที่จะคุยกับ เขาไม่ใช่เหรอ?” วัดสาเตือนด้วย ความหวังดี

รสรินเพิ่งจะหลุดเข้าไปในภวังค์ของรอยยิ้มของธัชชัย “คุณ คุณชายรอง… นี่เป็นขนมทีวีเล็กๆ น้อยๆ ที่ฉันทำหวังว่าคุณจะ ลองชิมหน่อย ได้ยินมาว่าคุณชอบกินกวี” รสรินพูดพร้อมกับยิ้ม แย้ม เรือนร่างของเธอเอียงเอนเล็กน้อย เกือบจะเอาความภูมิใจ ที่เหนียวหนึบนี้ไปไว้บนตัวของธัชชัยแล้ว

ธัชชัยกลับไม่มองเธอแม้แต่น้อย แต่มองตรงไปยังวัจสาที่ยืน อมยิ้มอยู่ข้างหลังเธอ สายตาที่แหลมคมดั่งคมดาบและมีรังสี สังหารที่เย็นชา เหมือนกับว่ากำลังถามลูกสาวตระกูลขุนทดว่าที่ บอกว่าได้ยินมาว่านั้นฟังมาจากใคร

ใบหน้าของวังสาสั่นไปหมดแล้ว เธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้ต้องการ จะทําอะไรเธอแน่นอน ตอนนี้เธอคิดแค่ว่าอยากจะหนีออกจาก ตรงนี้ไป ถอยลงบันไดทีละก้าวอย่างไม่ให้ชุ่ม ให้เสียง
แต่ว่าธัชชัยจะให้เธอหนีไปง่ายๆ ได้ยังไงล่ะ ลักษณะท่าทาง สุภาพบุรุษที่เผยออกมา และพูดออกมาอย่างสุภาพมารยาทงาม ว่า “ลำบากคุณหนูรสรินแล้ว ไปนั่งที่ห้องรักแขกก่อนไปไง?”

“ในฐานะที่เธอเป็นพี่สาว มีเรื่องเร่งด่วนอะไรกว่าการทักทาย น้องสาว? วางใจได้เธออยู่ที่แล้ว

คำเตือน ในประโยคนนี้ของธัชชัยมีเพียงใจสาเท่านั้นที่จะ ฟังออก รสรินที่ใบหน้าที่มอเพียงปรารถนาอยากจะอยู่ในโลก สองคนกับธัชชัย และวันสาคิดว่าการเดินออกไปคงจะเป็นเรื่องที่ ดีที่สุด

“ไม่เป็นไร เพียงแค่ คุณชายรองอยู่เป็นเพื่อนฉันก็พอแล้ว” เธอพูดอย่างเขินอาย

ธัชชัยไม่ขยับและไม่พูดสักคำ เพียงแต่มองวจสาตั้งแต่หัวจรด เท้า วังสาแอบถอนหายใจเบาๆ ช่างเถอะ เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้อง พูดอะไรออกมาทำให้รสรินร้องไห้ เธออยู่ก็ได้

“ก็คือ ไม่ควรทิ้งให้น้องสาวอยู่กับน้อยเขาคุณนะ” ธัชชัยยิ้มออกมาอย่างมีความหมายลึกซ้ำ “ลงไปกันเถอะ ยืน คุยอยู่นี่เหนื่อยมาก”

ชั่วพริบตาเดียวอารมณ์ของรสรินก็ไม่ค่อยดีแล้ว เธอตั้งใจเดิน ให้ช้าที่สุด ต้องการที่จะเดินไปพร้อมกับธัชชัย ใครจะ ยาของ ธัชชัยจะก้าวยาวขนาดนั้น แบบเดียวก็เดินไปถึงตำแหน่งของวัน สาที่อยู่ด้านหน้าแล้ว
แววตาของเธอฉายแววคิดกลอุบายออกมา ตอนที่เดินไปถึง ขั้นบันไดสุดท้าย เธอก็ร้อง “โอ้ย” ออกมา

วัจสาได้ยินก็รีบหยุดชะงัก “เป็นอะไรไปรสริน?”

เห็นสาขาของธัชชัยก็อยู่ที่ตัวของเธอเช่นกัน รสรินแกล้งใส่ อารมณ์เพิ่มไปอีก ดวงตาที่สวยงามเปล่งประกายระยิบระยับ กล่าว “เท้าของฉันเคล็ด…..

วัดสาร้องหะคำหนึ่ง ไหนเลยจะรู้ว่าลูกสาวบ้านขุนทดนี้จะ อ่อนแอขนาดนี้ เดินลงบันไดไม่กี่วันก็ยังบอบบางขนาดนี้ กำลัง คิดที่จะไปพยุงเธอขึ้นมา ธัชชัยกลับเรียกป้าอ้อยที่ยืนอยู่ด้านข้า

จริงๆ แล้วป้าอ้อยก็รออยู่นานแล้ว เล่ห์เหลี่ยมของลูกสาวบ้าน ขุนทดนี่เธอเองก็มองออกนานแล้ว ยังคิดที่จะอิงแอบแนบชิดซบ อยู่ในอ้อมอกคุณชายรองของเธอเหรอ? บังอาจเกินแล้ว ต่อหน้า คุณผู้หญิงยังกล้าล่อลวงคุณชายรอง

ป้าอ้อยเดินเข้าไปพยุงรสรินขึ้นมา “คุณหนูรสริน ไม่เป็นอะไร ใช่ไหมคะ? คุณชายรองกับคุณผู้หญิงของพวกเราต่างก็ได้รับ บาดเจ็บเหมือนกัน ก็เลยพยุงคุณไม่ได้ ได้โปรดให้อภัย

ประโยคนี้ทําเอาสีหน้าของรสรินเปลี่ยนสี ท่าทางของธัชชัยใน ชั่วพริบตาก็เปลี่ยนเป็นอารมณ์ดีขึ้นมา ถึงแม้วจสาจะไม่รู้อะไร แต่ก็รู้ว่าถึงแผนกานชั่วร้ายของลูกสาวตระกูลขุนทดคนนี้

รสรินสะบัดแขนของป้าอ้อยออกไปด้วยสีหน้ารังเกียจ ไม่ต้อง ฉันเดินเองได้!” จริงๆ แล้วไม่ได้บาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ