วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง

ตอนที่ 56 ถูกเจอว่าสวีทกันโดยบังเอิญ



ตอนที่ 56 ถูกเจอว่าสวีทกันโดยบังเอิญ

ภาวิณีที่กำลังมีความสุขในยามเช้านั้น ไม่คิดว่าสวรรค์จะเข้าข้าง เธอ ให้เธอได้เจอคนที่เธอชอบ แต่จะทักเขายังไงดีนะ? มันจะดู ไม่ธรรมชาติไหม?

เพียงแค่คืนเดียว ก็ทำให้ภาวิณีคิดไปไกล

แต่ในขณะที่เธอกำลังคิดเรื่องพวกนี้อยู่นั้น ภาพตรงหน้านั้น บาดตาเธออย่างมาก

ในห้องครัว ร่างของคนทั้งสองที่คุ้นเคยกำลังกอดรัดกันแน่น

เมื่อมองจากด้านนอกเข้าไป เห็นว่าเท้าของวันสาที่ไม่ได้ยืนอยู่ บนพื้นนั้น โอบอยู่รอบๆเอวบางๆของธัชชัย หัวของทั้งสองนั้น นัวเนียกัน เห็นได้ชัดว่าวจสากำลังให้ท่าธัชชัย

วันนั้น ภาวิณีไม่เคยคิดเลยว่าทั้งสองจะมีความสัมพันธ์กัน แบบนี้ วัจสายังมีความละอายใจอยู่ไหม? เธอเป็นพี่สะใภ้ของรัช ชัย แต่ที่ทั้งสองคนกำลังทำอยู่นั้นมันคืออะไร? ภาวิณีอยากจะ ถามเอว่าเอาสามีพิการของเธอไปไว้ตรงไหน?

รรมดาของคนที่ไม่มีพ่อแม่สั่งสอน กล้าที่จะให้ท่าน้องสามีตัว เอง เมื่อเป็นเช่นนี้ เรื่องเมื่อคืนก้ชัดเจน ว่าทำไมเมื่อธัชชัยรู้ว่าเอ ไม่ใช่วังสาแล้วจึงดีดีตัวออกราวกับถูกฟ้าผ่า ทั้งสองคนนั้นรู้กัน ตั้งแต่แรกแล้ว

แต่วจสามีห้องหอของตัวเอง แต่ทำไมถึงมานอนที่ห้องรับแขกอีก? เห็นได้ชัดว่าเพื่อเป็นชู้กับธัชชัยได้อย่างสะดวก

ภาวิณีตกตะลึกเป็นอย่างมาก วัดสากเป็นเพียงนางวันทอง ที่ ภายนอกดูบริสุทธิ์ไม่มีพิษภัย แต่ภายในนั้นคิดทุกหนทางเพื่อที่ จะให้ท่าน้องสามีตัวเอง ความสัมพันธ์เช่นนี้ เธอกล้าที่จะทำมัน ลงไปได้อย่างไร? เธอคงดูถูกเธอเกินไป

จากฐานะและหน้าตาของธัชชัย คงมีผู้หญิงมาชอบมากมาย หรือพูดอีกอย่างว่าผู้หญิงต่างหนีไม่พ้นเสน่ห์ของเขา แต่สามี พิการของวังสาอย่างวรพลนั้นให้วิ่งที่เธอต้องการไม่ได้ เธอจึง หลงผิดเช่นนี้

เป็นธรรมดาที่สิ่งที่อู่ใกล้กว่าย่อมมีสิทธิ์มากกว่า ผู้ชายย่อม ใจอ่อนกับผู้หญิงอ่อนหวานขี้อ้อน วังสาจึงได้เข้าไปอยู่ในอ้อม กอดธัชชัยอย่างง่ายดาย

ถ้าหากเรื่องนี้ถูกแพร่ออกไป คนอื่นก็คงคิดว่าวจสานั้นให้ท่า

ธัชชัย เป็นหญิงเลวที่ใช้วิธีนี้

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ใบหน้าที่สละสวยของภาวิณีเก่งขรึมขึ้น เธอ ป็นผู้หญิงฉลาด ผู้หญิงที่ลาดจะไม่ทำเรื่องที่ให้ผู้อื่นหรือตัวเองอ ยุ่สถานการณ์ที่ลำบาก

เธอไม่ได้กรีดร้องหรือโวยวาย เธอเพียงแค่ถอยออกไปอย่าง เงียบๆ ออกจากห้องครัวไป เมื่อกลับถึงห้องรับแขก ทำเป็น เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แต่ท่าทางค่อยถอยกลับมาของเธอนั้น อยู่ในสายตาของอีก คน พ่อบ้านภูษิตเห็นเหตุการณ์ของวัจสาและธัชชัยพอดี แต่ไม่คิดว่าที่มุมทางห้องรับแขกจะมีภาวิณีแอบยืนดูอยู่

แต่รอดูเมื่อวังสาที่จิตใจปั่นป่วน และธัชชัยที่มีสีหน้าพอใจเดิน ออกมา ทั้งสองเดินตามกันออกมาจากห้องครัว ภาวิณีคงเห็น คุณนายน้อยและคุณชายธัชชัย “ลวนลาม” ในห้องครัว แล้ว เข้าใจความสัมพันธ์ของทั้งสองผิด

ใครจะรู้ว่าคนที่ปฏิเสธที่จะแต่งงานมาบ้านนี้ กลับดั้นด้นหาทุก

วิธีเพื่อที่เข้ามา

พ่อบ้านภูษิตนึกถึงครั้งแรกที่ไปบ้านตระกูลเดิมขุนทด คุณหนู ทั้งสามของบ้านนั้นมีท่าทีรังเกียจและเย็นชา แต่เมื่อพูดถึง คุณชายรอง พวกเอก็ดูดีตาขึ้นมา ดังนั้นเขาจึงไม่ค่อยชอบใจคน บ้านนั้นซักเท่าไหร่

ตอนนี้เห็นวังสาที่มีชีวิตลำบากนั้น ค่อยๆเดินเข้าไปในใจของ ธัชชัย พ่อบ้านภูษิตรู้สึกปลื้มใจมาก แต่ผู้หญิงคนนี้ทำให้เขาเป็น ห่วงอยู่เรื่อย ความสัมพันที่ถูกเธอเจอนั้นไม่รู้จะเป็นเรื่องดีหรือไม่ ดี

ที่ไม่ดีคือ ภาวิณีอาจจะเปิดเผยเรื่องนี้ออกไปได้ แต่ที่ดีก็คือ ธัชชัยอาจจะยอมรับวันสาก็เป็นได้

หวังว่าวจสาจะค่อยๆมีเรื่องดีๆเข้ามา เอเป็นเด็กดีที่หาเจอได้ ยากจริงๆ

หลังจากที่จัดอาหารเช้าให้ธัชชัยเรียบร้อย วัดสากเดินไปห้อง รับแขกเพื่อเรียกภาวิณีออกมาทานอาหารเช้า ภาวิณีแต่งตัว เรียบร้อยรอวังสา ท่าทีของเธอดูแปลกไป แต่วจสาก็มองไม่ออก
และยิ่งไม่คิดว่าเธอจะเห็นภาพที่เธอจูบกับธัชชัยในห้องครัว

เมื่อภาวิณีเดินตามวังสามายังห้องหารทักทายธัชชัย ราวกับ ไม่รู้อะไรมาก่อน “อรรสวัสดีค่ะ คุณชายรอง

ธัชชัยตอบรับเสียงต่ำ ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามอง แล้วรีบ กินอาหารเช้าตรงหน้า

ภาวิณี มือที่ข้างลำตัวแน่น แล้วเลือกนั่งตรงที่ไม่ใกล้ไม่ไกล จากธัชชัยจนเกินไป เธอรู้ดีว่าควรห่างประมาณไหนจึงจะไม่ ทําให้เขารู้สึกรังเกียจ

เมื่อวังสาเห็นว่าภาวิณีนั่งลงแล้ว จึงวางถ้วยชาม และตักดจ๊ก ให้ ที่จริงนี่ก็เป็นสิ่งที่วัดสาทำตั้งแต่เด็กจนชินเท่านั้นเอง ตอนนี้ก็ แค่ทําไปตามที่รู้สึก

ไม่คิดว่าจะอยู่ในสายตาของชายหนุ่มนั้น มันดูเกะกะลูกตา เขามาก ธัชชัยหยุดการกระทำที่ทำอยู่ แล้วพูดขึ้นด้วยเสียงเย็น ชา “วังสา ตอนนี้เธอควรจะรู้ฐานะตัวเอง เธอเป็นครนายของ บ้านศรีทองนะ ทำไมจะต้องมานั่งปรนนิบัติคนอื่น ทำให้ฉันคน เดียวก็พอแล้ว”

เมื่อวัจสากพูดอย่างนี้ จึงทำให้เธอรู้สึกลำบากใจมาก ไม่ไว้ หน้าเธอตอหน้าคนอื่นเลย ธัชชัยก้อยากจะให้เธอขายหน้ามาแต่ ไหนแต่ไรแล้ว!

วังสาอยากจะตอกกลับเขาสักคำ ราวกับท่าเมื่อกี้ที่โอบรอบ เอวเขาและกัดไหล่เขาอยู่ในห้องครัวนั่น
ดูท่าทางของธัชชัยและวังสาราวกับทั้งสองคนนั้นมีอะไรกัน ภาวิณีแอบเจ็บใจ อยากจะฉีกวัสสาออกเป็นท่อนๆ นังผู้หญิงไร้ ยางอาย!

แต่เธอรู้ดี เธอจะทำตัวไม่มีสมงเหมือนรสรินไม่ได้ ถ้าไม่งั้นจะ ดูเหมือนคนที่ไม่ได้รับการสั่งสอน เธอเป็นถึงไฮโซชื่อดังอันดับ ต้นๆ ในเมืองเอสเลยนะ

ดังนั้นเธอจะต้องสง่างาม เมื่อรับชามดจ๊กมาจากวังสา “พี่จ สา ไม่ต้องทำให้ฉันขนาดนี้ก็ได้ พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ฉันทำเองดีกว่า พี่นั่งกินเถอะ ทำงานมาเหนื่อยๆแต่เช้าแล้ว

วัจสาไม่คิดว่าภาวิณีจะพูดเช่นนี้ แต่การกระทำของเธอช่าง

เหมาะกับฉายาว่าเป็นกุลสตรีจริงๆ วัจสาส่ายหน้าปฏิเสธ “เมื่อ ฉันกินแล้ว พวกเธอกินก่อนเลย ฉันยังมีเรื่องที่ยังทำไม่เสร็จ ที่วังสาไม่อยากจะอยู่ที่นี่ต่อ หนึ่งเป็นเพราะไม่อยากจะอยู่ต่อ

หน้าธัชชัยแล้ว สองคือเธอตกลงกับภาวิณีแล้วว่าจะหาโอกาสให้

ถ้าเธอยังอยู่ที่นี่ไม่รู้หน้าที่ตัวเอง ก็คงจะไม่ดีหรอกใช่ไหม?

เมื่อวัจสากำลังจะไปจากโต๊ะอาหาร แขนของเธอก็ถูกมือหนึ่ง จับเอาไว้วจสาก้มลงไปดู เป็นแขนของภาวิณีที่นั่งอยู่นั่นเอง

“พี่วังสา อยู่เป็นเพื่อนฉันก่อนไม่ได้เหรอท ฉันยังไม่ชินกับการ

ทานอาหารเช้าที่นี่ แล้วอีกอย่างทิ้งแขกนั่งตรงนี้คนเดียวคงจะดู เสียมารยาทไม่ใช่เหรอคะ?”

คำพูดของภาวิณีดูออดอ้อนน่าเอ็นดู แต่กลับทำให้วังสาหมด วิธีที่จะปฏิเสธ เมื่อครุ่นคิด ที่ภาวิณีพูดก็มีเหตุผล ต่อให้รู้สึกแย่ยังไง ไม่ควรเธอไว้ เผชิญกับธัชชัยสองต่อสอง รอพวก เขาคุ้นเคยก่อนค่อยหาโอกาสใหม่ได้

วัจสาทำ

กดจ๊ก ใส่

ภาวิณีดออกมาจสาอยากเธออยู่กับธัชชัยสองสอง แต่ไม่ใช่ตอนนี้ เธอไม่เหมือนกัน เธอสามารถท่าธัชชัยได้ตลอดเวลา

ดังนั้นภาวิณีจึงโอกาสนี้ “เตือน” เธอหน่อยว่า ที่จริงนั้นจ สาเป็นผู้หญิงของใคร แล้วควรทำอะไร

ภาวิณีเปิดปากแดงอิ่มนั้นออกมา พูดถ้อยคำอ่อนหวาน มา ค้างคืนที่บ้านต้องรบกวนคุณทั้งสองเลย ไม่รู้ฉันได้ ทําความลำบากใจอะไรให้สองบ้างรึเปล่า”

ธัชชัยตอบกลับเสียงเรียบ “ไม่ไรใบหน้าหล่อเหลานั้นได้โกรธออกมา แต่สายตาอันเดือดพล่านนั้นทอดไป ทางวัจสาที่นั่งอยู่

บนดต๊ะอาหารเงิบจนน่ากลัว วัดสาคิดยังไง เอาแต่ก้มก้มตากินดอกในชาม เห็นวัชชัยได้สนใจเธอ และร้อน จึงมองไปตามตาของธัชชัย

ยื่นมือแป้งมันม่วงไปใส่ชามวังสา พี่วังสา อย่ากินแต่ โจ๊กอย่างเดียวสิ แป้งมันม่วงก่อนตอนอยู่บ้านพวกเราชอบกินกันมาก
เมื่อวจสาได้ยินภาวิณีพูด เอจึงเงยหน้าขึ้นมา แล้วพูดขอบคุณ เบาๆ แต่กลับไปปะกับสายตาคุกรุ่นของธัชชัยโดยบังเอิญ เออิ้ง ไปนิดนึง ไม่รู้ว่าเขานั้นคิดอะไรอยู่

เอตั้งใจจะหลบเขาแล้วเชียว แต่ทำไมเขายังตามต่อเธอไม่เลิก ภาวิณีเป็นถึงไฮโซสาวชื่อดัง นั่งอยู่ตรงหน้าของเขา ทำไมเขาถึง ไม่สนใจเธอหน่อย?

“มองฉันทำไม? กินกุ้งสิ!” ธัชชัยสั่งเสียงเรียบ ระหว่างที่พูด เขากคีบกุ้งในจานสปาเก็ตตี้ตัวเองไปใส่ในถ้วยของเธอ

วัจสาได้ยินน้ำเสียงนั้น เธอรู้สึกไม่สบายใจ ทำไมผู้ชายคนนี้ ถึงชอบทำตัวเผด็จการ? เขาพูดอะไร คนอื่นก็ต้องทำตามที่เขา พูดงั้นเหรอ?

ต่อให้เธอชอบกินกุ้งแล้วจะทำไม? เคยถามความเห็นเธอบ้าง ไหม? วจสารู้สึกเจ็บที่ริมฝีปาก นึกถึงตอนที่อยู่ในห้องครัว ชาย หนุ่มจูบเธออย่างรุนแรง เอก็เริ่มรู้สึกโกรธขึ้นมา การกระทำที่เลว ร้ายเช่นนี้ เป็นเพราะแรงระหว่างผู้ชายและผู้ชาย เธอไม่มีวิธีที่จะ ทำอะไรเขา แต่ในฐานะน้องสามี ลวนลามพี่สะใภ้ตัวเองบ่อยๆ เขาไม่เคยรู้สึกผิดแม้แต่นิดเดียวเลยเหรอ?

หรือจะเหมือนกับที่เขาพูด ว่าไม่เคยมองเธอเป็นพี่สะใภ้การก ระทำทั้งหมดก็เพื่อดูถูกตัวเธอ

วังสา โตมาขนาดนี้ ผ่านเรื่องเศร้ามามากมาย แต่ทุกคนยอมมี ลิมิตความอดทนของตัวเอง และสำหรับเธอนั้นคือการไม่ยอมให้

ใครมาหลอกลวง มาหลอกเธอแบบนี้ก็เหมือนกับหักหลัง
อีกนานหลังจากนี้ ธัชชัยก็เล่าเรื่องจริงให้เธอฟัง แม้กระทั่ง ตอนที่หนังสือสมรสนั้นมาอยู่ตรงหน้าเธอ มันยิ่งทำให้เธอหมด ความอดทน ตอนนั้นวังสาหลงรักธัชชัยอย่างถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว และเธอก็ไม่อาจให้อภัยเขาได้

ปกปิดมานาน เธอถูกทรมานมามาก ลูกอมเม็ดนี้จะเยียวยา ได้จริงเหรอ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ