วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง

ตอนที่ 41 ผู้ชายสารเลว



ตอนที่ 41 ผู้ชายสารเลว

วังสาถูกดอกจนหน้าหงาย ที่จริงตามความหนาของหนังหน้าแล้ว เธอยังเทียบธัชชัยไม่ได้ แต่ก็ช่างมันเถอะ หากมาพูดจาไร้สาระ กับเขาต่อไป คนที่เสียเปรียบก็คือตัวเอง

“พวกเราจะเข้ากันได้หรือไม่ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ คุณรู้เอาไว้ แค่ว่าฉันเป็นพี่สะใภ้ของคุณ หลังจากนั้นก็ช่วยเคารพฉันสัก หน่อยก็พอแล้ว คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาของเพื่อนไม่สามารถถูก รังแกได้ ถ้าอย่างนั้นภรรยาของพี่น้องก็ยังไม่สามารถถูกรังแกได้ เข้าใจไหม? น้องชายของ สามี”

วัจสาในประโยคไม่กี่ตัวสุดท้ายแทบจะขบเขี้ยวเคี้ยวฟันพูด ออกมาทีละตัวทีละตัว

ธัชชัยยื่นมือไปบนโต๊ะอาหารอย่างไม่รีบร้อน หยิบเอาขนมงา ทอดมันม่วงที่ป้าอ้อยทำให้วัจสามาชิ้นหนึ่ง แล้วค่อยๆ เอาเข้า ปากอย่างช้าๆ ท่าทางในการกินที่ดูงดงามและสง่าของเขาทำให้ วังสาเห็นแล้วก็อยากจะฟาดเขาไปสักที

เคี้ยวจนหมดปากแล้วเขาถึงได้เปิดปากพูด “วังสา ฉันจะพูด กับเธอชัดๆ อีกรอบนะ ฉันธัชชัยแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยเห็นคุณ เป็นพี่สะใภ้ของฉันเลย ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเหตุผลของภรรยา เพื่อนไม่สามารถถูกรังแกได้อะไรนั่น หรือถึงแม้ว่าฉันจะรังแกเธอ จริงๆ พี่ชายของฉันก็ไม่ใส่ใจแน่นอน

น้ำเสียงที่เย็นชาในคำพูดของธัชชัยมันช่างน่าหลงใหล
ทว่า สาเป็นบ้าแทบจะกระอักเลือดออกมาแล้ว เธอพูดกับตัว เองไม่หยุด จะมาเถียงกับคนแบบนี้ไม่ได้ จะมาเถียงกับคนแบบ นี้ไม่ได้… ในที่สุดก็อดที่จะต่อปากต่อคำกับเขาเอาไว้ได้ ถ้าหาก จะให้อธิบายเหตุผลกับคนแบบนี้คงมีแต่จะทำให้ตัวเองเป็นบ้า เหมือนตายทั้งเป็นแล้ว

เธอก้มหน้ากินซุปพุทราที่อยู่ในถ้วยทีละคำทีละคำ ในระหว่าง นั้นก็กินขนมงาทอดมันม่วงไปอีกสองสามชิ้น สุดท้ายก็เหลือเอา ไว้เพียงเศษๆ ของขนมเท่านั้น หลังจากกินเสร็จแล้วเธอก็หยิบทิช มาเช็ดปาก แล้วเธอก็มองยั่วยุธัชชัยเช่นเคย

ราวกับว่ากำลังพูดอย่างไม่มีเสียง “เป็นไงล่ะ? ไม่เหลือให้คุณ แม้แต่ชิ้นเดียว! ”

ธัชชัยมองดูเธอที่กำลังโมโหอยู่ท่าทางของเธอในตอนนี้ช่าง เหมือนกับเด็กน้อยที่ไร้เดียงสาอะไรขนาดนี้ ในใจก็หลุดหัวเราะ คำพอดในปากของเขาก็อดไม่ได้ที่จะพูดล้อเล่นออกมาไม่ได้ “ดี มาก ดูเหมือนว่าฉันจะเป็นดาวนำโชคของคุณนะ แค่พูดเล่นกับ ฉันนิดหน่อย คุณก็กินอาหารได้เยอะขนาดนี้ ไม่ต้องขอบคุณ หรอก แล้วค่อยมาชดใช้ตามเวลาที่กำหนดทีหลังก็แล้วกัน”

“ธัชชัย ลดความหลงตัวเองลงสักหน่อยก็จะยิ่งมีชีวิตได้นาน ขึ้นนะ” วัจสาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชายิ่ง

“จริงเหรอ? ถ้าอย่างนั้นคุณที่รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจขนาดนี้จะไป ที่ไหนดีล่ะ คำพูดหายนะทิ้งไว้หนึ่งพันปีเคยได้ยินหรือยัง? หลัง จากนี้ก็อย่าเอาหน้าที่ต่ำต้อยนี้มาขอร้องให้ฉันทำอะไรให้เธออีก”

ธัชชัยหรี่ตาดอกท้อของเขาขึ้น ชายตามองอย่างเย็นชานั่งลง ฝั่งตรงข้ามของเธอ

ของร้องเขาแหรอ? ตัวเธอเองย่อมไม่มีทางขอร้องเขาแน่ ทว่า กลับเป็นคุณน้าที่ทางนั้นเหมือนกับว่ากำลังลนลานไม่น้อย ใน เมื่อตอบมาแล้ว ก็ไม่ว่าจะลองสักกี่ครั้งก็น่าเสียดายที่ตอนนี้ เกรงว่าจะไม่ใช่โอกาสดีอะไร ธัชชัยพูดออกมาแบบนี้แล้ว วันสา เองก็เคารพจิตใจของตนเองไม่ยอมเอาตัวเองไปให้คนนั้น เหยียบย่ำถึงหน้าประตูแน่นอน

คิดมาถึงตรงนี้ อารมณ์ของเธอก็ลดฮวบลงโดยไม่รู้ตัว

ธัชชัยมองดูอารมณ์ของผู้หญิงคนนี้ช่างเปลี่ยนไปเร็วอะไร ขนาดนี้ วินาทีก่อนยังเถียงกับเขาเหมือนเป็นแมวป่าอยู่เลย วินาทีต่อมาดันเปลี่ยนเป็นหดหูหงอยเหงาไม่มีชีวิตชีวาอะไร อย่างนี้….ตัวเองพูดอะไรผิดไปหรือเปล่านะ?

เขาขมวดคิ้วแล้วถามว่า “ทำไร? ทำไมท่าทางถึงได้ดูเหมือน คนอยากตายอย่างนี้

วัจสาถูกคำพูดที่โหดร้ายจากปากเขาเข้าโจมตี เดิมทีก็ อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้ว เงยหน้าแล้วด่าออกไปว่า “ใครอยากตาย? ท่าทางคุณก็เพิ่งจะเหมือนกับคนที่อยากตายแต่ไม่ตายอยู่นะ เนี่ย!” พูดเสร็จเธอก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ แม้แต่หน้าของธัชชัยก็ไม่ มอง เดินตรงผ่านตัวเขาไป

วธัชชัยถูกเธอตวาดใส่ก็ตะลึงงันไป ผู้หญิงคนนี้นี่จริงๆ เลยตัวเองเป็นห่วงเธอแท้ๆ ทำไมยังถูกเธอไปยกหนึ่งได้ล่ะเนี่ย? หรือว่า ในยามปกติตัวเองปฏิบัติตัวต่อเธอดีเกินไปเหรอ? ตอนนี้ เธอถึงได้กำเริบเสืบสานไม่รู้จักบุญคุณขนาดนี้

ถ้าหากประโยคนี้วจสาได้ยินเข้า จะต้องถูกด่าเหมือนเด็กยัง ไม่ประสาแน่นอน คุณชายรองมีบุญคุณตรงไหนกับเธอมทราบ

ใบหน้าของธัชชัยแสยะยิ้ม กำลังจะก้าวเดินไปคิดอยากจะ ตามไปดูสีหน้าของวันสาสักหน่อย ดูซิว่าเธอจะยังกล้าไม่เห็นเขา อยู่ในสายตาอีกหรือไม่ ทว่าก็พลันคิดขึ้นมาได้ว่าสุขภาพของผู้ หญิงคนนั้นตอนนี้ยังไม่เหมาะเท่าไหร่ อาการใจร้อนไม่เป็นสุข อย่างบอกไม่ถูกทำให้เขาหยุดเดิน และดึงเนคไทของตัวเอง อย่างลวกๆ

วังสาที่เดินมาถึงห้องพักแขกก็นั่งลงไปตรงด้านหน้าของโต๊ะ เริ่มอ่านบทความวิทยานิพนธ์และแก้ไปแล้วหลายรอบ เห็นได้ชัด ว่าไม่มีอารมณ์จะทำ และในที่สุดก็ปล่อยวางอย่างเด็ดขาด และ หยิบเอาหนังสือแฟชั่นเสื้อผ้าที่อยู่ด้านข้างมาดู พลิกไปพลิกมา ก็ พบว่ามีโพสอิทแผ่นหนึ่งตกลงไป

เธอก้มตัวลงไปเก็บและอ่านดู นั้นก็คือ โพสอิทที่พนักงานขาย คนนั้นเขียนให้เธอ “ท่านช่างโชคดีจริงๆ มีคนรักที่รู้ใจอย่างนี้ ขอให้พวกคุณมีความสุขและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขนะคะ

คนรักที่รู้ใจเหรอ? รู้ใจแค่เส้นด้ายที่ทำจากขนสัตว์น่ะสิไม่ว่า อย่างกับสิงโตที่โหดร้ายตัวหนึ่งก็ไม่ปาน ถ้าเป็นคนรักก็เป็นคน รัก ความห่วงใยสักนิดก็ไม่มีแล้ว
เดิมทีก็เป็นประโยคอวยพรที่สวยงามดี แต่น่าเสียดายที่บน ร่างกายของพวกเขาทั้งสอง ก็เหมือนกับมังกรตัวใหญ่

ตรงประตูก็พลันมีเสียงเท้าลอยเข้ามา วัดสาตกใจในทันที รีบ เก็บโพสอิทแผ่นนั้นกลับเข้าไปในหนังสือ พร้อมทั้งเอาเข้าไปใน ลิ้นชักและล็อกเอาไว้ พอทำเสร็จแล้วก็รีบลุกขึ้นยืน

วังสาหันกลับไปมอง ก็นึกไม่ถึงว่าจะเป็นธัชชัย ก็ตระหนักรู้ได้ ว่าผู้ชายคนนี้จะต้องตามมาด่าเธออย่างแน่นอน เพราะลักษณะ นิสัยของธัชชัยก็เป็นอย่างนี้

ธัชชัยมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า เหมือนกับว่ากำลังมองสัตว์ที่ น่าขำตัวหนึ่ง “มีห้องหอดีๆ ให้ไม่นอน ต้องหนีมานอนห้องพัก แขกอะไรนี่ เธอกำลังกวนประสาทอยู่เหรอ?”

น้ำเสียงของเขาจริงๆ แล้ว มันก็เป็นน้ำเสียงที่ดุดัน แต่ว่าไม่รู้ ทำไม เมื่อครู่นี้หัวใจของวัจสาถึงได้เต้นตุบตับตุบตับไม่เป็น จังหวะแบบนี้

ห้องน้ำข้างบนห้องหอนะว่างสำหรับคุณเสมอ อยากจะไป อาบน้ำตอนไหนก็ได้ ดูท่าทางคุณจะเหนื่อยมากนะ หรือว่าจะรีบ ไปเลยล่ะ คำพูดนี้เป็นวรพลพูดนะ เอาไว้ให้คุณคนเดียว”

วัจสาไม่เปลี่ยนสีหน้าจนเขาพูดเสร็จ รอให้ผู้ชายคนนี้แสดง ปฏิกิริยาออกมาให้หมด บางทีอาจจะด่าออกมาสักยกหนึ่งก็ได้ เป็นแบบนี้ก็ดี อย่างนี้ก็คงไม่มีหน้าอยู่ในห้องของเธอได้แล้ว ใน เวลาเดียวกันก็ถากถางธัชชัยไปด้วยเลย บอกว่าเจ้าน้องชายของ สามีคนนี้วันๆ ก็เอาแต่วิ่งไปห้องหอของพี่ชายกับพี่สะใภ้ ก็คงไม่ใช่ความหมายไม่มีอะไร?

ใครจะรู้ว่าผ่านไปแล้วเป็นเวลานาน ชัชชัยยังไม่มีปฏิกิริยา อะไร ไม่นาน วจสาก็รู้สึกว่าอีกฝั่งของที่นอนนั้นยุบเป็นหลุมไป หันกลับไปมองก็เป็นธัชชัยนอนเอนกายลงไปแล้ว

ผู้ชายคนนี้ ทำไมถึงต้องกวนเธอไม่เลิกด้วย? เขาชอบห้องหอ เธอก็ออกมาจากห้องหอ ให้แล้วไม่ใช่เหรอ?

“ธัชชัย คุณมานอนอะไรตรงนี้!?” วัดสาพูดจบก็ตะลึงไปชั่ว ขณะ “ยังจะ?” พฤติกรรมของผู้ชายคนนี้ช่างชั่วร้ายมาก

เห็นท่าทางขมวดคิ้วของวัสสา ธัชชัยอดไม่ได้ที่จะอารมณ์ดีขึ้น มา ฉวยโอกาสกางแขนนออกแล้วดึงวัลสาเข้ามาไว้ในอ้อมกอด ของตัวเอง

วัจสาไม่ทันได้ตั้งตัว ก็พลันโผเข้าไปอยู่ตรงหน้าอกแน่นๆ ของ ธัชชัยแล้ว ตัวของเธอถูกถูกกระแทกจนปวดไปหมด เกือบไม่ กระแทกโดนหน้าอกแล้ว

เธอกำลังคิดที่จะดันตัวเองขึ้นมา ใครจะรู้ว่ามืออีกข้างของเขา จะมาจากอีกทางหนึ่งแล้วกอดเธอไว้ รัดเธอไว้กับตัวเอาไว้จน แน่นไม่สามารถขยับได้

เขาทำให้วัจสาตกใจจนตื่นเต้นขึ้นมา “ธัชชัย ทำอะไร? รีบ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!” เธอพยายามต่อสู้ขัดขืนทว่ากับยิ่งโดนรัด แน่นกว่าเดิม แขนของเขาเหมือนกับเหล็กกล้า รัดแน่นจนเธอ ปวดไปทั้งตัว
“อย่าขยับ ให้ฉันกอดแปบเดียว แค่แปบเดียว”… น้ำเสียงของ ธัชชัย เหมือนกับเหล้าที่ยังไม่ถูกเปิดออก และยังขอร้องด้วย ความจริงให้เธอไม่ขัดขืน และพลังของหัวใจที่สับสนงงงวย

วันสาในเวลานี้ก็รู้สึกได้ว่าภายในใจของเขาดูลังเศร้าเสียใจ อยู่ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ก็หยุดการกระทำที่ต่อสู้ดิ้นรนลง ค่อยๆ ขยับไปอยู่ในอ้อยมกอดของเขา

ผ่านเวลาไปโดยไม่พูดไม่จา เรื่องนี้ก็เป็นแบบนี้ ความ สวยงามทั้งหมดก็หยุดลงในชั่วพริบตา

เหมือนว่าความรู้สึกสวยงามที่ลอยอยู่บนอากาศนี้ มันคือการ เริ่มต้นของความรักอยู่รึเปล่า?

ความรู้สึกที่สาวน้อยกำลังคาดหวังทั้งหมด…

ทว่าฝ่ามือที่มีพลังของเขาก็พลันเปลี่ยนมาที่หน้าอกของวัดสา อีกทั้งยังขยับไปมา เธอก็พลันตกใจตื่นขึ้นมาจากความฝันอัน สวยงามทันที

เธอบ้าไปแล้วเหรอ? ทำไมต้องมานอนเตียงเดียวกันกับธัชชัย ด้วย เมื่อครู่นี้เธอเพิ่งจะคิดว่าเป็นความรู้สึกของความรักหรือไม่? แต่ว่านี่เป็นน้องชายของสามีเธอนะ! หัวใจวจสากระตุกวาบ ไม่รู้ ว่าตัวเองเป็นอะไรไป หัวใจของเธอถึงได้เต้นรัวอย่างนี้

ที่ผ่านมาไม่เคยคิดแบบนี้มาก่อน น้องชายของสามีที่ตัวเองอยู่ ด้วยตอนนี้ เดี๋ยวก็ได้เป็นสามีจริงๆ ของเธอพอดี

“ไม่ดื้อนะ อย่าขยับไปไหน” ธัชชัยก็เปิดปากพูดขึ้นทันที น้ำเสียงแบบนี้ใครก็ยากที่จะบรรยายความเซ็กซี่และความยั่วยวน ออกมาเป็นคําพูดได้

เขาก็เป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ย่อมมีปฏิกิริยากับเรื่องนี้

อย่างแน่นอน

ทว่าวจสาจะเชื่อฟังเขาได้อย่างไรเล่า? เพราะเหตุผลที่ว่าเขา เป็นน้องชายของสามีตัวเอง ในใจของเธอกำลังยุ่งกันไปใหญ่ แล้ว นี่เห็นชัดๆ เลยว่ามันไม่ใช่พฤติกรรมที่ถูกต้อง

เธอก็เริ่มต่อสู้ขัดขืนอีกครั้ง “ธัชชัยคุณปล่อยฉันเดี๋ยวนี้! คุณก็ รู้ดีแก่ใจว่าความสัมพันธ์ของพวกเราคืออะไร ฉันเป็น…” พี่ สะใภ้สองคำนี้ไม่สามารถพูดออกมาได้ เพราะว่าริมฝีปากของ เธอถูกปิดสนิทแล้ว

รู้อยู่เต็มอกว่ามันผิด แต่วจสาเริ่มอดไม่ไหวค่อยๆ ถลำลึก เข้าไปอย่างช้าๆ

ผ่านไปนานมากหลังจากนั้น สองคนนี้ถึงได้แยกออกจากกัน อย่างกระหืดกระหอบ

วันสาก็พลันรู้สึกว่า ตัวเองในตอนนี้เจ็บปวดที่สุดแล้ว ทั้งที่รู้ดี ว่าไม่สามารถอยู่กับคนที่อยู่ตรงหน้านี้ได้ ไม่สามารถเกิดความ รู้สึกรักได้แม้แต่นิดเดียว ตัวเองกลับถลำลึกเข้าไปที่ฝีปากของ เขา หรือว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่ไม่ดีแบบนั้นเหรอ?

ความรู้สึกเจ็บปวดแบบนี้ทำให้เธออยากจะฉีกตัวเองออกไปชิ้นๆ
“ธัชชัย พวกเรา ทำแบบนี้ไม่ได้… ฉัน ขอร้อง คุณ ต่อไปอย่า ทำเรื่องแบบนี้กับฉันอีก… ดวงตาของวังสาเต็มไปด้วยหยาด นํ้าตา

ธัชชัยเห็นน้ำตาของเธอ ก็รู้สึกตะลึงไปเล็กน้อย ทว่าในเวลา เดียวกันก็เข้าใจความคิดทั้งหมดที่อยู่ในใจของเธอ เธอกำลัง ค่อยๆ ถล่ลึกลงไป หลุดเข้ามาอยู่ในโลกของเขานั่นคือเหตุผล ที่ทําให้เจ็บปวดขนาดนี้ ไม่ใช่แค่จูบนั้น แม้แต่หัวใจก็จมลงไป แล้ว

ริมฝีปากที่มีเสน่ห์ของเขาเผยรอยยิ้มชั่วร้ายพูดว่า “เรื่อง อะไร?”

“พวกเราไม่ควร… ไม่ควรทำ…

ผลตอบรับของวัสสาก็คืออีกหนึ่งจูบ

น่าเสียดายที่ครั้งนี้วจสาได้สติขึ้นมาแล้ว เธอก็พลันต่อสู้ขัดขืน ทันที ทว่าเขากลับไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย จนกระทั่งทำ พฤติกรรมหยาบคายออกมา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ