ตอนที่ 40 ไม่สามารถพบพี่ใหญ่ได้รู้สึกไม่มีความสุข
ยังคิดถึงเรื่องของธัชชัยอยู่ ก็เหมือนกับว่าคิดอะไรบางอย่างขึ้น มาได้กะทันหัน ตกใจมาก ทำไมถึงคิดถึงแต่ชัชชัย? รู้อยู่แก่ใจ ว่าสามรของตัวเองคือวรพลธัชชัยยังไงเขาก็คือน้องชายของสามี ตัวเอง หยุดคิดอะไรเหลวไหลแบบนี้ได้แล้ว!
พูดถึงวรพล ตั้งแต่วันประชุมผู้ถือหุ้นในวันนั้นที่ได้เจอหน้าเขา วัจสาก็รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้มีความสามารถเอามากๆ พูดถึงว่าถ้า หากไม่มีเหตุการณ์ไฟไหม้ในครั้งนั้น ก็คงเปรียบเทียบได้กับธัช ชัย ไม่น้อยหน้าไปกว่าธัชชัยแน่นอน ตอนนี้ก็หวังอยู่อย่างเดียว ว่าเขาจะรีบดีขึ้นสักที
ผ่านไปนานแล้วเห็นวัสสาไม่ตอบสักที วราลีจึงโบกมือไปมา ตรงหน้าของวังสา “หนูสาจ๊ะ กำลังคิดอะไรอยู่เหรอ?”
วัดสาเห็นวราลีชั่วพริบตาเดียวก็หลุดออกมาจากห้วงความคิด ของตัวเอง “คะ ไม่มีอะไรค่ะ คุณน้าพูดถึงตรงไหนนะคะ?”
“ให้หนูนัดคุณชายรองมาที่บ้านในวันหยุดนี้ ยิ่งเร็วยิ่งดี เพื่อ จะได้ไม่ให้เรื่องมันยืดเยื้ออกไปนานเกินไปอาจจะเกิดการ เปลี่ยนแปลงที่ไม่ดีเกิดขึ้น
วันสาขมวดคิ้ว “ให้หนูนัดเหรอ? ไม่มีทาง
เธอยิ่งไม่อยากมีความสัมพันธ์อะไรกับผู้ชายคนนี้ ไม่ทำให้ตัว เองต้องอับอายขายขี้หน้าอย่างแน่นอน คิดถึงเรื่องเงินสองแสนในครั้งที่แล้ว ก็กระดากใจจะแย่ เงินหนึ่งพันล้านในครั้งนี้ ผู้คน ขายนั้นจะคิดอะไรกับตัวเธออีก? ไม่ใช่ว่าจะทำเรื่องบ้าๆ กับเธอ นะ! นี่เป็นสิ่งที่วังสากลัวที่สุด
“ทำไมถึงไม่ได้ล่ะ?” วราลีขมวดคิ้ว ไม่เคยเห็นอารมณ์ที่ผิด ปกติแบบ ของวังสามาก่อน
ในเวลาคับขัน วัดสาก็คิดหาทางออกได้อย่างฉับพลัน “คุณน้า ไปเชิญด้วยตัวเอง มันจะไม่ใช่การแสดงความบริสุทธิ์ใจมากกว่า หรือคะ?”
คิดไม่ถึงว่าวราลีจะถอนหายใจออกมา “ถ้าหากว่าน้าเจอเขา ได้ก็ดีสิ ครั้งที่แล้วไปเยี่ยมเยียนถึงบริษัทโฮสติ้ง รอจนสอง ชั่วโมงก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเขา แม้กระทั่งไปที่บ้านตระกูลศรี ทองก็ลองมาแล้ว ถูกพ่อบ้านภูษิตขวางทางเอาไว้อีก บอกว่า คุณชายรองเหนื่อยมาก อยู่บ้านไม่อยากรับแขก ตอนนี้ความ หวังของน้าก็ฝากไว้ที่ตัวของหนูสาแล้วนะ”
วังสากระพริบตาปริบๆ เธออยู่บ้านตระกูลศรีทองมานาน หลานวัน ทว่าไม่เคยเห็นวราลีไปที่นั่นเลยสักครั้ง ก็ไม่รู้ว่าเรื่อง จริงหรือเรื่องโกหกกันแน่ หรือว่าตัวเองขี้เกียจไปเชิญ
“คุณน้าคะ ท่านก็มองตำแหน่งของหนูที่บ้านของตระกูลศรี ทองสูงเกินไป ความจริงแล้วฉันก็แค่เป็นคนภายนอกที่อยู่ที่นั่นก็ เท่านั้นเอง พวกเขาคนของตระกูลศรีทอง ก็คือคนในครอบครัว เดียวกัน นี่เรียกได้ว่าเป็นคนต่ำต้อยคำพูดย่อมไม่มีน้ำหนัก รัช ชัยย่อมไม่ฟังคำพูดของหนูแน่นอน” วังสารู้สึกว่าตัวเองพูดความจริงออกไปแล้ว
ก็ยังคนเชื่ออีก วราลีรีบแย่งปยุตพูด “เป็นไปไม่ได้ ถ้าไม่ อย่างนั้นครั้งที่แล้วคุณธัชชัยด้วยตัวเองได้อย่างไร? ยังอีกเป็นพี่สะใภ้ธัชชัยอีก ด้วย เขาและเคารพวรพลสะใภ้ของด้วยเช่นกัน ขอเพียงแค่หนูเอ่ยปาก เขาย่อมเห็นแก่ หน้าอย่างแน่นอน
เธอพูดตระกูลศรีทองอยากจะเจอวรพลครั้งหนึ่งยังยาก ยิ่งไม่ต้องพูด ถึงว่าธัชชัยจะเคารพธัชชัยไม่ทำให้อับอายขายหน้า แล้ว
เห็นวจสาพูดไม่วราลีขมวดคิ้วมั่น น้ำเสียงไม่หวานซับ ซ้อนเหมือนเมื่อวังสา หนูต้องคิดหน่อยนะถ้าหากว่าหนูไม่น้า ก็ไม่ว่าหนูจะไปซุกหัวนอนที่ไหนเกรงขามในวันอีก ตอนน้าหนูประโยคขอร้องหนูจะไม่ตอบตกเลยเหรอ?
คำพูดนี้ของวราลีทำให้วันสารู้สึกว่าหากไม่ช่วยก็จะกลายเป็น ที่เนรคุณ เธอถอนหายใจเบาๆ พยักหน้าตอบรับเบา
เธอไม่อยากโวยวายจนทำให้ตัวเองแย่ อีกอย่างที่วราลีพูด มาใช่จะไม่เหตุผล ถ้าปยุต ปีนั้น ในตอนตัวเอง อายุยังน้อยขนาดนั้นไม่ว่าอาจจะตายไปแล้ว
อีกอย่างเธอก็ไม่อยากจะอยู่บ้านตระกูลขุนทดนานเกินไปเสียงของผู้หญิงคนนี้ไม่ว่าจะแบบไหนก็ทำให้เธอปวดหัวได้ทั้ง นั้น
ตอนที่เธอกลับมาถึงบ้านตระกูลศรีทอง ก็ปาไปบ่ายสามแล้ว วัสสานั่งอยู่ในห้องอ่านหนังสือ เขียนหัวข้อวิทยานิพนธ์อยู่คร หนึ่ง และวางแผนโครงสร้างสักหน่อย เผลอแปบเดียวก็ห้าโมง ครึ่งแล้ว
วังสารู้สึกว่าสมองของเธอเริ่มคิดไม่ออกขึ้นมาสักหน่อยแล้ว จึงหยุดลง ถึงถือโอกาสนี้ไปช่วยป้าอ้อยเตรียมยาและอาหารให้ กับวรพลด้วย อาศัยโอกาส ในตอนที่ธัชชัยยังไม่กลับมา เข้าไป ทักทายวรพลสักครั้ง
น่าเสียดาย ตอนที่เธอปฏิเสธป้าอ้อย ในตอนที่ตัวเธอยกยา และอาหารขึ้นไปที่ห้องรักษาตัวบนชั้นสอง ก็ถูกปฏิเสธอยู่ตรง ประตูเหมือนกัน คุณหมอภาคนยกยาและอาหารเข้าไปแล้ว กลับ ขวางใจสาเอาไว้ตรงหน้าประตู ห้ามให้เข้าไปเหมือนเดิม
เธอในเวลานี้ แม้แต่คนใช้ก็ยังเทียบไม่ได้ เพราะว่าเธอดู เหมือนว่าจะเป็นเพียงแค่คนนอกเท่านั้นจริงๆ
ป้าอ้อยต้มซุปพุทราเข้มข้นบำรุงร่างกายอยู่ในครัว ให้ร่าง กายของวัสสาอบอุ่นและก็เพื่อนให้เลือดประจำเดือนไหลได้อย่าง ราบรื่น
และวัสสาที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะอาหารในเวลานี้กำลังมองขนมทอด งามันม่วงที่ตัวเองทำอย่างใจลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัว สถานการณ์แบบนี้ในตอนนี้ทำให้เธอไม่รู้ว่าจะเอ่ยปากกับอย่างไรตัวเองไม่ได้เป็นเพียงของขวัญชิ้นหนึ่งเท่านั้น แต่ ยังทั้งนั้น
ยังอยากจะแบบกับธัชชัย ทว่าของก็ได้แรงขนาดนั้น จิตวิญญาณนิดไม่
ป้าอ้อยเคร่งเครียด อดไม่จะถามว่า คุณผู้หญิง คุณเป็นอะไรไป ปวดอยู่เหรอ”
วังสาสายเจ็บปวดภายใจมากกว่า ไม่ได้เป็นค่ะ ป้า รีบเรียกพ่อบ้าน
ป้าอ้อยเก็บความสงสัยไว้แล้วเดินออกไป
ตอนธัชชัยกลับมาบ้านตระกูลศรีทอง เห็นหญิงงามราว ภาพในสมัยโบราณ เหมือนกับความงามครั้งแรกสา
ทว่าก่อนหน้านี้วจโกรธน้อยกว่าตอนแรก นิดหน่อย
วัดสายังตกอยู่ห้วงความคิดของตัวเองทันได้เห็นว่า เขาละ
วัจสาเงยหน้าขึ้น น้ำดำอยู่ในบึงปะทะมา กว้างพอคิดถึงคำขอร้องของวราลี ในใจรู้สึกร้อนรนเป็นสุข ครั้งที่แล้วเงินเพื่อการกุศลสองแสนบาทเขาก็ทิ้งเอาไว้ให้ แค่เงาดำ วัจสาแทบไม่อยากเอ่ยปากเรื่องนี้ออกมาเลย
ธัชชัยเองก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงพูดประโยคอย่างนั้นออกไป กะทันหัน เพียงแค่เห็นท่าทางที่ท้อแท้ของเธอ ก็คิดว่าเธอคงไม่ สบายใจ จึงคิดอยากให้เธอกินโจ๊กลงไป ร่างกายของเธอเหมือน ว่าจะไม่สบาย คราวนี้คงจะปวดมากอยู่ใช่ไหม?
ทว่าเห็นวัสสาไม่สนใจตัวเอง เขาเองก็ไม่พูดออกมาแล้ว เพียง แต่เหลือบตาไปมองเธออย่างเย็นชา และมองไปยังข้างบนตึก
เรื่องที่ธัชชัยทำเป็นประจำทุกครั้งที่กลับมาตระกูลศรีทอง เรื่องแรกก็คือทําความสะอาดร่างกาย จากนั้นก็เข้าไปเยี่ยมว รพล ในห้องรักษาตัว
วันสาก็ค่อยๆ เข้าใจถึงความเคยชิ้นนี้ของเขาด้วย ธัชชัยเมื่อ ครู่นี้หมายความว่าเรียกเธอให้กินโจ๊กใช่ไหม? เธอยื่นออกไป หยิบเอาช้อนที่ทำจากดินเผาตักซุปพุททราแดงมากิน
กลิ่นหอมอ่อนๆ ของพุททราโชยเข้าจมูก ซุปร้อนๆ วิจาสจึง เป่าสักหน่อย ค่อยเอาเข้าปาก เพราะว่ามีเรื่องกลุ้มใจ ดังนั้นกิน เข้าไปก็เหมือนกับกำลังเคี้ยวเทียนไขไม่มีรสชาตอแม้แต่น้อย
เธอเงยหน้าไปมอง ไม่รู้ว่าตอนไหน ธัชชัยก็เดินไปถึงห้อง รักษาตัวของวรพลแล้ว เงาร่าสูงใหญ่และบึกบึน ดูสง่าและสุขุม
ผู้ชายคนนี้ ตัวเธอเองควรจะเผชิญหน้ากับเขาอย่างไรดี? จนธัชชัยออกมาจากห้องรักษา ลงมาด้านล่างไปยังโต๊ะอาหารวัดสาก็ยังใจลอยอยู่เหมือนเดิม เหมือนกับว่ามีเรื่องอะไรไม่
สบายใจ “จสาคนี้เธอกินของอย่างนี้เหรอ สุขภาพยังไม่ดีขึ้นไม่ใช่เห
รอ? ช่วงนี้ไม่ใช่ว่าควรจะต้มซุปกระดูกให้เธอเหรอ?” ธัชชัยเห็นเธอรูปร่างเริ่มผอมซูบลงแล้ว เขายังไม่ชินกับท่าทาง ที่ผอมจนป่วยง่ายๆ แบบนี้
เพราะว่าคำพูดที่เป็นห่วงของธัชชัยในครั้งนี้ทำให้ป้าอดรู้สึก ดีใจอย่างมาก ถึงแม้ว่าตัวเองจะไม่สามารถรู้ถึงตื้นลึกหนาบาง ของสองคนนี้ ความรู้สึกที่ตัวเองมีต่อวัจสาก็เปลี่ยนไปแล้ว ทว่า ทั้งหมดนี้มันก็ต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป
เธอนึกถึงวรพลที่เธอเพิ่งไปเยี่ยมเขามา แอบเช็ดน้ำตาที่ซึม ออกมา
ประจำเดือนคุณผู้หญิงมาได้สองสามวันแล้ว จะต้องกินขอ งอ่อนๆ เต็มไปมันไปไม่ค่อยดี ดังนั้นซุปพุทราแดงช่วยบำรุง เลือด ดีมากสำหรับผู้หญิง”
ธัชชัยขมวดคิ้วด้วยความสงสัย “แต่ว่าเหมือนเธอจะไม่ค่อย ชอบกินของแบบนั้นนะ ผ่านไปนานแล้วยังไม่แตะถ้วยเลยแม้แต่ น้อย” ในน้ำเสียงนั้นมีการตำหนิป้าอ้อยอยู่บ้าง แต่ว่าป้าอ้อยไม่ ได้ใส่ใจ
“คุณผู้หญิงในไม่อยู่กับเนื้อกับตัวตั้งแต่ตอนบ่าย เหมือนกับ คนมีเรื่องหนักอกหนักใจ อีกอย่างเมื่อตอนเย็นส่งอาหารให้ คุณชายใหญ่ ก็ถูกหมอภาคินขวางเอาไว้ตรงประตูอีก จะต้องเสียใจมากแน่นอน” ป้าคิดครู่หนึ่ง เหมือนจะเพียง เหตุผล
“ยังออกอีกเหรอ เธออยากชายฉันขนาดนี้เลยเห รอ? ไม่ได้เจอหนึ่งวันเหมือนห่างกันฤดูใบไม้ร่วงของคำพูดธัชชัยดูเย็นชา ทว่าป้าอ้อยกลับฟังออกมี รสชาติของความหึงหวงอยู่
ป้าอ้อยไม่เข้าใจจริงทำไมธัชชัยถึงบอกฐานะที่แท้จริงกับ วังสาไปนี่ผ่านมานานแล้ว ก็ควรการปฏิบัติตัวของวันออกแล้ว เธอเองรู้สึกว่ามาก ดูจากคราวที่แล้ว วจสาดูแล ชายใหญ่ด้วยความจริงใจ
มองดูคุณชายรองคนนี้คอยข่มเหงรังแกคุณผู้หญิงอยู่ตลออด ป้าอ้อย
ธัชชัยไม่ว่ากำลังคิดอะไร ก้าวเท้าเดินไปไม่นานก็ถึงข้าง
ตึก
ยืนหน้าโต๊ะอาหารด้วยใบหน้าที่เต็มด้วยความทุกข์ใจ
เธอ เธออยากเจอชายฉันมากใช่ไหม?”
น้ำเสียงแข็งกระด้างคือการซักถามด้วยเสียงตำหนิ
วัจสามา พริบเดียวก็เงยหน้าขึ้นมา ตอบกลับด้วยเสียงที่ เย็นชาว่า ใช่ อยากเจอวรพลมาก
ธัชชัยก็เหมือนกับจะคิดอะไรขึ้นมาได้ ค่อยๆ ชำเลืองดาลูกท้อ ของเขา ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีความหมายลึกซึ้ง แต่ว่า ร่างกายของพี่ชายฉันไม่ดีเอาซะเลย คงจะให้ความสุขระหว่าง ชายหญิงกับเธอไม่ได้หรอกนะ
วัดสาเงียบไปครู่หนึ่ง อยากจะเปิดสมองของผู้ชายคนนี้ออก มาดูจริงๆ อยากจะรู้ว่าข้างในนั้นมันมีแต่ตัวสเปิร์มหรืออย่างไร วันๆ ก็คิดแต่เรื่องสกปรก ปกติไม่มีมารยาทกับเธอที่เป็นพี่สะใภ้ ก็ไม่เป็นอะไร แต่ตอนนี้ก็ใช้ความคิดอย่างนี้มามองเธออีก เห็น เธอเป็นตัวอะไร?
วัจสาตระหนักได้ว่าไม่สามารถให้ผู้ชายชั่วร้ายคนนี้มากดดัน เธอตลอดไปได้ ตัวเธอเองก็ต้องเรียนรู้วิธีตอบโต้บ้าง หาก เอาแต่เงียบยิ่งทำให้เขากำเริบเสืบสานไปเรื่อยๆ เพราะเหตุนี้จ สาจึงคิดวางแผน
ยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “ไม่ทราบว่าคุณน้องชายสามีรู้ได้อย่างไร สามีของฉันทำไม่ได้เหรอ? คุณยังไม่ได้เห็นกับตาซะหน่อย
เธออดกลั้นความกระดากอายเอาไว้ เธอไม่เคยพูดคำพูดแบบ นี้มาก่อน คำพูดเปิดเผยแบบนี้ ทำให้อายเหลือเกิน ทว่าใบหน้า ของเธอยังร้อนผะผ่าวขึ้นมาจนแบบที่ไม่สามารถควบคุมได้
“ฉันกับพี่ชายของคุณ ก็เข้ากันได้ดีมาก
ดูผู้หญิงคนนี้พูดจาเปิดเผยออกมาให้เสร็จ ธัชชัยอดเอารอย ยิ้มที่มีความหมายเอาไว้ในใจ คิดไม่ถึงว่าเธอจะกล้าโต้แย้งกับ ตัวเอง กูรู้ว่าคำพูดแบบนี้ล้วนถูกฝิ่นพูดออกมา
คนที่จะนอนร่วมเตียงกับเธอเป็นตัวเขาเองต่างหาก คนที่จะมี สิทธิออกความคิดเห็นควรเป็นเขา ดังนั้น ถ้าจะเข้ากันได้ก็ ต้องเข้ากันได้กับเขาธัชชัย ใช่หรือไม่?
“อ๋อ? ดูท่าทางความสัมพันธ์คุณกับพี่ชายฉันจะไม่เลวเลยนะ เข้ากันได้ดีจริงๆ เหรอ?” ธัชชัยเลิกคิ้วสูง มุมปากแสยะรอยยิ้มที่ เต็มไปด้วยความความชั่วร้ายแอบแฝงเอาไว้
ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ถึงแม้ว่าเขาจะชอบล้อเล่นกับชีวิตของ เธอ ก็เหมือนกับรสชาติในชีวิตอย่างหนึ่ง เธอเป็นผู้หญิงที่เฉลียว ฉลาด และก็ชอบแยกเขี้ยวยิงฟัน ใส่เขาอีก ช่างน่ารักเสียจริง
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ