ตอนที่ 36 ประจําเดือนมาแล้ว
วัดสาตัวสั่นไปทั้งตัวอยู่ในอ้อมกอดของเขา รู้สึกได้ว่าใบหน้ารูป ไข่ที่นิ่มนวลสั่นจนร้อนผะผ่าวขึ้นมาจนเหงื่อไหลพราก
“มืดแบบนี้ได้บรรยากาศดีนะ ว่าไหม?” เสียงแหบแห้งของรัช ชัยค่อยๆ แสดงออกถึงความต้องการที่เข้มข้น มือของเขาสวม ถุงมืออยู่ ป้องกันไม่ให้เธอจำเขาได้ เพราะเขาต้องการที่จะ ลูบคลําเธอเบาๆ
เกมๆ นี้ที่ไม่เห็นหน้า ความมืดมิดทำให้น่าสนุกขึ้น เชื่อว่ามัน จะทำให้ภายในร่างกายของผู้ชายมีอารมณ์มากขึ้น
ธัชชัยมีความสุขไม่น้อย คิดไม่ถึงเลยว่า วังสาจะยื่นมือมา ลูบคลำใบหน้าของเขา และแสดงออกว่าเธอไม่ได้กลัววรพล และ พูดว่า “พลคะ ฉันไม่กลัวคุณแล้ว คุณดูสิ ฉันกล้ากอดคุณด้วย นะ…”
รู้สึกได้ว่ามือเล็กๆ ของผู้หญิงคนนี้กำลังยื่นมือที่กำลังร้อนผะ ผ่าวเข้ามา ธัชชัยรีบจับมือของเธอเอาไว้ “ตอนที่ทำเรื่องนั้นอยู่ ฉันไม่อยากให้เธอแตะต้องตัวฉัน ห้ามมาแตะตัวฉัน หรือจูบฉัน ก่อน และไม่อนุญาตให้มองฉัน เธอจะต้องปิดตาเอาไว้และสนุก ไปกับมันในค่ำคืนนี้
ถูกธัชชัยพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาระคนตำหนิน้อยๆ วันสาก ตกใจจนมือสั่น ค่อยๆ เก็บมือที่กำลังจะยื่นเข้าไปหาธัชชัยกลับ มา “จริงเหรอ? เพียงแค่ปิดตาเอาไว้ ยอมรับมันอย่างว่า… น้ำเสียงของเธอรู้สึกว่ามีอะไรที่ไม่ถูกต้องอยู่บ้าง
ธัชชัยไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก พยักหน้าตอบรับ กลัวเธอจะมอง ไม่เห็นจึงตอบกลับไปว่า “ใช่”
วรพล คุณให้ฉันอยู่ในฐานนะอะไร? หรือเป็นแค่ตุ๊กตาเติมลม ที่เข้ากับคุณได้แค่นั้นรึเปล่า? คุณยังมีจิตสำนึกหรือไม่? ฉันเป็น เมียของคุณนะ!” เธอก่นด่าเสียงดัง
ธัชชัยตะลึงงันไปทันที เขาไม่คิดเลยว่าวัจสาจะมีปฏิกิริยาเช่น นี้ เขาเพียงแค่จะล้อเล่นเท่านั้น อย่างไรก็ก็ตามผู้หญิงคนนี้จะต้อง ยอมรับอย่างไม่ขัดขืน อีกทั้งยังเชื่อฟังคำพูดของพี่ใหญ่ด้วย หรือ? ตอนนี้จะมาแกล้งมีคุณธรรมอะไรกัน?
“เธอเองก็รู้ว่าเธอเป็นเมียฉัน ถ้าอย่างนั้นก็ควรที่จะยอมรับ คำขอของฉันอย่างไม่มีเงื่อนไข ฉันบอกแบบนี้ก็ต้องเป็นไปตาม
ถึงแม้ว่าปากของธัชชัยจะพูดแบบนี้ ทว่าภายในใจของเขา ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ถึงได้เป็นทุกข์ถึงเพียงนี้ น้ำเสียงเช่นนี้ของเธอ ทำให้เขาตกตะลึงพรึงเพริดจนรู้สึกไม่สบายใจเอาเสียเลย
วังสาเริ่มต่อต้านอย่างรุนแรง “ฉันนึกว่าระหว่างคู่สามีภรรยา จะต้องมีความเคารพซึ่งกันและกัน ฉันเคารพคุณ ฉันก็หวังว่า คุณจะเคารพฉันเช่นเดียวกัน!
“เธอเคารพฉันเหรอ? วันแรกที่แต่งงานกัน เธอก็วิ่งหนีฉันแล้ว นี่เป็นวิธีที่เธอเคารพฉันเหรอ?!” ธัชชัยระเบิดเสียงเพื่อกดดันเธอ
ดวงตาวจสาร้อนผ่าว ใช้แล้ว ตัวเธอในตอนนั้น วิ่งหนีไปจริงๆ ก็รู้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ แต่เธอก็ยังทำให้คนเอาความผิดนี้มา พูดสนุกปากได้
การต่อสู้ดิ้นรนของวังสาเมื่อครู่นี้ก็เป็นเป็นอ่อนแรงลงแล้วพูด ว่า “พลคะ จะไม่เปิดไฟจริงๆ เหรอคะ?”
“ไม่ได้!” เพราะว่าวัจสาพูดชื่อพี่ใหญ่เต็มปากเต็มค่า ธัชชัยจึง เกิดอารมณ์ฉุนเฉียวขึ้นมา รากับสัตว์ป่าตัวหนึ่งที่โมโหร้าย ก้ม ตัวอุ้มวัดสาขึ้นไปบนเตียง ไม่ต้องพูดมากแล้ว ในคืนที่สวยงาม ช่วงฤดูใบไม้ผลิเช่นนี้ พวกเรามาทำหน้าที่ผัวเมียกันเถอะ”
วังสาถูกเขากดด้านหลังเอาไว้ได้ความร้อนของเขาก็เริ่มไล่ ตระเวนไปทั่วด้านหลังของเธอ ชุดนอนที่บางของเธอก็ค่อยหลุด ออกทีละนิด
สองมือวัจสาก็ถูกมือขนาดใหญ่ของธัชชัยกดเอาไว้บนหัว
เตียง ขยับเขยื้อนไม่ได้แม้แต่น้อย
ธัชชัยเองก็รู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย รูปร่างสูงใหญ่ของเขาก็เริ่ม แนบชิดอิงแอบกับวังสา ผิวด้านหลังของวันสาก็นุ่มและเรียบ เนียน เสื้อผ้าบนตัวของธัชชัยก็ยังไม่ได้ถอดออก
ท่าทีเช่นนี้มันทำให้วจสารู้สึกอึดอัดจนที่สุดเลย คุณหมอ จิตวิทยาท่านหนึ่งเคยพูดเอาไว้ ถ้าหากว่าในตอนที่ผู้ชายกำลัง ทำเรื่องแบบนี้กับคุณ ยังสวมเสื้อผ้าอยู่หรือหลังจากเสร็จเรื่องนี้ แล้วเขาสนใจแค่เสื้อผ้าของตัวเองที่ใส่อยู่ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ ยืนยันได้แล้วว่าคุณไม่ได้เข้าไปในหัวใจของผู้ชายนั้นเลยแม้แต่น้อย
วังสาคิดอย่างซื่อๆ ในความจริงแล้วเธอกับวรพลไม่ได้รู้จักกัน
นานเท่าไหร่นัก จะเข้าไปอยู่ในหัวใจของเขาได้อย่างไรกัน? แล้ว
ทำไมถึงยอมแต่งงานกันด้วยล่ะ? “พลคะ… เบาๆ หน่อยสิคะ… ฉันเจ็บ..” โดนคนกดหลังเอาไว้ ก็เจ็บเจียนตายแล้ว วัดสาอดไม่ได้ที่ไม่ปริปากพูดออกมา
น้ำเสียงที่อ่อนโยนนี้ราวกับว่าไปกระตุ้นอารมณ์ของอีกฝ่าย มากขึ้นไปอีก ทำให้ไฟในตัวของธัชชัยพุ่งขึ้นมาโดยฉับพลัน ลม หายใจก็เริ่มแรงขึ้น ลิ้นของเขาก็เริ่มเลียไปที่แผ่นหลังของวันสา
ร่างกายของวังสาเริ่มสั่นไปทั้งตัว ความรู้สึกที่อื่นๆ เหนียว อย่างนี้ มันทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ เธอไม่เคยคิดว่าเธอจะมี ความสัมพันธ์แบบนี้กับวรพล อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในสภาพแบบนี้ รู้ ว่าถ้าร่างกายของวรพลดีขึ้นเมื่อไหร่ เธอก็รู้ว่าตัวเองไม่สามารถ ที่จะต่อต้านความต้องการของร่างกายสามีได้
แต่ว่าการจะเปลี่ยนสภาพจากเด็กผู้หญิงไปเป็นหญิงสาวมัน เป็นช่วงเวลาที่สำคัญมาก สัญลักษณ์ความบริสุทิสุทธิ์เยื่อ พรหมจารีของร่างกายมันเป็นของที่ล้ำค่าอย่างยิ่ง วัจสายังไม่ได้ เตรียมใจที่จะมอบมันให้กับเขาเลย
“ไม่ รอให้เธอได้ชิมกับรสชาติของชีวิตอีกหน่อยก็แล้วกัน…” ธัชชัยพูดขึ้นพร้อมกับจูบรอยแผลเป็นบนแผ่นหลังของวังสาเบาๆ “ตรงนี้ใช่ไหม? ที่โดนลวก… มันช่างทำให้ฉันเจ็บปวดใจยิ่ง นัก…”
เสียงของธัชชัยมีความไม่ชัดเจนเล็กน้อย ถึงแม้จะแหบแห้งแต่ กลับสะเทือนจิตใจไม่น้อย
วัจสาดวงตาแดงรื้น เธอคิดไม่ถึงเลยว่าจะได้รับความอับอาย ขายหน้าอย่างนี้ จะนับว่าอะไรได้? รู้ว่าผู้ชายคนนี้พูดดีๆ เพ ราะๆ ด้วยถึงจะยอมทำ เธอจึงลองพูดเสียงอ่อนโยนว่า “พลคะ ฉัน….คุณให้เวลาฉันอีกหน่อยได้ไหมคะ? ฉันกลัวนิดหน่อย…
“พูดกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกฉันว่าสามี ถ้าอย่างนั้นก็หุบปากไป ซะ” เหมือนกับโดนลงโทษก็ไม่ปาน ทันใดนั้นปากธัชชัยก็กัด เข้าไปที่หัวไหล่อันอวบอิ่มของวัดสาทันที
วัจสายังไม่ได้ระวังตัว ก็เผลอร้องเสียงแหลมออกมา แต่ว่าเธอ ก็รีบปิดปากของเธอทันที จิตใจของผู้ชายคนนี้โรคจิตเกินไปแล้ว เธอไม่สามารถเป็นวัตถุทางเพศของเขาได้อีกต่อไปแล้ว
เขาเหมือนกำลังปล่อยเปลวไฟไปที่แผ่นหลังของเธอทีละเล็กที ละน้อย ราวกับไฟไหม้ทุ่ม วัดสารู้สึกอับอายขายหน้าและโกรธ มาก ร่างกายของเธอร้อนผะผ่าวขึ้นมาเพราะความอับอายนั้น…
เพียงแปบเดียวก็มีกระแสความร้อนระลอกหนึ่งที่คุ้นเคยไหล ทะลักออกมาจากร่างกาย ท้องน้อยก็เริ่มปวดขึ้น เป็นสาวเต็มวัย มาหลายปี วจสาย่อมรู้ดีว่านี่เป็นอาการของ “ประจําเดือน มา แล้ว เธอเฝ้ารอ “ประจำเดือน” ในที่สุดก็มาแล้ว
มันไม่มารถมาให้ถูกรอบเดือนได้ สาเหตุอาจจะเป็นเพราะว่า เธอเครียดมากเกินไป ดังนั้นมันจึงมาก่อนล่วงหน้า แต่ไหนแต่ไร มาเธอไม่เคยปรารถนาอยากจะเป็นประจำเดือน เพราะการเป็นประจำเดือนมันทำให้เธอทรมานจนแทบขาดใจ
“สา… สามี สิ่งนั้นของฉันมาแล้ว…วังสาพยายามกดข่ม อารมณ์ดีใจตื่นเต้นนี้เอาไว้แล้วพูดกับวรพล
ใบหน้าของธัชชัยก็พลันเปลี่ยนเป็นเข้มขึ้น เข้มกว่าความมืด ในยามกลางคืนนี้เสียอีก ทำไมถึงมาได้จังหวะพอดิบพอดีอะไร ขนาดนี้? ชัดเจนเลยว่าผู้หญิงคนนี้กำลังจะหลบเลี่ยงหน้าที่ของ ภรรยาจึงพูดโกหกออกมา
เขาพูดเสียงเข้มๆ ว่า “จริงเหรอ? มันจะบังเอิญไปหน่อยหรือ เปล่า?”
“จริงสิ… ฉันไม่ได้โกหกคุณซะหน่อย…ประจำเดือนมา จริงๆ…” ใบหน้าของวันสาร้อนผะผ่านขึ้นมาทันที ในใจก็คิดว่า เพียงแค่แปบเดียวก็หลุดพูดคำนี้ออกไปได้นิ้วมือของเธอกลัวจน เหงื่อไหลพรากออกมาแล้ว ผู้ชายคนนี้คงไม่อยากจะทำต่อแล้ว สินะ?
ร่างกายของธัชชัยบวมเป่งจนแทบอยากจะระเบิดออกมา ตอน นี้ผู้หญิงคนนี้กำลังพูดโกหกอยู่ มันช่างน่าบีบคอให้ตายจริงๆ แต่คิดไม่ถึงว่าพอยื่นมือเข้าไปจับตรงนั้นแล้ว… จะจับถึงบาง อย่างที่ดูเหมือนเลือดที่เหนียวข้นมาก…
ร่ายกายของธัชชัยก็พลันสั่นขึ้นมาชั่วขณะ ค่อยๆ หลับตาลง ช้าๆ กดข่มความโกรธของตนลงไป ในที่สุดก็ลงจากหลังของวัน สา เขามันบ้าไปแล้วยังอยากจะลงมือกับผู้หญิงที่เป็นประจำ เดือนได้
พอเขาออกไปจากห้องหอได้ไม่นาน แสงสว่างก็กลับคืนมา โคมไฟทุกทิศทุกทุกทางก็เริ่มสว่างขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
วัดสานอนเอนกายอยู่บนเตียงนอน ยังรู้สึกอกสั่นขวัญหายไม่ หยุด
ทําไมกริยาท่าทางของวรพลถึงได้ดูมีพลังและรวดเร็วรุนแรง ได้ขนาดนี้ ไม่ใช่ว่ายังต้องอาศัยเครื่องช่วยหายใจอยู่เหรอ? วัน นี้ไม่เห็นไฟลวกท่อนล่างของเขา และไม่มีอาการป่วยเลย อีก อย่างกำลังของวรพลเมื่อครู่นี้ คืนนี้เธอก็ควรจะดวงถึงฆาตแล้ว…
อีกอย่างคำพูดและการกระทำของวรพลในคืนนี้ก็ช่างเหมือน กับธัชชัยมาก คิดถึงธัชชัย สมองของวัดสาก็เริ่มเชื่องช้าลง เหมือนกับมีอะไรบางอย่างปรากฏขึ้นมาแวบหนึ่งในหัวของเธอ พริบตาเดียวก็หายไป
ท้องน้อยของเธอก็พลันปวดขึ้นมาอย่างรุนแรง เธอมองดู แผนที่เลือดข้างล่างของร่างกายตัวเอง… และก็ไม่พูดอะไรออก มาอีก พอสติกลับคืนมาได้แล้ว ก็หาผ้าอนามัยทุกหนทุกแห่ง… แต่เจอแค่ผ้าอนามัยบางๆ เท่านั้น ไม่รู้ว่าจะลองรับได้นานแค่ ไหน….
เธอไม่คิดว่าเลือดจะไหลเป็นน้ำขนาดนี้ ตอนนี้จะต้อง ปรนนิบัติท่าน ประจำเดือน” ท่านนี้ให้ดีก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน ทุกครั้งที่มาก็ทำให้ปวดแทบตาย
ตระกูลศรีทองมีผู้หญิงคนเดียว อีกอย่างผู้หญิงคนนี้ก็อายุห้า สิบกว่าปีแล้ว วันสาทำได้เพียงกอดความหวังเล็กน้อยไปหาป้าอ้อย ค่อยๆ เดินลงจากตึกไป ความเจ็บปวดภายในท้องน้อย เกือบทําให้เธอยืนไม่ไหวแล้ว
ในที่สุดก็มาถึงห้องป้าอ้อยสักที เคาะประตูอย่างหมดแรงแล้ว พูดว่า “ป้าอ้อยนอนหรือยังคะ?” ไม่มีเสียงตอบรับกลับมา ป้าอ้อยอาจจะกำลังยุ่งอยู่ในครัว
เธอลากเท้าของเธอเดินไป เดินไปถึงห้องครัว ในที่สุดก็เจอป้า
อ้อยอยู่ในนั้น
“ป้าอ้อย ป้า….” วจสากำลังจะอ้าปากถาม สายตาก็พลันเหลือ ไปเห็นผู้ชายคนนั้นกำลังนั่งกินสปาเก็ตตี้อยู่บนโต๊ะอาหาร
สีหน้าของวันสาก็พลันเป็นไม่ดีขึ้นมา
ป้าอ้อยเห็นว่าเธอไม่ค่อยชอบใจ และเห็นเธอกุมท้องเอาไว้ จึง รีบถามไปว่า “ คุณผู้หญิง ท่านเป็นอะไรไปคะ?”
วังสามองธัชชัยแวบเดียวก็พบว่าดวงตาของเขามีความเย็น ชาบางๆ เหมือนกับว่าโมโหมาอย่างไรอย่างนั้น เธอตะลึงอึ้งไป นิดหน่อย เธอเองก็ไม่ได้ทำอะไรให้เขาไม่พอใจ…ไม่อยากสนใจ เขาแล้ว
ตรงเข้าไปหาป้าอ้อยพร้อมพูดเสียงเบาๆ ว่า “ป้าอ้อย ประจำ เดือนฉันมา แต่ว่าฉันไม่มีสิ่งนั้น… ป้าพอจะมีไหม?”
ป้าอ้อยก็พลันตกใจขึ้นมาทันที มิน่าล่ะท่าทางของคุณชายรอง เดินลงมาจากตึกมาเปิดไฟเหมือนอยากจะกินคนเข้าไป ที่แท้ก็ เป็นเพราะว่าคุณผู้หญิงประจำเดือนมานี่เอง เรื่องของคนสองคนก็ไม่สําเร็จอีกแล้ว พูดได้แค่ว่ามีวาสนาไม่พอ เธอก็ทอดถอน หายใจออกมาเบาๆ
วังสามองป้าอ้อยด้วยท่าทางสงสัย หากไม่มีสิ่งนั้นก็ไม่เห็น ต้องถอนหายใจเลย… ป้าอ้อยคนนี้ชอบโทษตัวเองง่ายๆ ไม่มี ใช่ไหม?” เธอถามขึ้นอีกรอบ
ป้าอ้อยเพิ่งจะรู้สึกว่าตนเองกำลังเผยอารมณ์ที่ผิดปกติออกไป จึงรีบเก็บอารมณ์แล้วพูดว่า “คุณผู้หญิง ฉันไม่ใช้สิ่งนั้นนานมาก แล้ว… ถ้าอย่างนั้น ให้ฉันออกไปซื้อให้คุณดีไหม ร้านสะดวกซื้อ อยู่ข้างนอกนี้เอง” ป้าอ้อยพูดเสร็จก็ตระเตรียมจะออกไปข้าง นอก
แต่ว่าคิดไม่ถึงว่า พอเปิดประตูออกไปก็เห็นว่าข้างนอกฝน ตกหนัก ฟ้าแลบแปลบปลาบ อากาศแบบนี้คิดจะออกจากบ้าน คงเป็นเรื่องยากแล้ว
“ป้าอ้อย ให้ฉันไปเองเถอะ” วัดสาทนดูป้าอ้อยที่อายุก็มาก แล้วออกไปตากฝนเพื่อเธอไม่ได้ แต่ว่าป้าอ้อยจะยอมให้วัดสาออกไปเองได้ยังไงล่ะ?
“ไม่ได้ คุณเป็นประจำเดือนอยู่ ” เดิมทีก็ถูกความเย็นไม่ได้อยู่ แล้ว แล้วตอนนี้อากาศก็ดันเป็นแบบนี้อีกจะออกไปได้อย่างไร? อีกอย่างสีหน้าของคุณก็ดูแย่ขนาดนี้ รีบกลับไปนอนพักเถอะค่ะ” ป้าอ้อยมองดูหน้าซีดขาวของวันสาก็พลันรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ