วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง

ตอนที่ 21 เหลือชีวิตไม่เกิน3เดือน



ตอนที่ 21 เหลือชีวิตไม่เกิน3เดือน

“จริงสิ วิจสา เธอคบกับธัชชัยมาช่วงหนึ่ง น่าจะรู้เขาชอบผู้หญิง แบบไหน ป้าว่าเขาต้องชอบผู้หญิงที่นิสัยอ่อนโยนอย่างภาวินี หรือไม่ก็ชอบผู้หญิงเซ็กซี่? ” วัดสาตอบกลับ

“แต่หนูว่าธัชชัยน่าจะชอบผู้หญิงอย่างภาวินี

วังสาถอนหายใจยาวๆ ทำไมต้องเจอปัญหานี้อีก เธอเพียงแค่ รู้จักธัชชัยแค่ไม่กี่วันเอง จะไปรู้เหรอว่าเขาชอบผู้หญิงแบบไหน ผู้ หญิงในตระกูลเดิมขุนทดเป็นแบบนี้กันหมด

“ป้าวราลีค่ะ หนูยังไม่เคยคุยเรื่องนี้กับธัชชัยเลย และหนูก็ไม่ เคยเห็นธัชชัยมีผู้หญิงที่ชอบ เพราะฉะนั้นบอกไม่ได้ว่าเขาชอบผู้ หญิงแบบไหนค่ะ”

ป้าวราลีไม่พอใจกับคำตอบนี้มาก แล้วถามต่อ “ปกติเขาชอบ ทานอะไร พวกเธอกินข้าวด้วยกัน ควรจะรู้ว่าเขาชอบทาน อะไร? ”

วังสาถูกพวกเขาถามจนกลัว โชคดีที่วันนั้นไปถามป้าอ้อย ไม่ งั้นไม่รู้จะแก้ปัญหาในสถานการณ์นี้ยังไง

“ธัชชัยเหมือนจะชอบทานสปาเกตตี้ ผลไม้ ทำอาหารพวกนี้ น่าจะเข้ากับรสชาติของเขา”

“รอป้าจดแปปหนึ่ง” ป้าวราลีเริ่มเอากระดาษและปากกาที่ ด้านข้างมาจด ดูก็รู้ว่าเตรียมมาก่อน วัดสามองหน้าต่างข้างนอกตอนนี้ในใจเธอเพียงคิดแค่อยากจะกลับบ้าน

แล้วมองไปทางหน้าที่ค่อยๆแกลง ถึงเธอจะไม่ชอบคนใน กระกูลเดิมขุนทด แต่จําเป็นต้องพูด สามสาวของกระกูลเดิมซุน ทดมีแม่อย่างนี้ช่างเป็นเรื่องที่มีความสุขมากๆ หรือจะพูดว่า ลูก ของแม่ทุกคนมีความสุขกันแบบนี้เหรอ?

วัจสาไม่รู้ว่าพ่อแม่ของตัวเองอยู่ที่ไหน ไม่รู้ว่ามีชีวิตอยู่หรือว่า หายตัวไป

ในช่วงเวลาเดียวกันที่ห้องออฟฟิตด่านฟ้าบนตึกแห่งหนึ่ง

ผู้ชายที่สูงสง่ายืนอยู่ข้างหน้าหน้าต่างบานใหญ่ มองวิวข้าง ล่าง สีหน้าที่มืดครึ้มปรากฏบนหน้าที่หล่อเหลา ราวกับว่าแสง อาทิตย์นอกหน้าต่างถูกเขาสะท้อนจนหายไป

“ภาคิน ทําไมอาการป่วยของพี่ผมถึงได้แย่ขนาดนี้ จำเป็นต้อง ถึงขั้นพึ่งพาเครื่องช่วยหายใจ? ทำไมไม่รีบบอกผม ถ้าเกิด อะไรขึ้นมา ฉันจะฆ่านายตายทันที! ” สีหน้าของธัชชัยตอนนี้ เต็มไปด้วยความโกรธ เมื่อเขาคิดถึงหน้าของวรพล เขาจะรู้สึก หายใจไม่ออก

คุณหมอภาคินรู้นิสัยของธัชชัยดี แต่…….เขาก็ทำอะไรไม่ได้

“วรพลกลัวนายจะเป็นห่วง เลยไม่ให้พี่บอกนาย เขามาถึงขั้น ตอนนี้ พี่ก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว อีกอย่างคนที่ไม่อยากมีชีวิตอยู่อีก ต่อไป แม้แต่เทพเจ้าก็ช่วยไม่ได้ “คุณหมอภาคินถอนหายใจว่า

“ทำไมพี่ผมไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป? ฝีมือการรักษาของพี่มีปัญหาใช่ไหมถึงได้หาข้ออ้าง? ! “เสียงของธัชชัยเย็น เหยือกราวกับปีศาจในนรก

“หลังจากกนิษฐาตายไป วรพลก็เริ่มฟุบลง พี่รักษาเขาทีไรเขา ไม่ให้ความร่วมมือเลย นายก็รู้ดีว่านิสัยเขาเป็นแบบนี้ ถ้าเขายัง ไม่ให้ความร่วมมือ ยาที่รักษาได้ก็เปล่าประโยค เพราะฉะนั้นจึง ทําได้แค่การรักษาแบบอนุรักษ์นิยม

“ในสายตาของพี่ ผมสู้กับผู้หญิงคนหนึ่งไม่ได้เหรอ? ทำไม อยากตายเพื่อผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ไม่สามารถมีชีวิตเพื่อผม? ” สีหน้าธัชชัยเกิดความเศร้าสลดในชั่วพริบตาเดียว แม้ว่าน้ำเสียง ยังคงรุนแรง

คุณหมอภาคินสายศีรษะ “ไม่เหมือนกัน นายคงยังไม่เคยรัก คนใครอย่างลึกซึ้งมาก่อน เพื่อเธอสามารถทอดทิ้งทุกสิ่งทุก อย่าง รวมถึงชีวิต เมื่อเธอจากไปก็รู้สึกเหมือนว่าเอาทุกสิ่งทุก อย่างของเราไปจนหมด ราวกับว่าใช้ชีวิตอยู่แบบร่างกายไรจิต วิญญาณ”

ในใจของธัชชัยจู่ ๆ ก็เกิดความโกรธและความหวาดกลัวที่ไม่ ควรจะมีออกมา ถ้าพี่ไปโดยสภาพนี้ งั้นความคาดหวังที่เขารอ คอยมานานเพื่ออะไร? เตรียมไปเพื่ออะไร? ทำไมไม่มีความ คาดหวังแม้แต่นิด

ดวงตาของเขาสงบลง น้ำเสียงเย็นเหยือกว่า “อธิบายสภาพ ร่างกาย ผมอย่างละเอียด ถ้าผมพบว่ายังมีการปกปิดอยู่แม้แต่ ครั้งหนึ่ง ผมไม่สนใจว่าพี่เป็นเพื่อนของพี่ผมหรือไม่ พี่ต้องตาย! ”

“ธัชชัย ช่วงก่อนนายได้ให้วรพลไปรักษาและทำการปลูก ผิวหนังที่อเมริกา แต่สภาพร่างกายของเขาตอนนี้ กลัวว่าไปต่าง ประเทศก็ยังเป็นปัญหา ถ้าปล่อยไปแบบนี้ ไม่เกิน3เดือน วรพล อาจจะ……”คุณหมอภาคนหันหน้าไปอย่างไม่อยากจะพูดอีกต่อ ไป

“พี่เป็นเพื่อนของเขา ทำไมไม่โน้มน้าวใจเขา” ธัชชัยตะคอก พูดแล้วทำข้าวของที่วางอยู่บนโต๊ะตกหล่นหมด

“นายก็รู้นิสัยของวรพล นายคิดว่าเขาจะฟังพี่พูดไหม สิ่งที่ ทำได้อยู่ตอนนี้ก็คือพยายามรักษาเขา สิ่งที่เขาวางใจไม่ได้ที่สุด ก็คือนายกับคุณวจสา เพียงพวกนายดีกัน เขาอาจจะฟังและมีเป้า หมายที่จะมีชีวิตอยู่”

ธัชชัยอ่อนตัวอยู่บนโซฟา จับผมด้วยความเจ็บปวดทรมาน

พวกเขาตอนนี้นึกไม่ได้ว่า ภัยพิบัติกำลังจะเกิดขึ้นในตระกูล

ศรีทอง

หลังจากวันสากลับมาจากตระกูลเดิมขุนทด ก็ถึงเวลาเตรียม อาหารมื้อเย็น

เธอเข้าห้องครัวพร้อมกับป้าอ้อย ดูอาหารสมุนไพรที่วรพล ทานอยู่ประจำทำยังไง เธออยากจะทำให้เขาสักครั้งเหมือนกัน

ป้าอ้อยเหมือนจะลืมของไว้ข้าวนอก เลยเดินออกไปเอา

วัจสาอยู่ที่ห้องครัวเฝ้าดูไฟ เพื่อไม่ให้มันเผาไหม้ ไม่งั้นวรพลคงหิวข้าว

ทันใดนั้นมีเสียงดังมาจากประตู วัดสารีบปิดเตาแล้วออกไป

ประตูก็เปิดกว้างขึ้น พวกคนที่ไม่รู้จักกลุ่มหนึ่งปรากฏขึ้นมา หน้าตาต่างดูแล้วโหดเหี้ยม คนนำเป็นชายวัยกลางคน ตัวผอม สายตาโหดเหี้ยมอำมหิต วังสารมองดูก็รู้เลยว่าไม่ใช่คนดี

ข้างเขามีคนที่สวมใส่เสื้อกาวน์สองคนตามมา ไม่รู้ว่าเป็น แพทย์หรือหมอนิติเวช กลุ่มคนพวกนี้มีอยู่ประมาณสิบกว่าคน มี ไม่กี่คนถืออาวุธไว้บนมือ

“พวกนายเป็นใคร นี่เป็นการบุกรุกบ้าน! ถ้าไม่ออกไปฉัน จะแจ้งตำรวจ! ” ในใจวังสาถึงจะรู้สึกหวาดกลัว แต่ก็ยัง สามารถควบคุมตัวเองให้ใจเย็นได้ ธัชชัยไม่อยู่ คนพวกนี้ดู เหมือนมาหาเรื่อง ท่าทางต้องหาวิธีแจ้งธัชชัยโดยด่วน

มือของเธอแอบไปคว้ามือถือที่ข้างหลังเธอ แล้วโทรออกเบอร์ โทรหนึ่ง โชคดีที่เมื่อวันก่อนธัชชัยบังคับเธอบันทึกเบอร์โทรของ เขาไว้

มนายมองผู้หญิงที่เงียบสวยคนนี้ด้วยสายตาที่เย็นชา คิดว่า เป็นแม่บ้านที่ตระกูลเดิมขุนทดจ้างมา?

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ สายหัวไป! ”

วันนี้มนายพาหมอนิติเวชตรวจสภาพร่างกายของวรพล ที่จริง วรพลใกล้จะตายแล้ว แค่พิสูจน์ว่าเขาไม่สามารถสืบทอดบริษัทบีเค-เทโรได้ หมายความว่ามรดกจะตกไปอยู่ในมือของเขา “พวกคุณเป็นใคร?

ตอนที่ธัชชัยรับสายโทรศัพท์ของวังสา ไม่อยากจะเชื่อเลย คิด ว่าผู้หญิงคนนี้จะเล่นไม้ไหนกับเขาอีก แต่เสียงในโทรศัพท์ตอนนี้ ไม่เหมือนจะเป็นเรื่องแกล้ง

“ฉันเป็นภรรยาของวรพล ถ้าพวกคุณจะมาหาเขา เชิญกลับไป ร่างกายสามีฉันไม่ค่อยสบาย ไม่สามารถที่จะพบใครได้! ” วัน สาพูดด้วยน้ำเสียงดุแรง ในใจคิด ไม่รู้ธัชชัยได้รับโทรศัพท์ ยัง

ที่จริง ธัชชัยขึ้นลิฟต์ลงไปเมื่อตอนที่ได้ยินชื่อของวรพล กลัว ว่าลุงของเขาจะมาหาเรื่องอีก แต่ครั้งนี้อย่างกับว่าจะต้อง สําเร็จ!

“ฉันเกือบลืมไป หลานชายฉันเหมือนประกาศหาคู่มาช่วงหนึ่ง ทั้งที่ใกล้จะตายแล้ว ยังมีโอกาสลิ้มรสชาติภรรยา? หรือว่า อยากจะให้เด็กคนไหนก็ไม่รู้มาสืบทอดบริษัทบีเค-เทโร ”

ผู้หญิงที่พูดงุ่มง่ามและโหดเหี้ยมคือภรรยาของลุงมนาย ผลิตา

ลุงมนายรู้สึกว่าแค่ผู้หญิงคนเดียวไม่จำเป็นต้องกลัว อยาก เดินผ่านเธอโดยตรง “ผริตา ไม่ต้องพูดอะไรกับนางมาก ทำเรื่อง สำคัญรีบขึ้นชั้นบนก่อน

คุณภูษิตและป้าอ้อยออกมากันหมดตอนที่ได้ยินเสียงดัง เมื่อ เจอมนายุที่ห้องรับแขกแล้วรีบวิ่งลงบันไดดักอยู่ตรงนั้น
“มนาย ตระกูลศรีทองไม่ต้อนรับคุณ รบกวนเอาคนของคุณ ออกไปจากที่นี่! ” คุณภูษิตรู้ว่าเขามาสืบถามอาการของวรพล อีกแล้ว แต่ครั้งนี้เหมือนจะใช้กำลังบังคับ

คุณภูษิตพูดกับป้าอ้อยที่อยู่ใกล้โทรศัพท์ที่สุดว่า “ป้าอ้อยรีบ โทรหาคุณธัชชัยด่วน! ” มีแค่ธัชชัยเท่านั้นที่จะสู้กับมนายได้

ป้าอ้อยตอบแล้ว วิ่งไปทิศทางโทรศัพท์ทันที

มนายสบสายตาแล้ว ให้บอดี้การ์ดตรงข้างหนึ่งคนไปดักป้า อ้อย

“อีแก่ อย่าพึ่งรีบ ฉันเพียงแค่พาหมอนิติเวชมาดูหลานชายฉัน ว่ายังสามารถรับหน้าที่ตำแหน่งประธานกรรมการของบริ ษัท เค-เทโรไหม! ”

“มนาย คุณหวังให้หลานของคุณเกิดเรื่องเหรอ? วรพลเป็น หลานแท้ๆของคุณ คุณยังมีมโนธรรมบ้างไหม? ! ” คุณภูษิต

พูดด้วยเสียงดุและโกรธเคืองกับคำพูดของเขา

จากนั้นไปเอาไม้ตีกอล์ฟที่วางด้านข้าง โชคดีที่ธัชชัยติดนิสัย เอาไม้ตีกอล์ฟวางไว้ด้านข้างบันได “พวกนายอยากจะผ่านไปก็ ต้องข้ามศพฉันไปก่อน! ”

“อีแก่ ยังจะปากดี”มนายให้คนพบป้าอ้อยกลับมา “ฉันจะดูคน แก่อย่างพวกเธอจะขวางพวกฉันได้ยังไง

เขาคิดว่าตัวเองจับตัวป้าอ้อยได้ พวกเขาก็จะไม่สามารถแจ้ง ธัชชัยได้
ในเวลานั้น จสาถือมีดที่เอามาจากห้องครัววิ่งออกมา แล้ว ก ตัวตรงหน้าคุณภูษิต “ใครจะเข้ามาถามมืดในมือฉันก่อน! ”

คุณภูษิตมองภาพด้านหลังที่ตัวเล็กบอบบางของวังสา ขอบตา จู่ๆก็ชื่นขึ้น คุณวจสาช่างเป็นคนดีคนหนึ่ง เขาไม่เคยคิดจะให้เธอ เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย แต่ตอนนี้เธอถือมีดทำท่าที่จะสู้สุดชีวิต ทำให้เขารู้สึกว่าโชคดีมากที่ธัชชัยเอาเธอมาเป็นภรรยา

ทางป้าอ้อยฉวยโอกาสตอนที่พวกมนายตกตะลึงนั้น รีบวิ่งไป หาคุณภูษิตทันที “ขอโทษค่ะ ที่ไม่สามารถโทรออกได้ ตอนนี้แย่ แล้วสิ”

สายตาที่เต็มไปด้วยความเย็นเยือกของวังสา จับตามองมนา ยุ แล้วพูดเสียงเบาว่า “ไม่ต้องกังวนค่ะ เมื่อกี้หนูโทรเรียกธัชชัย แล้วค่ะ เขาน่าจะรีบมาอยู่ พวกเราแค่ถ่วงเวลาถึงเขามาก็พอค่ะ”

เมื่อได้ยินคำปลอบของเธอ ใจของคุณภูษิตและป้าอ้อยก็เริ่ม

สงบลง

“จับตัวพวกเขา! “มนายพูด พวกกล้ามชายที่ถืออาวุธ แต่ก็ ยังหวาดกลัวมีดที่ วังสาถืออยู่ ต้องรู้ว่าคนที่ไม่สนอะไรเมื่อบ้าขึ้น มา ก็ยังมีแรงมหาศาลอยู่

“พวกนายจะนิ่งอึ้งอะไร? ! ใครจับพวกเขาได้ ฉันให้เงินคน

นั้นสิบเท่า!

ตอนที่ธัชชัยกลับมาถึงตระกูลศรีทอง พบว่าบอดี้การ์ดที่เฝ้า นอกคฤหาสน์ทั้งหมดหมดสติอยู่กับพื้น เขาจอดรถแล้ววิ่งไปห้องโถงใหญ่ทันที
ตอนนี้พวกวจสากับพวกมนายได้ต่อสู้จนถึงประตูห้องรักษา ของวรพล วจสาโบกมีดที่ถือไว้บนมืออย่างไม่หยุด นี่เป็นครั้ง แรกที่เธอได้ต่อสู้กัน เพื่อที่ปกป้องประตูข้างหลังบานนี้ เ จําเป็นต้องสู้สุดชีวิต! เธอ

สมัยหนุ่มคุณภูษิตเคยเรียนวิธีการต่อสู้ ถึงแก่แต่ไม่แพ้วัยรุ่น ฝีมือการต่อสู้ตอนนี้ก็ยังยอดเยี่ยมกว่าเดิม แต่ตอนนี้มีป้าอ้อย ต้องดูแล เขาเลยรู้สึกกินแรง

แล้วจำเป็นต้องแยกสมาธิไปดูทางวัลสา คุณวจสาก็ห้ามเป็น อะไรขึ้นมา ถึงเขาสู้ถึงชีวิตก็ห้ามให้พวกเขาเกิดอะไรเด็ดขาด!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ