ตอนที่ 8 เค้กรอยยิ้ม
วังสาท่าเหมือนเมื่อก่อน เล่นที่สถานสงเคราะกับเด็กๆถึงตอน เย็น แล้วก็เรียกคนขับรถส่งกลับไปที่วงศ์ตระกูลศรีทอง
พ่อบ้านภูษิตรู้ว่าเธอจะกลับมาตอนไหน เลยรออยู่ที่หน้าประตู แต่เช้า วรพลกลัวว่าเธออยู่วงศ์ตระกูลเดิมขุนทดจะได้รับอะไรที่ ไม่เป็นธรรมและจะไม่ดีใจ เลยให้พ่อบ้านภูษิตไปรับเธอ
คิดไม่ถึงว่าจสาจะกลับมาอย่างดีอกดีใจและสบาย
ตอนเช้าเห็นหน้าของคุณหญิงตระกูลเดิมขุนทด เขาก็อยากพา คุณผู้หญิงกลับมาแล้ว
“คุณผู้หญิงกลับมาแล้วหรอค่ะ กับข้าวเตรียมพร้อมแล้วค่ะ เชิญไปรับประทานได้เลยครับ” วัจสาตกตะลึงที่พ่อบ้านภูษิตรอ เธออยู่ที่หน้าประตู แต่ใจของเธอก็รู้สึกอบอุ่น ไม่น่าเชื่อว่าจะมี คนเป็นห่วงเธอได้รับอะไรที่ไม่เป็นธรรม
หน้าที่สวยงามของวัสสากระจายไปด้วยรอยยิ้ม ต่อไปเธอจะ ใช้ชีวิตอย่างดีๆ อย่างนี้ถึงจะคุ้นค่ากับผู้คนที่เป็นห่วงเธอ
” ได้ พวกเราเข้าไปกันเถอะ
ตอนกินข้าวเย็น วังสาดีใจที่ผู้ชายที่หยิ่งและอวดดีนั่นไม่อยู่ เธอกินข้าวคนเดียวเบิกบานใจมาก ที่จริงกินเสร็จก็อยากขึ้นไปดู วรพลอยู่ แต่ว่าพ่อบ้านภูษิตบอกว่าวรพลกำลังทำ กายภาพบำบัด ต้องรอหนึ่งชั่วโมงถึงจะออกมา
วัจสาคิดแล้วรู้สึกว่าอย่างนี้มันลำบากมาก ข้าวก็ไม่ได้กินยัง ต้องรักษา
เธอก็เคยถามพ่อบ้านภูษิตเหมือนกันว่าทำไมมีโรงพยาบาลที่ ดีๆไม่ใช้ กลับมารักษาตัวที่บ้าน อีกอย่างถาวรพลได้รับษาตัว ดีๆ ก็จะได้ไม่ทรมาน
พ่อบ้านภูษิตกระชุ่มกระบ่าม บอกแค่ว่าหมอภาคนมีฝีมือ รักษาโรคได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ว่าวจสารู้สึกว่ายังมีอะไรอยู่ เลย ไปถามป้าอ้อย
ถ้าเทียบกับผู้ชายที่ปิดปากเงียบ ผู้หญิงจะพูดออกมาได้ง่าย กว่า
ป้าอ้อยได้ยินว่าเป็นเรื่องนี้ ก็เริ่มถอนหายใจ ท่านชายใหญ่ก็ เคยมีแฟนคนหนึ่งที่รักกันมาก คุณกนิษฐาเป็นคนดีมาก แต่ว่า สวรรค์มันแกล้ง หญิงงามคนนี้ชะตาไม่ดี อุบัติเหตุครั้งนั้นก็พา คุณกนิษฐาไปด้วย ขณะนั้นท่านชายใหญ่ก็ไม่มีใจที่จะอยู่ต่อ ยิ่ง ไม่ต้องบอกว่าจะร่วมมือในการรักษา ถ้าไม่ใช่รองท่านชายยืน หยัดที่จะช่วยชีวิตของท่านชายใหญ่ ไม่งั้นก็คง……..
“ป้าอ้อยพูดถึงตรงนี้ ก็เช็คแล้วเช็คน้ำตา “สวรรค์ทำไมถึงไม่ ดีต่อคนทำความดี ท่านชายใหญ่ รองท่านชาย และคุณกนิษฐา เป็นคนดีกันทั้งนั้น”
วัจสาตกตะลึง และเสียใจเล็กน้อยยิ่งไปนั้นก็ผิดหวังมาก
วรพลมีคนที่รักแล้ว พวกเขายังดีกันขนาดนั้น ดูเหมือนว่า แต่งงานกับตัวเองน่าจะเป็นเพราะแค่ของตกแต่งอย่างหนึ่ง วัดสา
เธอยิ้มอย่างตาหยีแล้วมองลงไปที่เค้ก ก็เหลือแต่มะม่วงที่อย่า ไม่ได้ใส่ลงไป ถ้าวรพรเห็นคงดีใจมาก
ใส่มะม่วงชิ้นสุดท้ายเสร็จ เค้กผลไม้ก็เสร็จสิ้นแล้ว หน้าที่เหลือ งอร่า ยิ้มอย่างปากกว้างๆ ตาก็ยิ้มหยีๆ นี้คือใบหน้าที่น่ารักมาก ให้ผู้อื่นดูแล้วก็อารมณ์ดีไปด้วย และอย่างกินขึ้นมา ตอนวัสสา เตรียมตัวจะเอาเค้กออกไป บังเอิญเจอธัชชัย เหมือนว่าเขาเพิ่ง จะเลิกงาน ทำงานมาอย่างเหน็ดเหนื่อย แต่ว่าโฉมหน้าที่หล่อ เหลาอย่างเหมือนเดิม ท่าทีก็ยังสูงตรง บุคลิกยังเด่น ถ้าไม่เปิด ปากพูด น่าจะทำให้ผู้หญิงทั้งหลายหลงรักกันทั้งนั้น
วัจสานึกถึงภาวินีอยากถูกหลงจนสมองสับสน ถ้าให้พวกเขา เจอหน้ากันจริงๆ ธัชชัยก็น่าจะทำหน้าน้ำแข็งเย็นอีก
แววตาที่เสมือนดวงดาวที่สวยงามค่อยๆมองไปที่วังสา เห็น
ในมือของเธอถือเค้กไว้ เลยยิ้มอย่างเสน่ห์ชั่วร้าย แต่คำพูดที่พูด
ทําให้เกลียดอย่างอยากกัดเขามาก
ทำไม ? เค้กที่ขี้เหร่อย่างนี้อยากให้ฉันชอบหรอ?
วัจสาถูกน้ำเสียงของเธอโกรธจนจองตาโต ผู้ชายคนนี้ เป็นไร? ทำไมในโลกนี้มีคนหน้าด้านได้ขนาดนี้
“วัจสาโมโหกลับยิ้ม “น้อง คราวที่แล้วไม่ได้ไปดูหูเหรอ? ตอน นี้ทำไมถึงหูฝาด”
ที่จริงธัชชัยเตรียมตัวจะยื่นมือไปเอาทีวีสีเขียวในเค้ก ทันใด นั้นถูกเธอบังไว้ แล้วก็อึ้งเลย
สติกลับคืนมา แล้วบิดคิ้ว ” เฮ้ ยัยนั้น เธอหมายความว่าไง
วังสาไม่อยากจะสนใจธัชชัยแล้ว เลยเดินอ้อมเขาไป “ความ หมายตามนั้น เค้กนี้ทำเพื่อพี่ชายเธอ เตรียมให้วรพล”เธอหยุด เดินอยู่สักพัก อีกอย่าง รบกวนเรียกฉันว่าพี่สะใภ้ อย่าให้คนอื่น ตลกว่าวงศ์ตระกูลศรีทองไม่มีมารยา
แล้วก้าวขาเดินไปข้างหน้า มือที่บอบบางของเธอถูกคนจับไว้ ใครบอกเธอว่าพี่ชายฉันชอบกินเค้ก? เธอไม่รู้หรอกว่าปรกติเขา จะกินอาหารเหลว? ธัชชัยได้ยินปากแดงของเธอพูดชื่อของวรพล ได้อย่างน่าฟังมาก แต่เธอส่วนมากจะเรียกทั้งชื่อทั้งนามสกุลของ เขา
วัจสารู้อยู่ แต่เธอแค่อยากให้วรพลเห็นรอยยิ้ม กายภาพบำบัดเสร็จคงเจ็บปวดมาก อยาก ยากให้เขาได้เห็นพลังนี้ เชื่อว่าเขาคงจะเต็มไปด้วยพลัง
เธอรู้วรพลกินอาหารเหลว แค่อยากให้เขาได้เห็นเค้กรอยยิ้ม ที่เธอทำอย่างพิเศษ ไม่แน่อารมณ์อาจดีขึ้นมาก็ได้ ถ้าเธอยังไม่รู้ ความตั้งใจของผู้อื่นก็อย่าเพิ่งพูดอะไรที่ทำร้ายผู้อื่น
ที่จริงวจสาก็รู้อยู่ว่าธัชชัยแค่เป็นห่วงพี่ชายเขาเกิน ไม่อย่าให้ เขาถูกใครทำร้าย แต่ว่าเธอจะทำร้ายเขาได้ยังไง?
ธัชชัยฟังที่เธอพูดแล้วรู้สึกอบอุ่นใจมาก ไม่น่าเชื่อผู้หญิงคนนี้ จะจริงจังต่อพี่ชายเขาขนาดนี้ แต่คำพูดก็ยังเต็มไปด้วยเย่อหยิ่ง “ฉันดูก่อนว่ามีพิษไหม” พูดเสร็จก็ยื่นมือไปหยิบเค้กกีวี ทีวีที่ เปรี้ยวเล็กน้อยคู่กับเนยหวานๆ บอกไม่ถูกว่ามันอร่อยขนาดไหนเมื่อเข้าในปากรู้สึกมีน้ำมีนวลมาก ชัชชัยรู้สึกว่าตกตะลึงมาก
วังสาเห็นเค้กขาดไปชิ้นหนึ่ง ทันใดนั้นก็ถูกคำพูดที่เหยียม หยามของเขากระหืดกระหอบ จองตาของเขาแล้วก็รีบไปที่ห้อง ครัว เต็มทีวีนั้นเข้าไป
ไม่รู้ตอนไหน ตอนหันหลังไป ธัชชัยก็ยืนอยู่ข้างหลังเธอแล้ว
“เธออยากทำอะไรอีก?” วัจสาคิดว่าเขาคงจะพูดอะไรทำร้าย จิตใจ น้ำเสียงก็เลยไม่ค่อยดี
ธัชชัยยื่นมือไปเอาเค้กในมือของเขา ฝ่ามือที่อบอุ่นและกว้าง หนาผ่านมือของเธอ ทันใดนั้นหน้าของวันสาก็แดงขึ้นมา แล้วก็ รีบก้มหัวลง กลัวเขาเห็นแล้ว ก็จะเริ่มพูดว่าเธอจิตใจรวนเร เปลี่ยนง่าย
“เค้กนี้ฉันจะเอาไปให้พวรพลเอง”
“เธอไม่ใช่บอกว่าเขากินเค้กไม่ได้หรอ”
ธัชชัยเดินไปแล้ว “ไม่แน่เขาเห็นความตั้งใจของเธอ ก็อาจ เหมือนที่เธอพูดอารมณ์ดีขึ้นก็ได้
วัจสาฟังแล้วอึ้ง ผ่านไปแป๊บเดียวค่อยคืนสติ “เฮ้ จะเอาไปให้ ก็ต้องเป็นฉันเอาไปให้สิ นี่ฉันทำเองนะ”
เสียดายตอนที่ตามไป ก็ไม่มีเงาของธัชชัยแล้ว ไอ.ขามันยาว ขนาดเลยเหรอ?
อาหารเย็นของวันนี้ก็ถูกธัชชัยนำหน้าไปอีกแล้ว ถ้าไม่ใช่เห็นเขาเป็นห่วงวรพล เรื่องป้อนข้าวอย่างนี้ก็ต้องให้ภรรยาคนนี้ไป ทํา
แต่ว่า คิดแล้วคิด ธัชชัยก็น่าสงสารเหมือนกัน พี่ชายเพื่อที่จะ ช่วยเขาก็กลายเป็นแบบนี้ ทุกครั้งที่เห็นสภาพของพี่ชายเป็น อย่างนี้ก็รู้สึกเจ็บใจและรู้สึกผิดมาก
วังสายักไหล่ ถือว่าเขาใจกว้าง ให้โอกาสเขาไปก่อน คราว หน้าธัชชัยไม่อยู่ค่อยไปดูแล้วรพล คำขอโทษที่ค้างไว้ตอนนี้ยัง ไม่ได้พูดเลย
อีกอย่างวรพลน่าจะรักคุณกนิษฐาคนนั้นมาก ได้ยินเสียง
ของป้าอ้อยพูดแล้ว ตนเองก็แค่คนตรงกลางคนหนึ่ง วรพลกายภาพบำบัดเสร็จก็กลับห้องนอนตนเอง เข้าไปก็เห็น
รูปร่างสูงโตของธัชชัย ในมือถือเค้กยืนอยู่ตรงนั้น
“วันนี้อารมณ์เป็นไงบ้าง?”วรพลเพิ่งทำกายภาพบำบัดเสร็จ ร่างกายอ่อนแอมาก พูดแค่คนเดียวก็หายใจหอบ
“ธัชชัยเอาเค้กใส่ไว้ที่เก้าอี้ แล้วอุ้มพี่ชายขึ้นไปบนเตียงใส่ที่ รองหลังแล้วพูดไปว่า “นี่คือเค้กที่ยัยนั่นทำให้ “ที่ให้ธัชชัยเรียกว่ายัยนั่นได้ นอกจากวังสาก็ไม่มีคนอื่นแล้ว ว
รพลหันหน้าไป “ฉันดูหน่อย”
ธัชชชชัยรีบเอาเค้กมาตรงหน้าเธอ รอยยิ้มที่เหลืองอร่าม
ปรากฏออกมา
ธัชชัยรีบเอาเค้กมาต่อหน้าเขา ทันใดนั้นรอยยิ้มที่เป็นสีเหลืองมาสายตาเขา
วรพลค่อยๆยิ้มขึ้นมา
แม้ว่าใบหน้าจะมีริ้วรอยเต็มไปหมด แต่ธัชชัย พี่ชายดีใจ จริงๆ นี้คือสามเดือนที่ผ่านมา พี่ชายยิ้มครั้งแรก
ธัชชัยนึกถึงผู้หญิงที่ยิ้มหวานนั้น “ถ้าเขาเห็นอารมณ์ก็อาจดี
ขึ้นก็ได้”
พี่ชายดูเหมือนอารมณ์มาก
ก็ได้ คราวนี้ถือว่ายัยนั่นทำถูกเรื่องหนึ่ง
“ใช่แล้ว ไม่ข่าวว่าเธอไม่กลับไปเยี่ยมบ้านกับวังสา เมื่อคืน เธอสัญญากับฉันแล้วไม่ใช่เหรอ?”วรพลก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะ อารมณ์ดีหรือเปล่า พูดก็สะดวกราบรื่นขึ้น
ฝ่ามือของธัชชัยประคองหน้าผาก จริงด้วย เขาก็รู้พี่ชายต้อง ถามถึงเรื่องนี้แน่
“วันนี้ฉันมีธุระชั่วคราว ก็เลยไม่ได้ไป พี่กินข้าวก่อน
พูดแล้วก็หยิบอาหารเหลวยที่อยู่บนโต๊ะมาถึงตรงหน้าเขา
“เธออย่ามาเปลี่ยนเรื่องนี้มันก็แค่คำแก้ตัวของเธอ ผู้หญิงที่ดี ขนาดนี้ทำไมไม่รักษา?รีบไปฮันนีมูม”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ