เล่ห์รักกับดักใจ

บทที่5 ขอร้องนาย ช่วยฉัน……



บทที่5 ขอร้องนาย ช่วยฉัน……

บทที่5 ขอร้องนาย ช่วยฉัน……

ดังนั้นตามปกติเขาจะไม่พาเธอออกไปข้างนอก

เจียงย่านเคยเจอหร่วนซิงหว่านแค่สองครั้ง

ครั้งหนึ่งคือโจวฉือเซินลืมหยิบเอกสารมา หร่วนซิงหว่าน กลัวว่าจะทําให้งานเขาล่าช้า จึงเอามาส่งให้เขาที่บริษัท เมื่อเผชิญหน้ากับสายตาที่เย็นชาของเขา ใบหน้าของ ภรรยาตัวน้อยของเขาก็มีแสงหดหู่แวบผ่าน แต่ก็ไม่ได้บ่น อะไร ดูแล้วเป็นเด็กดีที่เชื่อฟัง

ครั้งหนึ่งเป็นงานเลี้ยงวันเกิดของท่านใหญ่โจว นั่น เป็นการแต่งงานปีที่สองของโจวฉือเซินกับเธอ ทุกคนใน ตระกูลโจวล้วนแต่ไม่อยากเห็นเธอ และไม่ได้แนะนำเธอ กับใครเลย

เย็นวันนั้น หร่วนซิงหว่านเป็นเหมือนกับคนรับใช้ที่ตระ กูลโจวจ้างมาโดยไม่ต้องเสียเงิน ทำนุ่นทำนี่ แต่คำพูดดีๆ สักคำก็ไม่ได้รับ กลับถูกมองว่าเกะกะสายตา

หลังจากนั้น เธอก็อยู่แต่ในมุมตั้งแต่ต้นจนจบ เผชิญหน้า กับการเยาะเย้ยของคนที่มีหัวใจ เธอก็ไม่ได้หักล้าง เพียง แค่ก้มหน้าเงียบๆ อยู่ห่างออกไป
ในความทรงจําของเจียงย่าน ภรรยาของโจวฉือเซ็น เป็นสะใภ้ตัวน้อยที่ถูกรังแกก็ไม่ถือสา ไม่ตบตีกลับไม่ด่า โต้ตอบ

ผู้หญิงที่ก้าวร้าว ราวกับจะสับใครทิ้งในคืนนี้ ไม่ใช่เธอ

เด็ดขาด โจวฉือเซินยังมองทิศทางที่หร่วนซิงหว่านจากไป ไม่ได้

พูดอะไร

เจียงย่านส่งเสียงกระแอม เบี่ยงประเด็น “เมื่อกี้ตอนมา ฉันเจอหลินซือที่ประตูด้วย”

โจวฉือเซินพูดอย่างไม่เป็นทางการ “ใคร”

หัวหน้าบรรณาธิการของเครื่องประดับเซิ่งกวางกรุ๊ป

“มีความประทับใจนิดหน่อย”

โจวซื่อกรุ๊ปกับเซิ่งกวางเคยร่วมงานกัน โจวฉือเซินเคย เจอหัวหน้าบรรณาธิการของพวกเขาไม่กี่ครั้ง

เจียงย่านพูดอย่างโอรส “เมื่อกี้หลินซือบอกฉันว่า เขา หาRuanเจอแล้ว อีกอย่างถ้าไม่ขัดข้องอะไร เธอก็จะเซ็น สัญญากลายเป็นนักออกแบบให้กับนิตยสารของพวกเขา นายจำRuanได้ไหม?”

“จําไม่ได้”

ทําไมเขาต้องจําคนที่ไม่เกี่ยวข้องเหล่านี้ด้วย

เจียงย่านพูด “เรื่องที่สนับสนุนการประกวดนักออกแบบ สมัยใหม่ครั้งที่เจ็ดเมื่อสามปีที่แล้ว นายน่าจะจำได้ ปี นั้นRuanชนะที่หนึ่งในการแข่งขัน เดิมทีสามารถได้รับ เงินทุนจากโจว อกรุ๊ปไปศึกษาต่อที่ปารีส แต่ไม่รู้ด้วย เหตุผลอะไร เธอละทิ้งโอกาสนี้ไป”

“แต่ฉันได้ยินมาว่าดูเหมือนเธอจะไปหาผู้รับผิดชอบการ แข่งขัน ถามว่าขอไม่รับเงินทุนไปศึกษาต่อต่างประเทศ ให้เป็นเงินแทนได้ไหม ผู้รับผิดชอบขอคําแนะนําจาก นาย นายปฏิเสธไป หลังจากนั้นก็ไม่ได้ยินข่าวคราวจาก เธออีกเลย เธอเป็นนักออกแบบที่มีความสามารถคนหนึ่ง จริงๆ น่าเสียดาย

โจวฉือเซินเก็บสายตากลับมาช้าๆ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร และไม่รู้ว่าได้ฟังสิ่งที่เขาพูดเมื่อกี้ไหม

“อ่อ”

“ไม่มีความประทับใจ”
ระหว่างทางที่ส่งพวกเธอกลับ หลินซือสัมผัสได้อย่าง ชัดเจนว่าเทียบกับตอนกินข้าวแล้ว หร่วนซิงหว่านอารมณ์ แตกต่างไปมาก

เขาก็ไม่ควรถามไปตรงๆ เหลือบมองเพ้ยซานซาน ขมวด คิ้วถาม

เพียซานซานก็ส่ายหน้าเบาๆ บ่งบอกว่ามันพูดยาก

รถหยุดด้านล่างตึก หลินซือพูด “คุณหร่วน จะตั้งตารอ ผลงานของคุณ แล้วก็ตั้งตารอการร่วมงานของเรา”

หร่วนซิงหว่านตอนนี้อารมณ์สงบลงไม่น้อย เก็บความ คิดไว้ พยักหน้า “ขอบคุณค่ะบรรณาธิการหลิน ฉันจะ พยายาม”

หลินซือยิ้มให้ “งั้นฉันก็ไม่รบกวนเวลาของพวกเธอแล้ว รีบขึ้นไปเถอะ เจอกันอาทิตย์หน้า

กลับมาถึงบ้าน เพ้ยซานซานก็เอ่ยขึ้น “ซิงซิง เธอยัง โมโหหญิงชั่วชายโฉดนั่นอยู่เหรอ?”

หร่วนซิงหว่านสติหลุดเล็กน้อย ส่งเสียง “อือ” โดยไม่รู้ ตัว ได้สติกลับมาสองวินาทีถึงพูดขึ้น “ไม่ใช่ ฉันกำลังคิด เรื่องผลงาน”
หัวข้อที่ทางหลินซือให้เธอมาคือ “รักแรก” เพ้ยซานซาน บอกว่าหลังจากเซ็นสัญญากับนักออกแบบแล้ว นี่ก็เป็น ซีรีสแรกที่เปิดตัวโดยนิตยสารของพวกเขาเช่นกัน มุ่งเน้น ไปที่ตลาดวัยรุ่น

ดังนั้น ผลงานครั้งนี้สำหรับพวกเขาแล้วค่อนข้างสำคัญ

แต่คำว่ารักแรกนี้ สำหรับหร่วนซิงหว่านแล้ว มันนานมาก แล้วจริงๆ เลือนรางไปแล้ว

ความรู้สึกสั่นไหวที่จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเข้าใกล้คนที่ชอบ ตั้งแต่แต่งงานกับโจวฉือเซินมาสามปีนี้ มันไม่หลงเหลือ อะไรไว้แล้

เพ้ยซานซานพูด “พูดถึงเรื่องนี้ ฉันอยากจะถามเธอพอดี เธอกับจี้หวยเจี้ยนไม่ได้ติดต่อกันแล้วเหรอ?”

หร่วนซิงหว่านส่ายหน้าเบาๆ

สามปีก่อนเธอได้ที่หนึ่งจากการแข่งขันนักออกแบบสมัย ใหม่ เดิมทีจะได้โอกาสไปศึกษาต่อที่ปารีส แต่เธอปฏิเสธ ไป

จี้หวยเจี้ยนมาหาเธอสองสามครั้ง ถามเธอว่าทำไมไม่ไป
ในสีหน้าของเขามีความสงสัย ความเหงา และความผิด

หวัง

แต่เธอไม่มีความกล้าที่จะบอกความจริงกับเขามาโดย ตลอด ลบช่องทางการติดต่อของเขาทั้งหมด

เธอจะพูดอะไรได้?

หรือจะให้บอกเขา เรื่องที่คืนนั้นที่เธอได้รับที่หนึ่งในการ แข่งขัน ในตอนที่กำลังถูกปกคลุมไปด้วยความสุข จู่ๆห ร่วนจุนก็เป็นหนี้เงินกู้หนึ่งล้านเหรอ?

เธอที่ถูกน้ำเย็นเทใส่ตอนนี้ยังไม่คืนสภาพกลับมาเลย

เพียซานซานถอนหายใจ พิงอยู่บนโซฟา “จนถึงตอน นี้ฉันยังรู้สึกว่าเธอกับจี้หวยเจี้ยนน่าเสียดายมาก ตอน นั้นพวกเธออยู่ที่โรงเรียนเป็นคู่ที่สมน้ำสมเนื้อกันมาก คนมีตาต่างก็ดูออกว่าพวกเธอชอบพอกัน ขาดแค่ทะลุ หน้าต่างกระดาษมานสุดท้าย เดิมทีนึกว่าพวกเธอไป ปารีสก็จะอยู่ด้วยกัน ใครจะรู้ว่าภายหลังเกิดเรื่องแบบ นั้น…..เฮ้อ โชคชะตาเล่นตลก”

หร่วนซิงหว่านนิ่งเงียบไปนานมากถึงพูดขึ้น “เรื่องมัน ผ่านมาแล้วทั้งนั้น”

“อ่ะอ่ะอ่ะ ไม่พูดเรื่องที่เศร้าใจแล้ว จริงด้วย จู่ๆฉันก็นึกเรื่อง บ บของ อเวยขึ้นมาได้ ฉันจะพูดให้เธอฟังนะ ตอนที่หล่อนฟังเข้าวงการมาแรกๆไปถ่ายแบบนิตยสาร แม้แต่ไฟเสริมยังไม่รู้ว่าคืออะไร นึกไม่ถึง..…………..

หลังเพียซานซานพูดเรื่องตลกให้หร่วนซิงหว่านฟัง หลายเรื่อง ให้เธอหัวเราะ ก็ด่าทอหญิงชั่วชายโฉดคู่นั่น อย่างฮึกเหิมต่อทั้งคืน

แต่เมื่อหร่วนซิงหว่านเอนตัวลงบนเตียง ในสมองก็นึก ย้อนไปถึงคำพูดนั้นที่ซูซือเวยพูดกับเธอที่ห้องน้ำโดยไม่รู้ ตัว

แม้ว่าถ้อยคําที่หยาบคาย เข้าแน่นอนว่าไม่มีทางออก มาจากปากของโจวฉือเซิน แต่ความหมายที่สื่อ กลับไม่ คลาดเคลื่อนเลยสักนิด

หร่วนซิงหว่านรู้ว่าเธอดึงโจวฉือเซินเข้ามาเกี่ยว ดัง นั้นแต่งงานมาสามปี เธอจึงพยายามแสดงบทบาทของ ภรรยาที่ดีอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับคำพูด รังเกียจของเขา หรือการเยาะเย้ยถากถางของคนตระกูล โจว เธอไม่เคยบ่นแม้แต่ค่าเดียว

เธอเองก็รู้ว่าเขาเกลียดเธอแค่ไหน

แต่เมื่อความจริงเหล่านั้นสะกิดเธออย่างไร้ความปรานี ราวกับมีดอาบยาพิษ เธอก็ยังรู้สึกเจ็บปวด เป็นความเจ็บปวดที่แม้แต่หายใจยังรู้สึกว่าหัวใจกำลังสูบฉีด

หร่วนซิงหว่านฝังศีรษะเข้าไปในผ้าห่ม ช่วงครึ่งหลับครึ่ง ตื่น นึกถึงเรื่องบางอย่างได้

สามปีก่อน หลังจากรู้ว่าหร่วนจุนติดหนี้เงินกู้หนึ่งล้าน เธอก็หาเงินไปทั่ว กระทั่งดึงศักดิ์ศรีไปถามผู้รับผิดชอบ การแข่งขันว่าสามารถไม่เอาโควตาไปเรียนต่อที่ปารีส แล้วให้เงินเธอแทนได้ไหม

คำที่ผู้รับผิดชอบพูดตอนนี้เธอยังจำได้ “คุณหร่วนต้อง ขอโทษด้วย เจ้านายของพวกเราบอกมา โอกาสครั้งนี้ มอบให้คนที่มีความฝันในการออกแบบจริงๆ ไม่ใช่ให้คน ที่เอาการแข่งขันครั้งนี้มาเป็นธุรกิจ ต้องการผลกำไรจาก มัน”

หลังจากหร่วนซิงหว่านฟังคำนี้จบ ก็ตะลึงไปพักใหญ่ กลับไปร้องไห้ด่าทอเจ้านายที่ว่านั่นทั้งคืน

ดูถูกใครกัน ใครจะไม่มีความฝันที่บริสุทธิ์ไม่เสแสร้ง

หลังจากนั้นไม่กี่วัน หร่วนจุนหนีไป เจ้าหนี้มาหาถึงบ้าน ให้เธอเลือก

จะให้สับมือข้างหนึ่งของน้องชายเธอ หรือเธอจะไปกับ พวกเขาด้วยตัวเอง
หร่วนซิงหว่านไม่มีทางเลือกอื่น ไม่สนเสียงตะโกนเรียก แหบแห้งของหร่วนเฉิน ออกจากประตูบ้านไปกับพวก เขาโดยไม่พูดอะไร

คนพวกนั้นขายเธอมาที่มู่สื้อ สถานที่ที่อุทิศให้กับความ บันเทิงของผู้มีอันจะกิน เหล้าชั้นเลิศ วัตถุนิยม

พวกเขาวางยาในลงในเหล้าเธอ

แม้ว่าเธอเตรียมที่จะเห็นความตายเป็นเหมือนบ้านแล้ว แต่เมื่อชายวัยกลางคนหน้าอ้วนอายุสี่ห้าสิบปีคนนั้นเข้า มา จู่ๆเธอก็นึกถึงจี้หวยเจี้ยน นึกถึงนัดที่ปารีสที่เธอทำไม่ สําเร็จ

ไม่รู้ว่าเรี่ยวแรงมาจากไหน เธอผลักชายวัยกลางคนคน นั้นออกแล้ววิ่งอย่างทุลักทุเล

ด้านหลังมีคนไล่ตามมาตลอด

เธอไม่รู้ว่าวิ่งมานานแค่ไหนแล้ว ในที่สุดก็เห็นร่างสูง เลือนราง เธอล้มลงกับพื้น ดึงแขนเสื้อสูทที่เต็มไปด้วย สัมผัสของเขา “ขอร้องนาย ช่วยฉัน.…………..”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ