เล่ห์รักกับดักใจ

บทที่ 14 เธอปฏิเสธไปแล้วไม่ใช่เหรอ



บทที่ 14 เธอปฏิเสธไปแล้วไม่ใช่เหรอ

บทที่ 14 เธอปฏิเสธไปแล้วไม่ใช่เหรอ

หร่วนซิงหว่านยื่นมือค่อยๆ ผลักจี้หวยเจี้ยนที่ยืนบังอยู่ ไปอีกทาง แล้วหัวเราะแห้งๆ พลางพูดอธิบาย “ไม่มีอะไร ก็แค่เพื่อนเก่า เจอหน้าก็ทักทายกัน ถ้าทุกท่านไม่มีธุระ อะไร ฉันขอตัวก่อนนะคะ”

หร่วนซิงหว่านเพิ่งเดินไปเพียงไม่กี่ก้าว ก็ถูกรั้งข้อมือเอา

ไว้

เธอมีปฏิกิริยารวดเร็วทําท่าจะอาเจียน

ทำให้มือนั้นรีบปล่อยเธอ

ครั้งนี้หร่วนซิงหว่านหนีไปรวดเร็วกว่าครั้งไหนๆ

ในรถ เพ้ยซานซานกำลังนั่งหลับตาฟังเพลงอยู่ ทันใด นั้นได้ยินเสียงเคาะประตู “ทำไมเสร็จเร็วจัง? ฉันคิดว่า พวกเธอจะคุยกันนานกว่านี้เสียอีก”

หร่วนซิงหว่านพูดด้วยความเหนื่อยล้า “อย่าพูดเลย โจ วอานอานรู้จักกับเขา โจวฉือเซินก็มาด้วย ยังดีที่ฉันหนี ออกมาเร็ว ไม่อย่างนั้นวันนี้คงได้ทิ้งชีวิตไว้ที่นั่นแล้ว”
เพ้ยซานซานถามด้วยความสงสัย “โจวอานอาน? ก็คือ คนนั้น…”

เธอพูดออกมาแค่ครึ่งหนึ่ง แล้วไม่ได้อธิบายต่อ แต่ห ร่วนซิงหว่านเข้าใจความหมายที่เธอจะบอก จึงพยักหน้า รับเบาๆ

“ตอนนั้นที่เกิดเรื่อง เธอหนีไปต่างประเทศคนแรกเลย ไม่ใช่เหรอ ตอนนี้ยังกล้าที่จะกลับมา ไม่กลัวเวรกรรมรีไง กัน?”

หร่วนซิงหว่านทําท่าจะอาเจียนอีกครั้ง รีบหยิบบ๊วยใน กระเป๋าขึ้นมายัดใส่ปาก “ไปโรงพยาบาลกันเถอะ”

“เธอ…คิดดีแล้วหรือยัง?”

คุณหมอพูดหลังจากตรวจสุขภาพให้หร่วนซิงหว่านเสร็จ เรียบร้อย “ทุกอย่างปกติดีนะครับ ที่คุณแพ้ท้องรุนแรงนั้น มีส่วนเกี่ยวข้องกับสุขภาพของคุณด้วย ให้ทานอาหารรส อ่อน เดินบ่อยๆ จะทำให้อาการเหล่านี้ดีขึ้นครับ”

หร่วนซิงหว่านพยักหน้าเบาๆ คุณหมอพูดต่ออีก “เรื่อง อื่นก็ไม่พบปัญหาอะไร ครบ 12 สัปดาห์มาตรวจการทําคลอดก็เรียบร้อยแล้วครับ”

“ทราบแล้วค่ะ ขอบคุณมากค่ะ”

หลังจากออกมาจากห้องของคุณหมอ เพ้ยซานซานรีบ เดินเข้ามา “ซิงซิง เป็นยังไงบ้าง”

“คุณหมอบอกว่าทุกอย่างปกติ ”

เพ้ยซานซานโล่งอก พลันนึกถึงเรื่องอื่นที่ต้องการจะ ถามเธอ แต่เห็นว่าสีหน้าเธอไม่ดีนัก จึงไม่ถามต่อ “งั้นเรา กลับกันเถอะ”

ระหว่างทาง เพ้ยซานซานได้รับสายจากนิตยสาร แห่งหนึ่ง บอกว่ายอดการขายทะลุกว่าหนึ่งล้านชิ้น บรรณาธิการหลินบอกว่าจะจัดงานฉลองคืนนี้ ให้หร่วนซิง หวานเป็นแม่งาน แล้วถามต่อว่าเธอไปไหน

เพ้ยซานซานตอบ “เธอไม่ค่อยสบาย เลยส่งเธอกลับ บ้านไปแล้ว ฝากบอกบรรณาธิการหลินหน่อยนะ ว่างาน ฉลองคืนนี้พวกเราคงไม่ได้ไป

หลังจากวางสาย เพียซานชานหันมามองหร่วนซิงหว่าน “ซิงซิง เธอโอเคไหมเนี่ย?”
หร่วนซิงหว่านนั่งเอาหัวพิงกับกระจก ไม่รู้ว่าเธอกำลังคิด อะไรอยู่ ได้ยินเสียงเรียกสักพัก จึงค่อยได้สติขึ้นมา แล้ว ค่อยตอบ “ฉันอยากเก็บเด็กเอาไว้”

เมื่อกี้ที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย เธอได้เห็นหัวเล็กๆ ของ เขาแล้ว ในใจรู้สึกฟูฟ่องอย่างอธิบายไม่ถูก

เหมือนกับเด็กในสามปีก่อน กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง

เธอจะกล้าฆ่าเขาทิ้งอีกครั้งได้ลงคออย่างไร

เพ้ยซานซานพูดด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย “ได้สิ คลอด เขาออกมาเลี้ยงด้วยกันกับฉัน รอจนเธอแต่งงานใหม่ ให้ ลูกของผู้ชายเฮงซวยคนนั้นเรียกผู้ชายคนอื่นว่าพ่อ ให้ เขาโมโหจนตายไปเลย!”

หน้าที่ซีดเซียวของหร่วนซิงหว่านมีรอยยิ้มขึ้นมา “ใช่ๆ คิดถึงสีหน้าของผู้ชายเฮงซวยคนนั้น ก็รู้สึกสะใจแล้ว”

ในตอนที่เธอรู้สึกว่าอยากเก็บลูกเอาไว้ ความคิดแรก ของเธอคือไม่มีทางบอกโจวฉือเซินเป็นอันขาด

อย่างน้อย ตอนนี้ก็ยังไม่บอก

ถึงแม้ว่าการแต่งงานครั้งนี้จะไม่เชิดหน้าชูตามากนักแต่เธอหวังว่าตอนจากกันจะจบลงด้วยดี

รถเพิ่งจอดลงที่ใต้ตึก เสียงโทรศัพท์ของหร่วนซิงหว่าน ก็ดังขึ้น เธอมองเบอร์แปลกที่โทรเข้ามา แล้วจึงรับสาย “สวัสดีค่ะ ใครคะ?”

“ซิงหว่าน ฉันเอง”

หร่วนซิงหว่านถือโทรศัพท์เงียบๆ

จี้หวยเจี้ยนจึงพูดต่อ “เมื่อกี้กำลังวุ่นวาย ฉันเลยยัง ไม่ทันได้ถามเธอว่า พวกเราจะเจอกันอีกครั้งได้ไหม?”

“จี้หวยเจี้ยน” หร่วนซิงหว่านเรียกเขาเบาๆ “ที่โจวอานอา นพูดคือเรื่องจริงทั้งหมด ฉันแต่งงานแล้ว แล้วยังเข้าตระ กูลโจวด้วยแผนการของฉันอีก”

“ซิงหว่าน ผมรู้ว่าคุณไม่ใช่คนแบบนั้น เรื่องที่โจวอานอา นพูดผมไม่เชื่อหรอก แล้วก็ไม่สนด้วยว่าทำไมคุณถึง แต่งงานกับโจวฉือเซิน ผมแค่อยากจะบอกคุณเรื่องที่เกิด ขึ้นในสามปีก่อน ทำไมคุณถึงปฏิเสธการไปเรียนต่อที่ ปารีส? ทั้งๆ ที่พวกเราสัญญากันแล้ว”

หร่วนซิงหว่านตอบ “เรื่องในสามปีก่อนมันผ่านมาแล้ว ช่างมันเถอะนะ”
“แล้วพวกเรา…ก็ช่างมันแล้วเหรอ?”

“ฉันแต่งงานแล้ว”

“ฉันรู้ว่าระหว่างเธอและโจวฉือเซินไม่มีความรู้สึกใดๆ ต่อกัน ซิงหว่าน ผมรอคุณได้

ณ วินาทีนั้น หร่วนซิงหว่านพลันรู้สึกโทรศัพท์ร้อนจี่ เธอ ขนลุกซู่ ผ่านไปสักพักแล้วจึงตอบเขา “ไม่ต้องรอฉัน มัน ไม่ควรค่า”

พูดจบ เธอวางสายไปอย่างไม่ลังเล

จี้หวยเจี้ยนเป็นดั่งแสงสว่างที่ส่องผ่านหลังคากระท่อม ของเธอลงมาให้มีแสงสว่าง เขาสะอาด สมบูรณ์แบบ สดใส หลายครั้งที่เธอใกล้จะสิ้นหวัง จะมีเขาคอยจุด ประกายขึ้นอีกครั้ง”

คงเป็นเพราะเธอเห็นภาพที่ดีงามนี้จนรู้สึกหลงใหล คิด ว่าพวกเขาคบกันจริงๆ

ตระกูลจี้และตระกูลโจวเหมือนกัน เห็นแก่เกียรติยศ ของตระกูล จะมายอมรับผู้หญิงที่มาจากครอบครัวแบบนี้ อย่างเธอได้อย่างไรกัน
สามปีก่อนที่เธอเดินจากมาไม่ใช่เพียงเพราะความฝัน ของเธอ มากไปกว่านั้นคือความฝันที่สวยงาม

เมื่อตื่นแล้ว เธอและจี้หวยเจี้ยนจบลงแล้วจริงๆ

เครื่องประดับเซิ่งกวางกรุ๊ปครั้งนี้ตั้งแบรนด์ของตัวเอง ขึ้นมา และทำการตีตลาดครั้งแรกได้อย่างสำเร็จ

โลกภายนอกต่างพูดถึงกันอย่างล้นหลาม

เพราะเช่นนี้ นอกจากการพูดถึงว่าเซิ่งกวางก้าวได้อย่าง อัศจรรย์แล้วนั้น ยังมีการพูดถึงดีไซเนอร์ที่เครื่องประดับ เซิ่งกวางกรุ๊ปได้ทำสัญญาด้วย นั่นก็คือRuanนั่นเอง

สามปีก่อนตอนที่เธอได้รางวัลที่หนึ่งในการประกวดการ ออกแบบของดีไซเนอร์หน้าใหม่ ทุกคนต่างให้ความสนใจ ในดีไซเนอร์ที่ทั้งอายุน้อยและมีความสามารถคนนี้

ครั้งนี้เซิ่งกวางได้เสนอคอลเลคชั่น “ความรักครั้งแรก” ออกมา เพื่อให้เธอได้เชิดหน้าชูตาในวงการออกแบบนี้
แล้วผลงานที่เธอทําออกมาก็ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามกว่าที่

คิด

แต่ที่ทำให้ทุกคนแปลกใจคือ สามปีที่เธอหายไปไปทำ อะไรมา

ในขณะที่โลกภายนอกกำลังถกเถียงเรื่องนี้กันอยู่นั้น ใน คลับแห่งหนึ่ง เจียงย่านนั่งไถโทรศัพท์อยู่บนโซฟาอย่าง ออกรสออกชาติ

“ดูข่าวโครมลอยพวกนี้สิ เรื่องไม่จริงก็เอามาเล่าเสีย เหมือนจริง นายดูอันนี้สิเกินไปมาก มีคนกล่าวหาว่าหลัง จากที่เธอมีชื่อเสียง ก็ถูกเศรษฐีเลี้ยงดู ยอมเป็นภรรยา ลับๆ มาตลอดสามปี จนสุดท้ายก่อนหน้านี้ไม่นาน ถูกเมีย หลวงจับได้ จึงได้ขับไล่เธอ ไม่มีคนเลี้ยงดูเธอก็ขาดเงิน จนกลายมาเป็นเช่นนี้”

ด้านข้างเขา ท่ามกลางแสงไฟสลัว เผยให้เห็นสันกราม อันคมชัดของโจวฉือเซิน ที่กำลังนั่งดื่มเหล้าเงียบๆ ตอนนี้มีคนถามขึ้นมา “คุณชายเจียง ประธานโจวเก่ง มากใช่ไหม?”

เจียงย่านเงยหน้าขึ้นมาจากความยุ่ง ยิ้มแล้วพูดขึ้น “พวกนายเล่นกันตามสบาย ประธานโจวเพิ่งกลับมาจาก ธุระ คงจะเหนื่อย ฉันจะนั่งเป็นเพื่อนเขาสักพัก”
เขาในตอนนี้กำลังคอยสังเกตเหตุการณ์ที่น่าสนุกนี้อยู่

ใครจะมีอารมณ์ไปเล่นไพ่

ข่าวโครมลอยแบบนี้ช่างน่าสนใจ

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ โจวฉือเซินอยู่ดีๆ ก็พูดขึ้นมา “เมื่อก่อนนายเคยบอกว่า เธอเคยขอร้องกับสปอนเซอร์ ของการแข่งขับเปลี่ยนจากทุนการศึกษาเป็นเงินสด?”

“ใช่สิ นายปฏิเสธไปแล้วไม่ใช่เหรอ?”

โจวฉือเซินถือแก้วเหล้ามือแล้วไม่ได้พูดอะไรต่อ หน้าดำ คร่ำเครียด ไม่รู้คิดเรื่องอะไรอยู่


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ