ตอนที่ 79เรียกเธอมาที่ห้องของฉัน
กนิษฐาไม่มีทางบอกชัชชัยแน่นอนว่าคนคนนั้นคือใครเพราะ ตอนนี้เขาไม่สามารถเอาชนะผู้ชายคนนี้ได้
อีกทั้งยังเป็นการส่งธัชชัยไปตกอยู่ในอันตรายเธอเคยรู้สึกถึง รสชาติของการสูญเสียเขาไปครั้งนึงแล้วเธอจะไม่ยอมกลับไป รู้สึกแบบนั้นอีกขอแค่ให้ธัชชัยมีชีวิตอยู่แค่นี้ก็พอใจแล้ว
วัดสานั่งอยู่ที่บ้านด้วยความเบื่อหน่ายตั้งแต่ที่ธัชชัยออกไป
เธอลองไปขอร้องให้พ่อบ้านภูษิตช่วยพาไปพบวรพลแต่วรพล
ปฏิเสธ
วรพลมองว่าถ้าไม่มีทะเบียนสมรสต่อให้เขาบอกความจริงกับ วันสาก็ไม่มีประโยชน์อะไร
เพราะไม่มีหลักฐานมายืนยันว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริงจะ เป็นการทําให้เธอวิตกกังวล โดยไม่จำเป็นมากกว่า
สุดท้ายก็กลายเป็นปมที่หลอกหลอนวรพลต่อไป
ยิ่งทำให้วัดสาหนีความทุกข์ไม่พ้น
ตอนกลางคืนก็ผ่านไปธัชชัยไม่ได้กลับมาทั้งคืนวรพลก็กินข้าว เช้าแค่นิดเดียว
วัจสาได้ยินป้าอ้อยถอนหายใจไม่หยุดเธอก็รู้สึกไม่สบายใจ
ได้ยินมาว่าเมื่อคืนสองพี่น้องทะเลาะกันอีกแล้ว
เฮ้อ
สุดท้ายธัชชัยก็กลับบ้านมาตอนพระอาทิตย์ขึ้นอีกวันพอดี ท่าทางฉุนเฉียวทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ เขาปลดเนคไทออกโยนเสื้อสูทไปบนโซฟาท่าทางดูรุนแรงไป
หมด
วังสามองเห็นรอยเลือดที่อยู่บนเสื้อเชิ้ตสีขาวของธัชชัยส่วน ใหญ่แห้งแล้วจนกลายเป็นสีน้ำตาลแดงเข้มแต่ยังมีบางส่วนที่ เป็นสีแดงสดเหมือนกับว่าเพิ่งไหลออกมา
หรือธัชชัยจะบาดเจ็บจสาอยากที่จะไปดูแผลให้เขาดูว่าเป็น หนักมากมั้ย
แต่พอเธอเริ่มก้าวขาในใจก็มีเสียงห้ามให้หยุดให้ใจเย็นลง
วัจสาเธอไม่ควรแอบคิดอะไรกับผู้ชายคนนี้อีกยิ่งไม่ควรมีใจ
ให้เขาด้วย
ตัดสินใจแล้วว่าจะต้องรักษาขอบเขตเป็นแค่พี่สะใภ้กับน้อง
เซย
ให้ความสัมพันธ์แบบนี้ดำเนินต่อไปแล้วกัน
ขณะที่วัดสากำลังครุ่นคิดมือถือของธัชชัยก็ดังขึ้นเขารับแบบ ท่าทางหงุดหงิดได้ยินบุรีบอกว่า “คุณชายธัชชัยครับเธอต่อต้าน ด้วยการอดอาหาร
“เรื่องแค่นี้แกจัดการเองไม่ได้หรือไงเรียกแกกลับมาจะมีประโยชน์อะไร?”ถ้าเขาตายแกก็เตรียมตัวตายตามไปได้เลย หน้าตาท่าทางของธัชชัยน่ากลัวมากโมโหจนขวางมือถือไปบน โซฟา
ธัชชัยไม่มองมาที่วังสาเลยซักนิดกินโจ๊กที่วางอยู่บนโต๊ะแล้ว เดินขึ้นไปชั้นสอง
มองหลังของธัชชัยที่เดินห่างออกไปเรื่อยๆ ความประหม่าตื่น
เต้นของวิจสาก็ค่อยๆลดลง
ป้าอ้อยออกมาเห็นหลังของธัชชัยพอดีเลยถามว่าเกิดอะไร ขึ้นทำไมคุณชายรองไม่รอพาสต้าที่ป้าทำให้?”
ป้าอ้อยได้แต่วางพาสต้าลงบนโต๊ะแล้วก็เห็นว่าธัชชัยกินโจ๊ก ของวังสาจนหมด
ป้าอ้อยหันหลังกลับไปที่ห้องครัว “คุณนายเดี่ยวป้าเอามาให้
ใหม่อีกชามนะ”
วันสาเอ่ยปากเรียกป้าอ้อย”ไม่ต้องก็ได้ค่ะป้าอ้อยฉันใช้ชามนี้ ก็ได้”
เธอหยิบชามที่ธัชชัยเพิ่งกินไปเดินเข้าไปในครัวตักโจ๊กมา ครึ่งชามแล้วค่อยๆกิน
วังสาไม่ได้อนามัยจัดไม่รังเกียจที่จะใช้ชามต่อจากธัชชัยแต่ก็ แอบรู้สึกแปลกๆไม่ได้
เหมือนรู้สึกผิดยังไงไม่รู้
เดี๋ยวนีธัชชัยออกข้างนอกบ่อยมากทุกครั้งที่กลับมาก็ดู หน้าตาอมทุกข์
วัจสาเดาว่าบริษัทอาจจะมีปัญหาก็ได้แต่คนที่ทั้งเก่งและฉลาด อย่างธัชชัย
จะปล่อยให้บริษัทมีปัญหาได้ยังไง
ตอนเช้าธัชชัยก็รีบออกข้างนอกแต่เช้าไม่กี่วันมานี้เขาไปอยู่ที่ เดียวคือ
โกดังของบริษัท โฮสติ้ง
ผู้หญิงที่บอบบางคนหนึ่งกำลังนอนซมอยู่บนกระดานไม้ ตอนแรกร่างกายเต็มไปด้วยพลังแต่ตอนนี้กลับกำลังนอน อิดโรยทำให้มองแล้วรู้สึกน่าสงสาร
แต่น่าเสียดายที่ความสงสารของธัชชัยมีให้แค่บางคนกับคน ที่หลอกลวงทําร้ายพี่ชายของเขาจนเกือบตายเขาไม่มีทางที่จะให้ อภัย
“คุณชายธัชชัยครับผมเรียกหมอมาดูแล้วฉีดยาแล้วด้วยแต่ ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่ยอมกินข้าวหมอบอกว่าถ้าพรุ่งนี้ยังเป็นแบบนี้ ต้องบังคับเจาะยาบำรุงเข้าร่างกาย”นิสัยของบุรีกับธัชชัยต่างกัน มากบุรียังมีความเห็นอกเห็นใจอยู่บ้างเห็นคนสวยอย่างกนิษฐา ต้องมานอนซมอยู่แบบนี้ก็อดสงสารไม่ได้
“งั้นก็เจาะไปเลยแค่ให้เธอไม่ตายก็พอ”ธัชชัยพูดด้วยความ เย็นชา
บุรีเห็นหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นของธัชชัยเอ่ยปาก ออกความเห็นไปว่า”คุณชายครับถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปไม่น่าจะใช่ วิธีที่ดีเราใช้ไม้แข็งแล้วไม่ได้ผลไม่ลองใช้ไม้อ่อนดูบ้าง?
ไม้อ่อนงั้นเหรอธัชชัยหัวเราะด้วยความเย้ยหยันเหอะเทอะไม้ อ่อนไม้อ่อนยังไงต้องให้ฉันคุกเข่ากอดขาเธอร้องมั้ย?”
“เอ่อ”บุรีอึ้งในคำพูดของธัชชัยผ่านไปซักพักถึงพูดออกมา ว่า”ไม่ใช่อย่างงั้นครับผู้หญิงคนนี้ดูแล้วน่าจะชอบคุณชายอยู่ ไม่น้อยถ้าคุณชายดีกับเขาหน่อยไม่แน่เขาอาจจะสารภาพทุก อย่างก็ได้”
บุรีรู้สึกว่าจริงๆแล้วกนิษฐาเป็นสาวน้อยที่บอบบางน่าจะ ถนอม
ไม่ควรที่จะโดนธัชชัยทำร้ายแบบนี้
กนิษฐารูปร่างงดงามผิวขาวนวลสวยอย่างกับนางงาม
เสื้อผ้าของเธอเปิดขึ้นเปิดให้เห็นผิวที่นวลเนียนแต่รอยแผลที่ เกิดจากการถูกโซ่ล่ามอย่างแน่นหนาทำให้ดูน่ากลัวน่าตกใจ เป็นที่สุด
“ไอ้บุรีแกมันไอ้โง่เง่าจะให้ฉันใช้ไม้อ่อนกับเธอแกเป็นคนสืบ มาเองนะว่า4เดือนที่แล้วผู้หญิงคนนี้เป็นคนวางแผนปองร้าย ชายของฉันตอนนี้แกก็เป็นพวกเดียวกันกับเธอด้วยหรือไง
บุรีไม่รู้จะตอบคำถามของธัชชัยยังไง เขาแค่ไม่อยากเห็นผู้หญิงที่อ่อนแอไม่มีทางสู้คนหนึ่งต้องมาถูกทรมานแบบนี้
อาจเป็นเพราะคนที่โดนไม่ใช่พี่ชายของตัวเองเลยไม่เข้าใจ ความรู้สึกของธัชชัยแต่ยังไงนิสัยของเขากับธัชชัยก็ไม่เหมือนกัน เลยซักนิด
“วันหลังถ้ามีเรื่องอดอาหารเรื่องไร้สาระเล็กๆน้อยๆแบบนี้ไม่ ต้องมาบอกฉันแกจัดการเองถ้ายังไม่ยอมกินแกก็เรียกคนมาจับ ยัดฉันไม่เชื่อหรอกว่าเธอจะไม่ยอมกินเข้าไปรอผู้หญิงคนนี้ตื่น แล้วค่อยมาบอกฉัน
พูดจบก็ไม่มองผู้หญิงที่อยู่บนเตียงอีกเลยหันกลับแล้วเดินจากไป
ที่บ้านตระกูลศรีทอง
ธัชชัยยืนอยู่ตรงหน้าต่างบานใหญ่รูปร่างสูงตระหง่านเหมือน กระบอกไม้ไผ่ที่ตั้งตรง
ในมือที่ยาวของเขาถือบุหรี่อยู่สูบอย่างจริงจังไม่หยุดที่จะพ่น ควันออกมา
ภายใต้ควันที่ปกคลุม ใบหน้าคือความทุกข์ใจ
ป้าอ้อยทําพาสต้าเสร็จก็ยกออกมาเจอวัสสาอยู่ชั้นสองพอดี ป้าอ้อยเลยพูดว่า “คุณนายคะวันนี้คุณชายรองกินโจ๊กไปแค่ชาม เดียวเองรบกวนคุณนายยกไปให้คุณชายรองหน่อยได้มั้ยคะไม่ งั้นคุณชายต้องหิวแย่เลย”ป้าอ้อยพูดด้วยความเอ็นดู
“เขาโตจนป่านนี้แล้วหิวยังออกมากินเองไม่ได้เหรอคะ?”วจสาพูดด้วยความเย็นชา
ไม่รับงานจากป้าอ้อยแล้วเดินลงบันไดไป
แต่ในขณะที่เธอกำลังจะเดินไปนั้นในใจก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา เป็นเพราะอะไรกันทำไมถึงยังอยู่ในบ้านหลังนี้ คนที่ตัวเองชอบ คืออีกคนแต่กลับแต่งงานกับพี่ชายของคนคนนั้น…ความรู้สึก แบบนี้ทำให้เธอแทบบ้า
เธอคิดถึงขนาดจะหย่ากับวรพล…แต่จะหย่ากันง่ายๆได้ยังไง? ถ้ามันง่ายขนาดนั้นวันนั้นคงไม่แต่งเข้ามาง่ายๆแบบนี้
ก้าวเข้ามาแล้วก็ลึกเกินกว่าจะหันหลังกลับ
วัจสาทิ้งวรพลที่ถูกไฟครอกจนบาดเจ็บไม่ลงจริงๆเห็นได้ชัดว่า เขาต้องการคนดูแล
อีกอย่างอายุตก็ได้วางหมากไว้แล้วถ้าเธอหย่ากับวรพลเรื่อง
วุ่นวายต้องตามมาแน่ๆ
พอนึกถึงสุขภาพที่ย่ำแย่ของวรพลทำให้เธอทิ้งเขาไม่ลง
ป้าอ้อยกับพ่อบ้านภูษิตก็อายุมากแล้วดูแลพวกเขาตลอดไป ไม่ได้
ธัชชัยก็สมควรที่จะใกล้แต่งงานแล้วถึงตอนนั้นเขาก็ต้องมี ครอบครัวเป็นของตัวเอง
จะมีเวลาที่ไหนมาดูแลวรพลมีแต่เธอที่เป็นภรรยานี่แหละที่ ต้องดูแลเขาไปชั่วชีวิต
วัจสารู้ว่าตัวเองไม่ได้สูงส่งอะไรแค่ความรับผิดชอบและจิตใจ ที่เมตตาที่มีมาตั้งแต่เด็กทำให้เธอยอมที่จะอยู่เพื่อดูแล้วรพล
แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับผู้ชายคนนั้นยังไงไม่ใช่แค่ไม่ให้ เกียรติพี่สะใภ้อย่างเธอพวกเขาทั้งสองยังมีความสัมพันธ์แบบ นั้นอีก
พอนึกถึงเรื่องห้องสีชมพูในวันนั้นก็ทำให้วังสาหน้าแดงขึ้นมา
ไม่สามารถควบคุมได้
มันผิดหลักศีลธรรมมากถ้าจะพูดแบบนี้แต่วจสาไม่เคยเสียใจ เลยทีครั้งแรกของเธอมอบให้กับผู้ชายที่ตัวเองชอบ
เขาให้ความรู้สึกที่ทำให้เธอลืมไม่ลง
แต่เรื่องแบบนี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้อีกเป็นครั้งที่สองในตอน นั้นเป็นเพราะถูกคนไม่ดีปองร้ายถ้าระวังอีกนิดก็คงไม่เปิด โอกาสให้ใครมาทำร้ายได้อีก
ธัชชัยที่ยืนอยู่หน้าหน้าต่างบานใหญ่บังเอิญได้ยินเธอยืนคุย อยู่กับป้าอ้อย
เขาไม่คิดเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะเยือกเย็นได้ขนาดนี้แค่ยกพาส ต้ามาให้ยังไม่ยอม
ความเยือกเย็นของเธอทำให้ธัชชัยรู้สึกหงุดหงิด
ปกติคนที่ต้องเปลี่ยนเป็นเย็นชาต้องเป็นผู้ชายแต่ทำไมกับวัจ สาดันกลับกัน
การตอบสนองของเธอนั้นเยือกเย็นยิ่งกว่าสามีที่รักกับ ภรรยาเพียงชั่วข้ามคืนก็หมดความรัก”
ธัชชัยหวนนึกถึงท่าทางของผู้หญิงคนนั้นตอนอยู่ภายใต้ ร่างกายของเขาด้วยความสุขเธอทั้งอ่อนโยนงดงามน่า หลงใหล… แต่ทำไมตอนนี้ถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้
เป็นเพราะเสียใจที่เสียครั้งแรกให้กับเขาหรือเพราะยังคง
คิดถึงปรมะอยู่?
ไอ้คนที่เป็นรักแรกของเธอคนนั้น
พอนึกถึงตอนที่ผู้หญิงคนนี้พูดถึงผู้ชายคนนั้นดวงตาก็สดใส ขึ้นมาทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที
ปรมะคนนี้ทำให้เขาเกลียดจนเข้าไส้
ธัชชัยรับพาสต้าจากมือของป้าอ้อยกินเข้าไปใหญ่
ตอนนี้เขาต้องการคำตอบเพื่อปลอบใจตัวเองหยิบมือถือขึ้น มาโทรหาพ่อบ้านภูษิต พ่อบ้านอีกซักพักเรียกวังสาขึ้นมาข้าง บนบอกไปว่าพี่ชายต้องการพบ
พ่อบ้านภูษิตตกใจพี่ชาย? คุณชายรองคิดจะปลอมตัวเป็น คุณชายใหญ่หลอกคุณนาย
เฮ้อจริงๆแล้วพ่อบ้านเข้าใจในความคิดของธัชชัยที่ไม่ยอมใช้ ฐานะที่แท้จริงเผชิญหน้ากับคุณนายมีอยู่หลายเหตุผล
อย่างแรกคือวันแรกที่วัจสาเข้ามาในบ้านนี้เธอก็ถูกตราหน้าว่าเข้ามาเพราะหวังทรัพย์สมบัติ
เริ่มแรกก็ให้ความรู้สึกไม่ดีซะแล้วแถมตอนแรกยังต่อต้าน ชายที่ยัดเยียดผู้หญิงมาให้
ผู้หญิงที่ยิ่งสวยก็ยิ่งมีพิษ
เหมือนคนสวยอย่างกนิษฐาที่ใช้ความสวยของตัวเองเป็น เครื่องมือมาหลอกลวงพี่ชายที่มีแต่ความจริงใจให้
ยังส่งเขาลงนรกกลายเป็นต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ เขาคิดว่าจสาคือกนิษฐาคนที่สอง
แต่พ่อบ้านภูษิตไม่คิดแบบนั้นในความคิดของเขาวังสาเป็น เด็กสาวที่สะอาดบริสุทธิ์ไร้เดียงสาไม่มีพิษภัยอะไรเธอต้องเป็น คุณนายที่ดีของตระกูลศรีทองเป็นภรรยาที่ดีของธัชชัย
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ