ตอนที่ 50 หย่ายกเลิก
ธัชชัยแค่นเสียงเย็นชา ราวกับว่าไม่อยากจะฟังคำพูดของวิศาล
ในตอนนั้นสองพี่น้องตระกูลศรีทองได้รับบาดเจ็บ มีเพียง วิศาลได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย อีกอย่างก็สามารถช่วยได้เพียงคน เดียว ตามเหตุการณ์ในตอนนั้น ถ้าหากวิศาลไม่วิ่งไปเปิดวาล์ว ด้วยตัวเอง ไม่อย่างนั้นทั้งสามคนก็คงตายอยู่ในนั้นไปแล้ว ดัง นั้นวรพพลจึงเลือกให้วิศาลไปช่วยธัชชัย
พูดตามหลักแล้ว ธัชชัยจะต้องขอบคุณวิศาล น่าเสียดาย
ความเสียสละที่พี่ชายวรพลมีต่อเขา มันทำให้ธัชชัยทรมานใจ ที่สุดแล้ว โดยเฉพาะวรพลที่มีสภาพอย่าง47 ในตอนนี้ ที่เหมือนตายทั้งเป็น ตัวเขาเองก็ไม่มีความคิดที่จะ
อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้ว ธัชชัยดูเหมือนจะเจ็บปวดมาก แต่ไม่มี
ทางที่จะระบายความกลัดกลุ่มนี้ออกมา
“คุณสามารถเลือกที่จะช่วยพี่ชายผมได้ ทำไมคุณต้องฟังคำ พูดของพี่ชายผมด้วย ทำไมคนที่ถูกทอดทิ้งถึงไม่ใช่ผม!?” ธัชชัย ชัยชกเข้าไปบนกำแพงหิน เลือดเริ่มไหลออกจากมือของเขาช้าๆ เหมือนกับว่ายังไม่พอ ชกเข้าไปอีกหมัดและอีกหมัด
วิศาลไม่ได้ห้ามการกระทำที่ทำร้ายตัวเองของธัชชัย เขารู้ว่า พูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรทั้งนั้น เมื่อก่อนก็อธิบายกับเขา ตั้งนาน แต่ว่าเขาก็เหมือนกับไม่ได้ยิน เขายังไม่ยอมรับพี่ชาย ของตัวเอง จริงๆ แล้วธัชชัยก็ไม่ได้เกลียดเขาจริงๆ เพียงแค่ความเจ็บปวดที่มันสะสมอยู่ในใจของเขามันมากเกินไป ตัวเองก็ สามารถเป็นคู่ระบายความกลัดกลุ้มในใจให้เขาได้ อย่างนี้ก็ สามารถทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาอีกหน่อยได้ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?
โสธรที่อยู่ข้างๆ เพียงแค่อยากจะปิดตาทั้งสองข้างเอาไว้ไม่ อยากสนใจอะไรทั้งนั้น แต่ว่าทั้งสองคนนี้ต่างก็เป็นพี่น้องของเขา จะไม่สนได้อย่างไรล่ะ?
“อาศัย อย่าทำแบบนี้เลย ดิฉันแทนเถอะแต่นายต้องชดใช้ค่า เสียหายให้ฉันนะ” โสธรพูดล้อเล่น
ธัจชัยที่ทุบกำแพงอยู่นั้นก็หยุดลง ค่อยๆ หันตัวกลับไปมอ งดูโสธรที่หน้าตาหล่อเหลาปานเทพบุตร “ตกลงวันนี้ที่นายเรียก ฉันมาได้เบาะแสของผู้หญิงที่ชื่อกนิษฐาไหม?”
โสธรพยักหน้า แค่นเสียงนุ่มลึก “ต้องมีแน่นอน
คืนที่ดึกสงัด บนท้องฟ้าในคืนนี้ไม่มีดวงดาว และไม่มี พระจันทร์ รถเฟอรารี่สีดำคันหนึ่งที่วิ่งอยู่บนถนนกลมกลืนไปกับ สีของความมืด ไม่นานก็ถึงบ้านตระกูลศรีทอง
ธัชชัยที่มีกลิ่นบุหรี่ติดตัวอยู่กลับมาถึงห้องพักแขกชั้นหนึ่ง พบ
ว่าไม่เจอเงาร่างที่คุ้นเคยเงานั้นอยู่
ดังนั้นจึงเดินขึ้นไปชั้นสอง นอกจากสองที่นี้แล้วผู้หญิงคนนี้ก็ ไม่มีที่ไหนที่ไปได้แล้ว ที่แท้ก็อยู่ที่ห้องหอชั้นสอง มองเห็นเงาร่าง เล็กๆ อยู่บนที่นอน ถ้าหากไม่ตั้งใจดู เกือบจะมองไม่ออกว่ามีคน อยู่ในนี้ ร่างกายของเธอช่างสวยน่ารักเกินไปแล้ว หรือว่าธัชชัย ควรจะขุนให้เธออ้วนๆ กว่านี้ซะแล้ว
หลอดไฟเล็กที่อยู่ตรงหัวเตียง เหลืองอ่อนสาดส่องไปที่ หน้าที่นุ่มนวลและงดงามของเธอ จิตใจที่กระวนกระวายทำให้ ธัชชัยอยากจะปลุกใจสาผู้หญิงคนนี้ตื่นเสียเดี๋ยวนี้เลย เธอถึงนอนหลับสนิทขนาดนั้น? เธอไม่เรื่องที่สบายใจ สักเลยเหรอถ้าไม่มีก็ขึ้นมาแบ่งเบาความไม่ สบายใจของเขาหน่อย
คืนเจอกับวิศาล คิดถึงเหตุการณ์ในวันนั้นขึ้นพี่ชาย ถูกลุกโหมกระหน่ำกลืนเข้าไป ยอม มือทั้งยังอยู่ครบ ที่ควรตายไม่ควรเป็นเขาเห รอ?
มองดูหน้าที่สวยงามมีเสน่ห์ของเธอ เขาตื่น ความฝันยากได้มาให้เธอได้อีกทันใดนั้น ใบหน้าเล็กๆ ของผู้หญิงคนนั้นก็ขมวดคิ้วเบาชัยได้ว่าตัวเขามีกลิ่นเหล้าและกลิ่นบุหรี่
เขาจึงเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ ในในห้องเปลี่ยนเป็นอากาศดีมากขึ้น
เมื่อก่อนธัชชัยได้สนใจเรื่องอะไรทำจนกลายเป็นความเคยชิน อยากสูบบุหรี่ตอนไหน ก็สูบตอนนั้น
จริงๆ แล้วมีความร้อนใจไม่เป็นสุขมากเกินไปจนมีวิธี ระบายออกไป ธัชชัยหยิบเอาบุหรี่กล่องหนึ่งออกจากกระเป๋ากางเกง ถึงอย่างไรก็เปิดเครื่องฟอกอากาศแล้ว ก็ไม่ควรให้มัน ลอยไปถึงผู้หญิงคนนั้นแล้ว
ควันบุหรี่ลอยขึ้นเป็นเกลียว ใบหน้าที่หล่อเหลาอีกครึ่งหนึ่ง ของธัชชัยซ่อนเร้นอยู่ในความมืด น่าสะพรึงกลัวจนพูดไม่ออก แต่ยังคงหล่อเหลาอยู่ ธัชชัยรู้สึกตัวได้ก็หันหน้ากลับไปมอง ใบหน้าอันงดงามตรงหัวเตียง เป็นผู้หญิงที่อยู่ในการควบคุมได้ ของเขาก็พอแล้ว
แกล้งเธอบางครั้งบางคราว ชีวิตก็ไม่ถึงกับเป็นทุกข์ใจขนาด นั้น จนถึงตอนนี้ วังสาที่อยู่ในใจของเขาก็เป็นได้เพียงตำแหน่งนี้ อยู่ๆ บุหรี่ก็ดูดหมดอย่างไม่รู้ตัว เขาโดนไปที่ก้นบุหรี่ลวก ถึง ได้สติกลับมา ตัวเองจ้องผู้หญิงคนนี้นานมาก
คืนนี้ ธัชชัยนอนไม่หลับจนถึงรุ่งสาง
ท้องฟ้านอกหน้าต่างก็กลายเป็นสีขาวพุงปลาแล้ว พระอาทิตย์ ในรุ่งเช้าต้องขึ้นทิศตะวันออก ความสวยงามและสลัวในตอนรุ่ง สาง ทำให้คนจมดิ่งเข้าไปในความฝันได้ง่ายๆ วจสาก็พลันตื่น ขึ้นมา ไม่ใช่ถูกปลุกให้ตื่น ในใจรู้สึกเหมือนมีเสียงของคนๆ หนึ่งเรียกให้ตื่นขึ้นมา
ตอนที่ลืมตาขึ้นมายังสายตายังพร่ามัวอยู่ ได้กลิ่นเหมือนกับ กลิ่นบุหรี่ขมุกขมัว เธอจึงไอขึ้นมาสองสามที
“ได้กลิ่นเหรอ?” เป็นเสียงแหบพล่าของเขา สูบบุหรี่ทั้งคืน มิน่าล่ะเสียงของธัชชัยถึงได้แทบอย่างนี้
วัจสาตกใจอย่างเห็นได้ชัด ถึงได้สังเกตเห็นเงาร่างสูงโปร่งที่นั่งอยู่บนโซฟา และเห็นไฟที่ก้นบุหรี่เดี๋ยวก็สว่างเดียวก็มีดอยู่ ตรงที่เขี่ยบุหรี่ข้างๆ
ท่าทางที่เพิ่งตื่นของวัดสาช่างทำให้คนหลงใหล ใบหน้าขาว อมชมพู แววตาที่ถูกปลกคลุมไปด้วยหมอกหนึ่งชั้นที่เบิกกว้าง อย่างน่าสงสาร หัวใจของเธอเต้นตุบๆ เบาๆ “มะ…ไม่ คุณมาอยู่ ที่นี่ได้ไง?”
ได้ยินเสียงของเขา เหมือนกับไม่ได้นอนมาทั้งคืน อาจจะมี เรื่องที่ไม่สบายใจก็เลยทำให้เขากลุ้มใจจนเป็นสภาพแบบนี้เห รอ?
ธัชชัยไม่ได้ตอบกลับ แต่น้ำเสียงของวันสาก็ไม่ตกใจขนาดนั้น เหมือนกับว่าเธอก็รู้มานานแล้ว ว่าเขาจะปรากฏขึ้นในห้องนี้ โชคดีที่เขาไม่ได้หลับบนเตียงเดียวกันกับเธอ เธอยังไม่ลืมคำพูด ที่พูดเมื่อวาน จะต้องรักษาระยะห่างจากธัชชัย
วังสาอดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าเขาสำนึกบาปบ้างหรือเปล่า ก็เลย ไม่คิดที่จะตอแยกับเธออีก แต่ว่าครั้งนี้วจสาคิดมากเกินไปแล้ว ธัชชัยไม่มีอารมณ์แบบนั้นแค่ชั่วคราวเท่านั้นเอง
“วังสา”
“หืม?” วัจสา จิตใต้สำนึกของวัจสาตอบรับหนึ่งเสียง
“ฉันจะไปต่างประเทศสองสามวัน” เป็นเพราะสูบบุหรี่ เสียง ของเขาจึงแหบพร่าเกือบจะเหมือนกับเสียงของวรพล วังสามี ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก แต่ว่านี้ไม่ใช่ประเด็นสำคัญใน การสนทนา ในตอนนี้ แต่ว่าทำไมธัชชัยจะต้องไปต่างประเทศด้วยล่ะ
“คุณไปคนเดียวเหรอเหรอวังสาคิดได้ในตอนเพียงเรื่องเกี่ยวกับวรพล ก่อน หน้านี้เคยป้าอ้อยพูดแล้ว เรื่องเตรียมการนานมาก ถ้าสามารถได้ตอนมันก็กว่า ถึงอย่างไรร่างกายของวรพล ไม่สามารถ
ไม่ เดียว ใช่เรื่องของชาย
ธัชชัยเสร็จ ก็แค่นเสียงเย็นซา แต่ก็นับว่าเกี่ยวเขา ฉันแค่กระดูกของเขากลับมา
ในใจของธัชชัยก็เคร่งเครียดขึ้นมา จึงถามว่า “เกิดเรื่อง อะไรขึ้น? ทําไมพูดว่าเอากระดูกของเขากลับมาการ รักษาไม่ใช่สามารถรักษาหายขาดได้เหรอ
หากคนๆ หนึ่งไม่มีความปรารถนาที่อยากอยู่แล้ว ต่อให้หมอชำนาญในการรักษาหรือยารักษากว่านี้ไม่มีกับตอนพี่ไม่มีความปรารถนาอยากแล้วน้ำเสียงเศร้า วัจสาเองเสียใจโดยไม่สายปลายเหตุ
สิ่งสามารถทำให้วรพลมีความปรารถนาจะชีวิตอยู่ก็เพียงแค่กนิษฐาคนเดียว
เธอจึงถามหยั่งเชิงเป็นเพราะกนิษฐาไหม”
ในตอนทีธัชชัยได้ยินชื่อผู้หญิงคนนี้ ความดุร้ายก็ฉายขึ้นมา จากแววตา ตอนนี้เมื่อเขาได้ยินชื่อของผู้หญิงคนนี้ก็ทำให้เขา เยื่อสุดๆ
ความโหดร้ายของธัชชัยได้ยืนยันแล้วว่าเป็นเพราะกนิษฐาผู้ หญิงคนนี้ที่ทำให้วรพลอยากยอมปล่อยชีวิตไปวัดสาคิดไม่ถึง ในชีวิตจริงจะมีความรักที่เป็นนิรันดร์ เดิมทีก็เห็นแค่เนื้อหาใน ละครหลังข่าวเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะได้มาเจอในชีวิตจริง
เธอคิดไม่ถึงว่าสามีของเธอจะชอบผู้หญิงคนอื่นถึงขนาดนั้น จนกระทั่งไม่อยากมีชีวิตอยู่ไม่รู้ว่าทำไมในใจเหมือนกับถูกอะไร บางอย่างแทงเข้ามา รู้สึกเสียใจอย่างบอกไม่ถูก ในเวลา เดียวกันรู้สึกไม่ยุติธรรมกับธัชชัย และก็รู้สึกเจ็บปวดใจแทนตัว เอง
วัจสาเม้มปาก “วรพลรักคุณขนาดนี้ ไม่ทิ้งคุณไปหรอก ดังนั้น คุณก็ต้องไม่ยอมแพ้
“เธอคิดว่าฉันจะยอมแพ้อย่างนั้นเหรอ!? ถึงฉันยอมแพ้ ใครก็ ไม่สมารถยอมแพ้พี่ชายของฉันได้ แต่ว่านี่เป็นพี่ชายที่ทอดทิ้ง ฉันเอง เขาเพื่อผู้หญิงคนเดียวแล้ว ก็ไม่ปรารถนาที่จะอยากมี ชีวิตอยู่ต่อแล้ว! เธอรู้ว่าอาการป่วยของเขาช่วงนี้รุนแรงมากแล้ว ใช่ไหม? ฉันเห็นเขาเป็นแบบนี้ ฉันปวดใจ ปวดใจเหลือเกิน! คน ที่อยากจะตายมันเป็นฉันเอง!”
แต่ไหนแต่ไรมาธัชชัยไม่เคยพูดคำพูดที่ฟังดูสะเทือนใจขนาด นี้มาก่อน เส้นเลือดของเขาก็ปิดปนออกมา ค่อยๆ หลับตาลง
วังสาเห็นเขาเหมือนกับสัตว์ตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บ อดไม่ได้ที่จะลงจากเตียง ค่อยๆ คุกเข่าลงที่พื้นและมองไปที่เขา พยายามใช้น้ำเสียงที่อ่อนโยนที่สุด
“ชัชชัย วรพล ในตอนนี้ต้องการคุณนะ ไม่ใช่ว่าเขาบอกว่าย อมแพ้แล้วก็สามารถยอมแพ้ได้เลย ไม่อย่างนั้นคุณก็คงไม่ยืน หยัดมาจนถึงตอนนี้ พิสูจน์ได้ว่าภายในใจของเขายังไม่ยอม ปล่อยคุณน้องชายของเขาคนนี้ เขาอยากเห็นคุณมีความสุข แต่ ว่าตอนนี้คุณไม่มีความสุขเลยแม้แต่น้อย ไม่ใช่เหรอ? ทำให้เขารู้ ว่าเมื่อไม่มีวรพล คุณจะใช้ชีวิตอย่างขมขื่นมากกว่าใคร นี่ถึงจะ เป็นความกังวลใจของเขา
พระอาทิตย์ค่อยๆ ส่องแสงสว่างจ้า ความอบอุ่นของดวง อาทิตย์สาดส่องมายังใบหน้าอมชมพูของวัสสา ผู้หญิงที่เท้า เฟือยเปล่า กำลังนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าของเขา เหมือนกับภรรยา ที่เข้าอกเข้าใจผู้อื่นกำลังปลอบใจสามีที่ได้เจอกับอุปสรรคใน การใช้ชีวิต
ธัชชัยมองเข้าไปในดวงตาของวังสา สีดำสีขาวในนั้นแยก ออกชัดเจน ใสสะอาด ทำให้คนรู้สึกสบาย ผู้หญิงคนนี้เหมือนกับ ที่พี่ใหญ่พูดเอาไว้ไม่มีผิด ไม่มีแผนการอะไรใช่ไหม? วินาทีนี้ เขา เกือบจะเชื่อแล้ว
เขาก็หลับตาลงที่อๆ เมื่อเขาลืมตาขึ้นครึ่งหนึ่งก็ยังเต็มไปด้วย เส้นเลือด แสดงให้เห็นว่าสงบลงแล้ว “รู้แล้ว ฉันจะจัดการเรื่องนี้ ให้ดีที่สุด หลังจากที่ฉันจากไป คุณไม่สามารถเดินเตร่ไปทั่วตาม อำเภอใจไม่ได้ อย่าได้ไปสมรู้ร่วมคิดกับพวกผู้ชายยุ่งเหยิงกลับมาล่ะ
วังสาไม่ค่อยชินกับความสามารถในการเปลี่ยนหัวข้อสนทนา เร็วอย่างนี้ของธัชชัย เธอไปสมรู้ร่วมคิดกับผู้ชายตั้งแต่เมื่อไหร่? ถ้าหากเป็นเพราะครั้งที่แล้วที่อยู่ตรงโค้งสะพานล่ะก็ ผู้ชายคน นั้นยังอยู่ในใจอีกเหรอ? แต่ว่าความพูดพวกนี้ทำไมถึงได้ออกมา จากปากของเขาที่เป็นน้องชายสามีล่ะ?
ถึงแม้ว่าจะคิดแบบนี้ ทว่าใบหน้าของเธอก็เริ่มร้อนผ่าวขึ้นมา เพื่อเป็นการไม่ยั่วโมโหเจ้าหมีอารมณ์ร้อนตัวนี้ วังสาเลือกที่จะ ตอบกลับไปอย่างว่าง่าย “รู้แล้วๆ ฉันไม่ทำเรื่องแบบนั้นหรอก”
เห็นเธอตอบตัวเองกลับมาอย่างอ่อนโอนผ่อนตาม ในใจของ ธัชชัยก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อยอย่างบอกไม่ถูก
“คุณรีบลุกขึ้นมาเถอะ ยังเป็นเด็กอยู่เหรอ? เดินเท้าเปล่าบน
พื้นที่เย็นขนาดนี้ ไม่สบายขึ้นมาจะทำยังไง?” ธัชชัยตำหนิเสียง
เบาๆ แต่ว่าในน้ำเสียงนั้นกลับเต็มไปด้วยความห่วงใย
ใต้จิตสำนึกของวังสาแลบลิ้นออกมาหลายปีแล้ว ท่าทาง ราวกับเด็กผู้หญิงที่น่ารักคนหนึ่ง ธัชชัยเกือบจะอดไม่ได้ที่จะ เข้าไปจูบอีกสักที
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ