ตอนที่ 42 หึงหวง
“ธัชชัย คุณ… ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!” วังสายังคงต่อสู้ขัดขืนต่อไป
ธัชชัยสูดหายใจเข้าลึกๆ ค่หนึ่ง ถูกเธอเสียดสีโดยไม่ได้ ตั้งใจ ทว่ายังไม่สามารถเผด็จศึกเธอได้ ทำได้เพียงพูดเสียงต่ำ ว่า “วางใจเถอะ ฉันไม่ทำอย่างนั้นกับคุณหรอก ร่างกายของคุณ ยังไม่สะดวก ใช่ไหม?”
เขาทําได้เพียงกัดฟันกรอดๆ ด้วยความโกรธ เอาความคิดนั้น
ซ่อนเอาเอาไว้
ทว่าวจสากลับไม่เชื่อ คำพูดของผู้ชายคนนี้ไม่น่าเชื่อถืออีก แล้ว และในที่สุดมือของเธอก็เป็นอิสระ
“คุณ…
“บอกว่าไม่ให้ขยับก็คือไม่ให้ขยับ แต่ถ้าหากว่าคุณยังดิ้น ขัดขืนอยู่ ฉันก็จะไม่รับประกันว่าฉันจะเผด็จศึกเธอ!” เพียงแค่ทำ เสียงตำหนิเขาวจสาก็หยุดต่อสู้ขัดขืนแล้ว
เขาสังเกตได้ว่าเธอค่อยๆ อ่อนตัวลงตรงหน้าอกของเขา นิ่ง สงบเหมือนกับแมวน้อยที่กำลังหลับอยู่ตัวหนึ่ง
และวัจสาก็สามารถรับรู้ได้ถึงเสียงหัวใจที่เต้นอยู่ของเขาได้ อย่างชัดเจน หนึ่งครั้งและหนึ่งครั้ง ดูแข็งแรงและมีพลัง
เป็นที่รู้กันทั้งสองฝ่ายนี้ไม่มีให้เห็นได้บ่อยครั้ง ทำให้ทั้งสองคนเงียบไป
น้ำตาของวังสาไม่รู้ว่าแห้งไปตอนไหน ค่อยๆ หลับใหลเข้าไป ในดินแดนแห่งความฝัน…
สาเหตุที่ทำให้ตื่นสะดุ้งขึ้นมาอีกครั้งก็เพราะว่าเสียงโทรศัพท์ ของธัชชัยขึ้น หลังจากที่วัจสาตกใจตื่นขึ้นมา ถึงได้พบว่าตัวเอง นอนอยู่กับธัชชัยแล้ว! อีกทั้งยังอยู่ในอ้อมกอดเขาอีกด้วย! นอน กอดกันและสบตาอยู่กับน้องชายของสามีตัวเอง นี่ตัวเองกำลัง ทำเรื่องอะไรอยู่กันแน่? วังสาในเวลานี้อยากที่จะใช้ฝ่ามือตบตัว เองสักที จะได้เรียกสติตัวเองกลับมา
รอจนธัชชัยออกไป สองมือเธอค่อยๆ เอามาปิดหน้าตัวเอง ร้องไห้ออกมาไม่มีเสียงน้ำตาไหลพรากลงไปตามง่ามมือ
วังสา เธอลองถามใจตัวเองดู ว่าทำแบบนี้ละอายใจต่อวรพล
ที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยบ้างหรือไม่? วันๆ เธอก็เอาแต่ตำหนิรัช
ชัยว่าเขาทําผิดต่อพี่ชายของตัวเอง แล้วเธอล่ะ? เธอละอายใจ
ต่อสามีของตัวเองบ้างไหม?
วัจสาถามตัวเองพร้อมกับตำหนิตัวเองอยู่ในใจ ในที่สุดก็ ตัดสินใจแล้ว จะต้องอยู่ให้ห่างจากธัชชัยผู้ชายคนนี้อย่างเด็ด ขาด เขาเป็นซาตานตนหนึ่ง ไม่เพียงแต่ดึงตัวเองลงนรกด้วย ยัง ดึงคนอื่นลงนรกไปด้วย
วัจสาไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าถ้าหากวรพลมาเห็นฉากที่เธอกับธัชชัย กำลังนอนกอดกันอยู่นั้น เขาจะมีความสุขมากแค่ไหน เหตุการณ์ อย่างนี้เป็นสิ่งที่เขาปรารถนาอยากจะเห็นมาโดยตลอด ถ้าหากว่าจะมีผู้หญิงสักคนสามารถเดินเข้าไปในหัวใจของธัชชัยได้ นี่ก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้ว
นับวันวัสสายิ่งกังวลใจขึ้นเรื่อยๆ เพราะว่าเวลายิ่งผ่านไปเร็ว ยิ่งเข้าใกล้วันหยุดสุดสัปดาห์เข้าไปทุกทีๆ อีกอย่างเธอเองก็ยัง ไม่ได้นําคําพูดของคุณน้าวราลีไปบอกธัชชัยเลย
นับตั้งแต่คืนวันนั้น วันสาก็พบหน้าธัชชัยได้น้อยมาก ในตอนที่ กินข้าวก็เป็นเธอที่กินก่อน เขาค่อยกินทีหลัง ในบางครั้งบางครา สายตาของคนทั้งสองก็บังเอิญมาสบตากัน โดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็ รีบหลบสายตากันอย่างรวดเร็ว
อีกอย่างวิจสาก็ไม่อยากจะเสวนากับธัชชัยเลยแม้แต่น้อย เธอ อยากจะรักษาสภาพจิตใจของตนให้สงบ ไม่อยากรับรู้คราว คราวใดๆ ที่เกี่ยวกับธัชชัยอีก เพราะมันส่งผลกระทบต่อความ รู้สึกเธอ
ทว่าวันนี้ก็วันเสาร์แล้ว พรุ่งนี้ก็เป็นที่ต้องไปบ้านตระกูลเดิมขุน ทดแล้ว แม้แต่ประโยคเดียวเธอก็ยังไม่ทันจะได้คุยกับธัชชัยเลย
ต่อมาวจสาก็คุยกับตัวเองอยู่ในใจไม่หยุด: ยังไงก็ต้องพูด ออกไป ธัชชัยจะไปหรือไม่ไป จะลงทุนหรือไม่ลงทุน ก็ให้เขา พิจารณาด้วยตัวเขาเอง เป็นถึงผู้นำยักษ์ใหญ่ในกลุ่มธุรกิจตลาด เอส ก็จะต้องมีความสามารถอยู่แล้วล่ะ ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่น เป็นห่วงเขาเลย
วันสาล้างสมองตัวเองสำเร็จแล้วก็เตรียมตัวรอเขากลับมาใน ตอนเย็น พยายามพูดกับเขาให้ชัดเจนเพียงแค่รอบเดียว
คิดไม่ถึงว่าตอนห้าโมงเย็นกว่าๆ เสียงรถสปอร์ตของธัชชัย มาถึงแล้ว เย็นนี้กลับมาเร็วกว่าปกติก่อนหนึ่งชั่วโมง
วจสารีบเปลี่ยนเสื้อผ้าดีๆ วิ่งลงจากตึกไปรับเขา แต่ว่าพอไป ถึงห้องรับแขกแล้ว เธอก็ต้องหยุดชะงักฝีเท้าทันที เพราะว่าคนที่ เธอเห็นไม่ใช่แค่คนเดียว
คนที่กลับมากับธัชชัยด้วยอีกคนเป็นผู้หญิง ดูเหมือนว่าจะเป็น ลูกครึ่ง สวยมาก เส้นผมเหยียดตรงไม่ยุ่งเหยิงยาวประบ่า ดวงตาไข่มุกสีเขียวมรกต สันจมูกโด่งเรียวยาวได้รูป ใบหน้าที่ เปี่ยมเสน่ห์งามเฉิดฉาย
วัชสาเคยเห็นเธอตอนที่อยู่งานประผู้ถือหุ้นบริษัทบริษัทบีเค เทโร เป็นผู้หญิงอัจฉริยะที่เรียนจบจากอเมริกา ถูกวรพลแต่งตั้ง ให้เป็นฝ่ายการเงินเชี่ยวชาญในแก่นแท้การเงินของบริษัทเป็น อย่างดี ไม่เพียงแต่มีรูปร่างที่ดี ยังมีมันสมองที่เก่งกาจอีกด้วย
ในมือของเธอถือกระเป๋าหนัง ตอนที่เห็นวังสา ก็พยักหน้า เบาๆ พร้อมกับยิ้มบางๆ ให้เธอ และกล่าวคำทักทาย การพูดจา และกริยาท่าทางสง่ายิ่ง
ยืนอยู่กับธัชชัย ผู้ชายหล่อ ผู้หญิงสวย ดูดีมีเสน่ห์ เหมาะสม กันอย่างกับกิ่งทองใบหยก
วัจสายืนเซ่อซ่าอยู่ตรงนั้น เผยรอยยิ้มที่น่าเกลียดยิ่งกว่าการ ร้องไห้ออกมา และเยี่ยวตัวหลีกทางให้พวกเขาสองคนเดิน
ทว่าผู้หญิงคนนี้กับธัชชัยยังไม่ได้เดินเข้าไป ยืนพูดภาษา อังกฤษอย่างคล่องปากประโยคหนึ่งอยู่ตรงประตู จากนั้นก็เข้าไปกอดธัชชัยหน้าประชิด…
ในใจของวัดสาก็รู้สึกแปลกยากแกความเข้าใจ อึ้งตรึงอยู่ที่ เดิม เขากับผู้หญิงคนนี้มีความสัมพันธ์อะไรกัน? แต่ถ้าพวกเขา มีความสัมพันธ์กันแล้วมันเกี่ยวอะไรกับตัวเองล่ะ? เธอยิ้มมาทาง ตัวเองครั้งหนึ่ง
ตั้งแต่ธัชชัยเห็นวังสา ก็ไม่เผลอแสดงสีหน้าใดๆ ต่อเธอ
ตอนแรกก็ยังเห็นหน้าตาร่าเริงออกมารับตัวเอง อาจจะเป็น เพราะว่ารีบวิ่งเกินไป ใบหน้าที่ขาวราวกับหยกก็เลยแดงระเรื่อ ขึ้นมา ช่างดูน่ารักอะไรขนาดนี้ ตอนที่เห็นหน้าแพรว ก็เหมือนจะ เซ่อซ่าแล้ว ยิ่งตอนที่เห็นตัวเองกับแพรงกอดกันหน้าประชิด ท่าทางยิ่งดูหดหู่ใจไม่น้อย
หัวใจที่แข็งกระด้างของธัชชัยก็พลันเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนขึ้น มา ผู้หญิงคนนี้กำลังทิ้งอยู่เหรอ? แต่ว่าท่าทางแบบนี้มันน่ารัก เกินไปจนเขาพูดไม่ออก
ที่แก้มชนแก้มกับแพรวนั้นก็เป็นเพียงธรรมเนียมในการ ทักทายเท่านั้น เธอคงไม่ได้คิดว่าระหว่างพวกเขาจะมีอะไรลึกซึ้ง หรอกนะ?
แพรงหยิบเอาแฟ้มเอกสารหนาตีบออกมาจากกระเป๋าหนังใบ เล็กออกมา และหยุดพักชั่วคราวจึงกล่าวคำลา ธัชชัยหันตากลับ มา ก้าวเดินอย่างมั่นคงเดินไปหาวัจสาที่รอตัวเองอยู่ในห้อง รับแขก
ธัชชัยเห็นท่าทางอย่างนี้ของวังสา ก็อยากแกล้งเธอขึ้นมาทันที ยื่นมือไปลูบศีรษะเธออย่างอ่อนโยน “วันนี้ทำไมดีอย่างนี้ นึกไม่ถึงว่าจะมารับฉันด้วย”
ถึงแม้ทํางานในวันนี้จะเหนื่อยมาก แต่ว่าเมื่อเขาเห็นเธอแล้ว
ก็พลันรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
วันสาดไปที่มือปลาหมึกของ “ฉันก็ดีมากมาตลอด เป็นคุณที่ ไม่เข้าใจความดีของฉันพี่สะใภ้คนนี้ก็เท่านั้นเอง”
เธอถลึงตาใส่ธัชชัยเบาๆ ทว่ากลับไม่กล้าพูดอะไรอีก กลัวว่า ธัชชัยจะเกิดบ้าขึ้นมาอีกครั้ง ถึงอย่างไรในเวลานี้ในตอนที่เขา อ่อนโยน พอวินาทีถัดไปก็สามารถเปลี่ยนไปเป็นหมาป่าได้
พอเธอพูดเสร็จก็เดินตรงไปยังห้องพักแขก เหลือเอาไว้แค่ฉาก หลังที่เย็นชา แต่ว่าหากคิดอีกที ไม่ถูก ตัวเองไม่ได้ออกไปรับ เขาสักหน่อย ก็แค่อยากพูดคำพูดของคุณน้าวลาลีกับเขาเท่านั้น
เธอก็เลยหยุดชะงักแล้วหันกลับไป คิดไม่ถึงว่าพอหันกลับไปก็ ชนเข้ากับหน้าอกของเขาทันที หน้าผากของเธอก็กระแทกไปยัง คางที่เห็นเค้าโครงได้ชัดเจน
ธัชชัยก็ถูกเธอชนเข้าอย่างจังโดยที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว รู้สึกเจ็บ คางนิดหน่อย เขาอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปลูบคลำ “เธอ เปลี่ยน ความตั้งใจมาเป็นยอมที่จะอิงแอบแนบชิดซบอยู่ในอ้อมอกแล้ว เหรอ?” ดวงตาเต็มไปด้วยความสนุกสนาน
วัจสาไม่รู้สึกถึงท่าทางแบบนี้ของเขามันน่ารักขนาดไหน ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อ ไม่สะทกสะท้านกับเหตุการณ์นี้ข้างนอกมีผู้หญิงเยอะแยะมากมาย ใครบ้างล่ะอยากจะ อิงแอบแนบชิดซบอยู่ในอ้อมอกมากกว่า ฉันไม่อยากจะแซงใครหรอก คงเป็นคนอื่น มากกว่าอยากคิวน่ะเบาๆ
“ประโยคสุดท้ายพูดว่าอะไรนะ?” ธัชชัยกดเสียงถาม
ไม่อะไร คุณน้าวลาลีของฉันนัดคุณให้ไปงานในวันพรุ่ง ฉันเอาคำพูดนี้มาบอกแล้ว จะหรือไม่ไปก็เรื่องของคุณ แต่ เตือนคุณด้วยความหวังนะสาวที่สามของตระกูลมาก อย่าพลาดเชียวล่ะวังสาพูดเสร็จก็เหลือบไปมองธัชชัยด้วย สายตาเย็นชา
ธัชชัยมุมปากยกยิ้มน้อยๆ ทั้งเต็มไปด้วยกลิ่นไอเย็นยะ เยือก เขาแฟ้มเอกสารโยนไปบนโซฟา มองวจสาตั้งแต่หัว จรดเท้า “คุณไม่เสียดายฉันใกล้ชิดกับพวกเธอเหรอ”
วรพลหวังให้คุณแต่งงานลูกสักที โดยเฉพาะอย่างยิ่งแต่ง ลูกคนของตระกูลเดิมขุนทดเข้าบ้าน ล้วนความ สัมพันธ์เกี่ยวดองกับที่เป็นสะใภ้ ล่ะ?
ถ้าหากเธอพูดจริง จะแนะนำภรรยาหลวงภรรยาน้อยหากทำอย่างนี้ไม่ค่อยจะยุติธรรมแล้ว ธัชชัยพูดเสียงต่ำ
ไม่ยุติธรรมกับเธอเหรอ? เกี่ยวอะไรกับเธอล่ะ? อยากจะแต่ง เข้ามาเท่าไหร่ก็เท่านั้น เพียงแค่อย่าทำให้ในบ้านวุ่นวายไม่สงบ ก็พอแล้ว วังสารู้สึกว่าไม่ว่าจะความสามารถของลูกสาวคนใด คนหนึ่งของตระกูลขุนทดก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ฟังดูน้ำเสียงของธัช ชัยแล้วเหมือนกับว่าอยากแต่งเมียเข้าบ้านสองคน
“จะยอมรับหรือไม่ก็เรื่องของคุณ คำพูดที่ฉันรับมาพูดไปหมด แล้ว พรุ่งนี้ตอนเย็น พวกเขาจะรอดที่บ้านตระกูลขุนทด” พูดเสร็จ วจสาก็เดินต่อไป เดินไปยังห้องพักแขก
ตั้งใจแกล้งทําท่าทางเย็นชาออกมา แต่ว่ารักษาระยะห่างจาก ผู้ชายอันตรายคนนี้ได้เป็นดีที่สุด ถ้าหากว่าใกล้ชิดกับเขาแบบ นั้นอีก ก็คงต้องขอโทษวรพลแล้ว ถึงอย่างไรเธอก็เป็นภรรยา ของวรพล ไม่ใช่ภรรยาของธัชชัย
ตระกูลเดิมขุนทด
วราลีอยู่ด้านนอกห้องครัวมองไปยังพ่อครัวที่ยุ่งจนมือพันกัน ใบหน้ากลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีความหมาย จากที่ถามวจสา ครั้งที่แล้ว ธัชชัยชอบกินอะไร วราลีก็จดจำเอาไว้ วันนี้ได้เชิญพ่อ ครัวเตรียมทำของว่างที่พิเศษเอาไว้ ให้ภาวินีส่งมาให้
ยุ่งอยู่กับมันมาหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดก็เสร็จแล้ว
วราลีหยิบเอาขนมของว่างออกมาจากเตาร้อนๆ และห่ออย่าง ตั้งใจ ขึ้นไปชั้นบนไปหาภาวินี ก็เพื่อให้เธอสร้างโอกาสนี้ ทำให้ ธัชชัยประทับใจให้ได้
ไหนเลยจะรู้ว่าเรื่องในครั้งที่แล้วที่ถูกธัชชัยปฏิเสธยังรู้สึกพะวง ในตลอดเวลา อย่างตามเธอเป็นผู้หญิงที่เคารพ ใจตัวเองมาก มีผู้ชายมากมายขนาดนั้นอยากเธอของ ล้ำธัชชัยปริบยังทำให้คนกลับมา
เรื่องไม่ถูกรสรินหัวเราะมาครั้งแล้ว
“ฉันไม่เธอปฏิเสธอย่างเย็นชา ความจริงแล้วเธอยังอยาก เจอธัชชัยมาก ผู้ชายทั้งหล่อรวยมากขนาดนั้น จะไปหา ที่ไหนได้? แต่พบกันครั้งแรก เธอตกแล้ว
วราลืมเธอด้วยความตกใจ ลูกสาวคนรองนี้ชอบธัชชัย มากไม่ใช่เหรอทำไมถึงท่าทีโต้ตอบแบบได้ล่ะเธอขึ้นอีก เพราะว่าแน่นอนว่าโทรไปยืนยังกับได้ยากมาก ลูกไปเขาสักหน่อยเถอะ ไม่ต้องไปอึดอัดกบ คราวที่แล้วมากขนาดครั้งยังคอยช่วยเหลืออยู่ ข้างไม่เหรอ?
วาสินคุณแม่วราลีพูดความจริง ครั้งถือเป็นโอกาสได้พบเขาอีกครั้ง ทำให้ความเจ็บปวดคิดประนีประนอม
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ