วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง

ตอนที่ 4 หนีไปแล้ว



ตอนที่ 4 หนีไปแล้ว

ทันใดนั้นธัชชัยถึงใจสาไปอยู่ข้างเตียง เอาตัวพลิกเข้าไปกับวัน สา

ตอนนี้วจสาเริ่มตัวสั่นขึ้นมา จริงด้วยเธอยังไม่พร้อม เธอ ยอมรับสถานการณ์อย่างนี้ไม่ได้

วรพล …..อย่าทำแบบนี้…ฉันคือภรรยาของนาย ฉันจะดูแล

นายดีๆแน่……แต่ว่า ตอนนี้ฉันยังไม่ได้เตรียมพร้อม………

ธัชชัยได้ยินปากเธอพูดถึงชื่อของพี่ชายแล้วตกตะลึง การกระ ทำก็ชะงักลง ใช่ เขาใช้นามของพี่แต่งงาน ถ้าจะแสดงละครก็ ต้องแสดงให้ถึงที่

วัดสาฉวยโอกาสนี้แล้วผลักเขาทิ้ง ธัชชัยยังไม่ได้เตรียมตัว ป้องกันตัวเอง ก็โดนเธอผลักลงไปที่พื้น วัดสาวิ่งไปที่ประตูอย่าง ไม่หันหลัง และวิ่งลงไปอย่างล้มลุกคลุกคลาน

แสงไฟของข้างล่างสว่างจ้าแต่ก็ปิดบังความวุ่นวายในใจของ เธอไม่ได้ เธอหลบไว้ที่ใต้บรรได ดูห้องรับแขกที่ไม่เคยชินที่ว่าง เปล่า ในที่สุดเธอก็ร้องไห้ออกมา

ทำไม ทำไมชีวิตของฉันจึงต้องย่ำแย่ขนาดนี้ ทั้งชีวิตของฉันจะ เป็นยังนี้ตอนไปหรอเหรอ?

นึกถึงความสัมผัสที่เกลียดชังเมื่อกี้นั้น วันสาก็ทำใจไม่ได้ที่จะ ไปยอมรับ ความหวาดกลัวนั้นมันลึกซึ้งมาก ให้คนนึกถึงก็รู้สึกกลัวขึ้นมา

ห้องครัวในชั้นหนึ่งมีคนได้ยินเสียง เลยยื่นหัวอออกมาดูข้าง นอก เมื่อแววตาขมุกขมัวของวังสามองเห็นเขา เหมือนเห็นความ สว่าง รีบวิ่งไปที่ห้องครัว

วันนี้คนที่พ่อบ้านภูษิต ให้ต้อนรับเธอก็คือป้าอ้อยคนนี้ เพราะ

ฉะนั้นอยู่ในวงศ์ตระกูลศรีทองที่ทำให้เธอรู้สึกสนิทสนมก็คือเขา

“ป้าอ้อยเห็นวจสาร้องไห้อย่างร่ายรำเฉบเฉบทำให้เขาตกใจ มาก คืนนี้ไม่ใช่คืนที่เธอกับรองท่านชายเข้าเรือนหอกันหรอ? ทำไมถึงร้องไห้อย่างนี้…คุณผู้หญิงคุณเป็นอะไรค่ะ?”

วัจสาถูกเป็นห่วง ก็ร้องอย่างยิ่งรุนแรง กระหืดกระหอบแล้ว พูดว่า “ป้าอ้อย ช่วยหนูด้วย หนูไม่อย่าขึ้นไปแล้ว

นึกถึงร่างกายปีศาจที่จะทับเธอ วัดสาก็สงบลงมาไม่ได้ บอก ว่าทำใจมาอย่างดีมันก็เป็นแค่เรื่องปลอมๆ ก็เหมือนเห็นกับตา ตัวเองว่าปีศาจวิ่งออกมาจากทีวี ยังวิ่งมาอยู่ใกล้ๆเธอ

ป้าอ้อยก็ไม่รู้ว่าในระหว่างพวกเขาเกิดอะไรขึ้น แต่ก็รู้สึก ลำบากใจขึ้นมา คุณผู้หญิงเป็นแบบนี้ไปแล้ว ถ้าคืนนี้เขารับเธอ ไว้ แต่ว่า เขาเองก็เป็นแค่คนรับใช้คนหนึ่งไม่กล้าเป็นอริกับท่าน

* คุณผู้หญิงค่ะ ใจเย็นๆหน่อยไม่ต้องร้องไห้แล้ว คิดดูดีๆ จาก คืนนี้ไป ชีวิตของคุณก็จะดีขึ้นกว่าเดิม ทนๆหน่อย เดี๋ยวมันก็ผ่าน ไป”

คำพูดสุดท้ายของป้าอ้อยพูดได้ฝืนใจมาก พ่อบ้านภูษิตพูดกับเขาแล้วรองได้ เพราะอย่างเขาถึงสับสนมาก

ทันใดนั้นวังอยากหัวเราะมาก หรอ?

แสงสว่าง? เสียดายใจนี้ แสงสว่างห่างจากเธอยิ่งยิ่งไกลแล้ว

ป้าอ้อย คืนได้ไหมแค่คืนเดียว สาน่าสงสาร มองไปหาอ้อย ต้องระวังวรพลมาหรือยัง

ป้าอ้อยก็รู้เหมือนกันจะทำอย่างไร แต่เห็นวจสาเหมือนร้องไห้ แล้วเขาก็สบายเหมือนกัน

ตอนกลางวันด้วยกัน เขาดูออกได้ว่าจสาเป็นเข้าได้ง่าย จิตใจงาม ว่ามือสะดวก คุณนายคนมากแล้ว

ป้าอ้อยกัดฟันแล้ว รับปากไว้

รองความจริงออกมายังไงต้องเรื่องแน่ คุณผู้หญิงค่ะ ตามฉันมา ค่ะ เดี๋ยวฉันพาคุณไปห้องพักเอง

ขอแค่ห่างวรพลได้ไกลก พอแล้ว ให้เธอได้นอนดีๆสักคืน

เธอๆ ถึงห้องหนึ่งค่ะ นี้เรื่องทุกอย่างมันจะขึ้นเขาปลอบใจวัจสาได้แค่นี้แหละ

แต่ตอนที่ป้าอ้อยจะไป วัดสาดึงเสื้อของป้าอ้อยไว้ แต่ก็ไม่รู้ว่า จะพูดอะไร

ป้าอ้อยคิดว่าเธอกลัวตัวเองไป

เลยพูดอย่างนุ่มนวลไปว่า “คุณผู้หญิงค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ ดิฉันจะไม่บอกให้ใครว่าคุณอยู่ที่นี่ นอนดีๆเถอะค่ะ

ป้าอ้อยพูดถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าวจสาพูดอีกก็เหมือนว่ากลั่น

แกล้งและไม่เชื่อใจป้าอ้อย เธอจึงรีบเอามือกลับคืนมา

รอป้าอ้อยปิดประตูแล้ว เธอรีบไปล็อคประตู แล้วค่อยเดินไปที่ เตียงแล้วนอนลงไป เธอเหนื่อยมาก ค่อยๆปิดตาลง

คนที่นั่งดูกล้องวงจรอยู่บนเตียงนั้นคับแค้นใจมาก ไม่น่าเชื่อ ว่าธัชชัยจะเอาหน้ากากหนังไปหลอกวังสา ผู้หญิงที่ดีขนาดนี้ถ้า หนีแล้วจะทำยังไง? ตามใจเกินไปแล้ว ภรรยาของตัวเองยังแกล้ง พรุ่งนี้ต้องสั่งสอนดีๆแล้ว

ในหน้าจอหน้าที่สวยงามของวังสาเต็มไปด้วยน้ำตา ใจของ เขารู้สึกผิดมาก การตัดสินใจของเขานี่มันถูกหรือผิดกันแน่? ตอน นี้เขาก็ไม่รู้เหมือนกัน

“ภาคิน เธอว่าที่ฉันทำมันถูกหรือผิด?”

คนที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้นั้นเป็นแพทย์ส่วยตัวของวรพล ทั้งสองก็ ถือว่าเป็นเพื่อนกันมาหลายปี เธอรู้ว่าวรพล ให้ความสำคัญน้อง ชายคนนี้มาก เพื่อเขาชีวิตไม่เอาก็ได้
“เรื่องที่เธอทำส่วนมากผิดทั้งนั้น แต่ว่าคราวนี้ฉันว่าเธอตัดสิน ใจได้ถูกแล้ว อย่างน้อยธัชชัยก็มีความสนใจต่อผู้หญิงคนหนึ่ง แล้ว

ไม่งั้นเขาคงไม่แกล้งเธอหรอก”

หมอภาคินขยับแว่นตาที่อยู่ดั้งจมูกแล้วพูดต่อว่า อีกอย่าง

พวกเขาก็ต้องหาวิธีที่อยู่รวมกันให้ได้ ถึงอย่างไรก็ตามจะสร้าง

ความรักขึ้นมาได้ไหม ก็เป็นเรื่องของเขาสองคน เธอกับฉันก็เป็น

แค่คนนอก คงจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ไม่ได้เยอะ อีกอย่างนิสัย

ของรองท่านชาย ถ้าเธอบังคับเขา เรื่องมันก็จะกลายเป็นตรง

ข้ามกับที่คาดหวัง คุณวจสาก็จะได้ความทุกข์ยิ่งขึ้น

วรพลรู้อยู่ว่าที่หมอภาคินพูดก็ถูก

เขาแค่โทษตัวเองว่าตอนนั้นที่ช่วยธัชชัยเสร็จแล้วทำไม ปกป้องตัวเองดีๆ แต่ระเบิด ไฟไหม้ครั้งนั้น เหตุการณ์ครั้งนั้น เขาไม่มีเวลาคิดถึงตัวเอง เขาทำได้แต่เพียงนี้

คำพูดสุดท้ายที่หมอภาคนพูดก็เป็นเรื่องจริง ชัยแค่ทดสอบวัจ สา ถ้าเธอยอมรับใบหน้านี้ไม่ได้ ยังไงก็จะไม่ได้ใจของชัย ชัย จะออกจากความแค้นไม่ได้

ก็ต้องรอวังสาค่อยๆยอมรับได้ อย่างนี้เขาถึงจะเหมาะที่จะถูก ธัชชัยรักและห่วงใยได้

หมอภาคนเห็นวรพลยังคิดเรื่องอีกอยู่ เลยยับคิ้วแล้วตำหนิว่า “สภาพเธอเป็นแบบนี้แล้ว ยังคิดเรื่องของคนอื่นอยู่ ทำไมไม่คิด เรื่องที่จะจัดการธัชชัยที่ว่าจะไม่ไปรักษาตัว
ใช่ เป็นหมอประจำตัวอย่างหมอภาคนรู้อย่างชัดเจน ว่าสภาพ ร่างกายของวรพลตอนนี้ไม่ดีมาก เขาจะอยู่ได้อีกวันยังเป็นสิ่งที่ ไม่รู้ แล้วจะทำผ่าตัดผิวหนังได้ตัวไง? ยิ่งไม่ต้องลำบากไปอเมริกา

เส้นเสียงของวรพลสั่น เสียงก็แหบแห้งรู้สึกไม่น่าฟังมากให้ ฉันไม่ต้องเป็นห่วง งั้นเธอก็ไม่ต้องเป็นห่วง ให้ฉันได้อยู่นาน กว่าสามเดือน นี่คือการท้าทายของเธอ”

คราวที่แล้ว หมอภาคินก็พูดกับธัชชัยแล้วว่า พวกเขาก็รู้กันดี ว่าร่างกายของวรพล อยู่ไม่ได้ถึงสามเดือน

คนไม่สามารถจะจัดการภัยพิบัติทั้งธรรมชาติและจากมนุษย์ ได้ โรคภัยไข้เจ็บก็เหมือนกัน

ในคืนนั้น ทั้งห้องนิ่งเงียบ

วันที่สองที่วัดสาตื่นขึ้นมา แดดก็ส่องเข้ามาจากหน้าต่าง

นึกถึงเรื่องเมื่อคืน ถ้ามันเป็นแค่ฝันร้ายจะดีขนาดไหน?

เสียดาย เรื่องพวกนี้มันเป็นเรื่องจริงทั้งนั้น ห้องนอนที่ไม่คุ้น เคย เตียงที่ไม่คุ้นเคย ทั้งชีวิตของเธอไม่มีสิ่งใดที่ทำให้เธอรู้สึก เป็นของของตัวเอง

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

ขณะนั้นก็มีเสียงเคาะประตูขึ้น วัสสาจึงตกใจมาก หรือว่าวรพ ลรู้แล้วว่าฉันอยู่ตรงนี้

“คุณผู้หญิง ฉันคือป้าอ้อย ออกมากินข้าวได้แล้วค่ะ”
ได้ยินเสียงของป้าอ้อย วังสาจึงโล่งอกหน่อย ตอบกลับไปว่า “รู้แล้วค่ะ เดี๋ยวแปรฟันล้างหน้าเสร็จจะออกไป ป้าลงไปก่อนเลย

ป้าอ้อยตอบรับแล้ว ก็เดินลงไป วัจสาลุกขึ้นมา แล้วเดินไปที่ห้องน้ำ

กระจกสะท้อนให้เห็นได้ว่าใบหน้าที่สวยงามแต่สีหน้าที่ซีด มาก วังสาถอนหายใจ ช่างเหอะ ยังไงตนเองก็แต่งงานกับวรพล แล้วเรื่องมันก็กลายเป็นความจริงแล้ว ก็ดูแลเขาดีๆไม่ต้องกลัว เขา เรื่องเมื่อคืน คงจะทำร้ายจิตใจของเขาแล้ว

คราวหน้าตัวเองไม่ต้องทำสีหน้าแบบนั้นแล้ว อย่างนี้จะ ทำร้ายจิตใจของผู้อื่นได้ มาแล้วก็จงอยู่อย่างมีความสุข

วัจสาล้างสมองตัวเอง แล้วให้กำลังใจตนเอง แล้วค่อยล้าง

หน้าออกไปกินข้าว

ที่จริงเขายังกลัวว่าจะเจอวรพล ตัวเองจะทำยังไง แต่ในตอนนี้ ในโต๊ะรับประทานอาหารที่กว้างใหญ่ มีแค่ผู้ชายคนหนึ่งที่มีรูป ร่างสูง โต

หลังที่เข้มแข็งและมีพลัง รูปร่างสูงใหญ่ แขนที่เหมือนสีโกโก้ เกลี้ยงและสะอาด เธอรู้นี่ไม่ใช่วรพลแน่ๆ

คิดแล้คิด ที่จริงวรพลน่าจะเดินมาไม่ได้ แต่เมื่อคืนเห็นท่าทาง

ของเขา ดูเหมือนว่าก็ไม่แย่ขนาดนั้น เธอกำลังคิดเรื่องพวกนี้ ธัชชัยก็หันหน้ามา มองวัสสาอย่างใคร่ครวญ ยั่วเย้าว่า ยัยนั่น ดูเสร็จยัง?เธอทำไมกินในถ้วยไม่พอ ยังมองในถุงอีกมันเหมาะสมไหม

กินในถ้วยไม่พอ ยังมองในถุงตาวัสสาจองมอง ผู้ชายคนนี้ หมายถึงอะไร? ทำไมถึงหลงตนเอย่างนี้? ถึงแม้ว่าเขาหน้าตาก็ยัง พอใช้ได้ แต่ก็พูดไร้สาระ

ตั้งแต่วันนั้นที่เขาเข้ามาพูดอะไรไปเรื่อย วันสาก็รู้แล้วว่าผู้ชาย คนนี้คือใคร หน้าตาหล่อเหลา พูดที่วงศ์ตระกูลศรีทองได้ เดินไป ได้ทุกแห่งทุกหน ก็มีแค่น้องชายของวรพล และก็เป็นเขาใช้ชีวิต ช่วยน้องคนนี้ -ธัชชัย ผู้นำของเมือง

วัจสากพูดย้อนอย่างประชดประชันเสียดสี “น้องตาเธอต้องมี ปัญหาแน่จําเป็นต้องไปหาหมอแล้ว ไม่งั้นปากก็ได้ ทำไมถึงไม่ สะอาดขนาดนี้”

ตาที่เป็นดอกพีชของธัชชัยลึกซึ้งขึ้นมา ที่ผู้หญิงคนนี้พูดมัน หมายความว่าไง เขายังไม่ได้ตำหนิเธอเรื่องเมื่อคืนเลย ถ้าเป็นพี่ ชายจริงๆ คงจะถูกเธอทำร้ายไปแล้ว

ธัชชัยเปิดปากพูดอีก น้ำเสียงก็ยิ่งเยือกเย็นขึ้นปากฉันไม่ สะอาดก็ยังดีกว่าคนบางคนที่ทำร้ายผู้อื่น เมื่อคืนที่หนีออกจาก เรือนหอพี่ชายฉันไม่รู้เป็นใคร?”

ที่จริงวัลสายังอยากกลั่นแกล้งเธอ ได้ยินธัชชัยพูดถึงเรื่องเมื่อ คืน ใจก็ไม่สบายขึ้นมา เขารู้เรื่องนี้ได้ไง? หรือว่าวรพลพูดกับเขา แล้ว?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ