ตอนที่ 33 ไม่ยอมให้เธอเข้าใกล้
ธัชชัยได้ยินดังนั้น ก็คิดครู่แล้วแล้วพูดว่า “ไปเถอะ”
อ้างเอาที่รองบุหรี่มาก่อนหน้านี้ ธัชชัยคิดว่าผู้หญิงคนนี้ทำ ยังไงก็เป็นหุบเขาห้านิ้วไม่ได้หรอก ดังนั้นจึงปล่อยเธอไป
วังสาราวกับได้รับการอภัยรีบเดินออกไปทางประตู จริงๆ แล้ว เธออยากแอบไปเยี่ยมวรพลสักหน่อย อีกอย่างป้าอ้อยก็ดธัชชัย กินข้าวอยู่ในห้อง แปบเดียวคงไม่ผิดสังเกตหรอก
พวกเขามักจะหาข้ออ้างร้อยแปดมาเพื่อขัดขวางไม่ให้เธอไป เยี่ยมวรพล เธอยืนอยู่หน้าประตูห้องรักษาตัวของวรพล ใจของ วัจสาก็เหมือนกับกำลังลังเลอยู่
เธอยืนอยู่ตรงนั้นครู่หนึ่ง ก็เคาะประตูเบาๆ เวลานี้คุณหมอ ภาคินก็คงจะอยู่ในห้องเห็นได้ยากตอนที่หมอาคนไม่อยู่กับว รพล ทันใดนั้นประตูก็เปิดออกมาอย่ารวดเร็ว
แต่ว่าคนที่ออกมากลับไม่ใช่คุณหมอภาคิน แต่กลับเป็นคุณ หมอภูวิศ ก่อนหน้านี้เขาเคยรักษาอาการบาดเจ็บของธัชชัย ดัง นั้นวังสาจึงเคยพบเขาแล้ว
วัจสายยิ้มแย้มพูด “สวัสดีค่ะคุณหมอภูวิศ”
ใบหน้าของคุณหมอภูวิศฉายแววประหลาดใจ “คุณหญิงวัจ สา มีธุระอะไรเหรอครับ?
“ฉัน… เข้าไปเยี่ยมวรพลได้ไหม?” วังสาถามถามอย่างกังวล ใจ เพราะว่าก่อนหน้านี้ถูกปฏิเสธมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว
คุณหมอภูวิศคิดถึงคำสั่งที่คุณหมอภาคินสั่งเอาไว้เมื่อครู่นี้ ว่า ให้หาข้ออ้างมาขัดขวางวัลสาไม่ให้เข้าไป แต่ว่าจริงๆ แล้วเขา เห็นวังสามาที่นี่นับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ทุกครั้งก็ถูกปฏิเสธอยู่ตรง หน้าประตูนี้ ในใจก็รู้สึกเข้าใจเธอและสงสารเธอ
แต่ว่าคุณชายรองแห่งตระกูลศรีทองก็เคยพูดเอาไว้แล้ว กลัว ว่าผู้หญิงคนนี้จะมีแผนการชั่วร้าย ดังนั้นจึงไม่สามารถให้เธอ เข้าไปได้ คุณหมอภูวิศได้แต่พูดขอโทษไป “ต้องขอโทษด้วยนะ ครับ คุณหญิง ตอนนี้คุณชายใหญ่ติดเชื้อแบคทีเรียง่าย เกรงว่า ท่านเข้าไปเวลานี้คงจะไม่เหมาะ
เป็นอย่างที่คิด ถูกปฏิเสธอีกแล้ว วังสาไม่ล้มเลิกความตั้งใจ ถามกลับไปว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันใส่ชุดกันเชื้อเข้าไปก็ได้ไม่ใช่เห รอ?”
คุณหมอภูวิศหยุดไปครู่หนึ่ง รีบคิดหาวิธีมทั้งหมด สุดท้ายก็ ถอนหายใจแล้วพูดว่า “สภาพร่างกายของคุณชายใหญ่ตอนนี้ไม่ ค่อยจะดีเท่าไหร่นัก เขาบอกว่า… ไม่ว่าใครก็ไม่อยากเจอ
รู้สึกได้ว่าคุณหมอภูวิศรู้สึกลำบากใจ วัดสาพยักหน้าหงิกๆ เตรียมที่จะจากไป ก่อนที่จะจากไปก็ชะโงกหน้าเข้าไปมอง ภายในห้องที่มืดสลัว มองเห็นข้างในเหมือนกับคนนั้นกำลังนอน เอนกายอยู่บนเตียง
วัจสาก็ลงไปข้างล่าง รู้เจ็บปวดและกลัดกลุ้มใจมาก เธอไม่เคยได้ทำหน้าที่ภรรยาที่ดีเลย อีกทั้งคนตระกูลศรีทองยังมองเขา เป็นตัวอันตรายอีก ยังคิดว่าเธอมีเจตนาร้ายแอบแฝงอยู่อีก เธอ ทอดถอนหายใจเบาๆ
ไหนเลยจะรู้ว่าสถานที่ที่เธอมองไม่เห็นนั้นมีสายตาที่แหลมคม ราวกับคมดาบกําลังจ้องมองทุกการกระทำของเธออยู่ มุมปาก ยกยิ้ม ผู้หญิงคนนี้คิดจะเล่นปาที่อะไรกันแน่?
วัดสาเพิ่งจะลงมาถึงข้างล่าง กูเจอกับคุณภูษิตที่ห้อตะบึงเข้า
มา
“คุณผู้หญิง เห็นคุณรองบ้างไหมครับ?” ใบหน้าของคุณภูษิต ตื่นตระหนก เหมือนกับว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
ท่านชัยกินข้าวอยู่ในห้องพักแขกนะ เกิดอะไรขึ้นเหรอ?
วัจสารู้สึกได้ว่าต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแน่ๆ ไม่อย่างนั้นท่าทาง ของพ่อบ้านภูษิตคงไม่ลนลานขนาดนี้
พ่อบ้านภูษิตกลับไม่ได้ตอบคำถามของวันสารีบตรงดิ่งไปยัง ห้องพักแขกทันที ยังไม่ทันจะถึงห้องพักแขกก็เจอกับธัชชัยตรง ระเบียงทางเดินแล้ว
“ท่านชัย เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ” พ่อบ้านภูษิตน้ำเสียง
ลนลาน
ในใจของธัชชัยก็รู้สึงสังหรณ์ใจ “เข้ามาพูดในนี้” พ่อบ้าน ภูษิตจัดการเรื่องทุกอย่างของตระกูลมานานหลายปี ไม่ว่าเรื่อง สำคัญอะไร เขาไม่มีท่าทีแบบนี้ให้เห็นเลย
พ่อบ้านภูษิตพยักหน้า เดินตามเข้าไปในห้องพักแขกกับเขา แล้วปิดประตูห้องเอาไว้
เมื่อตรวจสอบดูรอบๆ แล้วไม่มีคนอื่น พ่อบ้านบ้านภูษิตจึง หยิบกระดาษสีขาวออกมาจากกระเป๋ากางเกง ส่งให้กับธัชชัย พร้อมพูดว่า “ท่านชัย นี่เป็นพินัยกรรมฉบับร่างของคุณชายใหญ่ ยังไม่สมบูรณ์ ผมถ่ายสำเนามาจากทนายความท่านนั้นครับ
ธัชชัยรีบรับมาดูทันที คิ้วทั้งสองข้างขมวดมุ่น “พินัยกรรมเห รอ? พี่ใหญ่ร่างกายยังดีอยู่ไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงต้องรีบร่าง พินัยกรรมด้วย?”
เหมือนกับว่าบรรยากาศกำลังตึงเครียดก่อนที่สงครามจะปะทุ ขึ้น หลังจากที่ธัชชัยดูจบแล้วท่าทีที่เย็นชาของเขามันทำให้คน รู้สึกเกรงกลัวเป็นอย่างมาก
กระดาษในมือถูกขยำจนเป็นก้อนกลมๆ พี่ชายของฉันกำลังจะ มอบตระกูลศรีทองให้กับมนายคนนั้นเหรอ? เขากำลังคิดอะไร อยู่กันแน่?” ธัชชัยตวาดเสียงดัง น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความ โกรธแค้น
เมื่อไม่นานมานี้มนายุเพิ่งจะเอาคนมายั่วยุถึงหน้าประตู อีก อย่างที่สำคัญก็คือนายมนายอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น เมื่อไม่กี่เดือนก่อนอีกด้วย ไม่แน่ว่าเขานี่แหละที่อยู่เบื้องหลัง ทั้งหมด มีเหตุผลอะไรที่จะต้องมอบตระกูลศรีทองให้กับเศษเดน อย่างคนแบบนี้โดยไม่คิดชีวิตด้วย?
พ่อบ้านภูษิตเศร้าเสียใจอยู่ภายในใจ เขาคิดถึงวิธีการกระทำเช่นนี้ของวรพล คงจะเป็นเพราะว่าไม่จำเป็นต้องให้ธัชชัยดูแล ทรัพย์สมบัติของตระกูลและไม่ต้องไปตาต่อตา ฟันต่อฟันกับมนา ด้วย อีกอย่างก็ไม่อยากให้ธัชชัยต้องได้รับบาดเจ็บเพราะเหตุนี้ สิ่งที่เขากลัวที่สุดก็คือธัชชัยตกอยู่ในห้วงความคิดที่จะแก้แค้น จนไม่สามารถถอนตัวขึ้นมาได้
“กระผมคิดว่าคุณชายใหญ่ไม่อยากให้คุณชายรองเผชิญหน้า กับมนานนะครับ เขาคงคิดแค่ว่าการที่เขามอบตระกูลศรีทองให้ กับมนาน เขาถึงจะไม่มาทำร้ายน้องชายของคุณชายใหญ่ได้ นี่ก็ คงจะเป็นความกังวลเดียวของคุณชายใหญ่”
วรพลเป็นคนที่ใจดีคนหนึ่ง ถึงแม้เขากับธัชชัยจะเป็นพี่น้อง ต่างมารดา แต่ว่าเขาก็ปฏิบัติต่อธัชชัยราวกับเป็นมีพ่อมีแม่คน เดียวกัน ดังนั้นถ้าหากวันหนึ่งต้องประสบพบเจอกับอันตรายใด เรื่องแรกที่คิดได้ก็คือต้องปกป้องน้องชายของตนเอง เพื่อน้อง ชายคนนี้แม้กระทั่งชีวิตก็ให้ได้
ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ธัชชัยก็เปลี่ยนมุมมองต่อความแค้นใน เรื่องนี้ใหม่ เขาไม่มีทางทนดูคนอื่นมาดูแลทรัพย์สมบัติของตระ กูลศีทองได้ ไม่ว่าจะเป็นเงินก็ยังเป็นชีวิต เขาย่อมไม่อนุญาต โดยเฉพาะอย่างยิ่งสนานคนนี้
พ่อบ้านภูษิต เจ้าคิดผิดแล้ว มีเพียงฉัน ธัชชัยเท่านั้นที่จะอยู่ ค้ำฟ้า มนานุก็อย่าได้คิดว่าจะได้รับสมบัติที่พี่ใหญ่สร้างมากับมือ แม้แต่ชิ้นเดียวก็ไม่ได้ ธัชชัยเก็บซ่อนอารมณ์ที่ดุร้ายนี้เอาไว้มา นาน และความแค้นนี้ก็ปะทุขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
พ่อบ้านภูษิตเข้าใจความคิดของธัชชัยดี แต่ว่า… “ท่าน น คุณชายใหญ่เป็นผู้สืบทอดตระกูลศรีทอง มีเพียงเขาเท่านั้นที่จะ ทำให้พินัยกรรมมีผลทางกฎหมายนะครับ” พ่อบ้านภูษิดอดไม่ ได้ที่จะออกปากเตือนสติ
ธัชชัยยิ้มอย่างเย็นชา “เรื่องนี้ฉันรู้ แต่ว่า คุณว่าถ้าหากพี่ใหญ่ รู้ว่ากนิษฐาผู้หญิงคนนั้นยังไม่ตายล่ะ เขายังจะไม่มีชีวิตชีวาอยู่ แบบนี้อีกหรือไม่? ”
“คุณผู้หญิงกนิษฐายังมีชีวิตอยู่หรือครับ?” พ่อบ้านภูษิตถาม อย่างตกใจว่า “ท่านชัยสืบหาที่อยู่ของเธอเจอแล้วหรือครับ? แหล่งข่าวนี้เชื่อถือได้ไหมครับ?”
“ฉันให้คนไปตามสืบดูแล้ว ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงต้องโกหกว่า เธอตายไปแล้วด้วย แล้วยังหลับหนีไปอีก” ธัชชัยบีบก้อน กระดาษพินัยกรรมแผ่นนั้นเอาไว้ในมือแน่น และเคาะโต๊ะเบาๆ เสียงบางอย่างก็ดังขึ้น ตึก ตึก ตึก ไม่รู้ว่าเป็นเสียงหัวใจของใคร
แต่ว่าพ่อบ้านภูษิตมีปฏิกิริยาที่ตอบสนองเร็ว ถอนหายใจแล้ว พูดว่า “ถึงแม้ว่านี่จะเป็นการร้องขอครั้งสุดท้ายของคุณชายใหญ่ แต่ว่าไม่แน่ก็อาจจะเป็นข่าวร้ายเรื่องหนึ่งก็ได้…
“หมายความว่าอย่างไร?” ธัชชัยขมวดคิ้ว ถามขึ้นด้วยความ
ไม่เข้าใจ
“คุณชายใหญ่รักกนิษฐามาก นี่ยิ้มไม่ต้องสงสัยสัยเลย แต่ว่า ในตอนนี้เขาตกอยู่ในสภาพแบบนี้ แน่นอนว่าไม่อยากให้คนที่ ตัวเองรักต้องมาเจอกับสภาพแบบนี้ ดังนั้นถึงแม้จะรู้ดีว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ คุณชายใหญ่ก็ไม่มีทางอยากให้เธอเข้าใกล้แน่นอน คงจะกลัวเธอจะรับไม่ได้สินะ? เป็นความรู้สึกที่อยากจะรักแต่ไม่ สามารถรักได้ ทำให้คุณชายใหญ่เจ็บปวดไม่น้อย
พ่อบ้านภูษิตอยู่กับวรพลมานานหลายปี พอที่จะพูดได้ว่าดูแล พ่อบ้านมาตั้งแต่เล็กจนโต แน่นอนว่าต้องเข้าใจสภาพจิตใจของ เขาดี แม้แต่ผู้ชายที่นับถือใจตนเองต่างก็ต้องพิจารณา
แต่ว่าคนที่ไม่เคยมีความรักอย่างธัชชัยคงไม่เข้า ความรู้สึกที่ ต้องคอยระมัดระวังและให้ความสำคัญต่อคนที่ตนรักมันเป็นยัง ไง เขาทำได้เพียงพูดเสียงไม่พอใจขึ้นจมูกว่า “ขอเพียงแค่พี่ ใหญ่ต้องการ ทำไมฉันจะทำให้ไม่ได้” ถึงแม้ว่าต้องมัดด้วยเชือก ฉันก็จะไปลากเธอมาแทนพี่ชายของฉันเอง
พ่อบ้านภูษิตส่ายหัวและถอนหายใจ ท่านชัยไม่เข้าใจใน ความรักจริงๆ ด้วย แต่ว่าถ้าหากคุณชายใหญ่ผูกมัดตัวเองมาก เกินไป ก็จะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปได้
วันที่สองผ่านไปเร็วมาก วังสาหาหัวข้อของวิทยานิพนธ์ทั้งวัน ใกล้จะเรียนจบแล้ว ดังนั้นเธอจึงเริ่มเขียนวิทยานิพนธ์แล้ว
เธอเรียนการออกแบบ แต่ว่าจนกระทั่งถึงตอนนี้เธอยังไม่ได้ ลงมือปฏิบัติเลย ได้แต่วางแผนการรบลงบนกระดาษเท่านั้น เธอ อยู่ภายในห้องหอจนถึงสามทุ่ม เธอเพิ่งจะทำโครงสร้างเสร็จ หนึ่งชิ้น
ไม่รู้ว่าธัชชัยเอากองเอกสารเข้ามาวางไว้บนโต๊ะตั้งแต่เมื่อไหร่ พูดอย่างเรียบๆ ว่า “นี่คือข้อมูลของตระกูลศรีทอง วันนี้เธอก็เอามันดูให้ชินตา ที่สำคัญหน้าที่ถูกแต่งตั้งและถูกออกตำแหน่งที่สำคัญ จะต้องท่องให้พรุ่งเธอกับชายของฉัน ต้องเปิดงานผู้ถือวังสาเขินอายจนเหงื่อข้อมูลมาพลิกๆ หนังเธอกลัวแล้ว แต่จะให้เธอไปร่วมงานแบบนั้น ยังคงไม่ค่อยชิน ตาพรุ่งคุณไม่ได้ไหมทำไมต้องให้ด้วย
ออกว่าสายตาของผู้หญิงคนกำลังรอคอยและคิดจะพึ่งพา อาศัยกัน อารมณ์ของผู้ชายเปลี่ยนเป็นอารมณ์ดีขึ้น ยิ้มอย่างเล่ห์เหลี่ยม เหรอที่เรียกภรรยาของ ชายฉันชายของฉันสักรอบจะเข้าใจเอง ก็ให้โอกาสพวกเธอสองคนได้ศึกษาซึ่งและให้”
“เหอะ ฉันไม่คุ้นเคยกับตระกูลศรีทองสักนิดเดียว ควรให้ คุณยังดีกว่าเพราะว่าเป็นคุณทอง”
“อย่างงั้นเหรอ? น่าเสียดาย ฉันแค่ชายสมรสคุณสมบัติเพียงพอขนาดนั้น ตั้งแต่ฉันที่ตระกูลศรีทองวัน แรก ไม่มีคุณสมบัติมากที่สืบทอดกิจการตระกูลศรี ทอง เสียดายมากที่ไม่สามารถเป็นเพื่อนธัชชัยปากบอกเสียดาย
เขาสร้างธุรกิจมาด้วยตัวเองกว่าตระกูลศรีทองมากเป็น เท่าหนึ่งหรือสองเท่า ไม่อย่างก็ถูกเรียกยักษ์ใหญ่ของของธุรกิจ ร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาคงไม่ยอมยกตระกูลศรี ทองให้มนานุเด็ดขาด
“ใคร ใครบอกให้ไปเป็นเพื่อนฉัน คุณเป็นน้องชายของวรพล ก็ควรจะช่วยเขาให้เป็นอย่างดี เขาต้องการการคุณมากนะ” วัง สาตื่นเต้นจนพูดติดอ่าง ผู้ชายคนนี้ทำไมถึงชอบพูดทำนองนี้ ตลอดเลย?
“ดูไปแล้วคนที่ต้องการฉันมากกว่าน่าจะเป็นเธอนะ ธัชชัยยิ้ม แล้วพูดต่อว่า “ถ้าหากเธอให้ฉันนอนที่นี่คืนนี้ ไม่แน่นะพรุ่งนี้ฉัน อาจจะอารมณ์แล้วฉันก็อาจจะไปเป็นเพื่อนเธอก็ได้
ผิวเรียบเนียนขาวผ่องบริสุทธิ์ของวันสาก็พลันกลายไปสีเลือด หมู ไม่รู้ว่าโกรธหรือเขินอายกันแน่ “คุณรีบไปให้พ้นๆ เลยนะ นี่ มันไม่ยุติธรรมเอาซะเลย
ธัชชัยเดิมทีก็จะออกไปอยู่แล้ว แต่ว่า ก็พลันคิดแผนการออก
แผนการหนึ่ง ไม่มีใครคาดถึงวิธีการนั้นได้แน่นอน
เขามองวจสาตั้งแต่หัวจรดเท้า เขาแค่อยากเล่นสนุกกับเจ้า แมวตัวนี้เท่านั้น ถ้าหากว่าคืนนี้เขาไม่มีเองที่ต้องไปจัดการ ไม่ แน่ว่าคืนนี้เขาอาจจะแกล้งเธอเล่นๆ ต่อไป แต่น่าเสียดาย…
“ได้ ฉันจะออกไปเดี๋ยวนี้ จำเอาไว้ อ่านเอกสารพวกนั้นให้ ละเอียด”
หลังจากนั้นอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความกดดันก็ไม่มีแล้ว วังสา ก้มหน้าดูเอกสารที่เขาส่งมาให้อย่างต่อเนื่อง ไม่รู้ว่าผ่านเวลาไป นานเท่าไหร่ ก็เผลอหลับไปแล้ว
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ