วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง

ตอนที่ 30 ทายาราวกับข่มขืน



ตอนที่ 30 ทายาราวกับข่มขืน

เดิมที่ผิวด้านหลังที่ขาวใสระเอียดอ่อน ตอนนี้ดันมีรอยแผลสีแดง เพิ่มขึ้น ดูแล้วน่าตกใจและแสบตาอย่างมาก ธัชชัยหยุดชั่วคราว ค่อยเอายาครีมที่อยู่บนมือทาแผล

วัจสาตอนนี้รู้สึกได้แค่ความเย็นนิดๆ กำจัดอาการปวดแสบ และร้อน เมื่อกี้ ในใจวจสาอึดอัด ผู้ชายคนนี้ตอนนี้ทายาให้ตัว เองจริงๆด้วย แต่การกะระทำเมื่อกี้ต้องถูกเขาหัวเราะเยาะแน่ๆ เลย! แล้วยังจะพูดราวกับขอความชอบธรรม……..

ตายแล้ว ต้องถูกผู้ชายคนนี้หัวเราะเยาะตายแน่ๆ

ปลายนิ้วของผู้ชายแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับความนุ่มนวลของ ผู้หญิง มีความหนักแน่น แต่ตอนลงมือทาแผลอ่อนโยนมาก

“ทายาให้เธอมันน่ากลัวขนาดนั้นหรอ? ทำหน้าอย่างกับให้ คนอื่นนึกว่าฉันข่มขืนเธอ” น้ำเสียงธัชชัยพูดอย่างจริงจัง แต่น้ำ เสียงต่ำและกลมกล่อม น่าหลงใหลราวกับเหล้าองุ่น

วังสาถูกเขาพูดจนอยากจะขุดหลุมซ่อนตัว ทำไมตัวเองต้อง ทําเรื่องแบบนั้น อย่างกับว่าคนที่ไม่ยอมปล่อยคือตัวเอง!

ตอนที่กำลังคิดเหลวไหลอยู่ ทันใดนั้นมีชุดนอนซาตินวางอยู่ บนไหล่ วจสารีบเอามือทั้งสองดึงแน่น แล้วไม่ได้เปิดโปงอีก

“คะ ใครจะไปคิดอย่างนั้น ฉันก็แค่รู้สึกชายหญิงไม่ควรจะใกล้ ชิดกัน เรื่องนี้ให้คนมืออาชีพจัดการให้ไม่ดีกว่าเหรอ?” วังสาพยายามให้กระทำของตัวเองดูให้เรียบร้อย

“เธอพูดถึงคุณหมอภาคิน? ฉันไม่อยากให้ผู้ชายคนอื่นมอง เห็นร่างกายของเธอ นี่ถือว่าเป็นเหตุผล? “เสียงธัชชัยเย็นลงและ ครอบง่าอย่างทันที

วังสาเกือบถูกสำลักตายด้วยน้ำลายของตัวเอง น้ำเสียงของ ผู้ชายคนนี้พูดอย่างกับว่าตัวเองเป็นของของเขา เขาก็เพียงแค่ เป็นลุงน้อยของตัวเอง ไม่อยากให้ผู้ชายคนอื่นมองเห็นร่างกาย ของเธอ

แล้วเขาละ? เคยเห็นมาก่อนและยิ่งทำไปมากกว่านี้ ตอนนี้ กลับพูดออกมาดีซะขนาดนี้ ถ้าวจสาเป็นคนนอกต้องเชื่อแน่ๆ

ธัชชัยลุกขึ้นทันที ถอยไปที่ประตู เตือนด้วยเสียงแข็งว่า “ครีมนี้ ใช้งานได้ดีมาก ตราบใดที่คุณให้ความสนใจมัน ถูกกดลงไป และโดยทั่วไปจะไม่เกิดฟอง รอจนกว่าจะดีขึ้นแล้วเช็ดขี้ผึ้ง ก็จะ หายเป็นปกติ”

ปัง เสียงประตูปิดลง วังสานั่งอยู่บนเตียงนานจนใจไม่สงบ เขาทําอย่างนี้หมายความว่ายังไง?

ป้าอ้อยที่อยู่ห้องรับแขกได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือของวัด สาเมื่อกี้ ในใจรู้สึกว่าทั้งสองคนนี้ต้องแกล้งกันไปมาแน่ๆ ถ้าเกิด เรื่องเหมือนครั้งที่แล้วก็แย่สิ อารมณ์ของธัชชัยมันก็หุนหันพลัน แล่นไปหน่อย อย่าไปพูดถึงเอาใจใส่ดูแลผู้หญิงเลย

ป้าอยู่ข้างล่างมองดู ถ้าเกิดอะไรขึ้นตัวเองจะไปรีบวิ่งขึ้นไป แต่นึกไม่ถึงว่า ผ่านไปสิบกว่านาที ธัชชัยก็ลงมา เสื้อผ้าบนตัวก็เปลี่ยนไป

ป้าอ้อยมองข้างหลังเขา ไม่เห็นวังสา ก็ตกใจ อย่าบอกนะว่า คุณธัชชัย คุณวจสาไปแล้ว?

ธัชชัยเห็นป้าอ้อยแบบนี้ ก็รู้ว่าป้าเขาคิดอะไรอยู่ บิดกระดุม แขนเสื้อไปด้วยแล้วพูดไปด้วย “ป้าอ้อยครับ เดี๋ยวป้าอ้อยตุ่นซุป ขาหมูให้ใจสามนะครับ หลังเธอโดนลวก อาหารช่วงนี้ระวัง หน่อยนะครับ

“โดนลวก? เกิดอะไรขึ้น? ” ป้าอ้อยถามอย่างเป็นห่วง “สา หัดไหมค่ะ? ต้องเรียกคุณหมอภาคนไปดูอาการไหมค่ะ? ”

“ไม่ต้องครับ ผมทายาให้เธอเรียบร้อยแล้วครับ ป้าขึ้นไปดู เธอได้ครับ” หยุดชั่วคราวแล้วพูดว่า “ผู้หญิงบ้าคนนั้น คิดจะเอา ร่างกายเล็กๆของตัวเองไปขวางหม้อดิน เธอเลยโดนลวก”

ป้าอ้อยรู้สึกว่าคุณธัชชัยเปลี่ยนไป ตอนที่เขาพูดประโยคนี้ ทั้ง ทีโกรธมาก แต่แสดงความอ่อนโยนและความห่วงใยออกมา นิดๆ ดูแล้วคุณวจสาทำการกระทำนี้ถูกแล้ว หวังว่าทั้งสองคน รีบๆอยู่ด้วยกัน

ธัชชัยพูดเสร็จ ก็ไม่รู้ไปชั้นหนึ่งทำอะไร

ป้าอ้อยคิดจะตื่นซุปขาหมูให้วัสสา เดิมทีกลางคืนก็จะดื่มซุปนี้ พอดี อย่างนี้ประหยัดเวลาไปเยอะเลย

วันสากำลังใจลอยอยู่ชั้นบน รู้สึกเย็นของด้านหลัง ทำให้ด้าน หลังที่ปวดแสบปวดร้อนของเธอได้สบายขึ้นเยอะ สายตาเขวี้ยงไปเห็นครีมสีขาวหลอด นวางไว้อยู่บนโต๊ะ

ตัวเองเมื่อกี้พูดอย่างงั้นออกมา แล้วยังไปแก้เสื้อผ้า ต้องถูกผู้ชายคนนั้นหัวเราะตายแน่ แต่เขาทายาให้ตัว เอง ถือว่าเสียมรรยาทไหม? หลังจากนี้ไปไม่สามารถทำตาม ความตั้งใจของเขาอีก ยังจะขวางซุปหม้อดินอะไรให้เขา ยัง ไม่ใช่กังวลว่าแผลบนไหล่ซ้ายของเขาจะฉีกอีกครั้ง?

วัจสาได้แค่ใช้ข้ออ้างนี้มาเกลี้ยกล่อมตัวเอง แล้วชายคนนั้น ยังหลงรักตัวเองซะขนาดนี้ คงคิดว่าตัวเองต้องสนใจเขาแน่ๆ ถึง ได้พูดอย่ามาหลงรักฉันคำพูดแบบนี้ออกมา ใครจะไปชอบเขา ละ!

ป้าอ้อยตุ่นซุปประมาณชั่วโมงกว่า ก็ถือซุปขาหมูขึ้นข้างบน เต รียมให้วังสาดื่ม

วัจสาอยู่บนเตียงเดิมที่จะง่วงนอน เมื่อได้ยินคนเคาะประตูก็

สะดุ้งตื่นทันที กลัวธัชชัยจะกลับมาอีก

“ใครค่ะ?

“เป็นป้าเอง คุณวัจสา”คือเสียงของป้าอ้อย

วังสาค่อยพูดว่า “เชิญเข้าค่ะ”

ป้าอ้อยถือซุปขาหมูมาตรงหน้าวังสา “คุณวจสา บนหลังคุณ ยังเจ็บไหม ? มาดื่มซุปขาหมูเถอะ บำรุงผิวพรรณ

วัจสาสายศีรษะ “ทายาเสร็จก็ไม่เจ็บแล้วค่ะ ขอบคุณป้าอ้อยที่ เป็นห่วงค่ะ”น่าจะเป็นธัชชัยบอกป้าอ้อยเรื่องแผลลวกที่บนหลังมั้ง แต่ไม่รู้ว่าเขาจะพูดโม้ยังไงอีก!

ที่จริงเธอไม่ค่อยอยากอาหาร แต่ได้ยินว่าสามารถบำรุงผิว ฝืนตัวเองดื่มไม่กี่คำ ถ้าไม่ทิ้งรอยแผลเป็นไว้จะดีที่สุด

ด้วยความหวังดีของป้าอ้อย เธอรับแล้ว เรื่องที่ป้าอ้อยทําเป็น ไม่เห็นก็ไม่มีอะไรน่าตำหนิแล้ว ถึงอย่างไรป้าอ้อยก็แค่ลูกจ้าง ทำงานที่ตระกูลศรีทอง อย่าไปมีอะไรมากกับธัชชัยนั้นแหละดี

ที่สุด

ร่างกายที่เบาบางของวังสาถูกห่อด้วยชุดนอนใหม่ทำให้ดูตัว เล็กอ่อนแอกว่าเดิม ป้าอ้อยยากที่จะจินตนาการ ถ้าไม่ใช่รัก แล้ว จะมีเหตุผลขวางน้ำซุปที่เดือดแทนคุณธัชชัยทำไม

“คุณวจสา ซุปขาหมูนี้คือคุณธัชชัยเรียกป้าตุ้นให้คุณกิน ที่จริง เขาก็เป็นห่วงคุณวจสา จริงสิ เขายังบอกป้าระวังเรื่องการกิน อย่าทำกับข้าวที่ทำให้แผลอักเสบ” ป้าอ้อยพูดอย่างยิ้มแย้ม สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธัชชัยอย่างเงียบๆ

แต่ในสายตาของวัสสา ธัชชัยนี้ไม่ได้มีเจตนาดีแน่ๆ เขาจะพูด ดีแบบนี้กับป้าอ้อย? คงต้องใช้คำพูดแบบดูถูกว่าเพื่อช่วยเขา ตัวเองมีความต่ำต้อยยังไง!

เห็นใจสาไม่พูด ป้าอ้อยนึกว่าเธอฟังเข้าหู แล้วเกิดอารมณ์ คึกคักอยากพูดยิ่งขึ้น “คุณวจสา คุณก็รู้ ที่จริงคุณธัชชัยเป็นคน หน้าเย็น แต่ใจร้อน เหมือนกับคุณวรพล เป็นคนที่มีความ คุณธรรมอย่างมาก เขาจะเป็นสามีที่ดี คุณต้องเชื่อเขา ”

“เขาจะเป็นสามีที่ดีมันเกี่ยวอะไรกับหนูค่ะ? ” น้ำเสียงของป้าอ้อยพูดอย่างกับว่าธัชชัยคือสามีของเธอ

“ป้าอ้อย ถ้าป่าเข้าข้างธัชชัย ก็ควรหาผู้หญิงที่ดีๆที่มีฐานะ ใกล้เคียงกันกับเขา ให้เขาไปเป็นสามีที่ดีของเขาไป

ป้าอ้อยฟังเสร็จ เธอเกือบลืมไป คุณธัชชัยใช้ชื่อของวรพลหาคู่ เพราะฉะนั้นตอนนี้ยังไม่รู้ว่าสามีของตัวเองจริงๆ คือคุณธัชชัย

ที่จริงเธอเข้าใจความหมายของคุณธัชชัย หลังจากคุณวรพล ประสบอุบัติเหตุ ไม่ว่าใครก็ตามเขาจะระมัดระวังเป็นพิเศษ ขนาดเธอกับคุณภูษิตตอนแรกก็ถูกอยู่ในช่วงสังเกตหนึ่งเดือน

สําหรับสมัครใจแต่งงานเข้าตระกูลศรีทอง แต่งงานกับคน พิการที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้อย่างวันสา ตอนแรกพวกเขาก็ ใช่เจตนาร้าย ไม่รู้ว่าเธอเป็นคนของอีกฝ่ายส่งสืบสวนข่าวสาร เปล่า คนทางนั้นล้วนรอวรพลเสียชีวิต

แต่ป้าอ้อยค่อยๆเห็นชัดเจนว่า ตอนที่มนายพาคนมาตรวจสุข ภาพให้วรพลนั้น เธอทำท่าที่จะสู้ตายเพื่อปกป้องวรพลทำให้ป้า อ้อยรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างลึกซึ้ง มีคนเลวที่ไหนเพื่อไปสายลับแล้ว บุกไปข้างหน้า โดยไม่ห่วงความปลอดภัยของตัวเอง? ถ้าไม่ใช้ ธัชชัยกลับมาทัน ในตอนนั้น วัสสาอาจจะกราบเป็นผีใต้ตาบ เมื่อ นึกขึ้นมาก็ยังกลัวอยู่

แล้วคนที่แต่งงานกับวัจสาแท้ๆ และเรื่องความจริงทั้งหมดนี้ รอให้ธัชชัยไปพูดกับภรรยาด้วยตัวเองดีกว่า ในจิตสำนึกป้า อ้อยก็เริ่มชอบวังสา แค่หวังว่าทั้งสองจะมีจุดจบที่ดี

แต่ต้องรอวรพลพ้นจากอันตรายก่อน คุณวจสาก็ต้องจำเป็นทนทุกข์ไปก่อน ถือว่าเป็นเรื่องดีโดยเยอะ

“คุณวจสา คุณรู้สึกว่าธัชชัยเป็นยังไง? ในทางด้านนิสัยป้า อ้อยคิดว่า ถ้าได้ความคิดเห็นของธัชชัยจากปากของวังสา บางที อาจจะสามารถสร้างโอกาสให้พวกเขาได้พัฒนาต่อไป

วัจสาคนซุปขาหมู ไม่เข้าใจว่าทำไมเรื่องราวที่ป้าอ้อยพูดมัก จะวนอยู่กับธัชชัย เธอเป็นภรรยาของวรพล ป้าอ้อยไม่ใช่ควรจะ พูดเรื่องเกี่ยวกับวรพลให้เธอฟังเหรอ?

“เขาเหรอ ครอบง่า เอาแต่ใจตัวเอง หนูไม่รู้สึกอะไร”จสาพูด ความรู้สึกของตัวเองออกมา โดยตรง และไม่มีอะไรที่จะปกปิด ความรัก

“แต่ว่า ถ้าคุณวจสาในใจคิดอย่างนี้ แล้วทำไมยังต้องขวาง หม้อดินที่เดือดจัดแทนคุณธัชชัยละ” ป้าอ้อยหัวเราะว่า

หน้าวจสาก็เริ่มแดงทันที เธอก็รู้ธัชชัยต้องพูดกับป้าอ้อย “เขา

พูดกับป้าแบบนี้?! ”

ป้าอ้อยพยักหน้า “ที่จริงคุณธัชชัยรู้สึกไม่ได้ซาบซึ้งสะขนาด ไหน” ป้าพยายามพูดไปทางที่ดี วจสาก็จะพบเห็นข้อดีของธัชชัย

ยังจะซาบซึ้งบ้าอะไร นี่มันโอ้อวดชัดๆ ยังให้คนอื่นเข้าใจผิด อย่างกับว่าเธอพี่สะใภ้คนนี้ที่ช่วยขวางลุงน้อยเพราะสนใจเขา อย่างกระหาย!

“ป้าอ้อยอย่าไปฟังเขาพูด ที่จริงคือหนูไม่ระวังไปในหม้อดิน นั้นเองต่างหาก แล้วไม่ใช่ตั้งใจที่จะขวางแทนเขาวังสาอธิบายรีบอย่างเร่งร้อน แต่ไม่ค่อยจะได้ผล ป้าอ้อยทำหน้ายิ้มแต่ไม่พูด

วัจสาจนปัญญา วางถ้วยซุปบนมือ แล้วเปลี่ยนเรื่อง “ตอนที่ ขึ้นบันไดเมื่อกี้ ป้าอ้อยก็เห็นธัชชัยเขาเสียมารยาทกับหนูยังไง พวกคุณจะไม่สั่งสอนเขาอย่างนี้จะดีเหรอ? ทั้งที่วรพลนอนอยู่ บนเตียง

ถ้าป้าอ้อชอบธัชชัย ก็ชอบวรพลด้วยเป็นเรื่องธรรมดา ท่าจาก มุมมองของเขา ป้าอ้อยอย่างน้อยก็ต้องช่วยเหลือนิดหน่อย ให้ ธัชชัยไม่อวดดีอย่างนี้?

แต่ป้าอ้อยฟังค่าใช้ของเธอไม่ออก ยังทำหน้ายิ้มอย่างเมตตา “พวกเธออยู่ร่วมกันได้ ก็เป็นความหวังดีที่สุดของคุณวรพล

วังสาทําตาโต ป้าอ้อยตอนนี้เข้าข้างอย่างผิดปกติจริงๆ เธอ เข้ารพลหวังว่าตัวเองกับธัชชัยอยู่ร่วมกันได้ แต่ทุกครั้งเป็นเขา ที่ไม่ให้เคารพเธอก่อน จนถึงขั้นใช้ร่างกายและคำพูดมา เหลาะแหละเธอ

ทายาบนหลังให้พี่สะใภ้ของตัวเอง ยังพูดว่าไม่ให้ผู้ชายมอง เห็นร่างกายของเธอ พูดสะน่าฟัง

ในภานะตัวเองเป็นลุงน้อยไม่รู้เหรอว่าควรจะต้องหลีกเหลี่ยง บ้าง?

“ป้าอ้อยค่ะ ป้าฟังไม่เข้าใจเหรอ ธัชชัยเป็นคนเหลาะแหละหนู ก่อนค่ะ สิ่งที่เขาทำมันเกินความสัมพันธ์ระหว่างลุงน้อยกับพี่ สะใภ้ไปแล้ว ป้าอย่าไปเข้าข้างเขาอีก อย่างนี้จะมีค่ากับวรพลยัง ไง? “วจสาก็ไม่อยากจะพูดอย่างน่าเกลียด ถ้าเธอไม่ทำแบบนี้ป้าอ้อยฟังไม่ออกสิ่งที่เธออยากแสดงออกมา

เห็นป้าอ้อยไม่พูด วจสาก็พูดมาว่า “ถ้าป้าไม่สั่งสอนเขา หนูจะ ไปบอกคุณภูษิต ถ้าคุณภูษิตก็ไม่สั่งสอนเขา หนูจะไปหาวรพล โดยตรง”

วจสาก็ไม่อยากจะรบกวนการพักฟื้นของวรพล สองสามวัน ก่อนได้เจอวรพลที่ห้องรักษายังทำให้หัวใจเธออัดแน่น อาการ หนักถึงขนาดนี้ ยังต้องกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่ยุ่งเหยิงเหล่านี้อีกเห รอ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ