ตอนที่ 27 แบบนี้ก็ยังเจอเขาได้
ชั่วพริบตาเดียววจสาก็จะขึ้นปี4แล้ว ผ่านวันหยุดฤดูร้อนนี้เสร็จก็ เตรียมพร้อมที่จะออกไปฝึกงาน เนื่องจาก เรื่องวุ่นวายเข้ามา โดยถูกส่งไปตระกูลศรีทองราวกับของขวัญ แล้วแต่งงานกับว รพล ดังนั้นจึงต้องยกเลิกแผนการฝึกงานเดิม
ทีแรกคิดจะทำหน้าที่เป็นภรรยาที่ดีในตระกูลศรีทอง ก็ไม่เลว แต่วรพลไม่ต้องให้เธอดูแล ตัวเองจึงมีเวลาว่างเหลือเฟือ ดังนั้น เอาเวลาเหล่านี้มาทำสิ่งที่มีประโยชน์ดีกว่า เช่นไปสถาน สงเคราะห์ในฐานะอาสาสมัคร อย่างไรก็ตามคุณดนิตาตรงนั้น ขาดคนอยู่พอดี
เรื่องฝึกงาน รอหมดวันหยุดฤดูร้อนแล้วค่อยว่ากัน
ที่จริงแหล่งเศรษฐกิจเป็น สิ่งที่สำคัญที่สุด ในสถานสงเคราะห์ ถ้ามีแหล่งเศรษฐกิจ พวกเด็กๆถึงจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้ เศรษฐกิจของสถานสงเคราะห์แบ่งเป็นสองแบบ หนึ่งคือจัดสรร เงินให้โดยรัฐบาล สองคือการบริจาคจากคนต่างๆ ในชุมชน
แต่การบริจาคจากก็แบ่งไปอีกสองแบบ ให้เงินสดโดยตรง หรือบริจาคข้าวของ
ส่วนมากเป็นพวกอาสาสมัครจากสถานสงเคราะห์ไปรวบรวม มา ในของ ในบริจาคส่วนมากเป็น เสื้อผ้า กระดาษ ปากกา ของ เล่นและอื่นๆ แต่เด็กมีไม่มาก เฉพาะฉะนั้นของพวกนี้ใช้ไม่หมด ที่สำคัญคือเด็กๆ ในสถานสงเคราะห์แต่ละคนจะมีโรคบางอย่าง
โรคหัวใจตั้งแต่กำเนิด โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ปากแหว่งและ เพดานโหว่ หรือเพราะเด็กหน้าไม่ดี มีข้อบกพร่องบ้าง พ่อแม่ทิ้ง ลูกไว้ในสถานสงเคราะห์
คุณดนตาเป็นคนที่ใจอ่อนและภราดรภาพ จึงไม่สามารถละทิ้ง เด็กๆได้ ทุกคนพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจัดหารวบรวมค่าผ่าตัด ให้กับพวกเด็กๆ ไม่พลาดโอกาสที่จะได้รับการรักษา เด็กที่เป็น โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวครั้งที่แล้วได้พึ่งพาคุณดนิตาถึงกลับมามี ชีวิตได้อีกครั้ง
ในวันนั้นสถานสงเคราะห์ได้จัดงานขายกุศล เรื่องพวกนี้ที่ไม่ เพียงให้คนออกแรงเปล่าๆ นอกจากนี้ยังทำให้คนรู้สึกถึง บรรยากาศของสังคม วันสารู้สึกอย่างนี้ก็ดีแล้ว
งานขายกุศลครั้งนี้จัดอยู่ที่ลานกว้างที่มีผู้คนเดินไปมา หวังว่า คนที่มาเข้าร่วมกิจกรรมจะเยอะขึ้น
วันสากับอาสาสมัครสองสามคนจัดเรียงเครื่องเขียนด้วยกัน นี่ คือของบริจาคจากบริษัทที่รักแห่งหนึ่ง ส่วนใหญ่เป็นสมุดและ ปากกา
มีกล่องเล็กๆที่วางงานฝีมือเครื่องประดับที่เด็กๆจากสถาน สงเคราะห์ทํามาโดยเฉพาะ พวกเขาบอกว่าตัวเองอยากจะใช้อีก แรงหนึ่ง ช่างเป็นเด็กดีจริงๆ
ปากกาขายหนึ่งหยวน คนส่วนใหญ่บริจาคเงินโดยไม่เอา ปากกาไป ก็คนส่วนน้อยที่เอาปากกาไป หรือไม่ก็เอาไปเป็นที่ ระลึก
มีบางคนหยุดเดินเพื่องานฝีมือเครื่องประดับของเด็กๆ ค่าใช้ จ่ายก็เลยสูงขึ้น แต่ไม่มีใครใส่ใจเรื่องนี้ คนที่ดีก็มีอยู่อีกหลาย คนในสังคม
นึกไม่ถึงว่าช่วงเช้าผ่านไป เงินบริจาคที่รวบรวมได้ไม่มากเท่า ที่คิด เพราะช่วงเวลานี้ ที่ ลานกว้างส่วนใหญ่จะเป็นปู่ย่าตายาย พาลูกหลวนมาที่นี่ ผู้ใหญ่หรือคนรวยมีน้อย
อาสาสมัครในที่เดียวกันก็ได้แค่ถอนหายใจ “ถ้ามีเจ้าถิ่นมาที่ นี่สักคนก็ดี พวกเราจะสามารถรวบรวมเงินได้เร็วขึ้น
คนที่พูดชื่อแวววัย เธอเติบโตจากสถานสงเคราะห์ เมื่อก่อน เพราะปากแหว่งเลยถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง ใช้ชีวิตอยู่ในใต้สายตา แปลกๆของคนอื่น
คือคุณดนิตาวิ่งเต้นไปทั่วเพื่อรวบรวมค่าผ่าตัดให้เธอ ถึงแม้ รอยแผลยังไม่ได้กำจัดออกอย่างสมบูรณ์ ตอนนี้ดูไม่ออกแล้วถ้า ไม่ได้ตั้งใจสักเกตดีๆ
ในเวลานี้อาสาสมัครชายคนหนึ่งก็ล้อเล่นอยู่ข้างๆ “แวววัย ทางชั่วนะมันไม่ได้ผลหรอก ให้กลับมาทางที่ถูกเถอะ เทวดา ตกลงมายังว่าไปอย่าง เจ้าถิ่นที่ไหนจะตกลงมา? ”
วัจสาฟังแล้วหัวเราะ เอาน้ำให้แวววัยและอาสาสมัครชาย คนละขวด” แวววัย อย่าท้อแท้ ถึงเจ้าถิ่นจะเยอะ แต่เจ้าถิ่นที่มี น้ำใจไม่ค่อยเยอะ เธอคงไม่เอามีดไว้ที่คอเขา แล้วบังคับเขาบริ จาดเงินใช่ไหม?
แวววัยรับน้ำแล้วครวญครางว่า”ฉันรู้ แต่ฉันก็ยังอดคิดไม่ได้ถ้าทําได้ฉันก็อยากเอามีดไว้ที่คอเขาจริงๆ! ”
แวววัยมองเห็นด้วยตาแหลม เอาขวดน้ำให้ใจสาด้วยความ ดีใจและตกใจ “เมื่อพูดถึงอะไร อะไรก็มาถึง! เจ้าถิ่นมา แล้ว !” พูดไปด้วยแล้ววิ่งไปทางรถเฟอร์รารี่
เคาะหน้าต่างรถอย่างระมัดระวัง
เมื่อหน้าต่างรถลงมา ใบหน้าที่หล่อเหล่อปรากฏในสายตา แวววัย ผู้ชายคนนี้ หล่อจัง! ดวงตาพืชที่ลึกล้ำ จมูกโด่ง ใบหน้า ที่ลุ่มลึก ถึงจะเย็นชา แต่ก็มีเสน่ห์เป็นพิเศษ!
คนที่อยู่ในรถก็คือธัชชัย เขาตอนนี้ไม่ได้มองแวววัย สายตา มองไปที่วังสาที่อยู่ข้างๆ เท่านั้น ดวงตามืดลง ผู้หญิงคนนี้ไม่อยู่ ที่บ้านดีๆ แล้วยังออกมาโผล่หน้าโผล่ตาอีก แล้วยังคุยกับผู้ชาย คนอื่นอย่างสนิดสนม! ช่างไม่รู้จักอับอาย
เมื่อแวววัยได้สติคืนมา “คะ คุณค่ะ พวกเรามาจากสถาน สงเคราะห์ค่ะ กำลังรวบรวมเงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือเด็กๆ คุณ สนใจที่จะซื้อปากกาและงานฝีมือเครื่องประดับเหล่านี้ไหมค่ะ? ”
ธัชชัยมองเฉียดผ่านเธอ สายลงมองไปที่วังสา “เรียกผู้หญิงที่ ใส่ชุดเดรสสีขาวมาคุยกับฉัน
เดิมที่วังสาจะปรึกษาเรื่องราวกับอาสาสมัครชายแต่รู้สึกได้ว่า มีสายตาที่รุ่มร้อนจ้องมองเธออยู่ ตอนที่เงยหัวไปมอง นึกไม่ถึง จะเจอธัชชัย ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้มาอยู่ที่นี่?
เธอตกใจ รีบถอยหลังอย่างรวดเร็ว หลบหลังอาสาสมัครชายโดยจิตสำนึก หวังว่าเขาจะไม่เห็นเธอ ไม่รู้ว่า การกระทำนี้ทำให้ ธัชชัยที่นั่งอยู่ในรถเฟอร์รารี่โกรธยิ่งขึ้น
แวววัยถอนหายใจ ว่าผู้ชายคนรวยแบบนี้ไม่มีทางมองเรา หรอก ไม่นานเธอก็ปรับตัวเองให้ร่าเริงขึ้น วัสสาอาจจะสามารถ ให้ชายคนนี้บริจาค? เมื่อคิดเสร็จก็วิ่งไปทางที่วัดสายืนอยู่
“วังสา! ”
วังสาที่หลบอยู่ข้างหลังอาสาสมัครชายแล้วโบกมือไม่ให้เธอ เข้าใกล้ เมื่อได้ยินประโยคนี้แล้ว เธอก็ยอมแพ้แน่ใจว่าธัชชัย เห็นเราจริงๆ ไม่รู้ว่าเขาจะเล่นมุกไหนอีก? หรือว่าจะรังแกเธอ ต่อหน้าต่อตาผู้คน? ตามนิสัยเขา เขาทำอย่างนี้แน่
แต่แวววัยดูไม่ออกกับสีหน้าแปลกๆของวังสา เดินมาด้วย ใบหน้างุนงง “วจสา เจ้าถิ่นคนหล่อ ให้เธอเดินไปคุยกับเขา ทั้ง หล่อทั้งรวย วังสาเธอจำเป็นต้องตีสนิทกับเขาให้ได้ ! สถาน สงเคราะห์ต้องอาศัยเธอแล้วละ!
แวววัยดูไม่ออก แต่อาสาสมัครชายรู้สึกได้ถึงการปฏิเสธของ วังสา เดินขึ้นไปพูดว่า “เดี๋ยวฉันไปคุยกับเขาไหม วันสาเธอกับ แวววัยอยู่ที่นี่เช็คจำนวนของที่เหลือ
“เรวัด……..สาเรียกเขาด้านหลัง แต่เธอไม่อยากเดินไปคุย กับผู้ชายคนนั้นเลยจริงๆ
เรวัตเดินไปด้วย ในใจดูถูกทายาทเศรษฐีที่ขับรถหรูจีบผู้หญิง แบบนี้ไปด้วย ก็แค่ที่บ้านมีเงินก็สามารถข่มเหงคนอื่นได้เหรอ? วังสาหน้าตาดูดี ดังนั้นจึงอยากใช้เงินบังคับให้เธอยอม เรวัตคนแบบนี้ออก แล้วเรื่องแบบนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก
“คุณผู้ชายครับ ไม่ทราบว่าคุณจะมอบความรักให้กับสถาน
สงเคราะห์ของพวกเราหรือไม่ครับ? * เรวัตถามและยิ้มอย่างมือ อาชีพ ธัชชัยเห็นคนที่มาไม่ใช่วังสา ความโกรธขึ้นมาระหว่างคิ้ว น้อยนิด “ความรัก ความรักของฉันไม่ได้ให้นาย ให้วังสามา
นี่ถึงจะได้ความรักที่พวกเธอต้องการ”
เรวัตตกใจ เขานึกไม่ถึงว่าเขาจะรู้จักชื่อของธัชชัย แล้ว บรรยากาศที่ครอบง่ารอบตัวนี้คืออะไร? ราวกับว่าเกิดมาเป็น พระราชา คลานพื้นอย่างอดไม่ได้ ดูเหมือนว่าชายคนนี้ไม่ใช่ ทายาทเศรษฐีธรรมดา ความหนาวสะท้านในตาเขาทำให้ผู้คน ยากที่จะต่อสู้
“ต้องขอโทษจริงนะครับ วังสาไม่ได้รับผิดชอบเขตนี้ เรวัต ยิ้มอยู่เหมือนเดิม
วันสารู้สึกว่าเหตุการณ์เริ่มไม่ดีแล้ว ตามนิสัยของธัชชัย ถ้าเขา ไม่เจอเธอ กลัวว่าเขาจะกลั่นแกล้งเรวัต เธอคิดเสร็จก็วิ่งขึ้นไป
“คุณผู้ชายค่ะ ไม่ทราบคุณจะคุยกับฉันใช่ไม่ค่ะ ตอนนี้ฉันมา แล้ว หากคุณมีความรักโปรดบริจาคให้ด้วย หากคุณมาที่นี่เพื่อ ก่อเรื่อง ขอโทษค่ะ พวกเราไม่อยู่เป็นเพื่อนค่ะ”
วัจสาท่าทางเฉยๆ ราวกับมองคนแปลกหน้า เธอรู้ว่าเธอไม่ จำเป็นต้องอดกลั้นอีกแต่ไป ไม่งั้นจะกระตุ้นความกำเริบเสืบสาน ของธัชชัยขึ้นมา เขามีสิทธิอะไรให้เธอทำอะไรก็จะต้องทำอะไร?
“วังสา พวกเรามาทำข้อตกลงกันไหม? เอาความรักของฉัน ไปแลกกับความรักของเธอ “ธัชชัยไม่ได้พูดคำร้ายใส่กัน แต่ รอยยิ้มของมุมปากนั้นได้แสดงความหมายอย่างลึกซึ้ง
“บอกมาส ความรักอะไร”วังสาพูดออกมาด้วยความเย็นชา ผู้ชายคนนี้ไม่เคยที่จะปล่อยโอกาสรังแกเธอ
“ฉันจะซื้อผลิตภัณฑ์การกุศลทั้งหมดของพวกเธอวันนี้ในราคา ยี่สิบเท่า” ขนคิ้วยาวของธัชชัยชูขึ้นนิดๆ
พวกอาสาสมัครได้ยินแล้วต่างก็ยิ้มแย้มแจ่มใส “คุณพระช่วย เยอะมาก! ยี่สิบเท่า พอใช้เป็นเวลานานสำหรับพวกเราแล้ว! สมกับเป็นคนรวย ” แวววัยดีใจเป็นคนแรก
แต่วจสารู้ดีว่า”ความรัก” ที่เขาอยากได้มันก็ไม่ง่าย แล้วคุณ ล่ะ? คุณอยากได้ความรักอะไรของฉันไป? ”
ด้วยการแลกเปลี่ยน คุณวจสาเพียงแค่ไปทานอาหารมื้อค่ำ กับผม”น้ำเสียงของธัชชัยทั้งต่ำและชั่วร้าย ถึงจะน่าฟังแต่มักจะมี ความคลุมเครือที่พูดไม่ออก
ว่าแล้ว ธัชชัยมาที่นี่เพื่อให้เธอ พี่สะใภ้คนนี้ต้องอับอายขาย หน้า ให้เธอไปกินข้าวด้วย แล้วคนอื่นจะคิดยังไงกับเธอ?
เรวัตมองว่าเขาเป็นทายาทเศรษฐีที่จะจีบผู้หญิง คิ้วยับย่นทันที “ขออภัยครับ อาสาสมัครของพวกเราไม่ไปกินข้าวกับคนอื่นครับ เชิญกลับไปเถอะครับ” เขาเดิมมาข้างหน้า โดยเอาร่างกายปิดกันข้างหน้าวัชชัยโดยตรง เหยียดมือแล้วลากเธอไว้ข้างหลัง มือเพียงแค่วางไว้ที่มือของวัสสาได้กระตุ้นประสาทของรัช
ชัย พูดด้วยน้ำเสียงที่โกรธเตียงว่า “ปล่อยเธอซะ” แค่เสียงเดียว เอาให้ทุกคนตกใจกันหมด
เรวัตไม่สน กํามือวังสาต่อ หลับหัวพูดกับเธอว่า “วังสา เธอ
กลับไปที่รถสถานสงเคราะห์ก่อน เดี๋ยวพวกเราตามไปทีหลัง ไม่
ต้องกลัว” รู้สึกได้ว่าธัชชัยจะทำอะไร เรวัตตัดสินใจให้วังสาไปจากที่นี่
โดยทันที
ดวงตาของธัชชัยมืดลง ปลดปล่อยกลิ่นไอที่หน้ากลัวออกมา ผลักประตูลงจากรถ กำปั้นอย่างรวดเร็วมีทรงพลังลงใบหน้าของ เรวัต เห็นเลือดที่มุมปาก
เรวัตพอได้สติ ก็กำปั้นกลับ แต่ไม่มีแรงเยอะเท่ากับธัชชัย
วังสามองเห็นความโกรธ ในสายตาของธัชชัย รีบเข้าไปกอด เอวที่แข็งแกร่งของเขา พอทุกคนได้สติก็รีบลากเรวัต เพื่อไม่ให้ ทั้งสองตีกันอีก
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ