รักทรหด นายปีศาจสุดร้าย

บทที่35:ทำให้ลำบากใจ



บทที่35:ทำให้ลำบากใจ

บทที่35:ทำให้ลำบากใจ

ฝันร้ายที่ไร้ขอบเขต วนเวียนอยู่ทุกคืน

ยืนอยู่ที่ริมผา จู่ๆเหมือนดั่งเยนถงตื่น ขึ้นมาจากความฝัน

ไม่ใช่เพราะตกริมผา แต่เพราะประตูที่อยู่ด้านหลังถูก คนเปิดออก

“สมองแกมีปัญหาหรือเปล่า มีเตียงไม่นอน ดันจะมา นอนอยู่ที่หน้าห้อง?”

หลังจากเกิดเรื่องนั้น ตอนที่ฉินมู่มู่เจอเจี่ยนถงก็ทำเป็น เหมือนไม่เห็น ทำสีหน้าที่เย็นชาสูงส่งออกมา ถึงแม้ดูถูก เจี่ยนถง ฉินมู่มู่ก็ไม่คุยกับเจี่ยนถง เหมือนกับว่าคุยกับ เจี่ยนถงก็จะลดระดับของตัวเองลง

แต่เช้าวันนี้ อยู่ในห้องที่พวกเธอสองคนพักด้วยกัน ฉิน มู่มู่เหมือนสร้างบุญคุณ น้อยมากที่จะได้เห็นเธอคุยกับ เจี่ยนถง

แต่. ..ไม่ใช่คำพูดฟังดูดีเลยจริงๆ สู้ไม่พูดยังจะดีกว่าเวียนศีรษะมาก ภาพที่อยู่ตรงหน้าล้วนแต่หมุนติ้วๆ เงี่ยนกงไม่มีอารมณ์รับมือกับฉินฝูมู่จริงๆ

“เมื่อคืน ประตูล็อกไว้

เจี่ยนถงพูดราบเรียบไปคำหนึ่ง คำพูดบางอย่าง พูดถึง ตรงนี้ก็พอแล้ว

เธอไม่คาดหวังว่าฉันมู่ดู่จะขอโทษเธอ ขอแค่ฉินมู่มู่หยุด อยู่ที่ตรงนี้ก็พอ

ข้างหูมีเสียงเรียบเฉยของฉินมู่พู่ก้องมา: “อ้อ~ประตูถูก ลือกจากด้านในหรอ คงจะเป็นเพราะว่าเมื่อคืนตอนที่ฉัน ปิดประตู ไม่ทันระวังก็เลยไปกดโดน

ไม่ทันระวังไปกดโดน….….…………………คงไม่เชื่อมั้ง

เจี่ยนถงส่ายหน้า ไม่อยากโต้เถียงกับฉินมู่ดู่ สมองยิ่งอยู่ ยิ่งหนัก ภาพของทั้งสี่ด้านต่างก็หมุนติ้วๆ

“ว่าไปแล้ว นี่ก็โทษฉันไม่ได้มั้ง ไม่ระวังไปแตะโดน ทำให้ประตูถูกล็อกจากด้านใน แกเปิดปากตะโกนเรียก ไม่เป็นรึไง? แกมีปากเอาไว้ทำอะไร?”

ข้างหูมีเสียงเจ๊าะแจ๊ะ ศีรษะของเจี่ยนถงปวดตุ๊บๆจนขมวดคิ้วแน่น ในที่สุดเธอก็เงยหน้าขึ้นมา: “ฉันมู่มู่ ฉัน เหนื่อยมาก”

ความเหนื่อยล้า เขียนอยู่บนหน้า

แต่ฉินมู่มู่กลับเหมือนไม่ได้ยิน จู่ๆกลับมองเจี่ยนถงไว้

เผยการเหน็บแนมที่ไม่หวังดีออกมา:

“อ๋อ…ฉันรู้แล้ว ปากของแกเอาไว้ใช้ทำเรื่องต่ำช้าที่ไร้ ยางอายใช่มั้ย?”

“ฉันเหนื่อยมาก” เงี่ยนถงจับกรอบประตูไว้ ความเหนื่อย ล้าของสีหน้ายิ่งดูชัดมากยิ่งขึ้น

สีหน้าขาวซีด ไม่มีเลือดฝาด

แต่ฉินมู่ดู่ไม่ยอมปล่อยเธอเข้าห้อง เธอยังไม่ยอมเลิกรา อีกเช่นเคย:”ช้าก่อน!” เธอดึงเงี่ยนถงที่อยากเข้าไปใน ห้องไว้ แววตาเผยความเยือกเย็นออกมา

“เจี่ยนถง ฉันขอเตือนแกเลยนะ อย่าไปราวีเซียวเหิ งอีก!”

ฉินมู่มู่ไม่ยอมรับเด็ดขาดว่าเธอริษยาเจี่ยนถงที่ใกล้ชิด แนบแน่นกับเซียวเหิงขนาดนั้น เธอเป็นนักศึกษาของมหาลัยS เพื่อจะได้รับงานการศึกษา ถึงกล้ำกลืนความไม่ เป็นธรรมเพื่อบรรลุผลสมความปรารถนา ถึงมาที่ตงหวง เธอต่างกับคนอื่นๆที่อยู่ในนี้

เงี่ยนกงบประตู…..….…………มากๆ ไม่อยากโต้เถียง กับฉินฝูมู่สักคำจริงๆ เธอแค่อยากรีบไปนอนที่บนเตียง ของตัวเอง

“ฉินมู่มู่ ฉันไม่สบาย

ฉินมู่มู่อึ้งไปครู่หนึ่ง แค่ครู่เดียว แต่ต่อจากนั้นไม่รู้เป็น อะไร ราวกับว่าถูกหยามอย่างแรง พริบตาเดียวก็อารมณ์ ขึ้น:

“เจี่ยนถง แกพอเหอะ เป็นแต่แกล้งทำตัวน่าสงสาร ฉัน ก็แค่พูดกับแกไปสองคำเฉยๆ แกก็ไม่สบายนี่ สบายนั่น แล้ว?”

เจี่ยนถงนวดระหว่างคิ้ว ไม่อยากเกิดความขัดแย้งที่มา กกว่านี้กับฉินมู่ดู่จริงๆ

“เมื่อคืนฉันไปตากฝนมา เธอล็อกประตูไว้ไม่ใช่เหรอ?”

เจี่ยนถงแค่เห็นว่าตัวเองพูดความจริงออกมาคำหนึ่ง คิด ไม่ถึง ความจริงนี้ กลับกระตุ้นฉินมู่มู่อย่างสิ้นเชิง เดิมที ฉันมู่มู่ก็อาจจะมีอคติกับเจี่ยนถงอยู่แล้ว ไม่ว่าเงี่ยนถงพูดอะไรก็ผิดหมด

“นี่แกหมายความว่ายังไง?” ใบหน้าสะสวยของฉินฝูมู่ ห้อยลงมา “ไม่ใช่ฉันให้สวรรค์ฝนตกลงมาสักหน่อย ยังมี อีก ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอ? ฉันไม่ระวังถึงได้ไปแตะโดน ลูกบิด แกพูดแบบนี้เหมือนว่าฉันจงใจล็อกประตูไม่ให้แก เข้ามาในห้องอย่างงั้นแหละ”

ศีรษะหนักและขาเบาไม่มีเรี่ยวแรง เจี่ยนถงได้ยินคำ พูดของฉินมู่มู่แล้วรู้สึกยิ่งปวดหัวเข้าไปใหญ่ เธออยาก หักล้างฉินมู่มู่มาก อยากระบายความกล้ำกลืนของตัวเอง อย่างทําเริบเสิบสานมาก

ตอนที่ความคิดนี้เพิ่งโผล่ขึ้นมาในหัว ยังไม่ทันได้เปลี่ยน มันมาเป็นการกระทำ ก็ถูกเจี่ยนถงเองสะกดเอาไว้แล้ว

เจี่ยนถง เธอไม่ใช่คุณหนูของตระกูลเจี่ยนเมื่อสามปี ก่อนแล้ว

เจี่ยนถง เธอเป็นแค่นักโทษชั้นแรงงานที่เพิ่งออกมาจาก คุก

เจี่ยนถง ฉินมู่ดู่เป็นนักศึกษาของS อนาคตสดใส เธอล่ะ เธอล่ะ แล้วเธอล่ะ!
เวลา สำหรับเจี่ยนถงแล้ว มันก็เป็นแค่ขี้หมาเหม็นๆก้อน หนึ่ง เวลาได้พิสูจน์จากเธอที่เป็นคนกำเริบเสืบสานและมี ความมั่นใจ กลายมาเป็นสภาพอย่างในวันนี้

เพราะไม่อยากไปปลดปล่อยอารมณ์ของตัวเองอย่าง กําเริบเสิบสานเหรอ?

ไม่ใช่ว่าไม่อยาก แต่ไม่สามารถที่จะทำได้

“ฉินมู่มู่ เธอเข้าใจความหมายฉันผิดไปแล้ว ฉันแค่บอก ว่าฉันตากฝนมาทั้งคืน แล้วนอนอยู่ที่หน้าห้องมาทั้งคืน ตอนนี้รู้สึกทรมานมากๆ ฉันรู้สึกเวียนหัวมาก มีอะไรเดี่ยว รอให้ฉันนอนตื่นแล้วค่อยว่ากันได้มั้ย?”

ใกล้จะอ้อนวอนอยู่แล้ว ริมฝีปากที่ซีดเซียวของเจี่ยนถง เผยความอ่อนเพลียของเธอออกมา

เธอนึกถึงเธอในสามปีก่อนอย่างห้ามใจไม่ได้ เธออยาก รู้อย่างห้ามใจไม่ได้ ถ้าเป็นเจี่ยนถงในสามปีก่อนเธอจะ ทำยังไง?

จะเหมือนตัวเองในตอนนี้มั้ย ที่หัวหดด้วยความกลัว?

จะเหมือนตัวเองแบบนี้ ต่ำต้อยจนไม่อยากก่อเรื่อง ไม่ อยากขัดใจใครทั้งสิ้น แต่ถอยด้วยความอ่อนแอมั้ย?
“เจียนกง แกนี่มันน่าสะอิดสะเอียนจริงๆเลย ฉันก็บอก แกแล้วว่าฉันไม่ได้ตั้งใจล็อกประตูใส่แก เป็นเพราะไม่ ระวังไปแตะโดนลูบบิดไม่ได้รึไง? ฉันก็อธิบายให้แกฟังไป แล้ว แกยังจะเอายังไงอีก?” ฉินปูมู่มองดูเงี่ยนกงที่อยู่ตรง หน้า ก็นึกถึงภาพที่อยู่ในทางเดินบันไดขึ้นมาอย่างเฉย เลย

ไม่เพียงแต่ภาพที่อยู่ในทางเดินบันได ยังมีภาพที่อยู่ ในห้อง606อีก การโผล่มาอย่างกะทันหันของเซียวเหิง ช่วยเจี่ยนถงคลี่คลายสถานการณ์ เดิมทีฝ่ายตรงข้ามที่ เจี่ยนถงต้องแสดง”ฉากจูบ”ต่อหน้าผู้คน เป็นแค่พนักงาน รักษาความปลอดภัยเล็กๆคนหนึ่งเฉยๆ

ยิ่งคิด ในใจของฉินมู่มู่ยิ่งมีความหึงโผล่ขึ้นมาอีก

มองเจี่ยนถงแล้วรู้สึกขัดหูขัดตา ไม่สบายไปทั้งเนื้อทั้ง

ตัว

อีกอย่าง ผู้หญิงที่เธอเผชิญหน้าอยู่ในนาทีนี้ ตัวเองเห็น หน้าตาเธอที่รับปากอยู่ลูกเดียวอย่างถ่อมตน ก็ยิ่งโมโห เข้าไปใหญ่!

กับอีแค่เจี่ยนถงที่ใจเสาะ เซียวเหิงชอบเธอตรงไหนกัน แน่?

จะดูที่หน้าตาๆก็ไม่สวย จะดูที่หุ่นๆก็ไม่ดี ดูที่ความรู้ๆก็ไม่มี เหมือนดินโคลนเน่ากองหนึ่ง เจี่ยนกงมีสิทธิ์อะไร สะกดจิตผู้ชายที่โดดเด่นอย่างเซียวเหิง………..เสีย

“นังมารจิ้งจอก!” นอกจากเงี่ยนถงใช้ร่างกายไปยั่วสวาท เซียวเหิง ฉินปูมู่วิเคราะห์ไปรอบหนึ่ง วินิจฉัยและกำหนด แล้วว่าคือสาเหตุนี้แหละ

เจี่ยนถงก้มหน้าลง บดบังอารมณ์ของแววตาไว้

เธอก็โกรธเป็นเหมือนกัน

ใช้เวลาสามปีในการเรียนรู้ที่จะอดทน เรียนรู้ที่จะ กล้ำกลืนความไม่เป็นธรรมเพื่อรักษาหน้าทุกฝ่าย

เธอค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา และมองมาที่ฉินมู่มู่: “ถ้าเธอ ชอบคุณเซียว งั้นเธอไม่ควรมาหาฉัน ถ้าเธอมีแค่ปัญญา มาสร้างความลำบากใจให้ฉัน งั้นคุณเซียวก็ไม่มีทางชอบ เธอหรอก”

ใช่ เธอใช้เวลาสามปีในการเรียนรู้ที่จะอดทน เรียนรู้ที่ จะกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรมเพื่อรักษาหน้าทุกฝ่าย กลับ แก้ความเย่อหยิ่งที่ฝังลึกอยู่ลึกๆมาตั้งแต่เกิดไม่ได้

เธอไม่ไปดุฉินมู่ดู่ว่ารังแกคนมากเกินไป ก็สามารถทำให้ ฉันมู่มู่บ้าคลั่งอย่างไม่หยุดได้
เธอถึงขึ้นรู้ว่าควรใช้คำพูดแบบไหน ใช้วิธีที่ตรงไปตรง มา ตบตาจบศึก กดขี่อยู่ฝ่ายเดียว

ใบหน้าสะสวยของฉินมู่มู่มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเยอะมาก ทั้งบูดเบี้ยว ทั้งร้ายกาจ ดูแล้วไม่มีความใสบริสุทธิ์ของที่ ผ่านมา เธอเบิกตากว้าง มองดูเจี่ยนถงที่อยู่ตรงหน้าอย่าง เหลือเชื่อและยากที่จะรับได้ —— ผู้หญิงคนนี้อยู่ในสายตา ของตัวเอง เป็นคนต่ำต้อยที่ต่ำช้าและน่าสงสาร

“ผู้หญิงที่ต่ำช้าไร้ยางอายอย่างแก เซียวเหิงไม่มีทาง ชอบหรอก ไม่มีใครชอบผู้หญิงที่ไม่มียางอายแม้แต่นิด แบบแกหรอก!” ฉินมู่มู่เพ่งมองเจี่ยนถงด้วยความโกรธ และสีหน้าบูดเบี้ยว เธอตะคอกใส่ ราวกับว่าหลังจาก ตะคอกเสร็จ ก็สามารถกอบกู้ศักดิ์ศรีที่เมื่อกี้ทำหายอยู่ ตรงหน้าของเจียนถงกลับมาได้

หัวของเจี่ยนถงจะระเบิดอยู่แล้ว เหมือนไฟแผดเผา แต่ก็ รู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว เธอเงยหน้าขึ้นมา ฉินมู่มู่ที่อยู่ตรง หน้าได้กลายเป็นเงาซ้ำๆที่ไม่นับถ้วน เดี๋ยวเล็กเดี่ยวใหญ่ เดี่ยวใกล้เดี๋ยวไกล ถึงจะเป็นแบบนี้ก็เถอะ มือของเธอกุม ไว้แน่นอย่างเงียบๆ ความเจ็บปวดที่นิ้วมือจิกเข้าที่เฝ่ามือ ทำให้เธอตื่นตัวขึ้นมาเล็กน้อย เธอมีคำพูดหนึ่งที่จะต้อง บอกให้ฉินมู่ม่รู้ให้ได้:

“ฉินมู่ดู่ หรือว่ารักคนๆหนึ่ง ไม่ควรประพฤติตัวจริงใจกับ เขา ในสายตาเหลือแค่เขาคนเดียว?
แต่ว่า ถ้าเทียบกับคุณเขียว เหมือนเธอจะแคร์การดำรง อยู่ของฉันมากกว่า ฉันไม่เข้าใจ หรือว่าความรักของเธอ แค่พูดไปงั้นๆ ความรักของเธอมันจริงมากแค่ไหนกันแน่?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ