รักทรหด นายปีศาจสุดร้าย

บทที่ 54 ตรวจสอบ



บทที่ 54 ตรวจสอบ

บทที่ 54 ตรวจสอบ

หัวหน้าใหญ่ สามคำนี้ บางทีผู้จัดการสวี่ไม่รู้ว่าคือใคร แต่รู้ว่าสามารถยืนหยัดในเมือง S ได้ คนที่อยู่เบื้องหลัง นี้ จะต้องมีความสามารถอย่างยิ่ง สามารถจินตนาการได้ เลย

และตอนนี้ ซูเมิ่งบอกตนว่าคนที่ช่วยชีวิตเจียนถงเอาไว้ ก็คือ “เจ้านายใหญ่” ผู้ลึกลับที่สุดคนนี้

เจ้านายใหญ่ ก็คือชื่อเรียกของเสี่ยใหญ่คนนั้นที่อยู่เบื้อง หลังเท่านั้นเอง

ผู้จัดการสวี่ขาอ่อนล้มลงกับพื้น หัวสมองเกิดเสียงหึ่งๆ ซู เมิ่งไม่ได้พูดละเอียดเป็นพิเศษ แต่ทำแบบนี้ก็ทำให้ผู้จัด

การสวี่เข้าใจบ้างเรื่องมากพอแล้ว

ในหัวสมองเกิดความสับสนวุ่นวาย ทันใดนั้นก็ปะติดปะ ต่อได้ ผู้จัดการสวี่เงยหน้าขึ้นมาตะโกน “วันนี้เจี่ยนถงไป ที่ไหน ฉันไม่แน่ใจ พี่เมิ่ง พี่รอเดี๋ยว ฉันจะไปตรวจสอบ”

ต้องเป็นคนที่รนหาที่ตายแน่ๆ ถึงเอาตัวเจี่ยนถงไป
ถ้ารู้นานแล้วว่าเงี่ยนถงผู้น่าสงสารคนนั้น มีความ สัมพันธ์ไม่ชัดเจนกับ “เจ้านายใหญ่” จะพูดอะไร เธอก็คง ไม่ดูหมิ่นเงี่ยนง….และไม่อยากตาย

ซูเมิ่งเริ่มสงสัย แซ่สวี่คนนี้ ตัวเองก็รู้จัก คงไม่พูดโกหก แบบนั้นหรอก

แต่ถ้าไม่ใช่การจัดเตรียมของแซ่สวี่ งั้นเจี่ยนถง…….ทาง

ด้านนั้น ผู้จัดการสวี่วิ่งออกไปเอง เมื่อจับได้ก็ถามขึ้น

“เธอล่ะ?”

“ฮะ?”

“เจียนถง! เธอล่ะ!”

“อ-อยู่ในห้องนั่งเล่น ผู้จัดการสวี่ คุณตามหา

เจี่ยนถง….…..

คนคนนี้ยังพูดไม่จบ ผู้จัดการสวี่ก็รีบวิ่งไปเหมือน

สายลม

“เจี่ยนถงคนนี้ ทำอะไรอีกแล้ว ไม่คิดว่าจะหนีพี่เมิ่ง บีบ บังคับให้ผู้จัดการสวี่ออกตามหาด้วยตัวเอง?”
“แกจะไปสนเธอทำไม

“ก็จริง”

คุยกันอยู่ตรงนี้ ผู้จัดการสวี่ก็เหมือนพายุหมุน วิ่งเข้าไป ในห้องนั่งเล่น “เจี่ยนถง คุณ…….” เธอใช้ท่าทีเวลาคุยกับ เจี่ยนถง ทันใดนั้นก็นึกถึงประโยคนั้นของซูเมิ่ง ก็กระแอม ไออย่างกระอักกระอ่วน แล้วพูดด้วยเสียงนุ่มนวล

“คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

เงี่ยนถงอัศจรรย์ใจ ผู้จัดการสวี่เป็นห่วงตนตั้งแต่เมื่อไร

“ไม่เป็นอะไรค่ะ”

“ฉัน…ฉันแค่อยากถาม เรื่องที่เกิดขึ้นที่ห้องส่วนตัว VIP ชั้นหกในวันนี้”

เจี่ยนถงแข็งทื่อไปทั้งร่าง

“คุณไม่ต้องเครียด” ผู้จัดการสวี่พูดปลอบ “ฉันแค่อยาก ถามสักหน่อย วันนี้ฉันไม่ได้จัดเตรียมงานชั้นหกให้คุณ ทำไมคุณไปที่ห้องส่วนตัวชั้นหกล่ะ?”
เธอถามเงี่ยนถงพลางคิดในใจ: เจี่ยนถงโลภมากเอง ไม่ใช่เหรอ ยังไงแล้วเรื่องพวกนั้นที่เจี่ยนถงเคยทำมา ถึง จะถูกระงับไว้ยังไง แต่คนในตงหวงแต่ละคนก็รู้ดีอยู่แก่ใจ

ไม่มีศักดิ์ศรีเลยสักนิดเพื่อเงิน ก็ไม่แน่ว่าอาจจะเสี่ยง ชีวิตเพื่อเงินก็ได้

“มีคนมาเรียกฉัน” เจี่ยนถงไม่ได้คิดมากขนาดนั้น นอกจากนี้เธอแค่นึกว่าคำถามนี้ของผู้จัดการสวี่เป็นแค่ คำถามกิจวัตรประจำวัน อย่างไรแล้วตัวเองไปที่ห้องส่วน ตัว VIP ชั้นหกโดยไม่มีการจัดเตรียมของเธอ มันก็เป็น เรื่องไม่ค่อยดีอยู่เสมอ

ผู้จัดการสวี่ขมวดคิ้ว “ใคร?” ดวงตาเธอจ้องมองเจี่ยนถง มันคมชัดในพริบตาเดียว

“ไม่รู้จัก น่าจะเป็นทางด้านลูกค้าเสนอ เรียกฉันให้ไปหาด้วยตัวเอง”

“อย่างนั้นเหรอ แล้วบทที่คุณไป ในห้องส่วนตัวมี พนักงานไหม” อย่างไรแล้วก็เป็นคนมากประสบการณ์ จัดประเด็นสำคัญได้ทันที

“ฉิน… เจี่ยนถงเพิ่งเปล่งคำว่า “ฉิน” ออกมา ทันใดนั้นก็หยุดลงฉับพลัน
เธอไม่ได้โง่ คำถามผู้จัดการสถามไปถามมา ทันใดนั้น ก็เข้าใจว่าผู้จัดการสวี่ไม่เพียงแต่ถามกิจวัตรประจำวัน แต่เธอยังคอยสำรวจข้อมูลตนด้วย

เม้มปาก ไม่ใช่ว่าไม่เกลียดฉินมู่มู่ แต่เรื่องร้องเรียนลับ หลังแบบนี้ เธอไม่อยากทำ

“ใคร?” ผู้จัดการสวีถามอีกครั้ง

จ้องมองเจี่ยนถงตรงหน้า แต่คนตรงหน้ากลับรักษา ท่าทางสงบนิ่งอยู่ตลอด ไม่เอ่ยปากสักคำ

ดวงตาผู้จัดการสวี่ฉายแววหมดหนทาง แล้วมองเงี่ยนถ งอีกครั้ง ตบบ่าเจียนถง “งั้นเธอตั้งใจพัก…… ทันใดนั้นผู้ จัดการสวี่ก็เบิกตากว้าง เห็นชุดที่เจี่ยนถงสวมอยู่ใต้ฝ่ามือ

เมื่อครู่นี้รีบร้อนเกินไป เอาแต่อยากถามผลลัพธ์ที่ได้กับ เงี่ยนถง เลยไม่ได้สังเกตสิ่งที่เจี่ยนถงสวมอยู่เลย

และในขณะนี้ สายตาผู้จัดการสวี่อยู่ที่ชุดบนร่างกาย เจียนกง

ถึงแม้เจี่ยนถงจะเอาปลายเสื้อเชิ้ตใส่เข้าไปในกางเกง ถึงแม้กางเกงวอร์มจะดูกลางๆ ไม่ว่าชายหรือหญิงก็ใส่ได้
แต่ก็ยังเห็นร่องรอยของเสื้อผ้าผู้ชายอยู่นิดหน่อย

ผู้จัดการสวี่เหมือนเห็นผี เหลือบมองเจี่ยนถงอย่างลึก ซึ้ง…..เจี่ยนถงนี่ ก็ไม่มีส่วนไหนผิดปกติอะไร ทำไมถึง……..

“แค่กๆ ฉันไปก่อนนะ”

ผู้จัดการสวี่หันศีรษะเดินออกไป ในใจก็สับสนวุ่นวาย

ซูเมิ่งเดินตามหลังผู้จัดการสวี่มา เธอไม่ได้เข้าไปในห้อง นั่งเล่น แค่กอดอกพิงผนังข้างประตูห้องนั่งเล่น กั้นแค่ ประตูบานหนึ่ง ได้ยินบทสนทนาระหว่างทั้งสองคนอย่าง แน่นอน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ยินทั้งหมดอย่างชัดเจน แต่ก็มา พอสมควร

ขณะที่ผู้จัดการสวี่เดินออกมา ผ่านรอยแยกประตู ซูเมิ่ง เหลือบมองเจี่ยนถงในห้อง เห็นว่าเธอไม่ได้แย่มาก จึง ถอนหายใจอย่างโล่งอกทันที

ผู้จัดการสวี่ออกมาเห็นซูเมิ่ง ซูเมิ่งก็ยกเท้าเดินไป ผู้จัด การสวี่ก็ตามไปทันที

“ที่นี่มันผิดปกติ” ผู้จัดการสวี่พูดมุมมองของตัวเอง “บอก ว่าลูกค้ามาเรียกเอง ในห้องส่วนตัวมีพนักงานอยู่ และไม่รู้ ว่าพนักงานที่หน้างานตอนนั้นคือใคร”
ซูเมิ่งควักโทรศัพท์ออกมา โทรหาเสิ่นยีโดยตรง “บทที่ พวกคุณเข้าไปในห้องส่วนตัว ตอนนั้นมีใครที่หน้างาน บ้าง? มีใครสวมชุดเครื่องแบบตงหวงหรือเปล่า?”

ทางด้านปลายสายก็พูดอย่างชัดเจน “มีเด็กผู้หญิงคน หนึ่ง หน้าตาสวยบริสุทธิ์ แต่ฉันไม่รู้ว่าเธอชื่ออะไร….. ชะงักไปสักพัก แล้วพูดขึ้นอีกครั้ง “แต่ฉันรู้สึกค่อนข้างคุ้น ตาเด็กผู้หญิงคนนั้น

ไม่ใช่แค่คุ้นตา ตอนแรกหลังจากที่เจี่ยนถงออกมาจาก คุก ก็ไปยั่วยุเสิ่นซิวจิ่นอีกครั้ง ก็เพื่อช่วยชีวิตฉินมู่มู่

“ถ้าให้คุณดูรูป คุณจะจำได้ใช่ไหม?”

“จำได้”

“งั้นได้ เดี๋ยวฉันกลับไปที่ห้องทำงาน คุณมาที่ห้อง ทำงานฉัน” ซูเมิ่งวางสายไป รีบโทรไปหาฝ่ายบุคคลทันที “คุณจัดเรียงข้อมูลพนักงานปัจจุบันของตงหวงออกมา แล้วส่งเข้าอีเมลฉัน”

ตะโกนขึ้นมา “พี่เพิ่ง ฉัน…” ใบหน้าผู้จัดการสวี่ร้อนระอุ ตะโ อย่างกระอักกระอ่วนนิดหน่อย

“เรื่องของคุณ เดี๋ยวค่อยคุยกัน ฉันยังต้องจัดการเรื่องอื่น”
ซูเมิ่งพูดแบบนี้ ผู้จัดการสวี่ก็ถอนหายใจ “เดี๋ยวค่อยคุย กัน” นั่นคือมีที่ว่างให้ “คุย” ถ้าไม่มีที่ว่างให้หันกลับไป ถ้า อย่างนั้นก็ไม่จำเป็นต้อง “คุย” ต่อ

เพิ่งรีบกลับไปที่ห้องตัวเอง

เสิ่นยีนั่งรอเธอที่ห้องทํางานเธอ

ประสิทธิภาพการทำงานของฝ่ายบุคคลรวดเร็วมาก เมื่อ ซูเมิ่งกลับมาถึงห้องทำงาน อีเมลก็ถูกส่งมาพอดี

คลิกเปิดข้อมูล เอาให้เสิ่นยีดูทีละแผ่น “คุณดูให้ ละเอียด คนคนนี้ เก็บไว้ไม่ได้” พนักงานของตงหวง สามารถใจแคบได้บ้าง แต่ถ้าคิดจะทำร้ายคนอื่น ก็ไม่ สามารถเก็บไว้ได้

เสิ่นยีพลิกดูข้อมูล ทันใดนั้นมือที่จับเมาส์ก็หยุดลง “เธอ

นี่แหละ!”

“ฉินมู่มู่?”

ซูเมิ่งหรี่ตามองข้อมูลฉินมู่ดู่ฉบับนั้นบนหน้าจอ รูปภาพ เธออยู่ตรงหน้า ทันใดนั้นซูเมิ่งก็ยิ้ม “ฉันไม่ควรใจอ่อน”

ทันใดนั้นก็หันศีรษะไปมองเสิ่นยี “Boss ให้คุณตรวจสอบเรื่องในห้องส่วนตัวที่ชั้นหกวันนี้แล้วใช่ไหม? แวดวง สังคมใหญ่โตของฉัน ให้ฉันช่วยคุณไหม?”

เสิ่นยีไม่ปฏิเสธ “ซูเมิ่งคุณรู้จัก Boss ดีจริงๆ

“ฉันไม่ได้รู้จัก Boss ดีหรอก แค่ฉันมองออกว่า Boss ปฏิบัติกับเจี่ยนถงไม่เหมือนกับคนอื่น”

เสิ่นยีรู้สึกทิ่มแทงหู เซี่ยเวยหมิงต่างหากที่เป็นสุดที่รักใน ใจ Boss เกี่ยวอะไรกับคุณหนูเจี่ยน “บางเรื่อง ถ้าคุณไม่รู้ ก็อย่าแสดงความเห็นซี้ซั่ว”

ซูเมิ่งยิ้มอย่างเลี่ยงไม่ได้ คิดว่านั่นไม่ใช่เธอหรอก แต่ เป็นเสิ่นยีต่างหาก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ