รอยยิ้มอบอุ่นของพ่อประธานซาต

บทที่7 ฝันร้าย (1)



บทที่7 ฝันร้าย (1)

บทที่7 ฝันร้าย (1)

ฉินเฟยฝันกลับไปถึงเมื่อตอนอายุสิบแปด นั่นเป็นฤดู ร้อนที่มืดมนที่สุดสำหรับเธอ

อายุสิบแปด ฉินเฟยเพิ่งจะเริ่มเข้าสู่วัยคึกคะนอง เป็น ช่วงอายุที่อยากได้อะไรก็ต้องได้ เทพบุตรนั้นต้องรูปหล่อ กล้ามใหญ่สายเปย์ และต้องเป็นผู้ชายที่รักทะนุถนอม เธอประมาณนี้ ฉินเฟยคิดว่าทุกอย่างบนโลกต้องหมุน รอบตัวเธอ

อย่างไรก็ตามในวันนั้น ฉินซื่อพ่อของฉินเฟยพาฉินเสี่ยว เสี่ยวลูกนอกสมรสของเขากลับมา

ภาพพ่อผู้ซื่อสัตย์ของฉินซื่อสำหรับฉินเฟยนั้นพังทลาย ลงในพริบตา ส่วนแม่ของฉินเฟยนั้นด้วยเหตุนี้ทำให้ อาการป่วยของเธอทรุดลง แม่อยู่ต่อได้อีกไม่ถึงสอง เดือนก็จากฉินเฟยไป

เรียกได้ว่าสำหรับฉินเฟยแล้ว ฉินเสี่ยวเสี่ยวสร้างความ แค้นให้เธอที่หล่อนมาแย่งพ่อของเธอไป และยิ่งแค้นที่ ทำให้แม่ต้องตายจากไป

ถึงแม้ว่าฉินซื่อจะพร่ำบอกเธออยู่เสมอว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ ความผิดของฉินเสี่ยวเสี่ยว ตอนที่เขารักกับแม่ของฉินเสี่ยวเสี่ยวนั้น ตอนนั้นเขายังไม่มีแม่ของฉินเฟย ดังนั้น เรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องของมือที่สาม ถึงแม้ว่าทั้งแม่บ้านและ พี่เลี้ยงทุกคนรอบตัวจะบอกว่าการตายของแม่จะโทษฉิน เสี่ยวเสี่ยวไม่ได้ ร่างกายของแม่อ่อนแออยู่แล้ว ต้องทาน ยาอยู่ตลอด ที่แม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้มาจนถึงฉินเฟย เป็นวัยรุ่นก็นับว่าเป็นปาฏิหาริย์มากแล้ว

แต่ว่าฉันเฟยก็ไม่เชื่อ เธอเกลียดหญิงสาวที่อยู่ๆก็ ปรากฏตัวเข้ามาในชีวิตเธอ เธอเกลียดฉิน อด้วย ที่ ทำร้ายความรักอันบริสุทธิ์ของแม่เธอ

ฉินเฟยตอนนั้นยังไม่ปีกกล้าขาแข็ง วิธีที่ดีที่สุดที่เธอจะ สามารถแก้แค้นพวกเขาได้ก็คือทำร้ายตัวเอง

ก่อนนี้ไม่ว่าเธอเจอใครก็จะทำตัวสุภาพมีมารยาท แต่ ก็กลับกลายเป็นท่าตัวหยิ่งและหยาบคายต่อทุกคน คน ที่เคยชอบเธอค่อยๆพากับทยอยตีห่างจากเธอไป ยิ่งไป กว่านั้นยังเอาความรักและความเมตตาไปมอบให้แก่ฉิน เสี่ยวเสียวแทน

สำหรับฉินเฟยแล้ว คนอื่นเปลี่ยนใจไปจากเธอก็ไม่ สําคัญอะไร แต่ว่าคนที่เติบโตมาด้วยกับเธอแต่เล็ก แต่ รับปากต่อหน้าแม่ที่นอนป่วยอยู่ของเธอว่าจะดูแลเธอ รัก เธอชั่วชีวิต อยู่ๆกลับไปเรียกหาแต่ฉินเสี่ยวเสี่ยว ยิ่งเป็น เพราะว่าหล่อน ทำให้เขากล่าวหาเธอซ้ำแล้วซ้ำอีก และ ยังปกปิดเธอ อยู่ข้างกายฉินเสี่ยวเสี่ยวอีก
ฉินเฟยกลับกลายเป็นเด็กสาวที่ไม่มีใครรัก ก่อนที่เธอ จะทําเช่นนี้ก็ได้นึกถึงผลที่จะตามมาเอาไว้อยู่แล้ว แต่ว่า เธอก็ยังคงรู้สึกเหงาและหวาดกลัวอยู่

ความเหงาและความหวาดกลัวนั้นเกาะลึกเข้าสู่จิตใจเธอ ฝังแน่นลงทุกคําคืน ทําให้เธอเจ็บปวด าแล้วซ้ำเล่า ยาก เกินจะทนไหว

ดังนั้นเธอจึงเกลียดฉินเสี่ยวเสี่ยวฝังลึกลงไปถึงรากทีละ

น้อยทีละน้อย

วันหนึ่ง ท้องฟ้าแจ่มใส โลกดูสวยงาม

ฉินเฟยเรียนจบหลักสูตรจิตรกรรมสีน้ำมันอย่างเป็น ทางการ เธอจะต้องส่งภาพวาดสีน้ำมันเพื่อเป็นผลงาน สําเร็จการศึกษา เธอครุ่นคิดอยู่สองสามวันก็ยังไม่รู้ว่าจะ วาดอะไรดี เธอตื่นเช้ามาเปิดหน้าต่าง เห็นวิวทิวทัศน์อัน สวยงามหลังฝนตก เธอจึงตัดสินใจวาดภาพฟ้าหลังฝน

ฉินเฟยวาดภาพอยู่ทั้งเช้า แม้แต่ข้าวกลางวันก็ยังไม่มี เวลาทาน ฉินเสี่ยวเสี่ยวคิดที่อยากจะเอาโจ๊กและของ ทานเล่นขึ้นมาให้เธอ

“พี่ วาดภาพสำคัญ แต่ว่าร่างกายก็สำคัญนะคะ พ่อบอก ว่าพี่น้ำตาลในเลือดต่ำ ทานอะไรสักหน่อยเถอะค่ะ” ฉินเสี่ยวเสี่ยววางจานลงบนโต๊ะเล็กๆในห้อง ใบหน้า ยิ้มแย้ม “พี่คะ บ้านเราเปลี่ยนพ่อครัวแล้ว พี่ยังไม่รู้ใช่มั้ย คะ พ่อบอกว่าฝีมือพ่อครัวที่มาใหม่สุดยอดมากเลย ฉัน เลยตั้งใจเอามาให้พี่ลองชิมดู”

ฉินเฟยไม่มีทางเลือกกับฉินเสี่ยวเสี่ยว ดูหล่อนก็ไม่ได้ ถือตัวอะไร ไม่ว่าเธอจะทำให้หล่อนอายหน้ายังไง หล่อน ก็ดูเหมือนจะไม่เหน็ดเหนื่อยที่จะยืดหยัดอยู่เช่นเดิม ท่าทางอ่อนแอที่ไม่ว่าเธอจะแกล้งยังไงก็ไม่สู้ขัดขืน

จนบางครั้งฉินเฟยก็ยังรู้สึกว่าตัวเองทำเกินไป

แต่ถ้าเธอเห็นอกเห็นใจหล่อน แล้วใครเห็นอกเห็นใจแม่ ของเธอ เข้าใจความรู้สึกในใจที่แท้จริงของแม่บ้างล่ะ

ดังนั้น ฉินเฟยยิ่งนานวันก็ยิ่งไม่อยากจะเห็นหน้าหล่อน แค่ได้ยินเสียงหล่อนเธอก็รู้สึกต่อต้านขึ้นมาแล้ว

หน้าเธอก็ไม่เคยขึ้นมามอง วาดภาพต่อไปอย่างแข็งขัน ไม่ต้องการถูกรบกวนใดๆจากโลกภายนอก

“พี่ พี่ไม่ชอบฉันก็ไม่เป็นไร แต่ว่าถ้าพี่ไม่รักสุภาพ ร่างกายของตัวเอง แต่ว่าคนที่รักพี่เขาจะเสียใจนะ” ฉิน เสี่ยวเสี่ยวไม่ได้ถือสากิริยาท่าทางของฉินเฟย เธอยังคง ยืนกรานพูดต่อไปไม่ลดละ
เพราะว่าฉันเฟยก็มีเลือดพ่อเช่นเดียวกับเธอ รูปร่าง หน้าตาจึงละม้ายคล้ายกัน แค่ฉุนเฟยนั้นเป็นกุหลาบแดง ที่บานสะพรั่งสวยงามเรียบร้อยแล้ว แต่ว่าฉินเสี่ยวเสี่ยว ยังคงเป็นดอกตูมที่พัดไปตามสายลม ถึงแม้ไม่อยากจะ ยอมรับ ฉินเสี่ยวเสี่ยวยังรู้สึกว่าสายตาของฉินเฟยงดงาม ยิ่งกว่าภูเขาที่ตระหง่านที่สุดในโลก

ความงามนี้ทำให้เธอคลั่งไคล้แกมอิจฉา

แต่ฉินเสี่ยวเสี่ยวเชื่อว่า จะมีสักวันหนึ่ง ทุกอย่างที่เธอ ฉินเฟยมี ฉินเสี่ยวเสี่ยวก็จะมีด้วยเช่นกัน หนำซ้ำจะต้องมี มากกว่าเธออีกด้วย ช่วงเวลาที่เธอหลับตาลง รอยยิ้มนั้น ปนไปด้วยความโหดเหี้ยมอำมหิต

ฉินเสี่ยวเสี่ยวเห็นว่าฉินเฟยยังคงไม่สนใจสิ่งที่เธอนำมา เธอจึงเดินตรงไปพร้อมขนมสู้เบื้องหน้าของพี่ เธอหยิบ ขนมนั้นยื่นส่งให้ถึงปากของฉินเฟย “พี่ ลองชิมดูสิ ฉัน ป้อน

ทุกคนที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางเมื่อเห็นฉากนี้คงจะเข้าใจว่า พี่น้องคู่นี้ช่างรักกันเสียจริง

แต่ว่าฉินเฟยกลับรู้สึกแต่ความเบื่อหน่ายและประชด ประชัน

ฉินเฟยลุกขึ้นจากที่นั่งทันที ขาข้างหนึ่งเตะไปที่ขาตั้งรูปภาพของเธอ โยนแปรงในมือใส่ร่างของฉินเสี่ยวเสียว จากนั้นก็ปัดมือหล่อนออกจนลอยค้างกลางอากาศ ทันใด นั้น เสียงชามกระเบื้องก็แตกลงบนพื้น

“พี่…” ฉินเสี่ยวเสี่ยวมองอย่างน้อยอกน้อยใจ ดวงตาเอ่อ ล้นไปด้วยน้ำตา

*ฉินเสี่ยวเสี่ยว ฉันบอกเตือนเธอกี่ครั้งกี่หนแล้ว ว่าเธอ ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในห้องฉัน ฉินซื่อพาเธอกลับ มาตระกูลฉิน เธอก็คิดว่าตัวเป็นคุณหนูใหญ่ของบ้านนี้ แล้วหรือยังไง เธอพอได้รึยัง รู้จักเจียมตัวซะบ้าง เธอก็ แค่เด็กที่เกิดมาจากผู้หญิงนอกสมรสคนหนึ่งเท่านั้น” ฉิน เฟยต้องการที่จะพูดจี้ใจดำฉินเสี่ยวเสี่ยว แต่เธอก็ควบคุม ความโมโหของตัวเองไม่ได้ เธอชี้ไปทางประตูพร้อมพูด อย่างเกรี้ยวกราด “ตอนนี้ รีบเก็บหน้าตาท่าทางน่าสมเพศ ของเธอออกไปซะ ไสหัวออกไป”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ