รอยยิ้มอบอุ่นของพ่อประธานซาต

บทที่1 อ่อยผู้



บทที่1 อ่อยผู้

บทที่1 อ่อยผู้

ขณะนี้เครื่องบินจากลอนดอนมุ่งหน้าสู่เมืองBของ ประเทศจีนกำลังทะยานอยู่บนน่านฟ้าอันแจ่มใส ถึงแม้จะ อยู่ห่างจากพื้นดินนับหมื่นฟุต แต่ว่าเครื่องก็บินได้อย่าง ราบรื่น

หลายปีมานี้มาตรฐานการครองชีพไม่หยุดที่จะยก ระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง เครื่องบินจึงไม่ใช้วิธีการเดินทาง เฉพาะของคนมีเงินอีกต่อไป ดังนั้นมันจึงส่งผลกระทบไป ถึงสภาพแวดล้อมอันไม่น่ารื่นรมย์ของห้องโดยสาร ใน ส่วนผู้โดยสารชั้นประหยัดนั้นจึงมักจะได้ยินเสียงเอะอะ โวยวายของสตรีวัยกลางคนอยู่เป็นประจำ ทำให้คนไม่ สามารถอยู่อย่างสงบได้

ฉินเฟยนั้นตั้งแต่เด็กครอบครัวเธอทรงอิทธิพล พ่อของ เธอประคบประหงมเธอดั่งไข่มุกบนฝ่ามือ ช่างทำร้ายจิต วิญญาณลูกไปถึงแก่น ก่อนสิบขวบเท้าของเธอไม่เคย แตะถึงพื้นเลย มีแต่พ่อและทั้งหลายพากันหาอุ้มจนโต มาได้ขนาดนั้น พ่อทำตัวเหมือนกับเป็นสหายของเธอ ตามใจลูกสาวจนไม่มีขอบเขตกฎเกณฑ์ใด ลืมตำแหน่ง ฐานะอะไรไปจนหมดสิ้น

นึกถึงตัวเองเมื่อก่อน ฉินเฟยก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ออกมาเฮือกใหญ่ ใจเหมือนกับถูกหินก้อนใหญ่กดทับไว้ อึดอัดจนหายใจแทบไม่ออก

เธอไม่ได้นั่งเครื่องบินชั้นเฟิร์สคลาสมานานมากแล้ว แน่นอนว่าหลายปีมานี้เธอไม่ได้ไปที่ไหนไกลที่จำเป็นจะ ต้องนั่งเครื่องบิน

ถ้าไม่ใช่เพราะคนคนนั้นโทรมา ถ้าไม่ใช่เพราะว่าอยู่ดีๆ บัญชีก็มีเงินเข้ามามหาศาลก้อนหนึ่ง เธอก็คงจะไม่อวด หรูด้วยการนั่งเฟิร์สคลาสหรอก

กลับประเทศไม่ใช่ความตั้งใจเดิมของฉินเฟย ก่อนหน้า นี้ใจเธอปฏิเสธลอนดอนแต่สุภาพบุรุษท่านนี้กลับนำพา เมืองอันน่ากลัวและหนาวเหน็บนี้มาให้กับเธอ แต่เมื่อใช้ เวลาอยู่ในเมืองนี้ตัวคนเดียวอยู่หลายปี กลืนความเหงา และความโศกเศร้าทั้งหมดลงไป แผลเดิมก็ค่อยๆบรรเทา จางหายไป

ตอนนี้สําหรับเธอแล้วเมืองBต่างหากที่เป็นสถานที่แห่ง ความเจ็บปวด มีคนที่เธอเกลียดเข้าไส้อยู่ และมีคนที่ เธอทั้งรักทั้งเกลียดอยู่ด้วย ใบหน้าอันคุ้นเคยเหล่านั้น สามารถเปิดสะเก็ดที่ปากแผลออกได้อย่างง่ายดาย ทำให้ปากแผลนั้นเปิดขึ้นมากอีกครั้งอย่างโหดร้าย

แต่คนคนนั้นก็ยังจะต้องให้เธอกลับไป…

เครื่องบินได้ทะยานออกจากลอนดอนแล้วหลายชั่วโมง ใจของฉินเฟยยังเปี่ยมไปด้วยความโกรธเกลียด ไม่พอใจ

ทั่วทั้งห้องผู้โดยสาร นอกจากผู้ชายข้างๆที่กำลังอ่าน หนังสือพิมพ์ทางการเงินและแอร์โฮสเตสซึ่งหลงใหลชาย คนนั้นและกำลังแอบอยู่ไม่ไกล คนอื่นๆก็ดูเหมือนว่าจะ หลับกันอย่างเงียบสงบกันหมดแล้ว

ทุกคนย่อมมีใจรักสิ่งของสวยๆงามๆ ฉินเฟยซึ่งกำลังคิด เรื่องกลับประเทศจนจิตใจไม่สงบ ขณะที่เธอมองผ่าน ชายที่นั่งถัดไปนั้น สายตาก็ต้องหยุดชะงัก

เธอเป็นผู้หญิงซึ่งก่อนนี้เคยเดินอยู่ท่ามกลางผู้หญิงที่ เป็นดารานักการเมืองที่มีชื่อเสียง เจอคนหล่อหน้าตาดีมา นับไม่ถ้วน แต่ก็ยังประหลาดใจกับรายละเอียดด้านข้าง ของบุคคลคนนี้ ความสุขุมแผ่เล็ดลอดออกมาจนทำให้ คนเกิดความเลื่อมใส

ฉินเฟยเดาว่าถ้าหากว่าเขาหันหน้ามา จะต้องเป็นลูก พลัมสีแดงในฤดูหนาวเป็นแน่แท้ กลิ่นหอมนั่นช่างชวน หลงใหล จะต้องเป็นหิมะขาวบนยอดเขาภูเขาชัง ด้วยสี อันสะอาดผุดผ่องมันช่างเปล่งประกายความบริสุทธิ์

แต่ในความเป็นจริงแล้ว…

ชายคนนี้เยือกเย็นไม่สนใจใคร ตั้งแต่ขึ้นเครื่องบินมาก็เอาแต่ก้มหน้าจ้องหนังสือพิมพ์ นิ้วเรียวยาวกาง หนังสือพิมพ์เอาไว้ สายตาดูผ่อนคลายแต่ล้ำลึก

ก็ไม่น่าแปลกใจในความกระตือรือร้นของแอร์สาวที่ เหมือนเตาหลอมท่ามกลางอากาศในฤดูร้อนของเมืองB หล่อนยิ้มหน้าบานจนจะเท่าไข่เจียวอยู่แล้ว

ฉินเฟยสนุกกับการมองแอร์สาวซึ่งค่อนข้างคุกคาม ความส่วนตัวของชายคนนั้นอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะรู้สึกเบื่อ จนคิดอยากจะงีบหลับ

เธอคิดว่าตัวเองจะสามารถนอนหลับได้อย่างเป็นสุข เหมือนกับผู้โดยสารคนอื่นๆ แต่ก็ลืมไปว่าตัวเองนั้นเป็น คนหลับตื้น อะไรขยับลมพัดนิดหน่อยก็ทําเอาเธอตื่น จากการหลับลึกได้ ไม่ต้องพูดถึงเลยเมื่อมีแหล่งกำเนิด เสียงอยู่ใกล้ๆเธอ จะให้เธอหลับต่อไปนั้นเป็นเรื่องใน จินตนาการเท่านั้น

แต่แอร์โฮสเตสที่รบกวนคนนั้นก็ดูเหมือนว่าจะนิสัยไม่ ค่อยดี ผู้หญิงทำไมทำร้ายผู้หญิงด้วยกันล่ะ

ดังนั้นฉินเฟยก็จึงหลับตาลงอีกครั้ง เธอคิดว่าจะ พยายามทำให้ตัวเองหลับให้ได้

เธอจะได้ไม่สร้างความลำบากให้แอร์สาว แต่แอร์สาวก็ ยังไม่รับความรักจากเธอ เสียงอันอ่อนโยนนั้นยิ่งนานไปยังตังกึกก้อง

“ผู้โดยสารท่านนี้ หากต้องการอ่านหนังสือพิมพ์ต้องการ ให้ฉันช่วยดึงโต๊ะออกให้มั้ยคะ”

ฉินเฟยแอบพูดเหน็บหล่อนในใจ เขาไม่มีมือหรือยังไง โต๊ะเล็กแค่นี้ถึงได้ดึงออกเองไม่ได้

“ไม่ต้อง ผมอ่านแบบนี้สะดวกดีแล้ว”

พนักงานต้อนรับอยู่รบกวนเขามาเป็นเวลานานพอ สมควรแล้ว เขาก็ยังนิ่งเงียบไม่ส่งเสียงใดตลอด เหมือน ดั่งภูเขาอันสงบนิ่ง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาตอบออกมา เป็น เหมือนระเบิดที่ปาลงไปกลางทะเลสาบหัวใจที่น้ำกำลังจะ เอ่อล้นของพนักงานเสิร์ฟสาว ดังนั้นนั่นทำให้แอร์สาวได้ มีแรงใจ ยิ่งเอาเข้าไปใหญ่โดยไม่สนใจกฎเกณ์ใดๆ

ฉินเฟยต้องยอมรับว่าเสียงของชายคนนั้นเป็นเหมือน เสียงของผู้จัดรายการวิทยุกลางดึก เปี่ยมไปด้วยพลัง ตามธรรมชาติ ทั้งอ่อนนุ่มและทุ้มต่ำเหมือนกับลมโชยใน ฤดูหนาว

แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจะสามารถทนกับผู้หญิงที่ คอยตอแยจนสุดติ่งคนนี้ได้ หล่อนหวังซะเหลือเกินที่จะ เอาหน้าอกตัวเองไปซบกับชายหนุ่มคนนั้นให้ได้
ชายคนนั้นก็เหลือเกิน ไม่ชอบก็ไม่รู้จักปฏิเสธไปซะให้ สิ้นเรื่อง ยิ่งทำพฤติกรรมเช่นนี้ก็ยิ่งทำให้ดูเย่อหยิ่ง อาจ จะเป็นเพราะว่าฮอร์โมนที่ส่งกลิ่นออกมาก็ได้ที่ทำให้ผู้ หญิงคนนั้นไม่สามารถปฏิเสธได้

“คุณคะ กาแฟคุณหมดแล้ว ต้องการรับเพิ่มอีกมั้ยคะ”

ขอร้องล่ะ เขาดื่มไปทั้งหมดสามแก้วแล้วมั้ง ถ้าดื่มอีก คงจะได้ตาค้างตลอดการเดินทางแล้วล่ะ ฉินเฟยดึง ผ้าห่มบนตัวขึ้น เหม่อมองออกไปที่ท้องฟ้า

“ไม่ต้องแล้ว”

“ถ้าอย่างนั้นคุณต้องการอะไรอีกมั้ยคะ”

“ผมไม่ต้องการอะไรอีกแล้วครับ”

เสียงของชายหนุ่มแข็งกร้าวขึ้นเล็กน้อย แม้แต่ฉินเฟย เองก็ยังสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เย็นเยือกขึ้นรอบตัวเขา ในทันที พวกผู้หญิงเหล่านั้นพากันเงียบกริบ ราวกับว่า รู้ตัวแล้ว แต่ก็ไม่อยากจะยอมแพ้กับก้อนเนื้อชิ้นงามก้อน นน

ฉินเฟยว่ามันเป็นประโยคที่เบามากนะ จะว่าไปแล้ว แอร์ สาวพวกนี้น่าจะทำงานกันให้เป็นมืออาชีพหน่อย เครื่อง บินทั้งลำมีแค่ผู้ชายคนนี้เพียงคนเดียวหรือยังไงพวกเขาเอาแต่คอยเฝ้าบริการชายคนนี้ ก็ต้องควรดูแลผู้ โดยสารที่เหลืออีกทั้งลำให้ดีด้วยสิ

ฉินเฟยยกศีรษะขึ้น ถึงแม้ว่าผู้โดยสารส่วนใหญ่ที่เหลือ จะหลับกันไปหมดแล้ว ไม่มีใครสนใจตรงนี้ แต่ไม่ว่ายังไง เธอก็ยังนั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้โอเคมั้ย

“คุณคะ ตอนนี้สายการบินเราเพิ่งจะเปิดตัวเมนูใหม่ชุด ข้าวหน้าปลาไหล รสชาติดีถูกปากมาก ไม่ทราบว่าจะรับ ซักชุดมั้ยคะ”

ผู้หญิงพวกนี้จะไม่จบจริงๆใช่มั้ย!

ฉินเฟยขมวดคิ้ว มันสุดจะทนแล้วนะ

เธอเปิดผ้าห่มที่ห่มอยู่บนตัวออก และขยับนั่งตัวตรง จับ จ้องไปยังนางผีร้ายนั่นอย่างพินิจพิจารณา ที่จริงก็สูงยาว เข่าดี หน้าตาก็สะสวย ผิวก็มีน้ำมีนวล ดูรวมๆแล้วใครเห็น ก็ต้องหลงรัก ริมฝีปากสีชมพูดั่งดอกในฤดูใบไม้ผลิที่คน อยากจะเด็ดดม เย้ายวนมีเสน่ห์ น่าดึงดูดใจเป็นอย่างยิ่ง

ฉินเฟยคิดอยู่ในใจเงียบๆ ช่างงามนัก แม้แต่ผู้หญิงเองก็ ยังอดใจไม่ได้ที่จะจ้องมองหล่อน ไม่ต้องพูดถึงผู้ชายเลย นั่นแสดงว่าสมาธิของชายคนนี้แน่วแน่มาก
ฉินเฟยไม่รอให้ชายคนนั้นเอ่ยปากพูด เธอเอนหัวลง ซบบนไหล่ของชายคนนั้น มือก็สอดบุกรุกเข้าไปคล้อง แขนของเขา เสียงเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและเสน่ห์ หา ” รัก ฉันรู้ว่าคุณชอบทานปลา แต่ว่าหมอว่าช่วงนี้คุณ ห้ามทานก่อน อดใจไว้หน่อยนะคะ รอให้อาการบาดเจ็บ ของคุณหายก่อน ฉันลงมือเข้าครัวทำให้คุณทานเองนะ”

นอกจากเด็กนั่นที่แอบซ่อนอยู่ในใจแล้ว เธอไม่เคย ทําตัวใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้ชายคนไหนมาก่อน ใกล้กัน ระยะประชิดเขาย่อมรู้สิ่งที่เธอคิดการณ์เอาไว้ ใบหน้าอัน หล่อเหลา คนตาโค้งยาว เป็นเหมือนร่มคันน้อยๆ เห็นเป็น เงาทอดลึกบนเปลือกตา โครงหน้าด้านข้างของเขาแสดง ให้เห็นถึงส่วนโค้งอันมั่นคง เหมือนกับรูปแกะสลักโบราณ ของกรีก ริมฝีปากบางเป็นเส้นตรง ส่อให้เห็นถึงอารมณ์ ของความหรูหราและความภาคภูมิใจอย่างชัดเจน

ทันใดนั้นปลายจมูกก็ได้กลิ่นมิ้นต์บางๆ ช่วยทำให้ อารมณ์ของคนสงบลงได้

ฉินเฟยสูดหายใจเข้าลึกๆอย่างตื่นกระหาย รับความเย็น จากกลิ่นนั้นเข้าสู่ในใจ

ฉินเฟยหลงใหลกับกลิ่นนี้ราวกับเป็นผีเสื้อในดงดอกไม้ ความคิดเกิดขึ้นชั่วขณะ แต่ไหนแต่ไรมาเธอเป็นคนตรง ไปตรงมา คิดเช่นไรก็ทำเช่นนั้น ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชายคนนั้นจะร่วมมือกับเธอด้วยหรือไม่

เมื่อเรื่องมาถึงจุดนี้ เธอจ้องมองเขาอย่างประหม่า ไม่ แน่ใจว่าเขาจะโต้ตอบกลับมาอย่างไร

จะผลักเธอออกไป พูดคำที่น่าอับอายกับเธอ หรือว่าจะ ร่วมมือกับเธอแล้วแสดงฉากนี้ให้สมจริง

แน่นอนว่าไม่ต้องแสดงให้ดีอะไรมาก ฉินเฟยรู้สึกว่าตัว เองช่างไร้เดียงสา เธอก็แค่บอกกับแอร์โฮสเตสตรงๆว่า พวกหล่อนรบกวนการพักผ่อนของเธอแค่นี้ก็สิ้นเรื่องแล้ว ไม่ใช่หรือไง เมื่อไหร่ฉลาดเหมือนเธอ สมองก็จะสั่งให้ทำ อะไรเพี้ยนๆหน่อย

ความหล่อเป็นเหตุแท้ๆ! ความหล่อเป็นเหตุ

แอร์สาวทั้งตกตะลึงและผิดหวังกันไปตามๆกัน พวก หล่อนไม่รู้หรอกในใจฉินเฟยกำลังกรีดร้องอยู่

“คุณเป็นแฟนเขา…” แอร์สาวยังคงทำหน้าไม่อยากจะ เชื่อ ในขณะที่สีหน้าก็กระอักกระอ่วนเป็นสีน้ำเงินเข้ม

หลังจากจบจากมหาวิทยาลัยเธอก็เลือกที่จะทำงานที่ สายการบินก็เพื่อที่จะได้มีโอกาสพบปะกับสุภาพบุรุษจาก สังคมชั้นสูง เธอจ้องผู้ชายคนนี้มาอยู่นานแล้ว แค่เดือนนี้ ก็ปาเข้าไปเจ็ดแปดครั้งแล้วที่เขากลับมาเดินทางด้วยสายการบินนี้ นี่แสดงให้เห็นว่าชายผู้นี้อยู่ในสังคม ชั้นสูง อีกอย่างรูปร่างหน้าตาก็หล่อไม่เบา เธอคุยโว โอ้อวดไว้ในหมู่เพื่อนฝูงแล้วว่าเธอจะต้องสอยผู้ชายคนนี้ ให้ได้

แต่ว่าตอนนี้แฟนตัวจริงของเขาอยู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นกลาง อากาศ เธอไม่อยากจะเชื่อว่านี่เป็นเรื่องจริง แต่ว่ามันก็ เป็นความจริง ผู้หญิงข้างๆเขาฟันสะอาดแววตาสดใส ใบหน้าเหมือนดอกเหมยที่คนชอบวาดกัน มีเพียงผู้หญิง เช่นนี้เท่านั้นที่คู่ควรกับผู้ชายในอุดมคติเช่นเขา

ชายคนนั้นหรี่ตาลงต้องมองอย่างอันตราย เขาหันหน้า ไปจ้องฉินเฟย สายตาดุดันต้องกระพริบขึ้นเมื่อหันไปเห็น ใบหน้าอันงดงามของเธอ

อย่างไม่ต้องสงสัย ผู้หญิงคนนี้ช่างสวดหมดจด

ข้างกายหลินโยว่หลินมีผู้หญิงมากมาย แต่เขาก็ไม่เคย เห็นว่าสวยเลยสักนิด แค่รู้สึกว่าพอใช้ได้ ก็แค่นั้นแหละ แน่นอนว่าที่ผ่านมาคุณชายหลินนั้นจัดได้ว่าเป็นเสื้อผ้ หญิง หลายพันปีจะได้เจอหญิงงามสักครั้ง เหมือนกับสุด ยอดนายแบบMACO ดาราภาพยนตร์หลินหยุ่นเฟย ที่ได้ รับการยกย่องจากทุกผู้ทุกคนว่าเป็นความงามอันโดดเด่น ก็ยังไม่มีใครทำให้เขาพึงพอใจ

ดังนั้น ผู้หญิงที่จะสามารถทำให้หลินโยว่หลินรู้สึกว่าสวยได้นั้นต้องมีคุณลักษณะเช่นใดกัน

ฉันเฟยถูกหลินโยว์หลินจับจ้อง แรกๆเธอก็มองเขาอย่าง ไม่ค่อยเต็มใจ แต่สายตาเธอก็ค่อยๆสั่นไหว สายตาอัน แหลมคนเหมือนเหยี่ยวของเขาเหมือนตะขอที่ล็อคความ เจ็บปวดบนร่างกายเอาไว้อย่างแน่นหนา ทำให้เธอรู้สึกถึง แรงกดดันอันไม่อาจจะต้านทานได้

แต่เมื่อคิดอย่างรอบคอบแล้ว เขาก็จ้องมองเธอโดยไม่ ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว แม้แต่คำพูดคำเดียวก็ไม่พูดออกมา

นี่มันอะไรกันเนี่ย!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ