รอยยิ้มอบอุ่นของพ่อประธานซาต

บทที่ 11 อะไรก็แย่ง



บทที่ 11 อะไรก็แย่ง

บทที่ 11 อะไรก็แย่ง

ในที่สุดส่งเจอก็ทํางานข้างนอกที่ยุ่งๆจนหมดสักที ซึ่ง เดินตามหลังฉินเฟยเข้ามา สังเกตเห็นป้าหลี่ยืนขวางฉิน เฟย และมองเธอทำหน้าบึ้ง ดูแล้วไม่คิดอยากจะอธิบาย อะไร

เธอก็เป็นแบบนี้แหล่ะ ตั้งแต่เล็กจนโต ไม่ว่าจะพูดมาก ขนาดไหน แต่เวลาที่มีคนเข้าใจผิด เธอก็จะปิดปากเงียบ แล้วทำหน้าบึ้งๆ เหมือนว่าโลกทั้งใบเป็นหนี้เธออย่างนั้น แหล่ะ

ฉะนั้นตลอดระยะเวลาสี่ปีที่ฉินเฟยจากไป ทุกๆครั้งที่ ส้งเจ๋อนึกถึงหน้าของเธอที่น้ำตาไหลนองเต็มหน้า ก่อนจะ ขึ้นเครื่อง เขาจะกินไม่ได้นอนไม่หลับ

เขารู้สึกผิดต่อเธอ !

สังเจ๋อถอนหายใจแล้วถอนหายใจอีก พูดขึ้นมาด้วย ความเคร่งเครียดว่า ” ป้าชิวเธอคือคุณหนูใหญ่ตระกูลฉิน ชื่อฉินเฟย พี่สาวของเสี่ยวเสี่ยว”

หน้าตาที่ตกใจของป้าชิว กลายเป็นรู้สึกผิดเลยทีเดียว รีบจับมือของฉินเฟย “ คุณหนูใหญ่คะ ขออภัยด้วยนะคะ ป้าชิวมาที่นี่ไม่นานนัก ไม่เคยเห็นหน้าคุณหนูใหญ่จึงไม่รู้จักคุณหนู ป้าซิวขอโทษคุณหนูด้วยนะ”

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันจากที่นี่ไปตั้งสี่ปี ไม่มีใครรู้จักก็เป็น เรื่องปกติ” ถึงแม้จะรู้สึกไม่ดีนัก แต่ฉินเฟยก็ไม่ถือโทษผู้ที่ ไม่รู้อะไร

ป่าชิวยิ้มๆอย่างดีใจ “คุณหนูใหญ่คะ ในที่สุดก็รอจน กลับมาซักที นายท่านพูดถึงบ่อยๆ ว่าท่านมีลูกสาวคนโต ที่สวยดุดนางฟ้า คนรับใช้อย่างพวกเรา อยากเห็นมาตั้ง นานแล้ว ตอนนี้ได้เจอสักที”

“ท่านพ่อเคยพูดถึงฉันในบ้านเหรอ?”

“ใช่ค่ะ นายท่านพูดถึงบ่อยๆ” ป้าซิวกระพริบตา

ฉินเฟยทำสีหน้าบึ้งๆอีกครั้ง เธอทำไมยังฝากความหวัง ไว้กับพวกเขา เขาก็พูดเป็นปกติทั่วไป เธอก็เชื่อไปได้

“พ่อฉันอยู่ไหน?”

“ตอนแรกนายท่านและคุณหนูก็รอคุณหนูใหญ่อยู่บ้านนี่ ล่ะค่ะ แต่ท่านมีธุระจึงออกไปข้างนอกแล้ว” ป้าชิวมองฉิน เฟยแล้วตอบด้วยความลําบากใจ

ส้งเจ๋อขมวดคิ้ว แล้วถามด้วยน้ำเสียงไม่ดี “ไปไหนเหรอ มีธุระอะไร?”

“คุณหนูเล็กปวดท้องกะทันหัน นายท่านจึงพาไปให้หมอ ตรวจอาการค่ะ

“ในบ้านมีหมอส่วนตัวไม่ใช่หรือ?” ฉันถาม

“นายท่านไม่ไว้ใจหมอส่วนตัว กลัวตรวจไม่ได้ผลอะไร” ป่าชีวตอบไปตามตรง

ฉินเฟยกลั้นหัวเราะออกมาด้วยความไม่พอใจ ช่างเป็น พ่อลูกที่รักกันจริงๆเลยนะ

ส่งเจ๋อมองหน้าฉินเฟย ด้วยความกังวลใจ

และเห็นฉินเฟย หัวเราะดังขึ้นไม่หยุด ทำให้เขาใจหาย

ฉินเฟยพูดอย่างไม่สนใจใครว่า “เห็นทีฉันกับคุณหนู บ้านนี้ไม่ถูกชะตากัน ฉันเพิ่งจะกลับมาถึง เขาก็ปวดท้อง ถ้าฉันพักอยู่บ้านไม่กี่วัน เขาไม่ฆ่าตัวตายหรอกเหรอ?”

ป้าชิวพอจะฟังออกในความไม่พอใจของคุณหนูใหญ่ จึง ก้มหน้าเงียบๆ กลัวพูดยิ่งเยอะยิ่งผิด
ส่งเจ๋อจึงช่วยพูด ” เฟยเฟย อย่ายืนข้างนอกอีกเลย เรา เข้าไปนั่งในห้องรับแขกกันเถอะ”

ฉินเฟยหน้านิ่งไม่พูดอะไร เดินไปแล้วค่อยๆนั่งลงบน โซฟา และรับแก้วน้ำที่สังเจ๋อส่งให้ ค่อยๆดื่มน้ำสองสาม คําแล้ววางลง

“ป้าชิวห้องพักของคุณหนูใหญ่เตรียมเสร็จเรียบร้อย หรือยัง?” ส่งเจ๋อถาม

ป่าชิวตอบ “เตรียมเสร็จตั้งนานแล้วค่ะ นายท่านสั่งเอา ไว้ ห้องอยู่ชั้นหนึ่ง”

สายตาอันที่เยือกเย็นของฉินเฟยมองไปและถามด้วย ความรู้สึกไม่พอใจ “ชั้นหนึ่ง ? ชั้นหนึ่งมันเป็นห้องสำหรับ รับแขกไม่ใช่?”

“คือ…” ป้าชิวถูกฉินเฟยถามจนไม่รู้จะตอบอย่างไร

ท่าทางฉินเฟยคงไม่คิดที่จะยินยอมง่ายๆแน่ “เมื่อก่อน ห้องนอนของฉันอยู่ชั้นสอง ฉันจะนอนห้องเก่าของฉัน”

“คุณชายส้ง ……. ป้าชิวมองหน้าส้งเจ๋อด้วยความ จำบากใจ
ส้งเจ๋อมีหน้าตาที่อ่อนโยน พูดจาไพเราะมีเหตุผล “เฟยเฟย เธอชอบความสงบไม่ใช่เหรอครับ ชั้นหนึ่งเงียบ ดีนะครับ”

“เงียบสงบ? ฉันไม่ใช่ไม่มีห้องนอนของตัวเอง ทำไมต้อง นอนห้องรับแขก? นี่ถ้ามีคนมาเที่ยวที่บ้าน เห็นคุณหนู ใหญ่อย่างฉันนอนห้องรับแขก คนอื่นจะมองยังไง?” จริงแล้วฉินเฟยรู้สาเหตุอยู่แล้ว ว่าทำไมเค้าต้องนอนห้อง รับแขก แต่เธออยากที่จะแสดงกับคนพวกนี้ และอยากที่ จะเห็นสีหน้าคนพวกนี้

สังเจ๋อไม่รู้ว่าจะบอกความจริงกับเธออย่างไรดีในเวลา นั้น ฉินเฟยลุกขึ้นแล้วเดินขึ้นไปชั้นสอง

“เฟยเฟย….” สังเจ๋อไม่อาจหยุดฉินเฟยได้เลย

เขาเดินตามเธอขึ้นไปชั้นบน ฉินเฟยเปิดประตูห้องที่เคย นอน ข้างในตกแต่งใหม่จนไม่มีรอยเดิมที่เธอเคยอยู่ ผนัง ห้องที่เคยมีรูปถ่ายตอนเด็กๆจนโตก็หายไปหมดแล้ว ทั้ง ห้องที่เคยเป็นสีฟ้ากลายเป็นสีชมพู

สีชมพูคือสีที่ฉินเสี่ยวเสี่ยวชอบมาก หลายๆครั้งที่เธอ รู้สึกผะอืดผะอมและรังเกียจกับสีที่ธรรมดาๆนี้

ถึงแม้ในใจจะมีคำตอบตั้งนานแล้ว แต่ว่าได้เห็นสภาพ ห้องนี้กับตาตัวเอง เธอยิ่งรู้สึกแย่มาก น้ำตานองเต็มตาเธออีกครั้ง แต่เธอกัดริมฝีปากด้านล่างไว้แน่นๆ รู้สึกแย่ จนตัวสั่นทั้งตัว

ความทรงจำเก่าๆเริ่มปรากฏในหัวเธอ

ตอนที่ครบรอบวันเกิด 6 ขวบ ฉินซื่ออุ้มเธอวิ่งเล่นเป็น วงกลมหลายๆรอบ ของขวัญวันเกิดที่พ่อให้เธอก็คือ ห้อง นอนที่ใหญ่ที่สุดในบ้านหลังนี้ วางเตียงและเปียโนแล้ว ยังเหลือพื้นที่อีกตั้งกว้างเลยทีเดียว

ตอนที่ครบรอบวันเกิด12ขวบ ฉินชื่อมองเธอแล้วพูดว่า : เฟยเฟย ในอนาคตข้างหน้า ธุรกิจทุกอย่างของพ่อต้อง เป็นของเธอหมด

อันที่จริงแล้ว ชีวิตของคนเรามันเปลี่ยนแปลงได้ ชีวิต ของฉินซื่อไม่ใช่เธออีกแล้ว แต่เป็นฉินเสี่ยวเสี่ยว ธุรกิจ ทุกอย่างของฉินซื่อก็เป็นของฉินเสี่ยวเสี่ยว รวมทั้งทุกสิ่ง ทุกอย่างก็เป็นของฉินเสี่ยวเสี่ยว

ฉินเฟยรู้สึกในสมองเค้าเหมือนจะใส่ระเบิดไว้หนึ่งลูก เธอปวดหัวจนจะระเบิด เธอนั่งยองๆกับพื้นแล้วใช้กำมือ ทุบหัวตลอดเวลา

“อย่าเจ็บอีกสิ อย่าเจ็บขนาดนี้สิ…..” ฉุนเฟยนั่งก้มหน้า พูดเบาๆอย่างน่าสงสาร
เห็นฉินเฟยไม่มีที่พึ่งแบบนี้ ทำให้สังเจ๋อเศร้าใจที่สุด แต่ เขาไม่รู้จะปลอบใจหญิงสาวที่ปวดร้าวทั้งกายและใจคนนี้ อย่างไรดี คนที่เขาสาบานว่าจะดูแลปกป้องชั่วชีวิต

“เฟยเฟย ไม่ใช่อย่างที่เธอคิดนะ” คำพูดล้านคำก็ สามารถกลายเป็นคำพูดที่ไม่มีความหมายอะไรเลย

ฉินเฟยลุกขึ้นยืนด้วยตาที่แดงๆ แล้วยิ้มพูดว่า “ฉันดูถูก ความใจ ของพวกคุณน้อยเกินไป หาทางทุกอย่างให้ ความใจดำของพวกคุณน้อยเกินไป ฉันกลับมา เพื่อที่จะให้รู้ว่าพวกคุณได้ลืมฉันหมดสิ้นและ รักฉินเสี่ยวเสี่ยวมากแค่ไหนใช่ไหม? ตอนนี้ฉันเห็นแล้ว แล้วไงล่ะ?” ฉินเฟยค่อยๆเริ่มจะสติแตก “พวกคุณจะทำ อะไรอีก? พวกคุณจะทำอะไรอีก?”

“เฟยเฟย ผม…..” ส้งเจ๋อคิดไม่ถึงว่าอารมณ์ของฉินเฟย จะเครียดได้ถึงขนาดนี้ ได้แต่กอดเธอไว้แน่น ไม่ให้เธอ หนีไปไหนอีก

ฉินเฟยเหมือนสาวน้อยที่มีแต่บาดแผล ดิ้นรนที่จะสะบัด ออกจากอ้อมกอดของสังเจ๋อ “ปล่อยฉันสิ ทําไมทําร้าย ฉันไม่พอ ยังจะให้ฉันมาเห็นว่าพวกคุณใช้มีดเฉือนเนื้อ ฉันทีละนิดทีละนิดยังไงเหรอ? พวกคุณทำไมถึงโหดร้าย เช่นนี้?”

ความเจ็บปวดทั้งหมดเหมือนน้ำป่าที่ไหลทะลักเข้ากลาง ใจเธอ ที่ท่วมท้นสติเธอกะทันหัน ไหลเวียนและดุดเดือดอยู่ในตัวเธอ

ระยะเวลา4ปี ทุกคนลืมฉินเฟยหมดแล้ว ทุกๆคนทอดทิ้ง เธอ พ่อของเธอ คนรักของเธอ ทุกๆอย่างของเธอ กลายเป็นของฉินเสี่ยวเสี่ยวหมดแล้ว ตอนนี้

ฉินเสี่ยวเสี่ยว! ฉินเสี่ยวเสี่ยว!

ตอนนั้นเธอทําไมไม่ตายเลย จะตายหรือจะเป็นทุกข์ เป็นสุขในคุกก็ได้ทั้งนั้น

ความโกรธเกลียดมันฝังลึกอยู่ข้างในเลือดเธอแล้ว

“เฟยเฟย คุณใจเย็นๆก่อน คุณฟังผมพูดนะ” ส่งเจ๋อคิด ที่จะปลอบใจฉินเฟย

ฉินเฟยใช้มือปิดหูไว้ แล้วมองส้งเจ๋ออย่างโกรธมาก ตั้งแต่วันนี้ไป อย่าเรียกฉันว่า “เฟยเฟย มีแต่แม่ฉัน เท่านั้นที่เรียกแบบนี้ได้ คุณเรียกฉันแบบนี้ทำให้ฉันรู้สึก ขยะแขยง”

“คุณก็คนแบบนี้แหล่ะ เจอปัญหาอะไรไม่อธิบาย แล้ว ไม่ยอมรับฟังเหตุผลคนอื่น” สังเจ๋อไม่สนใจว่าฉินเฟยจะ ได้ยินหรือไม่ ได้แต่พูดไป “เสี่ยวเสี่ยวร่างกายไม่แข็งแรง ห้องนอนเธอหันหน้าไปทางทิศที่มีแสงแดด คุณลุงจึงเห็น ว่าเธอไม่กลับมาบ้านนานมากแล้ว จึงให้เสี่ยวเสี่ยวย้ายไปนอนห้องเธอ ตอนแรกเสี่ยวเสี่ยวก็ไม่ยอมไป ฉันนั่นแหล่ะที่ไปพูดกับเธอ เธอจึงฝืนใจยอมย้าย

ฉินเฟยรู้ตั้งนานแล้วว่าตัวเองแพ้ฉินเสี่ยวเสี่ยวตรงไหน? เธอก็แพ้ตรงที่เสแสร้งไม่เก่งเท่าเธอ แสดงไม่เก่งเท่าเธอ

“ฉินเฟย ผมให้ป่าชิวรีบเอากระเป๋าไปเก็บที่ห้องนี้ เสี่ยว เสี่ยวไม่มีปัญหาหรอก” สังเจ๋อรู้สึกเจ็บจี๊ดที่ถูกมองด้วย สายตาที่โกรธเกลียดของฉินเฟย แผลในใจของเขามัน ฉีกขาด จนน้ำตาไหลออกมาเป็นเลือดแล้ว

เสียดายที่ ณ เวลานี้ในใจของฉินเฟยหมกมุ่นอยู่กับ ความเศร้าเสียใจและความแค้นของเธอ ไม่ได้คำนึงถึง จิตใจของเขาเลย

“ฉันฉินเฟยไม่ต้องการความเห็นใจจากพวกคุณหรอก เสียงของฉันเฟยเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง ไม่มีจิตใจเลยสัก นิด พ่อของฉันเขาก็แย่ง ห้องนอนของฉันเขาก็แย่ง คนรัก ของฉันเขาก็แย่ง ในเมื่อเขาชอบของที่เป็นของฉัน งั้นก็ ให้เขาไปเลย มันก็เป็นของที่ฉันไม่ต้องการอยู่แล้ว”

คำพูดของฉินเฟยเหมือนของแข็งที่แทงเข้าไปในหัวใจ ของสังเจ๋อ จนหน้าเขาซีดขาว

ที่แท้ฉินเฟยไม่ต้องการเขาตั้งนานแล้ว
จะโทษใครได้ล่ะ ตอนที่เธอต้องการเขา เขาไม่ได้อยู่ เคียงข้างเธอเลย เธอผ่านทุกอย่างมาได้ด้วยตัวเธอเอง จึงไม่ต้องการเขาอีกแล้ว

“ตอนนี้ฉันกกลับมาจริงๆแล้ว แต่ฉันจะบอกอะไรให้นาย รู้ไว้นะสังเจ๋อ ฉันจะไม่มีวันยินดีกับพวกเธอหรอก ฉันจะ สาปแช่งนายกับฉินเสี่ยวเสี่ยว พวกเธอต้องทรมานซึ่งกัน และกัน ไม่มีความสุขตลอดชีวิต” ฉุนเฟยกัดฟันพูดจนจบ คิดว่าพูดแล้วจะทำให้สบายใจขึ้น

แต่ไม่นึกว่าตัวเองยิ่งรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้น

ที่จริงแล้วเธอไม่ใช่ไม่อยากให้สังเจ๋อไม่มีความสุข เพราะเธอเคยคิดว่า สิ่งที่โชคดีที่สุดคือได้เจอผู้ชายคน นี้ เขาให้ความทรงจำที่ดีๆในวัยเด็ก แต่ไม่นึกว่าเวลา เป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดจริงๆ มันทำให้ปัญหาต่างๆหลาย อย่างผ่านเข้ามาในชีวิต ทำให้คนเราไม่ทันตั้งตัว และไม่ เปลี่ยนแปลงตัวเองก็ไม่ได้

“ตอนนี้ นายควรปล่อยมือได้แล้วมั้ง” ฉินเฟยพูดด้วยน้ำ

เสียงที่เด็ดขาด

ส้งเจ๋ออยากจะอธิบาย แต่ในสมองขึ้นมาก็ดันนึกถึงภาพ ของฉินเสี่ยวเสี่ยว แค่คิดถึงเธอ…..

สุดท้ายแล้วสังเจ๋อก็ปล่อยมือของฉินเฟย
เวลาผ่านไปนานหลายปีนึกถึงเรื่องนี้ สังเจ๋อเพิ่งจะรู้ว่า

นั่นคือสิ่งที่เขาตัดสินใจผิดพลาดที่สุดในชีวิต


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ