รอยยิ้มอบอุ่นของพ่อประธานซาต

บทที่ 15 เธอท้องแล้ว



บทที่ 15 เธอท้องแล้ว

บทที่ 15 เธอท้องแล้ว

ฉินเฟยรู้สึกตัวอีกทีก็คือเช้าของวันที่สอง สองมือสอง

ขาไม่มีเรี่ยวแรง ขยับนิ้วมือยังรู้สึกอ่อนแรง เธอยังไม่ทัน

ลืมตา ก็ได้กลิ่นแอลกอฮอล์ที่ทีมจมูก เพราะความอยากรู้ เธอลืมตาอย่างแรง ในสายตามีแต่

แสงสว่างจ้าจี้ตาเธอ

ตั้งนานถึงจะรู้สึกตัวว่าตัวเองอยู่ในโรงพยาบาล

เธอามาอยู่ในโรงพยาบาลได้ไง ไม่ใช่ร่วมงานเลี้ยงพิธี หมั้นของส้งเจ๋อและฉินเสี่ยวเสี่ยวเหรอ?

ฉินเฟยนึกย้อนหลังไปสักพัก จึงนึกออกว่าตัวเองถูก ฉินเสี่ยวเสี่ยวยั่วจนเป็นลม สุดท้ายล้มลงบนอ้อมอกของ หลินโยว่หลิน เพราะฉะนั้นคนที่ส่งเธอมาโรงพยาบาลก็ คือเขา?

ไม่เห็นหลินโยว่หลินเขาไปไหนล่ะ? เวลานี้ในห้องคนไข้ มีแต่เธออยู่คนเดียวอย่างโดดเดี่ยว มีแต่เตียงผู้ป่วยที่ไม่ กว้างและไม่แคบ สายตาเหงาขึ้นมาทันที

เธอลุกขึ้นมานั่ง โค้งเอวลงไป ก้มหัวลงบนหัวเข่า
นักจิตวิทยาบอกไว้ว่า นี่คือท่าทางที่คนๆหนึ่ง กำลัง ปกป้องตัวเองจากโลกภายนอก

เคยชินกับความโดดเดี่ยวอย่างฉินเฟย แท้ที่จริงแล้ว เธอก็ยังคงกลัวความเหงา น่าจะพูดว่าบนโลกใบนี้ ไม่มี ใครที่สามารถอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดายแล้วมีความสุข ได้ด้วยตัวเอง

ฉินเสี่ยวเสี่ยวเอาน้ำอุ่นเข้ามาจากด้านนอก ผลักประตู เข้ามาเห็นฉินเฟย ตกใจและรีบตะโกนถามว่า: “ในที่สุดที่ สาวตื่นแล้ว”

และในคำพูดนั้นเหมือนจะมีความจริงในสักเล็กน้อย แต่ ก็ยังมีความเสแสร้งอยู่ คงจะมีแต่ฉินเฟยและฉินเสี่ยว เสี่ยวที่รู้ตัวเอง

ทันใดนั้น ข้างหูได้ยินเสียงที่คุ้นๆ ฉินเฟยขมวดคิ้วด้วย ความไม่ดีใจเลย

คู่เวรคู่กรรมคนนี้ทำไมก่อนเป็นลมเธอก็อยู่ข้างๆกาย ตอนนี้อุตส่าห์ตื่นมาในโรงพยาบาลแล้ว ก็ยังเห็นหน้าเธอ เป็นคนแรกอีก

หลินโยว่หลินนี่ทำไมไม่เต็มใจสักนิดเลย ช่วยคนก็ต้อง ช่วยให้ถึงที่สุด ส่งพระก็ต้องส่งไปให้ถึงสวรรค์ เขาก็ยัง เอาเธอฝากไว้กับคนพวกนี้
ฉินเฟยลุกขึ้นมานั่ง สายตามองไปทางหน้าต่าง ไม่มอง ฉินเสี่ยวเสี่ยวแม้แต่นิดเดียว มันชัดเจนมากที่เธอไม่อยาก เห็นเขา

“ฉินเสี่ยวเสี่ยว เธอจําเป็นต้องรังแกฉันที่นี่ไหม?”

เธอไม่เข้าใจจริงๆว่าฉินเสี่ยวเสี่ยวคิดอะไรอยู่ มองหน้า กันไม่ติด เขาก็ยังอยากที่จะวนเวียนอยู่รอบตัวเธอ ไม่รู้มี ผลดีอันใด

“พี่สาว ฉันไม่ดีเอง ไม่รู้ว่าร่างกายพี่ไม่ค่อยสบาย ยังพูด คำพูดที่ไม่น่าฟังมายั่วพี่โมโหอีก ขอโทษนะคะพี่ แต่เห็น แก่ที่ฉันมานั่งเฝ้าพี่ตั้งนานขนาดนี้ พี่ให้อภัยฉันนะ” ฉิน เสี่ยวเสี่ยวน้ำเสียงอ่อนหวาน แต่พอเดินไปถึงข้างเตียง ก็ เอียงตัวลงไปข้างๆหูเธอ ยิ้มออกมาอย่างประชด “ฉินเฟย เธอเองที่ตัดอนาคตของเธอ”

ฉินเฟยมองหน้าเธอด้วยความสงสัย ไม่เข้าใจคำพูดเธอ หมายความว่าไง

“เธอหมายความว่าไง พูดให้ชัดเจน?” ฉุนเฟยรู้สึกไม่ ค่อยสบายใจ

“เธอท้องแล้ว?” ฉินเสี่ยวเสี่ยวพูดด้วยเสียงเดี่ยวเบา เดี๋ยวดัง เดี๋ยวหยุดเดี๋ยวพูด รอยยิ้มบนใบหน้ายิ่งโหด “ตอนที่หมอตรวจแล้วพบว่าเธอท้อง รู้ไหมว่าพ่อดีใจขนาดไหน นั่นมันลูกของหลินโยว่หลิน มีเด็กคนนี้แล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและตระกูลฉินก็ตัดไม่ขาด ยัง ยุ่งไปหมด

ฉินเฟยรู้ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆทั่วไป เธอเงียบๆและ รอฟังว่าฉินเสี่ยวเสี่ยวจะพูดอะไรต่อ แต่มือจับไปตรงท้อง อย่างไม่รู้ตัว ตรงนั้นก็ยังแบนเหมือนปกติดี เธอรู้สึกแปลก ใจ ที่เล็กๆแค่นี้ สามารถทำให้เธอท้องได้ในขณะที่เธอ ไม่รู้ตัว

เธอไม่สงสัยเลยสักนิดเดียวกับเรื่องที่ฉินเสี่ยวเสียวบอก ว่าเธอท้อง เพราะในคืนวันนั้น ผู้ชายคนนั้นอารมณ์ร้อน เหมือนไม่ได้ป้องกันอะไรเลย

“เธอรู้มั้ยว่าหลินโยว่หลินมีปฏิกิริยายังไง? หน้าของเขา ซีดเลยล่ะ เขาไม่เอาลูกในท้องของเธอ ยังให้รีบเอาเด็ก ออกอย่างเร็วที่สุด ตอนแรกฉันยังอิจฉาเธอ ที่ได้ผู้ชาย ดีๆขนาดนี้ คนรวยไม่ได้หาความรักที่จริงใจ แต่เป็นความ สุขเพียงชั่วคราว ฉันจึงรู้สึกยุติธรรมขึ้นมาทันที เพราะว่า เธอช่างน่าสงสารเหลือเกิน พี่สังเจ๋อไม่ได้ดีเลิศอย่างหลิน โยว่หลิน แต่อย่างน้อยถ้าฉันท้องจริงๆ เขาไม่มีทางให้ ฉันเอาเด็กออก” ฉินเสี่ยวเสี่ยวยิ้มอย่างได้ใจ เสียงแหลม เหมือนมีดเล่มหนึ่งที่ทิ่มแทงใจเธอจนเจ็บ

แต่เธอทําไมถึงเจ็บปวดใจล่ะ หลินโยว่หลินก็แค่ออกตัว ช่วยเหลือ ตอนนี้เธอท้อง หากว่ายังช่วยเธออีกก็จะทำให้เขาเสื่อมเสียชื่อเสียง ถ้าเป็นฉัน ฉินเฟยก็ควร จะตัดความสัมพันธ์กับตัวเองเหมือนกัน

ฉินเสี่ยวเสี่ยวมองดูฉินเฟยที่จิตใจเศร้าหมอง รู้สึกสบาย ใจสุดๆ เธอเฝ้าเขาทั้งคืน ก็เพื่อที่จะรอเขาตื่นมา แล้วนำ ข่าวร้ายที่ทำลายเขาได้มาบอกเธอ ได้เห็นกับตาว่าเขา เจ็บปวดรวดร้าว

มีแต่แบบนี้ที่จะพอทําให้เธอหายโกรธกับสิ่งที่เธอถูก เหยียดหยามในคืนงานหมั้น

ผู้หญิงหนึ่งคนมีงานหมั้นแค่ครั้งเดียวในชีวิต ควรที่จะ ทําให้ฉินเสี่ยวเสี่ยวมีความสุขตลอดไปในอนาคต แต่ว่า งานหมั้นนี้ต้องกลายเป็นความอัปยศชั่วชีวิตเพราะฉิน เฟย

ตอนแรกฉินเสี่ยวเสี่ยวนึกว่าสังเจ๋อลืมฉินเฟยได้หมด สิ้นแล้ว แต่ไม่คิดว่าตอนที่เธอเป็นลม สังเจ๋อกลับเร็วกว่า หลินโยว่หลินที่เป็นคนอุ้มเขาขึ้นมา โดยที่ไม่นึกถึงตัวเอง ที่ยังเป็นเจ้าบ่าวในงาน อีกทั้งไม่ได้อธิบายอะไรกับเธอ ด้วยซ้ำ อุ้มเขาตรงออกไปอย่างเดียว

สุดท้ายงานหมั้นที่ดีสมบูรณ์แบบไม่มีพระเอก กลาย เป็นคํานินทาของคนอื่น ฉินเสี่ยวเสี่ยวทำได้แต่อดทนกับ สายตาผู้คน ที่มองอย่างสายตาสมเพชตัวเอง และหลบ หน้าแขกรับเชิญ
ตอนแรกเธอคิดจะหายตัวไปไหนก็ได้ ดูว่าสังเจ๋อจะเป็น ห่วงเธอเหมือนฉันเฟยหรือไม่ หาเธอไปทุกหนทุกแห่ง เหมือนคนบ้า แต่เธอไม่กล้าลอง เธอกลัวว่าตัวเองรู้ความ จริงจะยิ่งเสียใจ ฉะนั้นเธอจึงไปโรงพยาบาลด้วย สังเจ๋อ ไม่สนใจเธอเลย มัวแต่ยุ่งๆกับหลินโยว์หลิน พอมีเวลานิด หน่อย ก็มองแต่หน้าฉินเฟยอย่างกังวลใจตลอดเวลา

ถึงแม้ว่าฉินเฟยจะยังสลบอยู่ แต่ว่าฉินเสี่ยวเสี่ยวกลับ รู้สึกว่าเธอกำลังหัวเราะเยาะตัวเอง และตบหน้าเธออย่าง ไม่ยับยั้ง

ในช่วงระยะเวลานานช่วงหนึ่งของฉินเสี่ยวเสี่ยวนั้นมีแต่ ความมืดมิด จนถึงช่วงที่หมอบอกว่าฉินเฟยตั้งครรภ์แล้ว หน้าที่กังวลของหลินโยว่หลินกลับกลายเป็นความโกรธ มาก ไม่มีความสงสัยอะไร ก็คิดที่จะให้เอาเด็กออก แต่สัง เจ๋อเกือบจะซวนเซลงล้มลงบนพื้น สีหน้าบนใบหน้าที่เจ็บ และเสียดาย ฉินเสี่ยวเสี่ยวเห็นแล้วทั้งเจ็บปวดใจทั้งดีใจ สุดๆ

จะพูดอย่างไรดี

นี่คือสวรรค์ช่วยเธอจริงๆ และไม่อยากเห็นฉินเฟยผู้ หญิงคนนี้มีความสุข

สายตาที่โหดร้ายของฉินเสี่ยวเสี่ยวเหมือนธนูที่ทาด้วยยาพิษที่ยิงฉินเฟยจนกลายเป็นรูโล่ง

ฉินเฟยสับสนในชั่วขณะหนึ่ง เธอไม่รู้จะทำยังไงดีกับตัว เองและลูกในท้องของเธอ แต่เพราะเวลาในชั่วขณะนั้นที่ สั้นๆ เธอคิดได้ทันทีว่า นี่อาจจะเป็นเพราะสวรรค์เห็นเขา โดดเดี่ยวคนเดียวมานานหลายปี จึงมอบลูกรักให้เขา

เธอตัดสินใจในใจอย่างเงียบๆ ไม่ว่าในวันข้างหน้าจะ เจอกับความลำบากขนาดไหน กับการตัดสินใจในครั้งนี้ เธอก็ยอม

“หลินโยว่หลินไปแล้วเหรอ?”

“ไปตั้งนานแล้วล่ะ” ฉินเสี่ยวเสี่ยวจ้องมองฉินเฟย รอย ยิ้มบนใบหน้ายิ่งอยู่ยิ่งเบิกบาน

เธอหวังในใจอย่างโหดร้ายว่าฉินเฟย ร้องไห้สิ ร้องไห้

ดังๆเลย โทรมๆหน่อย ฉันจะได้ดีใจๆ

แต่ว่าสีหน้าฉินเฟยก็ยังใจเย็นๆตลอดเวลา ไม่ได้สติ แตกอย่างที่เธอคิดไว้

“เด็กคนนี้เป็นของฉัน ไม่เกี่ยวข้องกับหลินโยว่หลิน ฉะนั้นสิทธิ์ที่จะตัดสินใจเอาไม่เอาเด็กคนนี้ จะดีแค่ไหน แต่การตัดสินใจของฉันคือ เด็กคนนี้ฉันไม่มีทางทำแท้งฉันจะคลอดออกมา” ใบหน้าของฉันเฟส่องประกายที่ อบอุ่น ระหว่างคิ้วมีแต่ความโอบอ้อมอารีย์

ฉินเฟยก็ไม่รู้ว่าผู้ชายในคืนนั้นคือใคร แล้วเธอจะใจร้าย ไม่ให้เด็กคนนี้ออกมาลืมตาดูโลกได้อย่างไร แม้แต่พ่อ ของตัวเธอเองก็ทำให้เธอผิดหวังต่อความรักในครอบครัว ตอนนี้ในที่สุดก็มีลูกของตัวเอง เธอจะโหดร้ายเหมือนฉัน ชื่อได้ยังไง

ฉินเสี่ยวเสี่ยวฟังออกเหมือนมีเงื่อนงำอะไรบางอย่าง จากคำพูดของฉันเฟย ทำหน้าตกใจ: “ฉินเฟย เธอนี่เก่ง จริงๆ เธอช่างกล้าสวมเขาให้หลินโยว่หลิน เธอพูดตลอด ทุกๆคำว่าฉันคือลูกที่ผู้หญิงเลว สิ่งที่เธอทำมันคืออะไร เธอคิดว่าลูกเธอคืออะไร ”

“ปิดปาก” ได้ยินฉินเสี่ยวเสี่ยวว่าร้ายลูกที่ยังไม่เกิดของ ตัวเอง ฉินเฟยไม่รู้เอาแรงมาจากไหน หยิบส้มที่วางข้าง เตียงขึ้นมา ขว้างไปทางฉินเสี่ยวเสี่ยว

“โอ้ย!” ฉินเสี่ยวเสี่ยวไม่ทันตั้งตัว ถูกส้มขว้างโดนอย่าง จังตรงหน้า

เธอลูบๆตรงหน้าที่แดงบวม และด่ากลับไปอย่างแรงว่า “ฉินเฟย ทางที่ดีเธอซื่อๆหน่อย ถ้าไม่มีฉันช่วยไว้ ลูกของ เธอจะยังอยู่เหรอ? ”
ฉินเฟยนึกว่าเขาจะทําร้ายลูกของเธอ มองหน้าเธอด้วย ความป้องกันตัว: “เธอจะทําอะไร?”

“อย่าเพิ่งตื่นตระหนกสิ” ฉินเสี่ยวเสี่ยวหาหน้ามี

เล่ห์เหลี่ยม “ถึงเวลาเธอก็จะรู้เองแหล่ะ”

ฉินเสี่ยวเสี่ยวยอมกับความเฉลียวฉลาดของตัวเองจริงๆ เธอนึกถึงแผนการที่ยิงนกทีเดียวได้สองตัว

บ้านตระกูลฉินเป็นของฉินเสี่ยวเสี่ยว ส้งเจ๋อก็เป็นของ ฉินเสี่ยวเสี่ยว ใครก็แย่งไปไม่ได้

สีหน้าที่ยิ้มอย่างมีเล่ห์เหลี่ยมของฉินเสี่ยวเสี่ยวก่อนที่จะ หันตัวแล้วเดินออกจากห้องคนไข้ ทำให้ฉินเฟยขนลุกไป หมดทั้งตัว

เธอจะทำอะไรกันแน่? ฉินเฟยคิดไม่ออกเลยสักนิดเดียว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ