รอยยิ้มอบอุ่นของพ่อประธานซาต

บทที่10 ความถูกผิด



บทที่10 ความถูกผิด

บทที่10 ความถูกผิด

หลัวก็ได้ยินฉินเฟยพูดด้วยน้ำเสียงธรรมดา เขาก็นึกถึง ว่านายน้อยของตัวเองนั้นเป็นคนมีน้ำใจกว้างขวาง เป็น คนที่มีความสามารถยอดเยี่ยม การที่จะมอบบัตรวีไอพีให้ หญิงสาวคนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้

อีกอย่างผู้หญิงคนหรือนายหลินอาจจะไม่ได้เกิดเรื่อง อะไรขึ้นก็ได้ ไม่อย่างนั้นอารมณ์เธอคงจะไม่ได้สงบ อย่างนี้

หลัวยีถึงได้วางใจ

ท่าทีของเขาไม่มีอะไรหลุดสักนิด ฉินเฟยอยู่ตรงหน้ายัง ดูไม่รู้เลยว่าใจเขาระส่ำระสายแค่ไหน

เขาพูดและยิ้ม “คุณฉิน คุณวางใจ คุณเจ้าของบัตรวีไอ พีนี้ก็เท่ากับเป็นแขกวีไอพีของโรงแรมเรา พวกเราไม่มี พลาดทำความผิดชั้นต่ำแบบนั้นแน่ ในห้องนั้นมีคุณอยู่ เพียงแค่คนเดียว”

หลัวยีกัดคำพูดนั้นไว้ไม่ยอมปล่อยหลุดออกไป

“แต่ว่าฉัน…”
ฉินเฟยพูดไปได้แค่ครึ่งค่า เธอก็รู้สึกว่าคําพูดของผู้ จัดการฟังดูสมเหตุสมผล โรงแรมใหญ่โตขนาดนี้ไม่น่า พลาดเรื่องเล็กขนาดนั้นได้ บางทีผู้ชายคนนั้นอาจจะเข้า มาในห้องเพื่อหยิบของ แล้วบังเอิญเห็นว่าเธอเมาอยู่ ก็ เลยถือโอกาสลวมลามเธอ

“คุณฉิน บริการของโรงแรมเราไม่มีอะไรผิดปกติ ไม่มี ทางเกิดเรื่องเปิดห้องซ้ำกันอย่างคุณว่าแน่นอนครับ” หลัว ยีมองไปที่ประตูทางออก และพูดอย่างกระอักกระอ่วน “คุณฉิน เมื่อคืนผมทำโอทีทั้งคืน ตอนนี้อยากกลับไปพัก ผ่อนสักหน่อย ถ้าหากว่าคุณไม่มีเรื่องอะไรแล้วล่ะก็ คุณ ช่วยออกไปได้ไหมครับ”

ฉินเฟยตอนนี้อยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ถ้า หากว่าเธอต้องการที่จะรู้ว่าผู้ชายเมื่อคืนนี้เป็นใคร ก็ต้อง พูดเรื่องที่เธอนอนกับผู้ชายคนนั้นทั้งคืนออกมา เรื่อง อย่างนี้จะให้ผู้หญิงตัวคนเดียวอย่างเธอพูดออกมาได้ยัง ไง แค่คิดขึ้นมาก็หน้าแดงจะแย่แล้ว

แต่ถ้าหากไม่พูดออกมา เธอก็คงไม่มีทางตามหาชายคน นั้นพบ เมื่อคิดดูแล้ว เธอตระกูลฉินฐานะคุณหนูใหญ่อาจ จะถูกเปิดเผย เดิมที่ตระกูลฉินก็อับอายเพราะเธออยู่แล้ว จะไปแบกหน้ารับความอับอายครั้งใหญ่นี้อีกได้ยังไง

บางทีตระกูลฉินอาจจะขับเธอออกจากตระกูลเลยก็เป็นได้
แน่นอนว่าเธอก็ไม่ได้อาลัยอาวรณ์กับตระกูลฉินนัก หรอก แต่เธอก็ต้องปกป้องฐานะคุณหนูใหญ่ของตระกูล ฉินเอาไว้ เพราะมีเพียงฐานะนี้เท่านั้นที่สามารถเป็นหลัก ฐานได้ว่าแม่ของเธอเป็นบ้านใหญ่ของฉินซื่อ และฉิน เสียวเสี่ยวเป็นเพียงแค่ลูกนอกสมรสซึ่งเกิดจากผู้หญิง ข้างนอกที่ไหนก็ไม่รู้

ในใจฉินเฟยเหมือนกับถูกเข็มทิ่มแทงเป็นพันๆเล่ม เธอ บอบช้ำไปทั้งตัว ถ้าหากว่าแม่ยังอยู่บนโลกใบนี้ แม่จะ ต้องเสียใจมากแน่ถ้ามาเห็นสภาพเธอตอนนี้ แม่หวังเป็น อย่างยิ่งว่าเฟยเฟยของแม่จะยิ้มได้อย่างไม่ต้องเจ็บปวด ใดๆทั้งสิ้น แต่ว่าตั้งแต่เมื่อสี่ปีก่อน เธอก็ไม่สามารถที่จะ ยิ้มอย่างไม่เจ็บปวดได้อีกต่อไปแล้ว

แม่คะ แม่มองจากบนสวรรค์จะเศร้าใจไหมคะ

ฉินเฟยเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย เธอมองผ่านหน้าต่างออกไป ยังท้องฟ้าอันสดใสด้านนอก เมื่อมองไป สายตาก็สงบนิ่ง

หลัวยีเห็นฉินเฟยดูเป็นทุกข์ เขาจึงถามขึ้นว่า “คุณฉิน คุณไม่สบายตรงไหนรึเปล่าครับ”

“ไม่เป็นไรค่ะ รบกวนคุณแล้ว” ฉินเฟยพูดแล้วก็กัดริม ฝีปากจนขาวซีด ราวกับว่าพยายามฝืนคำพวกนี้ออกมา ก่อนที่เธอจะหันหลังกลับและเดินไปตามทางที่เดินมา
หลัวยีเห็นเงาหลังฉินเฟยเดินโซซัดโซเซลับไปจาก สายตา เขาก็ค่อยพ่นลมหายใจออกมายาวเหยียด

โชคดีที่ไม่ใช่ผู้หญิงเรื่องเยอะ

แต่ว่าเรื่องนี้จะโทษใครได้ล่ะ ใครใช้ให้หล่อนปีหนึ่งมีตั้ง สามร้อยหกสิบห้าวันแต่ดันเลือกมาเมื่อวานนี้ล่ะ

อีกอย่างก็ไม่นับว่าเธอเสียหายอะไร นายหลินงานดีซะ ขนาดนั้น ได้หลับนอนกับคนแบบนั้น หล่อนน่าจะยิ้มถึง จะถูก อีกอย่างได้ยินมาว่านายหลินใจกว้างกับผู้หญิงมา ตลอด เชื่อว่าเขาต้องให้ทิปหล่อนไม่น้อยแน่

ระหว่างทางกลับไป หลัวยีโทรหาแม่บ้านประจำโรงแรม “ไอ้เฉิน เมื่อวานนี้ที่ผมให้คุณพาผู้หญิงที่ถือการ์ดวีไอพี มาไปที่ห้อง คุณพาไปผิดแล้ว”

“ไม่ผิดนะคะ หล่อนถือการ์ดวีไอพีมา หน้าตาสะสวย เชียว”

หลัว ขี้เกียจจะอธิบาย “ช่างเถอะช่างเถอะ ถ้าอย่าง นั้นหลังจากที่หล่อนมาแล้วมีผู้หญิงถือบัตรวีไอพีมาอีก เปล่า”

“มีอีกคนค่ะ แต่ว่าฉันไล่ออกไปแล้ว ไม่ใช่ว่าใครก็จะมา ขึ้นเตียงนายหลินได้ เมื่อเทียบกับผู้หญิงที่ฉันพาเข้าห้องไปแล้ว ช่างเทียบกันไม่ติด ฉันกะแล้วว่าสายตาผู้ จัดการไม่แย่ขนาดนั้นหรอก”

หลัวยีโมโหจนเลือดลมพลุ่งพล่าน ผู้จัดการของคุณ สายตาโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ มีปัญหาหรือยังไง

“แล้วคุณได้เอาบัตรวีไอพีจากหล่อนกลับมารึเปล่า” หลัวยีสลัดอารมณ์ออกไป และถามเสียงเข้ม

“แม่บ้านของเราทุกคนรู้ว่าการ์ดใบนั้นพิเศษมาก ถึงได้ เอากลับมาทำลายเรียบร้อยแล้วค่ะ” ไอ้เฉินพูดอวดอ้าง “ผู้จัดการคะ พวกเรารู้งานใช่มั้ยล่ะ”

หลัวยีหัวเราะหึหึ “พวกคุณวันหลังต้องระวังให้มากขึ้น หน่อยนะ”

ฉินเฟยซึ่งถูกผู้จัดการโรงแรมบอกปัด เธอได้แต่แบกร่าง อันเหนื่อยล้าเดินออกจากโรงแรมจูนไม้หลัยไป ดวงตา เจ็บแปลบ อยากจะร้องไห้ แต่ว่าหลายปีมานี้เธอเรียนรู้ที่ จะใช้ความเงียบมาแทนที่น้ำตา

ถ้าหากว่าเจอเรื่องแย่ๆแล้วเอาแต่แสดงออกด้วยการ หลั่งน้ำตาล่ะก็ ถ้าอย่างนั้นเธอฉินเฟยคงจะได้ร้องไห้จน ตาบอดไปตั้งแต่เมื่อสี่ปีก่อนแล้ว
ฉินเฟยเพิ่งจะเดินออกนอกประตูไป รถลัมโบร์กินี่สี เงินคันหนึ่งก็หยุดอยู่ตรงหน้าเธอ เธอไม่มีเวลาสนใจจึง เตรียมที่จะหาทางเพื่อเดินอ้อมไป

ณ นาทีนั้นประตูรถก็เปิดออก มีร่างอันแข็งแกร่งออกมา จากรถ ผู้ชายที่สีหน้าเคร่งขรึม

คนคนนั้นก็คือสังเจ๋อ

เขาจ้องมองฉินเฟยอย่างเหม่อลอย ดวงตามีความเจ็บ ปวดปนอยู่ แต่มันเป็นเพียงชั่วขณะเท่านั้นที่เขาไม่ทัน ได้ปกปิดความรู้สึกเอาไว้ เขากล่าวขึ้นอย่างเยือกเย็น “เฟยเฟย ตอนนี้กลับบ้านไปกับผมได้แล้วล่ะ”

ฉินเฟยได้ยินเสียงอันคุ้นหู เธอจึงได้หยุดฝีเท้า และหัน ไปมองสังเจ๋อ ความคับข้องใจทั้งหมดกลับมา เธออยากที่ จะกลับไปเป็นเหมือนแต่ก่อนมาก จะได้ซบกับอ้อมอกเขา แล้วร้องไห้ออกมา จากนั้นก็รอให้เขาใช้น้ำเสียงอันอบอุ่น นั้นปลอบโยนเธอ

แต่ว่าสังเจ๋อในวันนี้ไม่เหมือนกับส้งเจ๋อคนเดิมอีกแล้ว เขายังคงอ่อนโยน แต่มันไม่ใช่สําหรับเธออีกต่อไป มัน สําหรับฉินเสี่ยวเสี่ยวต่างหาก

ส้งเจ๋อเห็นฉินเฟยไม่ว่าอะไร เขาก็แสดงท่าทีไม่ค่อย พอใจ “เสี่ยวเสี่ยวและลุงฉินกำลังรอคุณอยู่ เมื่อวานคุณไม่ได้กลับไปทั้งคืน พวกเขาก็พากันเป็นห่วง”

“สังเจ๋อ ค่าที่คุณพูดเมื่อครู่ครึ่งหนึ่งฉันก็ไม่เชื่อ” ฉินเฟย หัวเราะอย่างโกรธเคือง

ฉินเสี่ยวเสี่ยวเกลียดเธอจนแทบจะไม่อยากให้เธอกลับ ไปเหยียบตระกูลฉินอีก จะมาเป็นห่วงเธอได้ยังไง ยังฉิน ชื่ออีก เธอยอมรับว่าเมื่อก่อนพ่อดีกับเธอมาก แต่ว่าตอน นั้นยังไม่มีฉินเสี่ยวเสี่ยว ตั้งแต่ที่ฉินเสี่ยวเสี่ยวปรากฏตัว หล่อนก็กวาดความรักของพ่อที่มีต่อเธอไปจนหมดสิ้น

ตอนนี้เธอมีเหตุผลเพิ่มอีกหนึ่งข้อที่จะเกลียดฉินเสี่ยว เสี่ยวแล้ว บัญชีที่ทำให้เสียตัวครั้งนี้ เธอจะจารึกไว้ที่ฉิน เสี่ยวเสี่ยว ถ้าหากไม่ใช่เพราะหล่อน เธอจะกลับมาที่ เมืองBอย่างตกต่ำขนาดบ้านไม่มีจะอยู่นี่ทำไม

ถึงเมืองBจะใหญ่ แต่ฉินเฟยก็ไม่พบว่าเธอจะอยู่ที่ไหน ได้อย่างไม่ทุกข์ใจ

สีหน้าสังเจ๋อเปี่ยมไปด้วยความแน่วแน่ “เชื่อไม่เชื่อก็ เรื่องของคุณ แต่ว่าผมต้องพาตัวคุณกลับไปแน่

ฉินเฟยเพลียมาก ดังนั้นการต่อสู้ขัดขืนของเธอจึงไม่ได้ หนักหน่วงเหมือนเมื่อวาน เธอถูกสังเจ๋อเอาตัวขึ้นรถไป อย่างง่ายดาย
คนเคยรักกันไม่ได้พบเจอกันตั้งนานตอนนี้กลับมาพบ เจอกันอีกครั้ง ระหว่างทางกลับเงียบจนน่าผิดหวัง

ส้งเจ๋อหันไปมองฉินเฟยบ้างเป็นครั้งคราว แต่เธอกลับ ไม่สนใจได้แต่มองออกไปนอกหน้าต่าง ปล่อยให้ลมพัด จนผมเผ้ายุ่งเหยิง

ฉินเฟยพบว่าสังเจ๋อเหมือนมีบางอย่างอยากจะพูดกับ เธอ อาจจะอยากอธิบายเรื่องสี่ปีที่ผ่านมา อาจจะอยาก บอกว่าการที่หมั้นหมายกับฉินเสี่ยวเสี่ยวนั้นเป็นเพราะว่า สถานการณ์อะไร แต่ทั้งหมดทั้งมวลนั้นเธอไม่คิดอยาก จะฟัง

เธอและเขาได้จบกันไปอย่างสมบูรณ์ตั้งแต่เมื่อสี่ปีที่

แล้วแล้ว

อย่างรวดเร็ว รถก็เข้าจอดในที่จอด

ส้งเจ๋อลงจากรถก่อน เขาเดินอ้อมไปทางฉินเฟย และ เปิดประตูรถให้เธอ ก่อนจะยื่นมือออกมาอย่างอ่อนโยน “เฟยเฟย ลงจากรถเถอะ”

ฉินเฟยทำราวกับว่ามองไม่เห็น เธอลงจากรถด้วยตัวเอง

เธอมองไปยังบรรยากาศรอบๆก็รู้สึกว่าไม่คุ้นตา เธอเกิดและเติบโตมาที่นี่เกือบสองทศวรรษ จากไปหลายปี พอกลับมาเห็นบรรยากาศความรู้สึกแรกกลับรู้สึกว่าไม่ คุ้นชิน

ในที่สุดฉินเฟยก็เข้าใจคำว่าสํานึกถูกผิด

แต่เธอนึกไม่ถึงว่าแม้แต่สวนดอกกุหลาบเมื่อครั้งที่แม่ เธอยังอยู่และลงมือปลูกด้วยตัวเองตอนนี้ก็ไม่เห็นอีกต่อ ไปแล้ว ก่อนที่ฉินเฟยจะไปเธอก็ได้กำชับกับแม่บ้านที่เคย รับใช้กันมาก่อนแล้ว ว่าจะต้องดูแลสวนให้ดี

แต่ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถรักษามันเอาไว้ได้

ต้องเป็นฉินเสี่ยวเสี่ยวแน่ หรือจะเป็นฉินชื่อ

พวกเขาต้องการกลบร่องรอยการมีอยู่ของแม่

น่าขัน ที่แม่จะยังคงอยู่ในใจของฉินเฟยตลอดไป ตลอด กาล ไม่จำเป็นจะต้องให้พวกคนเลือดเย็นพวกนี้จดจำแม่ หรอก ลูกสาวสุดที่รักคนนี้จะคิดถึงแม่ตลอดไปก็พอ

ฉินเฟยเข้าประตูไป พวกคนรับใช้ต่างพากันใช้สายตา สงสัยมองสำรวจเธอ
“คุณผู้หญิง เข้ามาได้ยังไงคะ มาหาใครคะ” ผู้หญิงที่ดู มีอายุสักหน่อยถามขึ้นมา

ฉินเฟยไม่รู้ว่าจะแนะนำตัวเองให้พวกหล่อนรู้จักยังไง จริงๆ ไม่ได้กลับมาสี่ปี คนใช้เก่าแก่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นคน ใหม่หมด พวกหล่อนไม่มีใครจำเธอได้ ในใจพวกหล่อนมี เพียงคุณหนูของตระกูลฉิน ซึ่งนั่นก็คือฉินเสี่ยวเสี่ยว

ฉินเฟยไม่ได้เศร้าใจอะไร เธอแค่รู้สึกว่าเรื่องนี้มันช่าง น่าขัน

ฉินเฟยไม่ได้ตอบ แต่ก็ไม่ได้หยุดฝีเท้าที่จะเดินเข้าไป

หญิงสาวคนหนึ่งรีบหยุดเธอไว้ “คุณผู้หญิง ที่นี่เป็นที่อยู่ อาศัยส่วนตัว ไม่สามารถบุกรุกเข้ามาได้ค่ะ”

ฉินเฟยถึงแม้ว่าจะคิดบวกมาก เธอยังอดรู้สึกปวดใจไม่

ได้ เธอกลายเป็นคนนอกในบ้านของตัวเอง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ