Fate Agent เจตอารักษ์

บทที่ 8 ออกไปซื้อของ (ตอนปลาย)



บทที่ 8 ออกไปซื้อของ (ตอนปลาย)

“เออนี่เคไนน์ ดูละครจบแล้วออกไปซื้อของกับผมหน่อย ไหมล่ะ ไหน ๆ ก็มีร่างมนุษย์แล้วก็ไปช่วยกันถือของด้วย เลย” เทพินเอ่ยถามหลังจากกินอาหารเที่ยงกันเรียบร้อย แล้ว

“ออกไปซื้อของเหรอ ? ที่ไหนล่ะ” เคไนน์หันมามอง เทพินตาเป็นประกาย

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันอยากจะไปเดินที่นั่นเต็มแก่แล้ว มัน ไม่เคยได้ออกไปไหนสักที เพราะสถานที่สาธารณะส่วน ใหญ่ไม่อนุญาตให้สัตว์เลี้ยงเข้า ถึงมันจะเป็นอสูรที่คน ธรรมดามองไม่เห็นก็ตาม เทพินก็ไม่ยอมให้มันไปด้วย เสียที

“ไปห้างฯ น่ะ ของหลายอย่างมันพังเพราะโจรรื้อเลย ต้องไปซื้อมาเปลี่ยน แล้วผมก็อาจจะไปตลาดด้วย ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วอาจจะเลยไปหาเงินเพิ่มด้วยเลย

ปิดเทอมทั้งทีเขาก็ควรจะใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ หากิจกรรมที่ได้เงินทำ อย่างน้อยค่าใช้จ่ายภายในบ้าน เขาก็ต้องไม่พึ่งพาตระกูลมากเกินไป และเขาเองก็ไม่ อยากจะพึ่งพาด้วย เขาไม่อยากกลับไปอยู่ในกรงที่เรียก ว่าตระกูลอีกแล้ว

“ข้าอยากไปด้วย ให้ข้าไปนะ !” เคไนน์ตอบอย่างกระตือรือร้น

“ก็ได้ แต่นายต้องไปในร่างมนุษย์เท่านั้นนะ และต้อง…. ไม่ใช่เพศชาย” เทพินมองจิ้งจอกอสูรอย่างคาดหวัง เขา อยากเห็นร่างมนุษย์ที่เป็นเพศหญิงของจิ้งจอกอสูรดูสัก หน่อย เพราะเคยได้ยินมาว่าจิ้งจอกอสูรเป็นเผ่าพันธุ์ที่มี ใบหน้าที่งดงามไม่ว่าจะเพศอะไรก็ตาม

“ร่างมนุษย์เพศหญิงหรือ ก็ได้นะ” พูดจบร่างจิ้งจอกอสูร ก็เปล่งแสงสีเงินนุ่มนวลออกมา เมื่อแสงหายไปแล้ว ร่างที่ ปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาเป็นหญิงสาวผู้งดงามยั่วยวนที่รูป ร่างละลายหัวใจผู้ชายทุกคนที่เห็น ผมสีเงินยาวสลวยถึง บั้นเอว ดวงตาสีทองเรียวสวยมองเด็กหนุ่มที่สูงในระดับ เดียวกับตนในร่างผู้หญิงเลย

อา… แม้จะเป็นร่างมนุษย์ผู้หญิงก็ยังสูงเท่ากัน

นี่เจ้าเคไนน์แคระเฉพาะร่างจิ้งจอกหรือไง !?

“ข้าสวยใช่ไหมล่ะ อ้าปากค้างเลยเชียวนะเทน” เคไนน์ พูดหยอกเย้า

“ก็สวยพอใช้ได้” สำหรับเขาถือว่าเข้าเกณฑ์ทีเดียว สม กับเป็นอสูรเผ่าจิ้งจอก ในเรื่องความงามเย้ายวนนี้ทำให้ เขาเกือบละสายตาไม่ได้
ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงก็ล้วนหน้าตาดีไปหมด

“แต่หน้าตาของเจ้าไม่ได้บอกแค่ว่าใช้ได้เลยนะ โธ่ ๆ ไก่ อ่อนเอ๊ย” เคไนน์หัวเราะขำก่อนจะเดินไปปิดโทรทัศน์ “ละครจบแล้วงั้นเราก็ไปกันเถอะ… ว่าแต่จะไปกันยังไง?”

“ก็ต้องขับรถไปสิครับคนสวย” เทพินพูดพลางยิ้มมุม ปาก ควงกุญแจรถที่นิ้วมือให้จิ้งจอกอสูรในคราบมนุษย์ ได้เห็นมันชัด ๆ เคไนน์เบิกตากว้างอย่างสนอกสนใจ

“เจ้าจะขับรถไปเองอย่างนั้นใช่ไหม ?”

“ใช่แล้ว เราซื้อของเยอะนะรอบนี้ เพราะงั้นขับไปเองดี กว่า” เทพินพูดพลางขยิบตาให้ จากนั้นก็เดินนำออกจาก

บ้านไป

เคไนน์ที่เดินตามออกมาก็ช่วยปิดประตูล็อกกุญแจให้ เรียบร้อยแล้วเดินไปเปิดประตูรถยนต์สีดำขลับพลาง กระโดดข้าไปนั่งข้างคนขับทันที เขารัดเข็มขัดอย่าง รวดเร็ว เทพินสตาร์ทเครื่องแล้วออกรถทันที ระยะทาง จากบ้านของเทพินไปจนถึงห้างสรรพสินค้าที่ใกล้ที่สุดก็ ใช้เวลาขับไปอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง

“มาคุยเรื่องเมื่อวานต่อไหม ไหน ๆ ก็ได้มีเวลาว่างคุยกัน แล้ว”เคไนน์หันมาชวนคุยระหว่างขับรถ เทพินมุมปากกระตุกปรายตามองอย่างเหยียดหยาม

“คนที่ไม่ว่างน่ะแค่ผม ไม่นับอสูรติดละครอย่างนาย หรอก”

“ก็เห็นเจ้าไม่ว่างไง ข้าเลยดูละครรอ”

“น่าเชื่อตายล่ะ” เทพินเบ้ปาก “แล้วจะคุยอะไร เรื่องหีบ ทองคําหรือพลังเทพที่ปลิวหายไปล่ะ”

“ทั้งสองเรื่อง เรื่องหีบทองข้าจะนำมันไปซ่อมภายหลัง เพราะหีบนี้ต้องให้เทพช่วยซ่อม พิธีอัญเชิญก็หลายขั้น ตอน ต้องใช้เวลาเตรียมตัวมาก อย่างเร็วที่สุดก็หนึ่ง เดือน”

“นับว่าช้า เทพนี่ไม่ตามยุคสมัยหน่อยเหรอ โทรศัพท์หา กริ๊งเดียวแล้วคุยได้เลยอะไรแบบนั้นน่ะมีไหม”

“เจ้าอย่ามาทําให้ภาพพจน์ของเทพเจ้าเสื่อมเสียเพราะ ความคิดไม่เหมือนผู้เหมือนคนได้ไหม ! เทพเป็นผู้สูงส่ง นะไม่ใช่เพื่อนเล่นของเจ้า”

“ไม่ได้เล่นซะหน่อย เขาเรียกว่าการสร้างความสัมพันธ์ อย่างใกล้ชิดต่างหากล่ะ”
“เลิกแถได้แล้วน่า !” จิ้งจอกอสูรสาวถลึงตาใส่อย่าง ดุร้าย หน้าตา ยียวนของเทพินท่าให้ความเชื่อถือในคํา พูดลดลงแทบจะเป็นศูนย์

“ชิ ! …แล้วเรื่องของพลังที่ปลิวหายไปนั่นนายจะเอายัง ไง”

“ก็คงต้องออกตามหา อย่างไรเสียสิ่งที่ข้าต้องการ ไม่ใช่หีบแต่เป็นพลังภายในหีบต่างหาก ไม่รู้ว่ามันจะ

กระจัดกระจายไปอยู่ส่วนไหนแล้วนี่สิ”

“อืม~ ถ้าในเรื่องการค้นหาผมว่าก็ไม่ยากอะไรล่ะนะ เพราะแกนพลังของนายมีพลังของเทพทั้งสองอยู่ใน ตัว ถ้าตั้งใจสัมผัสดี ๆ นายอาจจะหาพลังนั้นเจอได้ ช่วง นี้ก็อาจจะสัมผัสได้แค่ระยะใกล้ ๆ ฝึกไปมาก ๆ ก็คง ครอบคลุมกว้างไกลตามต้องการแล้ว”

“ก็จริงของเจ้า” เคไนน์พยักหน้ายอมรับ “ในระหว่างนี้ก็มี เวลาฝึกจับสัมผัสหนึ่งเดือนระหว่างรอพิธีเชิญเทพมาซ่อม หีบทองคําเพื่อผนึกพลังนั่นกลับลงไป กําหนดการคร่าว ๆ คงประมาณนี้”

“อ้อ ก็เอาตามนั้นแหละนะ สู้ ๆ ล่ะ”

“นี่ไม่คิดจะช่วยกันเลยหรือไงเทน”
“ไม่มีค่าจ้างผมไม่ทำหรอกนะ”

“เจ้าคนแล้งน้ำใจ !”

“รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี เอาล่ะ ลงรถได้แล้วเคไนน์ ตอนนี้เราถึงห้างแล้วล่ะ” เทพินพูดหลังจากรถจอดสนิท และจะดับเครื่องยนต์ลง เขาหันไปมองจิ้งจอกอสูรที่ดูตื่น ตาตื่นใจกับสถานที่ใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยมา ดูแล้วเหมือน เด็กเล็กไม่มีผิด

“หา ? ถึงแล้วเหรอ ทำไมไม่เห็นเหมือนในละครเลยล่ะ” จิ้งจอกอสูรในร่างหญิงสาวคนสวยที่เดินตามมาหันมอง ซ้ายมองขวาอย่างรู้สึกผิดหวัง

“จะเหมือนได้ยังไงเล่า ก็ตรงนี้น่ะมันลานจอดรถ เราต้อง เดินเข้าไปข้างในต่างหากถึงจะดูเหมือนในละครที่นาย เคยเห็นน่ะ” เด็กหนุ่มหัวเราะก่อนจะเดินจูงมือจิ้งจอกสาว เข้าไปที่ประตูทางเข้า

ก้าวแรกที่เดินผ่านประตูเลื่อนอัตโนมัติความเย็นยะ เยือกอย่างผิดธรรมชาติก็พัดเข้าปะทะจิ้งจอกสาวทั้งตัว คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างยุ่งเหยิงก่อนจะหันไปมอง เด็กหนุ่มข้างตัวอย่างตกใจ ซึ่งตอนนี้เด็กหนุ่มคนที่ว่า กำลังอมยิ้มแบบพยายามกลั้นหัวเราะอย่างสุดพลังอยู่

“ขำอะไรของเจ้านักเนี่ยเทน ข้าไม่เคยเข้ามาที่แบบนี้สักหน่อย ตกใจก็ธรรมดา” เคไนน์ถามก่อนจะกระตุกมือ ของเทพินที่กุมอยู่ไปด้วยอย่างหงุดหงิด

“เดี๋ยวสิ ขอหัวเราะอสูรบ้านนอกแป๊บ… ฮ่า ๆ ลมพวกนี้ น่ะมันก็ผิดธรรมชาติเหมือนกับพัดลมนั่นแหละเคไนน์ สิ่ง นั้นเรียกว่าแอร์ มันให้ความเย็นที่มากกว่าพัดลมเยอะแต่ ก็กินไฟเยอะเหมือนกันที่บ้านผมเลยไม่ติด” เทพินอธิบาย ก่อนจะชี้ให้ดูเครื่องปรับอากาศที่สามารถมองเห็นได้ ชัดเจนที่สุด เคไนน์พยักหน้าเข้าใจเบา ๆ

“เครื่องเย็น ๆ แบบนี้ก็น่ามีติดไว้ที่บ้านของเราเนอะ” จิ้งจอกอสูรว่าพลางมองเครื่องปรับอากาศอย่างชอบใจ มันชอบความเย็นสบาย นัก

เทพินหัวเราะแล้วส่ายหน้าไปมา “แหม พูดง่ายนะ ถึงผม จะอยากได้แต่จะเอาเงินที่ไหนไปซื้อและจ่ายค่าไฟล่ะ ?”

“เจ้าก็หาเงินได้เองอยู่บ้างนี่นา จ่ายค่าไฟนิดหน่อยไม่ เป็นไรหรอก”

“นิดหน่อยบ้าอะไร แอร์นี่ตัวกินไฟเลยนะ” เทพินถลึงตา ใส่จิ้งจอกสาวอย่างดุเดือด ที่บ้านเขาไม่ติดแอร์เพราะมัน กินไฟนี่แหละ ถ้ามันกินไฟเบา ๆ เท่าพัดลมค่อยอยู่ในการ พิจารณาหน่อย
เขาไม่ได้งกหรอกนะ แต่เงินที่เขาหามาได้บวกกับเงิน จากทางตระกูลมันไม่ได้มากมายขนาดนั้น เขาไม่อยาก จะอยู่อย่างอดอยากในทุกเดือนหรอกจะบอกให้

“ถ้าอย่างนั้นให้ข้าช่วยงานไหมล่ะ?” จิ้งจอกสาวเสนอ พลางยิ้มหวาน รอยยิ้มนั้นดึงดูดสายตาผู้คนรอบข้างให้ มองอย่างเคลิบเคลิ้มหลงใหล แต่ไม่ใช่กับเด็กหนุ่มตรง หน้า

“จะช่วยจริงเหรอ ผมไม่ได้ทำงานธรรมดาหรอกนะ”

“ข้ารู้เจ้าทำงานที่มันเสี่ยงอันตรายกว่านั้น

ถึงแม้เคไนน์จะไม่ได้ไปทำงานด้วยเพราะความพิกล พิการในการใช้พลัง แต่เธอก็รู้รายละเอียดงานพิเศษที่ เทพินทำเป็นประจำอยู่บ้าง

“ถ้ารู้ว่างานอะไรแล้วยังจะไปอีกเหรอ ?”

“ก็ข้าจะหาเงินช่วยค่าไฟเจ้าอยู่นี่ไง”

“นี่จะเอาแอร์ให้ได้จริง ๆ ใช่ไหม !”

“ใช่ เพราะงั้นซื้อนะ” เคไนน์ส่งสายตาวิบวับมาให้
เทพินมุมปากกระตุกด้วยความหงุดหงิดก่อนจะเดินหนี ไปแบบไม่พูดไม่จา จิ้งจอกอสูรไม่เลิกราง่าย ๆ ตามตื้ออยู่ ตลอดทาง กลายเป็นภาพน่ารัก ๆ คล้ายคู่รักที่กำลังหวาน

ถ้าไม่ใช่เพราะเด็กหนุ่มที่ลงมือเคาะหัวจิ้งจอกอสูรเสียง ดังลั่นไปหลายครั้งเพราะทนรำคาญไม่ได้ มันคงจะหวาน ชื่นมากกว่านี้

หลังจากเลือกซื้อของใช้จําเป็นเสร็จแล้ว เทพนค่อนข้าง จะอารมณ์ดีนิดหน่อยหลังจากซื้อของที่ถูกใจได้ครบแล้ว แถมไม่ต้องกลัวถือไม่ไหวด้วยเพราะเขามีสาวสวยผมสี เงินช่วยอยู่แล้ว โดยที่ตัวเขาเองไม่ได้สนใจสายตาโกรธ แค้นของเหล่าชายหนุ่มทั้งหลายที่มองเขาเหมือนจะฆ่าให้ ตาย เพราะใช้สาวสวยถือของได้อย่างหน้าตาเฉย

แต่สาวสวยที่ว่าอาสาถือให้เองเทพินเลยไม่คิดมาก และ ตอบแทนด้วยการซื้อเครื่องปรับอากาศให้ตามคําขอ ใบหน้าสวยนั้นเลยยิ้มแย้มตลอดเวลาไม่มีปริปากบ่น ตลอดเวลาเหมือนผู้หญิงทั่วไป

“หิวรึยัง ?” เทพินเอ่ยถามจิ้งจอกสาวที่ถือของเต็มสอง

มือ

หลังจากก้มดูนาฬิกา นี่ก็เย็นมากแล้ว ควรหาอะไรใส่ท้องเพิ่มพลังงานกันสักหน่อย

“หิวแล้ว… และหนักมากด้วย” เคไนน์ตอบ ถึงจะหนักแต่ ก็ยังยิ้มสู้

“ฮ่า ๆ อะไรกัน แค่ถือของแค่นี้เองไม่สมกับเป็นอสูรเลย”

“เรอะ ! แล้วเจ้าลองมาถือเป็นชั่วโมงดูบ้างไหมล่ะ ต่อ ให้เป็นอสูรแข็งแรงขนาดไหนมันก็มีเมื่อยกันบ้างแหละ !” เคไนน์อยากจะเอาของในถุงนี่เขวี้ยงใส่หัวดำ ๆ ของเด็ก หนุ่มตาสีม่วงนัก ไม่ได้เข้าใจเลยว่าของที่ถืออยู่นี่หนัก ขนาดคนธรรมดาถือกันไม่ได้ด้วยซ้ำ เธอถืออยู่ตลอดตั้ง หลายชั่วโมง แขนเริ่มชานิดหน่อยแล้ว

“เอาน่า ๆ นั่นก็เพื่อแอร์ของนายนะ ทน ๆ ไปเถอะ ฮ่า ๆ” เด็กหนุ่มหัวเราะร่าก่อนจะเดินไปยังลานจอดรถ “ถ้างั้นก็ เอาของไปเก็บแล้วก็ออกจากไปหาอะไรกินกัน”

“หืม ? ที่นี่ก็มีร้านอาหารไม่ใช่หรือ ทำไมไม่กินที่นี่ล่ะ”

ถ้าจําไม่ผิดเคไนน์เห็นร้านอาหารหลายร้านเลย ท่าทาง น่ากินทั้งนั้นด้วย ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องออกไปกินที่ อื่น

“ก็ไม่ได้แค่จะไปหาอะไรกินนี่… แต่ไปทำอย่างอื่นด้วยต่างหากเป็นร้านอาหารที่จะไปนี่แหละ” เด็กหนุ่มที่เพิ่ง เดินมาถึงรถของตัวเองกล่าวก่อนจะเปิดท้ายรถเพื่อยืด ของที่ซื้อมาทั้งหลายใส่เข้าไป โดยมีจิ้งจอกสาวคอยช่วย จัดของให้

“ทำอย่างอื่น ? ที่ร้านอาหารเนี่ยนะ ?” เคไนน์หันไป สบตาสีม่วงของเด็กหนุ่มอย่างคาดคั้น คนถูกคนคาดคั้น หันมายิ้มและตอบคำถามออกมาด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ว่า

“ก็จะไปหางานทำยังไงเล่า”

“ฮะ ?”

หางานทำในร้านอาหาร นี่จะไปเป็นเด็กเสิร์ฟชั่วคราว หรือไงเจ้าเด็กมนุษย์!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ