Fate Agent เจตอารักษ์

บทที่ 18 งานต่อเนื่อง (ตอนปลาย)



บทที่ 18 งานต่อเนื่อง (ตอนปลาย)

“ครับ พอดีว่าผม…” เด็กหนุ่มหยิบเอาการ์ดสีน้ำเงินมี ลวดลายสีส้มมายื่นให้กับอาทิธ “ผมมาจากสมาคมครับ เป็นนักเก็บกวาด คุณเป็นผู้ว่าจ้างใช่ไหมครับ”

“อ่า ใช่ครับ งานเสร็จแล้วหรือครับ” อาทิธสีหน้าไม่ ค่อยเชื่อเท่าไรเมื่อรับการ์ดในมือมา เทพินขยับยิ้มพลาง หยิบสมาร์ตโฟนออกมาแล้วกล่าว

“งานเสร็จแล้วครับ นี่เป็นรูปถ่าย หรือสามารถให้คน ตรวจสอบสถานที่ได้

“อ้อครับ ถือว่าตรวจสอบแล้ว ผมจะเซ็นยืนยันให้ครับ ชายหนุ่มหยิบปากกาออกมาเซ็นชื่อบนการ์ด เมื่อเซ็นชื่อ เรียบร้อยแล้วการ์ดก็หายไป

การ์ดนี้เป็นเวทรูปแบบหนึ่งที่ใช้ในการยืนยันการเสร็จ สิ้นภารกิจที่ยืนยันได้จริง ไม่สามารถปลอมแปลงได้ เมื่อ เซ็นชื่อลงไปเรียบร้อย จำนวนเงินจะโอนเข้าบัญชีกลาง ไปพร้อมกันด้วย ก่อนจะถูกส่งต่อให้นักเก็บกวาดเมื่อมา ยืนยันภารกิจที่สมาคม

“เอ่อ แล้วมีไกราตามมาด้วยหรือเปล่าครับ” อาทิธมอง ซ้ายมองขวามองหาไกรา แต่รอบตัวของเด็กหนุ่มไม่มีใคร เลยนอกจากจิ้งจอกอสูรสีขาวตัวหนึ่งเท่านั้น
“ไม่หรอกครับ งานเสร็จก็แยกย้าย… หรือว่าไกราที่มา ทำงานริมแม่น้ำคุณก็จ้างมาเหรอครับ ?”

“ใช่ครับ เขาเข้ามาคุยเมื่อวานแล้วก็ยังไม่ได้มาพบกัน อีก”

“อ้าว ไม่มายืนยันกับผู้ว่าจ้างก่อนเหรอ”

“อาจจะไปพักก่อนก็ได้นะ เจ็บหนักกันน่าดูนี่นา” เคไนน์ ออกความเห็นบ้าง

“มาอีกทีพรุ่งนี้ล่ะมั้งครับ” ผู้จัดการหนุ่มตอบอย่างไม่ ค่อยแน่ใจนัก เขาเองก็คงพอคาดเดาได้ว่างานของไกรา ไม่ใช่งานง่าย ๆ ไม่สามารถเดินทางมาได้หลังเสร็จงาน “แต่ไม่เป็นไรครับ ผมก็จ้างไกราอีกกลุ่มมาแล้ว”

“เอ๊ะ ? จ้างเพิ่มเหรอครับ มีงานอะไรหรือเปล่า”

“ก็มีครับ… จริงสิ งั้นผมจ้างต่อเลยได้ไหมครับ งานเก็บ กวาดน่ะ”

“หืม ?” เทพินหรี่ตามอง ดวงตาสีม่วงเต็มไปด้วยความ หวาดระแวง “มีงานอะไรอีกครับเนี่ย ผมไม่รับงานนอก เหนือใบสั่งของสมาคมหรอกนะครับ”
“ช่วยหน่อยเถอะนะเทพิน ทั้งจํานวนเงินและข้อมูลทาง เราเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้วนะครับ จ่ายเป็นเงินสดให้ เลยด้วย” อาทิธตอบก่อนจะยื่นแฟ้มเอกสารมาให้ เทพิน ไม่หยิบแต่มองมันนิ่ง ๆ

“คือผม… ขอคิดดูก่อนได้ไหม”

“ได้ครับ แต่ผมคาดหวังว่าเธอจะรับงานนี้ เพราะถ้ารอ ทางสมาคมโรงแรมของผมคงเสียหายไม่น้อยทีเดียว”

“แหะ ๆ …ครับ” เทพินที่ถูกกดดันยิ้มแห้ง ๆ ก่อนจะรับ เอกสารนั้นมาลองอ่านก่อน เขาเดินหลบออกไปทางมุม หนึ่งที่เงียบสงบโดยที่ไม่มีใครขวางหรือเข้าไปก่อกวน

“นั่นใครเหรอคะผู้จัดการ” หญิงสาวคนสวยใกล้ตัวเขา ซึ่งน่าจะเป็นเลขานุการก็เข้ามาถามเมื่อเห็นผู้จัดการของ ตนเองพูดจากับเด็กวัยรุ่นอย่างสุภาพผิดปกติ

“เป็นคนจัดการปัญหาด้านความเสียหายโดยเฉพาะน่ะ ถ้ามีเขาอยู่ก็ไม่ต้องกลัวความเสียหายที่มากเกินไปแล้ว ล่ะคุณรัตนา” ผู้จัดการตอบ

“คนจัดการปัญหาด้านความเสียหาย ?” รัตนาเอียงคอม องตาปริบ ๆ “จัดการปัญหาเรื่องคดีฆาตกรรมต้องใช้คน จัดการความเสียหายด้วยเหรอคะ ?”
“หึ ๆ มันไม่ใช่แค่คดีฆาตกรรมหรอกนะคุณรัตนา แต่มี เขาอยู่ด้วยก็สบายใจแล้ว งานจะได้ง่ายขึ้น” ชายวัยกลาง คนหัวเราะก่อนจะเดินออกไปด้านนอกโรงแรมด้วยความ สบายใจขึ้นราวกับเด็กหนุ่มคนนั้นตอบรับงานแล้ว ทิ้งให้ หญิงสาวต้องมองตามอย่างสงสัยเหมือนเดิม เธอหันกลับ ไปมองเด็กหนุ่มตาสีม่วงอีกครั้งพร้อมกับรอยยิ้มเหยียด ไม่บ่งบอกอารมณ์

“เด็กแบบนั้นจะไปจัดการอะไรได้” เธอพูดแค่นั้นก่อนจะ เดินตามอาทิธไปโดยไม่หันกลับไปมองเด็กหนุ่มอีก

เทพินนั่งอ่านข้อมูลเพียงไม่นานก็พักสายตา เอนตัวพิง พนักเก้าอี้วางเอกสารไว้ตรงหน้าอย่างไม่เห็นความสำคัญ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบา ๆ

“งานมันน่าเหนื่อยใจขนาดนั้นเลยหรือ” เคไนน์ถาม อย่างสนใจ

“ไม่ใช่เรื่องงานหรอกแต่รู้สึกแย่กับบรรยากาศ… โดย เฉพาะตรงนั้นแย่เป็นพิเศษ” เทพินเวียนหัวมาก หายใจไม่ ออก เหมือนที่ตรงนั้นเป็นศูนย์รวมหมอกสีดำ

“มันก็รู้สึกแย่จริง ๆ นั่นแหละ”

“ยังไงก็เถอะ ผู้จัดการคนนั้นเป็นคนมีพลังพิเศษ น่าจะ มองเห็นอาณาเขตนี่แล้ว และน่าจะจ้างไกราที่รู้จักมาแล้วด้วยถึงได้ต้องการนักเก็บกวาดอย่างนี้

“แล้วเจ้าก็จะรับงานหรือ ?”

“งานก็ไม่ได้ดูยากหรอก เงินก็ไม่เลว นายก็ลองอ่านดูสิ”

“อืม” เคไนน์แปลงร่างมาอยู่ในร่างกึ่งมนุษย์ ก่อนจะหยิบ เอกสารขึ้นมาอ่าน “งานไม่แย่แต่น่าขยะแขยงกว่าที่คิด

เทพินพยักหน้าเบา ๆ อธิบายลักษณะงานที่เพิ่งอ่านไป “มีคนถูกฆ่าตายอย่างปริศนาหลายศพภายในโรงแรม แห่งนี้ ไม่พบร่องรอยของฆาตกรใด ๆ ทั้งสิ้นในที่เกิดเหตุ แต่ละแห่ง บาดแผลที่เกิดขึ้นกับศพทั้งหมดเป็นรอยเล็บ และเขี้ยวของสัตว์ป่า… สรุปได้ว่า… เป็นงานปราบปีศาจ ระดับต่ำที่มีสัญชาตญาณดิบสูง เป็นประเภทกินเนื้อก็จริง แต่ที่ศพแต่ละศพในข้อมูลที่ได้มาเนี่ยไม่ได้ถูกกินไป คิด ว่าน่าจะเป็นแบบล่าไปเฉย ๆ มากกว่า”

“พวกปีศาจระดับกลางสินะ” เคไนน์กล่าว เด็กหนุ่มพยัก หน้ารับ

“ก็คงคิดได้แบบนั้น ถ้าเป็นพวกระดับต่ำคงไม่ทำให้เกิด หลายศพได้เร็วขนาดนี้หรอก”
อย่างมากก็คงวันละศพเท่านั้นแหละนะ เทพินคิดต่อใน ใจ ปีศาจระดับ มันจะออกล่าเพื่อกินหรือมีคนไปยุแหย่ มันเท่านั้น

“เพราะเป็นงานที่เกิดจากปีศาจและต้องจ้างไกรา แต่ งานนี้ไม่น่าจะต้องจ้างนักเก็บกวาดเลยนี่นา” เคไนน์ วิเคราะห์ ลักษณะงานคือเก็บกวาดความเสียหาย ไม่ได้ เก็บศพนะ

“มีความเป็นไปได้อยู่อย่างนะ” เทพินกระตุกยิ้มมุมปาก “พวกนั้นไม่ต้องการให้เรื่องนี้เป็นข่าวมากเกินไป ต้องการ เก็บกวาดหลักฐานจริงและสร้างหลักฐานเท็จขึ้นมาเพื่อ ให้ชื่อเสียงของโรงแรมถูกทำลายน้อยลง”

“หา ? ทําไปเพื่ออะไร ยังไงก็เสียชื่อเสียงเหมือนกัน”

“มันเป็นรูปแบบหนึ่งของการรักษาผลประโยชน์ ยังไง การเสียผลประโยชน์น้อยก็ยังดีกว่าเสียผลประโยชน์มาก ล่ะนะ”

“อ้อ เพื่อผลประโยชน์สินะ” เคไนน์ส่ายหน้าอย่างเอือม

ระอา

“ช่วยไม่ได้หรอก เงินเป็นปัจจัยหนึ่งที่ขาดไม่ได้” เทพิน หัวเราะ เบา ๆ ในลำคอ “เอาเถอะ ถึงไม่อยากรับแต่เงินดี อยู่ ผมคงช่วยเหลือแต่คงแค่เก็บกวาดเท่านั้นแหละนะ ในเรื่องของการสร้างหลักฐานปลอมพวกนั้น ต้องจัดการกันเอาเอง”

“อื้ม !” จิ้งจอกอสูรพยักหน้าเห็นชอบ

เทพินวางเอกสารลงแล้วเท้าคางมองออกไปยังตำรวจ ที่กำลังดำเนินการตรวจสอบสถานที่อย่างวุ่นวายแล้วพ่น ลมหายใจออกมา ถึงจะแอบสงสารเห็นใจตำรวจแต่มัน ก็ช่วยไม่ได้งานของพวกเขาก็มีแค่เก็บกวาดสิ่งที่เกิดขึ้น จากฝีมือปีศาจและไกราเท่านั้น หากทำลายหลักฐานไป บ้างพวกตำรวจมาเอาผิดไม่ได้อยู่แล้ว แต่ถ้าให้ไปสร้าง หลักฐานปลอมด้วยนี่สิมีแววจะถูกจับแน่… เผลอ ๆ เขา อาจจะถูกจับโดยสมาคมด้วยซ้ำเพราะขัดต่อกฎการให้ ความร่วมมือ ฉะนั้นไม่เสี่ยงดีกว่า

“งั้นนั่งรอจนกว่าไกราจะมาก็แล้วกัน” เทพินตัดสินใจ แล้ว เขาจะไม่ขยับไปไหนจนกว่าไกราจะมา ส่วนจิ้งจอก อสูรก็ใช้พลังปกป้องเทพินไปเงียบ ๆ ในขณะนั่งพัก

แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เกิดให้เด็กหนุ่มแสดงพลังอีก เขาก็ ไม่มั่นใจว่าพลังที่ขาด ๆ เกิน ๆ ของเทพินจะไม่สร้างเรื่อง ถล่มโรงแรมราบเป็นหน้ากลองแทนที่จะได้เก็บกวาดแค่ หลักฐาน…

กว่าไกราจะมาก็หนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น ดูท่าจะเดินทางออกมาจากเมืองชั้นในโดยตรง ไกราที่มามีแค่สามคน เท่านั้น หนึ่งในสามเปิดเผยหน้าตาอย่างชัดเจน เป็นเด็ก ผู้หญิงที่ตัวสูงพอ ๆ กับเขา ผมสีน้ำตาลแดงยาวถึงกลาง ๆ หลัง ใบหน้าสวยคม ดวงตากลมโตสีส้มสว่าง ท่าทาง ดูทะเล้น ขี้เล่น ตราที่เสื้อคลุมเป็นสัญลักษณ์รูปดวง อาทิตย์

คนของตระกูลผู้ได้รับพรจากเทพีสุริยา

นี่มันวันอะไรเนี่ย ทำไมถึงเจอสองในห้าตระกูลใหญ่ขอ งอินฟลัวในวันเดียวกันด้วย หรือไม่ผู้จัดการโรงแรมคนนี้ คงใหญ่มาก เชิญได้ทั้งไกราสุริยาและไกราจันทรา

กลุ่มของไกรานั่นได้ไปคุยกับผู้จัดการเรียบร้อย อีกฝ่าย เหมือนจะผายมือมาทางเขา แต่เทพินไม่ได้เข้าไปร่วมบท สนทนา เพราะนักเก็บกวาดนั้นไม่จำเป็นต้องรู้จักกับไกรา และเขาไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องงานของทางนั้น

“ไม่ไปคุยงานจะดีเหรอ” เคไนน์ถามแล้วใช้หางฟู ๆ เขี่ย แก้ม

“ไม่ล่ะ ยังไงงานของไกราก็กำจัดปีศาจ เราไม่ได้เข้าไป ด้วย และผมเองก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งกับปัญหาของชาว บ้านเหมือนกัน แค่ตอนไปลุยที่ริมแม่น้ำนั่นก็เหนื่อยจะแย่ แล้ว ถ้าต้องไปช่วยชีวิตไกรานั่นอีกผมต้องเหนื่อยตายแน่ ๆ” เทพินถอนหายใจเหนื่อยหน่าย หากพวกเขาต้องตาม ไกราไปจริง ๆ เจ้าจิ้งจอกอสูรใจดีนี่ ต้องช่วยไกราพวกนั้นแน่ ๆ

“แต่ว่านะ…”

“เคไนน์ เป็นตาเฒ่าแล้วอย่างอแงครับ

“ใครตาเฒ่ากันห้า ! ถึงอายุข้าจะมากแต่ก็ยังไม่แก่ เฟ้ย !!”

“หงอกทั้งตัวขนาดนี้น่ะเหรอ ?

“ไม่ได้หงอก สีขาว ! แล้วร่างมนุษย์ก็สีเงิน ไม่มีหงอก !!”

“อ้อ เข้าใจล่ะ หงอกก็หงอก”

“นี่เจ้า !!” เคไนน์เอาหางฟูฟ่องตบหน้าเทพิน แต่ไม่โดน หน้าของเด็กหนุ่ม เขายกมือขึ้นมาตบจิ้งจอกอสูรตกพื้น ไป มันกระดกหัวขึ้นมาโวยวายอีก เสียงโวยวายนั่นไม่ได้ เข้าหูเลย

“หนวกหูน่าเคไนน์” เทพินเอาเท้าเขี่ยจิ้งจอกทิ้งไปแล้ว หันไปจับจ้องไกราแทน พวกนั้นเดินขึ้นบันไดไปแล้ว เด็ก หนุ่มยกมุมปากขึ้นกับความรอบคอบของไกราที่ไม่ขึ้นลิฟต์

เพราะในลิฟต์มันแคบไง ถ้าเกิดถูกจู่โจมในลิฟต์ล่ะก็ ยากที่จะรอดมาได้ พวกไกราคงคิดเผื่อเอาไว้แล้ว ถึงไก ราจะมีพลังชีวิตเยอะร่างกายแข็งแรง แต่ก็ไม่ได้สูงไปกว่า ปีศาจ พลังของอาณาเขตหมอกดำนี่เองก็บั่นทอนการ มองเห็นไปด้วย

“เออนี่ ข้าเพิ่งนึกได้ว่าในงานมีจุดที่ดูผิดปกติอยู่น่ะ” จิ้งจอกอสูรที่เลิกโวยวายแล้วกลับขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ดี ๆ เอ่ยขึ้น

“แปลกยังไงล่ะ?” เทพินถามกลับ

“ก็… เท่าที่อ่านดูเหมือนลูกค้าที่พักในห้องนั้น ๆ จะเป็นผู้ หญิงทั้งหมดเลยด้วย แล้วไกรากลุ่มใหม่ที่มาก็เป็นผู้หญิง ทั้งนั้นด้วย ปีศาจนั่นเหมือนจ้องจะเล่นงานแต่ผู้หญิง… จะ ไม่เป็นไรจริง ๆ น่ะเหรอ”

“ก็ไม่รู้สิครับ นายไม่ตามไปดูล่ะ” เทพินกล่าวประชด

“ตามไปได้เหรอ ได้เหรอ !?”
“เอ่อ แค่ตามไปดูแวบเดียวก็ได้… ไม่ไปแล้วล่ะ ข้าจะนั่ง เงียบ ๆ” เห็นสีหน้าและแววตาของเทพินแล้ว เคไนน์จะ ยอมนั่งเงียบ ๆ และเรียบร้อย เขายังไม่อยากถูกอีกฝ่าย ล่ามโซ่แล้วเอาตะกร้อครอบปาก

เทพินไม่พูดอะไรออกมาอีกหยิบเอากาแฟขึ้นมาจิบ ดู จากนาฬิกาข้อมือเวลานี้ก็เกือบจะเข้าแล้วด้วย มีเวลาอีก ไม่มากสําหรับการทำงานของไกราและ…

งานของเขาในฐานะนักเก็บกวาดธรรมดา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ